เปรียบเทียบ OPPO Find X2 5G และ Find X2 Pro 5G ราคาต่างกัน 7,000 บาท เลือกซื้อรุ่นไหนดี?

OPPO ได้เปิดตัวมือถือซีรีส์ภาคต่อของ Find X อย่าง Find X2 5G และ Find X2 Pro 5G ที่พกจุดเด่น หน้าจอความละเอียด QHD+ ค่ารีเฟรชเรท 120 Hz, กล้องหลังระดับเทพ และสเปคเร็วแรง แถมรองรับการใช้งาน 5G ด้วยกันทั้งคู่อีก แต่..ราคาเปิดตัวต่างกันตั้ง 7,000 บาท หลายคนอาจจะสงสัย หรือตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกรุ่นไหนดี วันนี้ผมเลยมาทำบทความเปรียบเทียบสเปคแบบคร่าวๆ ครับ ว่าเหมือนหรือต่างกันยังไงบ้าง

ก่อนอื่น เรามาดูตารางเปรียบเทียบของ Find X2 และ Find X2 Pro กันดีกว่าครับ ว่ามีจุดไหนเหมือน หรือแตกต่างกันตรงไหน

สเปค Find X2 5G และ Find X2 Pro 5G

หน้าจอและดีไซน์

ทั้ง Find X2 5G และ Find X2 Pro 5G ต่างมาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Quad HD+ และค่ารีเฟรชเรท 120 Hz ด้วยกันทั้งคู่ โดยจะมีรูเล็กๆ สำหรับใส่กล้องหน้าบริเวณมุมซ้ายบนของหน้าจอ ซึ่งหน้าจอของทั้งคู่ จะมาเป็นลักษณะจอโค้ง ดูหรูหราพรีเมี่ยม

การจัดวางตำแหน่งของปุ่มต่างๆ อย่าง ปุ่ม Power, ปุ่มเพิ่มลดเสียง, การวางพอร์ต, ลำโพง หรือรูไมค์ แทบจะเหมือนกันหมดเลย สำหรับ Find X2 5G และ Find X2 Pro 5G จะมีต่างกันก็ตรงด้านบนของเครื่อง ที่รูไมค์สำหรับการตัดเสียงระหว่างตอนสนทนาของ Find X2 5G จะอยู่บริเวณด้านซ้าย ขณะที่ Find X2 Pro 5G โยกไปอีกฝั่ง อยู่ข้างขวา

OPPO Find X2 (บน) Find X2 Pro (ล่าง)

ประสิทธิภาพการใช้งาน

ด้วยความที่ทั้ง Find X2 5G และ Find X2 Pro 5G ต่างมีดีกรีเป็นมือถือระดับไฮเอนด์ด้วยกันทั้งคู่ ทำให้ไม่แปลกที่จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 865 + GPU Adreno 650 ที่ประสิทธิภาพการใช้งานไม่ต้องพูดถึง ใช้งานทั่วไปเหลือเฟือ หรือจะเอามาเล่นเกมหนักๆ ปรับกราฟฟิคสุดก็ไม่มีกระตุก แถมทั้งคู่ยังรองรับการใช้งาน 5G อีกด้วย เพราะมีโมเดม Snapdragon X55 สำหรับรับสัญญาณ 5G โดยเฉพาะ

RAM ของทั้งคู่ ใส่มาให้แบบจัดเต็ม 12GB เกินพอต่อการ Multi-Task ในชีวิตประจำวัน แบบที่เปิดแอปทิ้งไว้ แล้วจะไม่มีการ Kill Apps เบื้องหลัง นอกจากนี้ความจุยังให้มามากถึง 256GB (Find X2 Pro อัดความจุมาให้ 512GB) ใช้หน่วยความจำแบบ UFS 3.0 ซึ่งมีความเร็วในการอ่านเขียนเร็วมากๆ ทำให้การคัดลอก ย้าย หรือเปิดแอปต่างๆ จะทำได้ไวกว่าเดิม (**เมื่อเทียบกับ UFS 2.1 แล้ว บอกเลยว่าต่างกันเป็นเท่าตัว**)

มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น

Find X2 5G และ Find X2 Pro 5G เป็นมือถือสองรุ่นแรกจากค่าย OPPO ที่รองรับมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น IP54 และ IP68 ตามลำดับ โดยความแตกต่างก็คือ

• IP54 สามารถกันฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง ไม่ทั้งหมด แต่ว่าหากมีฝุ่นเล็ดรอดเข้าไป จะไม่มีผลใดๆ ต่อการทำงานของสมาร์ทโฟน ขณะที่การกันน้ำจะป้องกันได้เพียงแค่ละอองน้ำเท่านั้น (ไม่แนะนำให้ไปแช่น้ำ)
• IP68 สามารถกันฝุ่นได้ 100% ไม่มีฝุ่นเล็ดรอดเข้าไปในเครื่อง ขณะที่การกันน้ำได้ลึก 1 เมตร (ไม่แนะนำให้แช่เป็นระยะเวลานานๆ)

ทั้งนี้ต้องบอกก่อนเลยว่า แม้ Find X2 5G และ Find X2 Pro 5G จะมีมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น แต่ก็ไม่ได้แปลว่าทั้งคู่เป็นมือถือกันน้ำ (Waterproof Phone) นะครับ ทั้งหมดเป็นเพียงแค่การกันน้ำซึมชั่วคราวเท่านั้น (Water Resistant)

กล้องหลังและกล้องหน้า

ทั้ง Find X2 5G และ Find X2 Pro 5G มาพร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวเท่ากัน แต่จะมีความแตกต่างกันตรงที่สเปคของเซนเซอร์กล้องเท่านั้น และประสิทธิภาพการซูม โดย Find X2 Pro 5G สามารถดันระยะซูมแบบ Digital ไปได้ไกลสุด 60x ขณะที่ Find X2 5G นั้น ดันได้ไกลสุดเพียงแค่ 20x เท่านั้น ขณะที่ฟีเจอร์อย่าง Ultra Night Mode 3.0, Ultra Macro Mode, Ultra Steady Video Pro และ 3 Mic Stereo Recording มาครบ โดย Find X2 Pro จะพิเศษกว่าเล็กน้อย ตรงที่มีโหมด HDR Video Shooting มาให้ด้วย

พลิกมาที่กล้องหน้า ทั้ง Find X2 5G และ Find X2 Pro 5G ใช้เซนเซอร์ตัวเดียวกันเลยครับ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล มีโหมด Beauty, AI หรือ Portrait มาให้ครบตามเคย

แบตเตอรี่

Find X2 5G และ Find X2 Pro 5G มีความแตกต่างในเรื่องของแบตเตอรี่อยู่เพียงแค่ 60 มิลลิแอมป์เท่านั้น โดย Find X2 มีแบตขนาด 4,200 มิลลิแอมป์ ขณะที่ Find X2 Pro ใส่มาให้เยอะกว่าเล็กน้อยที่ 4,260 มิลลิแอมป์ ทางรองประธานของ OPPO อย่าง Brian Shen ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า เขาสามารถใช้มือถือ Find X2 5G ได้นานถึง 7.9 ชั่วโมง โดยที่เปิดหน้าจอแบบสุดทุกอย่าง ทั้ง Quad HD+ และรีเฟรชเรท 120 Hz (เดี๋ยวถ้าเราได้ลองเองแล้วจะมาบอกอีกที)

More battery testing on my pre-production OPPO device. When turning on 3k QHD and 120Hz at the same time the phone can be used for 7.9 hours. 🤓

— Brian Shen (@BrianShenYiRen) March 4, 2020

แต่หากแบตหมดระหว่างวันก็ไม่ต้องกังวล เพราะทั้ง Find X2 5G และ Find X2 Pro 5G มาพร้อมกับระบบชาร์จไว Super VOOC 2.0 65W ที่ใช้เวลาชาร์จจาก 0% – 100% แค่ 38 นาทีเท่านั้น

สรุปซื้อรุ่นไหนดี

สเปคโดยรวมของทั้ง Find X2 5G และ Find X2 Pro 5G ถือว่าอัดมาให้แบบจัดเต็มมากๆ ทั้งหน้าจอ Refresh Rate 120 Hz + ความละเอียด Quad HD+, ชิปเซ็ต Snapdragon 865 + Snapdragon X55 Modem รองรับ 5G ด้วยกันทั้งคู่ และไหนจะระบบชาร์จไว Super VOOC 2.0 65W ที่ชาร์จทิ้งไว้แป๊บเดียว ไปอาบน้ำ กลับมาแบตก็เกือบเต็มแล้ว (หรือใครอาบน้ำนานๆ กลับมาแบตอาจเต็มเลยก็ได้)

Play video

แต่ด้วยความที่ราคาต่างกันมากถึง 7,000 บาท (Find X2 5G ราคา 33,990 บาท vs Find X2 Pro 5G ราคา 40,990 บาท) รวมถึงสเปคต่างๆ ไม่ได้หนีกันมาก โดยตัว Find X2 Pro 5G นั้น จะเหนือกว่าตรงที่เซนเซอร์กล้อง, ประสิทธิภาพการซูม, ความจุ, มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น  ซึ่งรุ่นนี้ก็จะเหมาะกับคนที่ต้องการมือถือแบบครบเครื่อง ทั้งสเปคแรง และกล้องที่ทำคะแนน DxOMark ไปได้ถึง 124 คะแนน ก็อาจจะลงทุนจ่ายไปเลยตูมเดียว 40,990 บาท ใช้งานได้ยาวๆ พร้อมกล้องงามๆ

ส่วน Find X2 5G จะเหมาะกับคนที่อยากได้มือถือ 5G ที่มาพร้อมสเปคเรือธง Snapdragon 865 รุ่นแรกในไทยความแรงนัันไม่แพ้รุ่นพี่ ขาดพลังซูมกล้องไปนิดหน่อย ในราคาที่ประหยัดกว่าถึง 7,000 บาท

แต่อย่าลืมว่าทั้ง 2 รุ่นยังมีโปรกับเครือข่าย ทำให้ราคานั้นลดลงไปสูงสุด 15,000 บาทเลยนะครับ