MariSilicon X ชิปประมวลผลภาพแบบคัสตอมตัวแรกของ OPPO เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ชิปตัวนี้มีคุณสมบัติการประมวลผลด้าน AI โดย NPU สุดทรงพลังโดยผสานกับ ISP ในตัวเพื่อยกระดับ Computational Photography ให้ถ่ายภาพและวิดีโอได้แจ่มแจ๋วกว่าเดิม อีกทั้งยังรองรับการทำงานร่วมกับเซนเซอร์ RGBW ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยจะนำมาใช้งานเป็นครั้งแรกในซีรีส์ Find X ที่จะเผยโฉมตามมาทีหลังในไตรมาสแรกของปีหน้า
ผสานการทำงานระหว่าง ISP และ NPU โซลูชันใหม่สำหรับการถ่ายภาพบนมือถือ
แม้ทุกวันนี้ภาพรวมของเซนเซอร์กล้องในสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์เริ่มขยับเข้าใกล้ขนาด 1 นิ้วมากขึ้นทุกที แต่มันมาถึงจุดที่ขยายไปมากกว่านี้ได้ยาก ด้วยข้อจำกัดด้านพื้นที่และน้ำหนักที่ผูกมัดเอาไว้ ดังนั้นการเพิ่มคุณภาพของภาพถ่ายโดยการนำ Computational Photography เข้ามาประยุกต์ใช้จึงดูเป็นทางออกที่เข้าท่า แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้เองก็เริ่มเจอกับกำแพงเข้าบ้างแล้วเหมือนกัน เพราะไม่ใช่แค่เซนเซอร์กล้องเท่านั้นที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่การถ่ายภาพความละเอียด 100MP หรือสูงกว่า และการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K หรือ 8K เริ่มได้รับความนิยม จนลำพังแค่พลังการประมวลผลจาก SoC และ ISP เริ่มไม่เพียงพอแล้ว ด้วยเหตุนี้ OPPO จึงได้ออกแบบ MariSilicon X ขึ้นมาให้ช่วยก้าวผ่านกำแพงดังกล่าวไปสู่อีกขั้นหนึ่ง
MariSilicon X ทรงพลังแค่ไหน ทำอะไรได้บ้าง
MariSilicon X ถูกผลิตด้วยกระบวนการขนาด 6 นาโนเมตรโดย TSMC ซึ่ง OPPO เคลมว่า NPU ภายในมีความสามารถในการคำนวณชุดคำสั่งได้มากถึง 18 TOPS เป็นที่เลขที่สูงเพียงพอที่จะสามารถประมวลผลภาพในระดับพิกเซลต่อพิกเซลแบบเรียลไทม์ได้
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น OPPO ได้ยกตัวอย่างว่า อัลกอริทึม AI noise reduction ในการถ่ายวิดีโอ 4K บน Find X3 Pro เพียงแค่ 2 เฟรมต่อวินาที ต้องใช้พลังงานมากถึง 1693 มิลลิวัตต์ พูดง่าย ๆ คือ มันแย่จนเอามาใช้งานจริงไม่ได้ ในขณะที่พอลองเปลี่ยนมาเป็นชิป MariSilicon X แล้วตัวเลขขยับขึ้นมาแบบก้าวกระโดด กลายเป็น 40 เฟรมต่อวินาที แถมยังประหยัดพลังงานกว่าเดิม 896 มิลลิวัตต์อีกต่างหาก การถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงพร้อม Night mode หรือทำ HDR แบบเฟรมต่อเฟรมจึงไม่ใช่เรื่องเกินจริงอีกต่อไป
หน่วยประมวลผลแรงอย่างเดียวยังไม่พอ หน่วยความจำต้องเร็วตามด้วย
OPPO ระบุว่า บริษัทฯ ได้นำหน่วยความจำแบบ DDR5 มาใช้เพื่อให้ NPU กับ ISP โอนถ่ายข้อมูลหากันได้ในปริมาณ 8.5 จิกะไบต์ต่อวินาที เพื่อให้ MariSilicon X เรียกใช้งานอัลกอริทึมต่าง ๆ จากหน่วยความจำในระบบย่อยได้อย่างฉับไวและไม่ให้ติดปัญหาในลักษณะคอขวด
4K Ultra HDR ไดนามิกเรนจ์กว้างกว่าเดิม 4 เท่า
ตามที่กล่าวไปข้างต้น MariSilicon X จะเป็นกุญแจที่เข้ามาปลดล็อกฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงในขั้นถัดไป หนึ่งในสิ่งที่ว่านั้นก็คือ วิดีโอ 4K แบบ Ultra HDR ที่มีไดนามิกเรนจ์ครอบคลุม 20-bit หรือคิดเป็น 20 สตอป กว้างกว่าตอน Find X3 Pro อยู่ 4 เท่า เก็บรายละเอียดของแสงกับสีได้ครบทั้งส่วนมืดและส่วนสว่าง คุณสมบัตินี้ไม่ได้เกิดจากพลังของ NPU เพียงอย่างเดียว แต่ ISP ตัวใหม่ที่ OPPO คัสตอมขึ้นมาเองนั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน
RAW Domain กล้องมองเห็นภาพเป็นอย่างไร ตาเรามองเห็นภาพเป็นอย่างนั้น
ขั้นท้ายสุดของกระบวนการประมวลผลภาพหรือที่เรียกว่า Image processing pipeline นั้น คือการส่งภาพที่ถูกถ่ายมาแล้วไปแสดงผลยังหน้าจอ ซึ่ง OPPO บอกว่า อุปกรณ์ทั่ว ๆ ไปไม่สามารถโชว์ศักยภาพที่แท้จริงของฮาร์ดแวร์กล้องออกมาได้แบบเรียลไทม์ เพราะจาก RAW ที่เป็นข้อมูลดิบ ต้องแปลงมาเป็นสีในระบบ RGB แล้วตามด้วย YUV อีกต่อหนึ่ง ยังไม่นับกระบวนการย่อย ๆ ระหว่างทางอีกหลายขั้นตอน เรียกได้ว่า ข้อมูลถูกตัดหรือบีบอัดหายไปบานตะไทเกิน 90% OPPO จึงได้พัฒนากระบวนการนี้ขึ้นมาใหม่ พร้อมตั้งชื่อว่า RAW Domain ซึ่งสามารถแสงผลได้เต็มศักยภาพของเซนเซอร์กล้องที่ถ่ายภาพหรือวิดีโออยู่ ณ ขณะนั้น ๆ ได้ในทันที นอกจากนี้ยังรองรับการแสดงผลแม้ถ่ายวิดีโอแบบ Ultra HDR หรือ Night mode บนความละเอียด 4K ด้วย เป็นการเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้ปลายทางของการประมวลผลภาพได้เป็นอย่างดี
ดึงศักยภาพของเซนเซอร์ RGBW ออกมาได้เต็มที่
สุดท้ายเป็นเรื่องเกี่ยวกับเซนเซอร์ภาพ RGBW ที่ผมเคยกล่าวถึงไปว่า นี่คือเซนเซอร์ภาพรูปแบบใหม่ที่กำลังจะกลายเป็นเทรนด์ในอุตสาหกรรมมือถือเร็ว ๆ นี้ ซึ่ง OPPO ได้ชิงเปิดตัวเซนเซอร์ชนิดนี้ของตัวเองล่วงหน้าไปก่อนงาน INNO Day ตั้งแต่เดือนสิงหาคมแล้ว และในวันนี้ได้มีการมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมโดยระบุว่า MariSilicon X นั้นรองรับ RGBW PRO mode อย่างเต็มรูปแบบ สามารถประมวลผลช่องสีแดง (R) เขียว (G) และน้ำเงิน (B) แยกออกจากช่องสีขาว (W) ของเซนเซอร์ภาพ แล้วค่อยนำการประมวลผลที่ได้มาซ้อนเข้าด้วยกันอีกครั้งในภายหลัง บริษัทฯ อธิบายว่า วิธีนี้ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีรายละเอียดคมชัดขึ้นอีก 1.7 เท่า
สำหรับซีรีส์ Find X เจเนอเรชันถัดไปมีการประกาศกำหนดการเปิดตัวแล้ว โดย OPPO ระบุเป็นช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อตรง ๆ แต่คงหนีไม่พ้นซีรีส์ Find X5 นั่นแหละครับ
ชื่อมันคล้ายๆ ของใครวะ โคตรคุ้น 😃