เปิดราคาไทย OPPO Reno 11 Series มือถือที่มาพร้อมจุดเด่นในด้านการถ่าย Portait ที่ทางแบรนด์ได้เคลมว่าถ่ายคนอย่างโปร ออกมาได้สวยระดับ DSLR เลยทีเดียว แถมยังมีการปรับแต่งให้พร้อมใช้งานเลย อีกทั้งยังได้มีการอัปเกรดสีและดีไซน์ใหม่ ได้รับแรงบรรดาลใจจากธรรมชาติด้วย มาในราคาไทยเริ่มต้นอยู่ที่ 14,990 บาท

OPPO Reno11 5G

OPPO Reno11 เปิดตัวมาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูคล้ายเดิม ตัวกล้องมาในดีไซน์แบบแคปซูลขนาดใหญ่ พร้อมฝาหลังโค้งแบบ 3D เล่นลวดลายต่างกันไปในแต่ละสีสัน โดยสีเด็ดของรุ่นนี้คือสีเขียว Wave Green ที่มาในเทกเจอร์ลายเส้นผ้าไหม

ในรุ่นนี้ให้จอแสดงผลแบบโค้ง 3D ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2412×1080 พิกเซล) รองรับการปรับรีเฟรชเรต 3 ระดับ 60/90/120Hz สว่างสูงสุด 800 nits รองรับการแสดงผลคอนเทนต์ HDR10+ ครอบทับด้วยกระจกทนรอย AGC DT-Star2

รุ่นนี้ให้กล้องหลังมาทั้งหมด 3 ตัว ประกอบไปด้วยกล้องหลัก 50MP มีเซนเซอร์กันสั่น OIS + กล้อง Portrait Telephoto 32MP ที่ใช้เซนเซอร์ IMX709 จาก Sony ถ่ายรูปเบลอหลังสวย ๆ เทียบชั้นกล้อง DSLR + กล้อง Ultrawide 8MP มุมกว้าง 112 องศา ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ 32MP รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K@30FPS ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง

ด้านประสิทธิภาพ OPPO Reno11 จะได้ใช้ชิปอย่าง Dimensity 7050 พ่วงด้วยความจุ RAM LPDDR4x 12GB + ROM UFS 2.2 256GB ส่วนแบตเตอรี่ให้มาที่ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว SUPERVOOC 67W ชาร์จจาก 1 – 100% ใช้เวลาเพียง 45 นาที แบตเตอรี่ทนทานนานสูงสุด 4 ปี

ตัวเครื่องมาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอ สามารถเร่งเสียงได้ดังสูงสุดถึง 300% ติดตั้งมาพร้อมกับ ColorOS 14 บน Android 14 เวอร์ชั่นล่าสุดด้วย

สเปค OPPO Reno11 ที่วางขายในไทย

  • จอภาพ : จอโค้ง 3D AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว
    – ความละเอียด FHD+ (1080 x 2412 พิกเซล)
    – สว่างสูงสุด 800 nits
    – อัตรารีเฟรช 120Hz
    – รองรับ HDR10+
  • ชิป : Dimensity 7050
  • RAM LPDDR4x : 12GB
  • ROM UFS 2.2 : 256GB
  • กล้องหลัง Sony 3 ตัว :
    – กล้องหลัก LYT600 50MP (f/1.8), ระบบกันสั่น OIS
    – กล้องอัลตราไวด์ IMX355 8MP มุมกว้าง 112 องศา (f/2.2)
    – กล้อง Portrait Telephoto IMX709 32MP (f/2.0), ซูม Optical x2
  • กล้องหน้า : OmniVision 32MP (f/2.4)
  • เสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ
  • แบตเตอรี่ : 5,000 mAh
    – รองรับชาร์จไว SUPERVOOC 67W
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6 / Bluetooth 5.3 / NFC / USB Type-C 2.0
  • เซนเซอร์: สแกนลายนิ้วมือใต้จอ, accelerometer, gyro, proximity, compass, IR Blaster
  • ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 14.0 บนพื้นฐาน Android 14
  • ขนาด / น้ำหนัก : 162.4 มม. x 74.3 มม. x 7.99 – 8.04 มม. (ขึ้นอยู่กับรุ่นฝาหลัง) / 182 กรัม

OPPO Reno11 Pro

OPPO Reno11 Pro มาในดีไซน์ที่เหมือนกัน แต่จะเสริมความพรีเมียมที่โมดูลกล้องด้วยการเสริมลวดลายหมุดเพชรไว้ที่ขอบวงแหวน จอแสดงผลในรุ่นนี้เป็นจอโค้ง 3D AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รองรับรีเฟรชเรตระดับสูง 120Hz + Touch Sampling Rate 240Hz หน้าจอสว่างสูงสุด 950 nits รองรับการแสดงผลคอนเทนต์ HDR10+ ครอบทับด้วยกระจกทนรอย AGC

ด้านกล้องถ่ายภาพจะอัปเกรดเซนเซอร์หลักเป็น IMX890 ซึ่งเป็นเซนเซอร์ระดับเรือธง อีกทั้งยังได้ใช้กล้องหน้า Sony IMX709 32MP ด้วย ส่วนด้านประสิทธิภาพจะได้ใช้ชิปที่แรงขึ้นมานิดหน่อยอย่าง Dimensity 8200 พร้อมความจุ RAM LPDDR5x 12GB + ROM UFS 3.1 512GB เยอะสะใจ

อีกหนึ่งสิ่งที่ต่างกันไปคือในด้านแบตเตอรี่ เพราะรุ่นนี้ให้มาที่ 4,600 mAh เท่านั้น แต่จะรองรับชาร์จไวที่เร็วขึ้น 80W ชาร์จจาก 1 – 45% ใช้เวลา 10 นาที การันตีความทนทานของแบตเตอรี่ที่ 4 ปี และรุ่นนี้จะให้ลำโพงเดี่ยวมาเท่านั้น

สเปค OPPO Reno11 Pro 5G ที่วางขายในไทย

  • จอภาพ : จอโค้ง 3D AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว
    – ความละเอียด FHD+ (1080 x 2412 พิกเซล)
    – สว่างสูงสุด 950 nits
    – อัตรารีเฟรช 120Hz
    – รองรับ HDR10+
  • ชิป : Dimensity 8200
  • RAM LPDDR5x : 12GB
  • ROM UFS 3.1 : 512GB
  • กล้องหลัง Sony 3 ตัว :
    – กล้องหลัก IMX890 50MP (f/1.8), ระบบกันสั่น OIS
    – กล้องอัลตราไวด์ IMX355 8MP มุมกว้าง 112 องศา (f/2.2)
    – กล้อง Portrait Telephoto IMX709 32MP (f/2.0), ซูม Optical x2
  • กล้องหน้า : IMX709 32MP (f/2.4)
  • เสียง : ลำโพงเดี่ยว
  • แบตเตอรี่ : 4,600 mAh
    – รองรับชาร์จไว SUPERVOOC 80W
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6 / Bluetooth 5.3 / NFC / USB Type-C 2.0
  • เซนเซอร์: สแกนลายนิ้วมือใต้จอ, accelerometer, gyro, proximity, compass, IR Blaster
  • ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 14.0 บนพื้นฐาน Android 14
  • ขนาด / น้ำหนัก : 162.4 มม. x 74.1 มม. x 7.59 – 7.66 มม. (ขึ้นอยู่กับรุ่นฝาหลัง) / 181 กรัม

ราคาและโปรโมชั่น

OPPO Reno11 5G รุ่นที่วางจำหน่ายในไทยมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สี Wave Green และ สี Rock วางขายในรุ่นความจุเดียว คือ 12GB + 256GB ราคา 14,990 บาท

ส่วน OPPO Reno11 Pro 5G รุ่นที่วางจำหน่ายในไทยมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สี Pearl White, สี Wave Green และ สี Rock วางขายในรุ่นความจุเดียว คือ 12GB + 512GB ราคา 19,990 บาท

โปรโมชั่นเมื่อซื้อ OPPO Reno11 5G

หากสั่งจอง OPPO Reno11 5G ในวันที่ 23 – 29 มกราคม 2567 จะได้รับของสมนาคุณ มูลค่า 11,297 บาท ประกอบไปด้วย

  • OPPO EVIP CARD ประกันจอแตก 1 ครั้ง 1 ปี มูลค่า 6,500 บาท
  • กระเป๋าเป้ RENO SPECIAL EDITION BACKPACK มูลค่า 2,999 บาท
  • ติดฟิล์มฟรี 2 ครั้ง ในระยะเวลา 2 ปี มูลค่า 1,299 บาท
  • เปลี่ยนเคสฟรี 2 ครั้ง มูลค่า 499 บาท

โปรโมชั่นเมื่อซื้อ OPPO Reno11 5G

หากสั่งจอง OPPO Reno11 Pro5G ตั้งแต่วันที่ 23 – 29 มกราคม 2567 จะได้รับของสมนาคุณ มูลค่า 12,797 บาท ประกอบไปด้วย

  • OPPO EVIP CARD ประกันจอแตก 1 ครั้ง 1 ปี มูลค่า 8,000 บาท
  • กระเป๋าเป้ RENO SPECIAL EDITION BACKPACK มูลค่า 2,999 บาท
  • ติดฟิล์มฟรี 2 ครั้ง ในระยะเวลา 2 ปี มูลค่า 1,299 บาท
  • เปลี่ยนเคสฟรี 2 ครั้ง มูลค่า 499 บาท

และพิเศษเมื่อ Pre-Order พร้อมแพ็กเกจรับสิทธิ์ลดค่าเครื่องสูงสุด 7,100 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 29 มกราคม 2567 เป็นต้นไป