OPPO Reno 5 และ Reno 5 5G ได้เดินทางมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราไปเมื่อไม่นานมานี้ มากับสเปคที่จัดเต็ม ใช้งานทั่วไป ถ่ายรูป เล่นเกม ฯลฯ ได้แบบลื่นไหลสุดๆ ในราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 10,990 บาทเท่านั้น ซึ่งวันนี้ทีมงาน DroidSans จะมาชี้เป้าซื้อสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นในราคาที่ถูกกว่าเดิมกับ truemove H แถมยังได้ดู Netflix แบบไม่เสียดาต้าอีกด้วย

โดย OPPO Reno5 series ที่นำเข้ามาวางขายในไทย จะมีทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ OPPO Reno5 (Snapdragon 720G) และ OPPO Reno5 5G (Snapdragon 765G) ซึ่งความแตกต่างระหว่างตัวแรกกับตัวหลัง จะอยู่ที่ OPPO Reno5 5G จะสามารถใช้งานสัญญาณ 5G ที่ตอนนี้ทางผู้ให้บริการเครือข่ายต่างๆ กำลังเร่งติดตั้งเสารับ-ส่งสัญญาณกันอยู่ทั่วประเทศนั่นเอง

OPPO Reno5 5G รองรับ 5G ย่านความถี่ไหนบ้าง?

สำหรับช่วงความถี่ 5G Band ที่เปิดให้ใช้งานในบ้านเรา หลักๆ จะอยู่ทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่ n28 (คลื่น 700MHz), n41 (คลื่น 2600MHz) และ n258 (คลื่น 26GHz) ซึ่ง OPPO Reno5 5G จะสามารถใช้งาน 5G Band ในบ้านเราได้ 2 ตัว ก็คือ n28 และ n41

ซึ่งในส่วนนี้ ทั้ง AIS, truemove H และ dtac ต่างมีใบอนุญาตใช้งานคลื่นความถี่ 5G ทั้งสองตัวกันทั้งสิ้น (ยกเว้น dtac ที่มีถือแค่คลื่น 700MHz) โดยปัจจุบัน สัญญาณ 5G ในบ้านเราก็ถือว่าครอบคลุมมากๆ แล้ว ยิ่งเฉพาะหัวเมืองใหญ่ๆ ไปที่ไหนก็เจอแน่ๆ กับสัญญาณ 5G

**หมายเหตุ: OPPO Reno5 5G สามารถใช้งาน 5G ได้แค่เฉพาะซิมหนึ่งเท่านั้น**

ซื้อ OPPO Reno5 Series กับ truemove H ในราคาเริ่มต้นหารครึ่ง

OPPO Reno5 5G จัดเป็นมือถืออีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจมากๆ เพราะมากับสเปคที่แทบจะเรียกว่าเป็นน้องๆ เรือธงได้เลย หน้าจอ AMOLED ค่ารีเฟรชเรท 90Hz ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 765G รองรับ 5G และมีระบบชาร์จไว Super VOOC 2.0 65W ในราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 13,990 บาทเท่านั้น

แต่ถ้าซื้อ OPPO Reno5 5G กับ truemove H บอกเลยว่าจะได้ราคาที่ถูกยิ่งกว่านั้นซะอีก เริ่มต้นแค่ 7,490 บาท (จากปกติ 13,990 บาท) แน่นอนว่าราคานี้คงไม่ใช่ราคาเครื่องเปล่าแน่ๆ ว่าแต่จะมีเงื่อนไขอะไรบ้าง มาดูกันครับ

ลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม & ลูกค้าใหม่

โดยลูกค้าที่ย้ายค่ายเบอร์เดิม และลูกค้าใหม่ จะได้รับโปรโมชั่นแบบเดียวกันเมื่อสมัครแพ็คเกจรายเดือนที่กำหนด โดยราคาโปรฯ ของ OPPO Reno5 5G จะอยู่ที่ 7,490 บาทเท่านั้น เท่ากับลดราคาไปมากถึง 6,500 บาทเลยทีเดียว

สมัครแพ็คเกจ (ขึ้นไป)ค่าบริการล่วงหน้าราคาโปรโมชั่น
1,199 บาท3,745 บาท7,490 บาท
899 บาท3,210 บาท8,990 บาท
699 บาท2,140 บาท9,990 บาท

ลูกค้าปัจจุบัน truemove H 

ส่วนใครที่ลูกค้าปัจจุบันของ truemove H อยู่แล้ว (อายุการใช้งาน 12 เดือนขึ้นไป) พร้อมกับไม่ติดค่าชำระบริการ ไม่ติดสัญญาใดๆ อยู่ ก็สามารถรับสิทธิ์ซื้อ OPPO Reno5 5G ในราคาพิเศษนี้ไปได้เลย เริ่มต้น 7,490 บาทเท่ากัน

สมัครแพ็คเกจ (ขึ้นไป)ค่าบริการล่วงหน้าราคาโปรโมชั่น
1,199 บาท7,490 บาท
899 บาท8,990 บาท
699 บาท9,990 บาท

 

แต่ถ้ามองว่า 5G ยังไม่ได้จำเป็นอะไรกับการใช้งานขนาดนั้น ลำพังแค่ 4G ก็เหลือๆ แล้ว truemove H ก็นำ OPPO Reno5 รุ่นธรรมดามาจัดโปรโมชั่นกับเขาด้วยเหมือนกัน โดยจะมีราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 5,490 บาทเท่านั้น จากปกติ 10,990 บาท ส่วนเงื่อนไขต่างๆ ก็จะมีดังนี้

ลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม & ลูกค้าใหม่

สมัครแพ็คเกจ (ขึ้นไป)ค่าบริการล่วงหน้าราคาโปรโมชั่น
1,099 บาท3,210 บาท5,490 บาท
899 บาท2,675 บาท6,490 บาท
699 บาท2,140 บาท7,490 บาท
499 บาท1,605 บาท8,490 บาท

ลูกค้าปัจจุบัน truemove H 

สมัครแพ็คเกจ (ขึ้นไป)ค่าบริการล่วงหน้าราคาโปรโมชั่น
1,099 บาท5,490 บาท
899 บาท6,490 บาท
699 บาท7,490 บาท

 

*หมายเหตุ: ต้องมีอายุการใช้งาน 12 เดือนขึ้นไป พร้อมกับไม่มียอดค้างชำระ และไม่ติดสัญญาใดๆ อยู่

สิทธิ์พิเศษอื่นๆ เมื่อซื้อ OPPO Reno5 Series กับ truemove H พร้อมสมัครแพ็คเกจที่กำหนด

นอกจากนี้ หากซื้อ OPPO Reno5 Series พร้อมกับสมัครแพ็คเกจรายเดือนราคา 1,399 บาทขึ้นไป ก็รับสิทธิ์ดูบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษแบบฟรีๆ ไปเลย ไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่ม มาลุ้นกันว่าลิเวอร์พูลจะคืนฟอร์มกลับมารักษาตำแหน่งแชมป์ได้หรือไม่ หรือปีนี้จะเป็นปีของแมนซิตี้ รวมถึงเชลซีภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างโทมัส ทูเคิ่ลจะก้าวขึ้นมาเป็นทีมลุ้นแชมป์ได้หรือเปล่า

แต่ถ้าค่าบริการเดือนละ 1,399 บาทมันแพงไปก็ไม่เป็นไร เพราะ truemove H ยังมอบสิทธิ์ดู Netflix แบบไม่เสียค่าบริการอินเทอร์เน็ตให้กับคนที่ซื้อ OPPO Reno5 Series พ่วงกับแพ็คเกจรายเดือน 699 บาทขึ้นไปอีกด้วย เท่ากับว่าสามารถใช้เน็ตความเร็วสูงดูคอนเทนต์บน Netflix แบบชัดๆ ลื่นๆ โดยที่ไม่ต้องเสียดาต้าแม้แต่นิดเดียว

*หมายเหตุ: แต่ยังต้องเสียเงินสมัครค่าบริการรายเดือนของ Netflix อยู่ดีนะ

OPPO Reno5 4G และ Reno5 5G สเปคเหมือน-ต่างกันตรงไหน?

ทั้ง OPPO Reno5 4G และ Reno5 5G ต่างมีหน้าต่างและสเปคภายในที่ใกล้เคียงกันมากๆ เอาเป็นว่าถ้าวางเอาไว้ข้างๆ กัน ก็แทบจะแยกไม่ออกเลยล่ะว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นไหน โดยตารางด้านล่างจะเป็นการทำให้ผู้อ่านเห็นภาพชัดๆ นะครับว่าทั้งคู่มีความเหมือน-ต่างกันมากน้อยขนาดไหน

OPPO Reno5 4G
OPPO Reno5 5G
หน้าจอ
AMOLED 6.4″ FHD+ 90Hz
ชิปเซ็ตSnapdragon 720G
Snapdragon 765G
GPUAdreno 618Adreno 620
RAM
8GB (LPDDR4x)
ความจุ128GB
microSD Cardรองรับไม่รองรับ
กล้องหลัง4 ตัว

  • กล้องหลัก 64MP (f/1.7)
  • กล้อง Ultrawide 8MP (f/2.2)
  • กล้อง Macro 2MP (f/2.4)
  • กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4)
กล้องหน้า44MP32MP
เซ็นเซอร์Fingerprint (ใต้จอ), Accelerometer, Geomagnetic, Proximity, Gravity, Gyroscope, Pedometer
การเชื่อมต่อWi-Fi 802.11 dual-band, BT 5.1, NFC, USB-C
การใช้งาน 5Gไม่รองรับรองรับ
รูหูฟังมี
แบตเตอรี่4300 mAh
ระบบชาร์จไวSuperVOOC 50W
SuperVOOC 2.0 65W
ระบบปฏิบัติการ
Android 11 ครอบด้วย ColorOS 11.1
น้ำหนัก171 กรัม172 กรัม

 

จะสังเกตเห็นว่าสเปคหลักๆ แทบจะเหมือนกันทั้งหมดเลยสำหรับ OPPO Reno5 4G และ Reno5 5G เริ่มตั้งแต่หน้าจอที่ใช้เป็นแบบ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ และค่ารีเฟรชเรท 90Hz เหมือนกัน ดีไซน์ภายนอกก็เหมือนกันเป๊ะๆ ต่างตรงที่รุ่น 4G จะมีขนาดเบากว่ารุ่น 5G อยู่เล็กน้อย

ส่วนชิปเซ็ตก็จะใช้ต่างกันเล็กน้อย แน่นอนว่ารุ่น 5G ย่อมเลือกใช้หน่วยประมวลผลที่แรงกว่าอยู่แล้ว มาพร้อมกับ Snapdragon 765G (7nm) มีโมเด็ม 5G ในตัว รองรับการใช้งาน 5G ในไทยทุกคลื่นทุกค่าย ในขณะที่รุ่น 4G นั้น ก็ถือว่าไม่ได้ด้อยไปกว่าเท่าไหร่ เพราะ Snapdragon 720G (8nm) ก็มีประสิทธิภาพที่แรงพอตัวเหมือนกัน ใช้งานทั่วไป หรือเอาไปเล่นเกมก็ปรับกราฟิกสูงๆ ได้เกือบหมด

OPPO Reno5 4G และ Reno5 5G จะเลือกใช้กล้องหลังชุดเดียวกันหมด ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ทั้งหมด 4 ตัว ได้แก่

  • กล้องหลัก 64MP (f/1.7)
  • กล้อง Ultrawide 8MP (f/2.2)
  • กล้อง Macro 2MP (f/2.4)
  • กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4)

ซึ่งแน่นอนว่าฟีเจอร์ลูกเล่นต่างๆ ก็ใส่มาให้จัดเต็มตามแบบฉบับของ OPPO แต่ในส่วนกล้องหน้านั้น เหมือนว่ารุ่น 4G จะได้เซ็นเซอร์ที่มีความละเอียดมากกว่าที่ 44MP (รุ่น 5G ความละเอียดแค่ 32MP) แต่การใช้งานจริงๆ บอกเลยว่าแทบจะไม่ได้แตกต่างจนถึงขนาดสังเกตได้นะครับ คือต้องซูมเข้าไปลึกๆ ถึงจะเห็นว่าภาพที่ได้จากเซ็นเซอร์ 44MP จะมีความคมชัดกว่านิดนึง

แม้ว่าความจุแบตจะให้มาเท่ากันที่ 4,300 มิลลิแอมป์ แต่ระบบชาร์จไวของ Reno5 5G นั้นเหนือกว่ารุ่น 4G อย่างชัดเจน เพราะได้มาเป็นตัว SuperVOOC 2.0 65W ชาร์จครึ่งชั่วโมงแบตเต็ม ในส่วน Reno5 4G ยังคงใช้เป็น SuperVOOC 50W อยู่ แต่..บอกเลยว่าถึงจำนวนวัตต์จะไม่เท่า แต่ก็ยังถือว่าไวมากๆ อยู่ดี ไวกว่ามือถือเรือธงบางรุ่นซะอีก

สรุป OPPO Reno5 4G หรือ Reno5 5G ซื้อรุ่นไหนดี?

เชื่อว่าหลายคนน่าจะได้คำตอบตั้งแต่ชื่อรุ่นแล้วล่ะว่าจะซื้อ Reno5 4G หรือ Reno5 5G แต่ถ้าใครที่ยังคิดไม่ออก ผมก็แอบเชียร์ตัว 4G นะ คือสเปคไม่ได้ด้อยไปกว่ารุ่น 5G เลย แถมยังมีอีกหลายๆ อย่างที่เหนือกว่าด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นสามารถใส่ microSD Card เพิ่มความจุ รวมถึงกล้องหน้ายังมีความละเอียดมากกว่าอีกด้วย ในราคาที่ถูกกว่ากันถึง 3,000 บาท คือถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่อง 5G ยังไงรุ่น 4G ก็น่าเล่นกว่าเห็นๆ

แต่ก็นั่นแหละ ถ้าพื้นที่อยู่มีเสา 5G ไปตั้งหรือมีสัญญาณครอบคลุมล่ะก็ ตรงนี้ Reno5 5G กินขาดเลย หรือถ้าตอนนี้ที่บ้านยังไม่มี 5G ไปถึง ก็ซื้อเอาไว้ก่อนก็ได้ เพราะเดี๋ยวอีกไม่นานก็น่าจะมีเสาไปตั้งแล้วล่ะ ซื้อเผื่ออนาคตเอาไว้เลย

Play video

 

ลิงก์สั่งซื้อ: truemove H