เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา มีรายงานจากประเทศอินเดียว่า มีการตรวจพบว่า สมาร์ทโฟนแบรนด์ Vivo มีเลข IMEI ซ้ำกันกว่า 13,500 เครื่อง และชี้ว่านี่เป็นปัญหาด้านความปลอดภัยที่ร้ายแรงมาก เนื่องจากหมายเลข IMEI ถือเป็นเลขประจำตัวของมือถือแต่ละเครื่องที่ไม่ควรจะซ้ำกัน เพราะมันสามารถใช้ในการติดตามเครื่องในกรณีเครื่องหาย หรือมีการกระทำความผิดผ่านมือถือเครื่องดังกล่าวนั่นเอง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองมีรัท รัฐอุตตร ประเทศอินเดีย โดยจุดเริ่มต้นมาจากตำรวจนายหนึ่งได้นำโทรศัพท์ของตัวเองไปซ่อมเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว หลังจากนั้นเค้าพบว่าโทรศัพท์ของตัวเองทำงานผิดปกติและเกิดอาการเออเร่อมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ได้มาตรวจพบในภายหลังว่า เลข IMEI ของเครื่องตัวเองนั้นเปลี่ยนไป จึงได้ส่งโทรศัพท์ของตัวเองต่อไปยังเจ้าหน้าที่ไซเบอร์เซล (cyber cell : หน่วยปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ของประเทศอินเดีย) จากนั้นเจ้าหน้าที่ไซเบอร์เซลจึงได้ทำการตรวจสอบ แล้วดันไปพบว่า มีสมาร์ทโฟน Vivo อีกกว่า 13,500 เครื่องที่มีเลข IMEI ซ้ำกับสมาร์ทโฟนเครื่องดังกล่าว

ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกของ Vivo เพราะเมื่อปีที่แล้วสำนักข่าว The Times of India ก็รายงานว่ามีสมาร์ทโฟนยี่ห้อ Vivo ถึง 125 เครื่องที่มีเลข IMEI ซ้ำกันจากการตรวจสอบทั้งหมด 300 เครื่อง ซึ่งถือเป็นอัตราส่วนที่สูงมาก และหากย้อนกลับไปไกลกว่านั้น ก็เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้เมื่อปี 2012 ที่มีมือถือเลข IMEI ซ้ำกันอีกกว่า 18,000 เครื่อง (ไม่ระบุยี่ห้อ)

โดย The Times of India คาดการณ์ว่าในปีที่แล้วมีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์ที่ถูกดัดแปลง IMEI ในประเทศอินเดียกว่า 50,000 ราย หรืออย่างแย่ที่สุดอาจสูงเกินกว่า 100,000 รายเลยทีเดียว ซึ่ง The Times of India กล่าวเสริมในส่วนนี้ว่า ส่วนใหญ่แล้วเครื่องที่ถูกดัดแปลง IMEI คือเครื่องที่ถูกขโมยมา (จึงต้องดัดแปลง IMEI เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกอายัด หรือถูกติดตามเครื่องนั่นเองครับ)

ปัญหาด้านอาชญากรรมไซเบอร์นั้นเป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งในประเทศอินเดีย และทางการพึ่งเพิ่มกฎหมายเกี่ยวกับการดัดแปลงเลข IMEI ว่าเป็นการกระทำความผิดที่มีโทษ ไปเมื่อปี 2017 แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหลังจากนั้นจนถึงตอนนี้ ทำให้ดูเหมือนว่าเหล่ามิจฉาชีพจะไม่ได้เกรงกลัวอะไรเท่าไหร่

ทางตำรวจอินเดียชี้ว่านี่เป็นปัญหาด้านความปลอดภัยที่ร้ายแรง และคาดการณ์ว่าเหตุการณ์นี้ต้นเหตุน่าจะมาจากร้านซ่อมมือถือหรือร้านขายมือถือ (ประมาณร้านตู้ในบ้านเรา) และในเบื้องต้นทางตำรวจอินเดียได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญลงมือสืบสวนเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ส่วนทาง Vivo ยังคงนิ่ง ไม่มีแถลงการณ์หรือการตอบสนองใด ๆ ต่อเหตุการณ์นี้ ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ

 

ที่มา : TechRadarETTelecom, The Times of India