PICO เปิดตัวแว่น  MR รุ่นใหม่ PICO 4 Ultra ที่ทางแบรนด์เคลมว่ามีฟีเจอร์การทำงานคล้ายกับ Apple Vision Pro แต่มาในราคาที่ถูกกว่า 5 เท่า ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวจัดได้ว่าเป็นอุปกรณ์ MR All in One Reality Headset เครื่องแรกของทางแบรนด์เลย ส่วนฟีเจอร์ที่ใส่มาให้ก็น่าสนใจไม่น้อย ทั้งกล้องเซนเซอร์ 7 ตัว สวมใส่สบาย ดีไซน์แบบไร้รอยต่อ เปิดตัวมาในราคา 19,990 บาท

PICO 4 Ultra วางขายในไทยอย่างเป็นทางการ

แว่น MR ตัวใหม่ PICO 4 Ultra พร้อมที่จะพาทุกคนไปสัมผัสกับโลกเสมือนจริงแล้ว ซึ่งรุ่นนี้มีน้ำหนักอยู่ที่ 580 กรัม ก็อยู่ในระดับที่ใส่เล่นได้ ไม่หนักมากนัก ดีไซน์มาในรูปแบบไร้รอยต่อ ทำให้มีความสมดุลที่ดีขึ้น

มีการออกแบบให้ตัว Controller ไม่มีวงแหวน ทำให้พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก เพราะอย่างรุ่นอื่นที่เห็นส่วนมากจะเป็นที่จับละมีวงกลม ๆ อยู่ที่ปลายจับ ทำให้กินเนื้อที่ไปนิด แต่รุ่นนี้ไม่มีดีไซน์แบบนั้น ก็ช่วยประหยัดเนื้อที่ไปได้เยอะเหมือนกัน

ทางด้านฮาร์ดแวร์อื่น ๆ รุ่นนี้จะมาพร้อมกับเซนเซอร์ทั้งหมด 7 ตัว ได้แก่ กล้องเซนเซอร์ Slam Spatial ตรวจจับการเคลื่อนไหว 4 ตัว, กล้อง RGB สี ความละเอียด 32MP 2 ตัว และกล้อง iToF สำหรับตรวจจับวัตถุโดยรอบอีก 1 ตัว และขับเคลื่อนด้วยชิป Snapdragon XR2 Gen2 

ด้านแบตเตอรี่ รุ่นนี้ให้มา 5,700 mAh รองรับชาร์จไว 45W ลำโพง 2 ตัว ไมโครโฟน 4 ตัว รองรับการอัดเสียงแบบ Spatial Audio และที่สำคัญ รุ่นนี้ใช้เป็นจอคู่ Dual Display Pancake Screen ขนาดด้านละ 2.56 นิ้ว ความละเอียดจอละ 2160 × 2160 พิกเซล รวมแล้วได้ความละเอียด 4320 x 2160 พิกเซล ที่ให้ความคมชัดระดับ 4K รีเฟรชเรทลื่นไหล 90Hz แสดงผลแสงสีได้มีความสมจริงมากขึ้น และลดความบิดเบือนของสีที่ขอบ ทำให้ได้ประสบการณ์การใช้แว่น MR ได้ดีขึ้น ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ก็น่าสนใจไม่น้อย ดังนี้

ฟีเจอร์เด่น PICO 4 Ultra

  • มี Panoramic Workspace ใช้งานจอได้ 360 องศา มีความยืดหยุ่น สามารถขยายขนาดได้มากถึง 280 นิ้ว รองรับการทำงานหลาย ๆ หน้าพร้อมกันได้ รองรับเนื้อหาที่สร้างโดย AI ตลอดจนรองรับแอปบน Android และบน Website ผ่าน OS เวอร์ชันล่าสุดของ PICO 
  • ตรวจจับการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ทุกสัดส่วน 
  • เชื่อมต่อแอปแบบสะท้อนหน้าจอ (Mirror) คือ เชื่อม MR กับอุปกรณ์ PC, Mac, Windows, iOS และ Android ได้ เหมือนได้ใช้งานอุปกรณ์นั้น ๆ โดยเชื่อมต่อผ่านแอป PICO Connect สามารถแสดงหน้าจอพร้อมกันสูงสุด 3 หน้าจอ 
  • จับคู่ใช้งานกับอุปกรณ์ได้อัตโนมัติ พร้อมใช้ภายใน 5 วินาที 
  • รองรับวิดีโอและการถ่ายภาพแบบ Spatial ที่ถ่ายด้วยอุปกรณ์ของ Apple อย่าง iPhone หรือ Vision Pro 
  • มีอัลกอริทึมที่เป็นเอกสิทธิ์ของทาง PICO ที่ทำให้รับรู้สภาพแวดล้อม ช่วยให้สร้างแผนที่ของสภาพแวดล้อมและวัตถุแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่สมจริงมากขึ้น 
  • ด้วยความละเอียดที่สูง ความผิดเพี้ยน บิดเบี้ยวต่ำ มาพร้อมความละเอียด 8MP, 20.6 PPD ตลอดจนการจัดตำแหน่งเฟรมภาพยังมีความถี่สูงถึง 72Hz ทำให้ใช้งานได้อย่างราบรื่น
  • มีโหมด Immersive ที่ทำให้ผู้ใช้งานได้ดื่มด่ำกับภาพที่สมจริงมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถสำรวจฟีเจอร์สภาพแวดล้อมที่สร้างโดย AI ล่าสุด เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สมจริง
  • มีเกมให้เล่นเยอะมาก แถมยังได้ภาพที่สมจริง เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเกมจริง ๆ เลย

จับเครื่องจริง PICO 4 Ultra

จากที่ได้ลองจับเครื่องจริงของ PICO 4 Ultra คือให้สัมผัสที่ดีเลยนะ ด้วยการออกแบบที่ไร้รอยต่อ ทำให้รู้สึกว่าทั้งเครื่องรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ได้รู้สึกว่าสายจะเกะกะอะไร ตอนที่ลองหยิบมาใส่เล่นไป 5-10 นาทีก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะหนักจนใส่ต่อไม่ไหว ส่วนตัวมองว่าอุปกรณ์นี้ยังพอที่จะหิ้วติดตัวไปไหนมาไหนได้อยู่ ถ้าไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วอยากจะพกไปด้วยก็ไม่ติด เพราะไม่ได้ใหญ่เทอะทะอะไรมากนัก

ทางด้านการเล่นเกม เรียกได้ว่าได้ประสบการณ์แบบเต็มสตรีม ทั้ง ภาพ เสียง เนื้อหา ใส่มาให้แบบจัดเต็ม หรือถ้าจะใช้งานในแง่ของการดูภาพ ดูความทรงจำย้อนหลัง ก็คือเหมือนกับเราย้อนเวลาเข้าไปในเหตุการณ์นั้นเลย เพราะว่าตัวแว่นให้ภาพที่สมจริงมาก ๆ และถ้าใครที่เป็นสายเกมกีฬาคิดว่าควรใช้งานคู่กับ PICO MOTION Tracker ด้วย ตัวนี้จะเอาไว้ติดที่ข้อเท้าผู้ใช้งาน เอาไว้ติดตามการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้เล่นนั่นเอง

PICO MOTION Tracker

ส่วนในแง่ของใช้ทำงานในชีวิตประจำวันก็สะดวกดีไม่น้อย เพราะว่าภาพที่ขึ้นมาให้ก็จะเป็นพวกไฟล์ต่าง  ๆ ให้ประสบการณ์เหมือนเอาตัวเราเองเข้าไปดึงไฟล์หรือทำงานอยู่ด้านในกับคอมพิวเตอร์เลย แถมไม่ต้องใช้คอนโทรลเลอร์ด้วย สามารถใช้มือเราเองชี้ ๆ เลื่อน ๆ ฟีเจอร์ต่าง ๆ บนหน้าจอได้จริง

ใช้งานแบบไม่ใช้คอนโทรลเลอร์ ใช้นิวลากเลื่อนได้

ส่วนคอนโทรลเลอร์อันนี้ก็ตอบโจทย์การใช้งานเหมือนกัน เพราะว่าตัวเครื่องไม่มีวงแหวนครอบด้านบนให้เกะกะอีกต่อไป ตัวเครื่องมาในสไตล์มินิมอล ขนาดพอดีรับกับมือ หยิบจับได้ถนัด ปุ่มต่าง ๆ ก็อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ใช้งานง่าย

สเปค PICO 4 Ultra

  • จอภาพ : จอคู่ Dual Display Pancake Screen ขนาดฝั่งละ 2.56 นิ้ว
    • ความละเอียดรวม 4320× 2160 พิกเซล
    • อัตรารีเฟรช 90Hz
  • ชิปเซต : Snapdragon® XR2 Gen 2
  • RAM LPDDR5 : 12GB
  • ROM UFS 3.1 : 256GB 
  • เสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ, ไมโครโฟน 4 ตัว รองรับ Spatial Audio 
  • แบตเตอรี่ : 5,700 mAh รองรับชาร์จไว 45W
    •            QC 4.0 / PD 3.0
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3, 
  • พอร์ต : USB Type-C 
  • เซนเซอร์ 7 ตัว ได้แก่
    •  กล้องเซนเซอร์ Slam Spatial ตรวจจับการเคลื่อนไหว 4 ตัว
    • กล้อง RGB สี ความละเอียด 32MP 2 ตัว 
    • กล้อง iToF สำหรับตรวจจับวัตถุโดยรอบอีก 1 ตัว
  • ความทนทาน : ไม่ระบุ
  • ระบบปฏิบัติการ : OS รุ่นล่าสุด
  • ขนาด / น้ำหนัก: เฉพาะตัวจอยาว 165 มม
  • จอรวมสายรัดศีรษะยาว 256 – 312 มม. 
  • ความกว้างของจอจากด้านบนลงด้านล่าง  84 มม. 
  • ความลึกของจอ 62 มม.
  • น้ำหนัก : 580 กรัม

ราคาจำหน่าย  

PICO 4 Ultra วางขายในราคาอยู่ที่ 19,990 บาท และมี PICO MOTION Tracker ขายแยกในราคาอยู่ที่ 2,990 บาท

พิเศษ ! 

ตั้งแต่ 1-31 ตุลาคม 2024 นี้ พบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษที่ PICO Display Zone ในเซ็นทรัล เวิลด์, เซ็นทรัล เวสต์เกต และเมกาบางนา

Pico 4 Ultra
  • ซื้อ PICO 4 Ultra + Motion Tracker รับส่วนลดเพิ่มทันที 1,000 บาท
  • PICO 4 Ultra ราคา 19,990 บาท แถมฟรีเกม 4 เกม
  • PICO Motion Tracker เพียง 2,990 บาท

หรือเลือก PICO 4 All-in-One VR Headset เริ่มต้นที่ 13,490 บาท แถมฟรีเกม 4 เกม พร้อมพัดลม PICO

รีบเลย! สัมผัสประสบการณ์ VR ขั้นสุดได้แล้ววันนี้ในราคาพิเศษเฉพาะที่ PICO Display Zone

ทดลองเล่นก่อนตัดสินใจได้ที่ Display Zone

  • Central World (ชั้น 4)
  • Central Westgate (ชั้น 2)
  • Mega Bangna (ชั้น 2)