Google ออกอัปเดต Feature Drop ประจำเดือนมิถุนายน 2024 บน Android 14 QPR3 ให้มือถือ แท็บเล็ต และนาฬิกา Pixel แล้ว เกือบทั้งหมดเป็นฟีเจอร์ที่ปล่อยทดสอบในเวอร์ชันเบตาก่อนหน้านี้ ไฮไลต์เด่น ๆ คือ การปลดล็อก Gemini Nano ให้ Pixel 8 ตามที่สัญญาไว้ และ Pixel 8a ที่พึ่งเปิดตัวมาใหม่ ก็พลอยได้อานิสงส์ไปด้วย รวมถึง DP Alt ก็ได้รับการปลดล็อกแล้วเช่นกัน อาจเป็นการบอกเป็นนับว่าโหมดเดสก์ท็อปอาจพร้อมใช้งานเร็ว ๆ นี้ (หรือเปล่า)
Gemini Nano บน Pixel 8 และ Pixel 8a มาแล้ว แต่ต้องเปิดเอง
![](https://images.droidsans.com/wp-content/uploads/2024/06/pixel-feature-drop-june-2024-04.jpg)
การมาของ Gemini Nano จะช่วยให้ Pixel 8 และ Pixel 8a สามารถประมวลผล AI ได้จากบนอุปกรณ์แบบ on-device และปลดล็อกฟีเจอร์ Google AI หลายอย่าง เช่น
- Recorder – ได้ฟีเจอร์ Summarize สรุปเนื้อหาจากไฟล์เสียง รองรับการถอดเสียงเป็นข้อความ พร้อมติดป้ายกำกับผู้พูดแยกเป็นรายคน
- Messages – ได้ฟีเจอร์ Magic Compose ช่วยปรับสำนวนของข้อความตามสไตล์ที่เลือก เช่น เป็นกันเอง เป็นทางการ หรือแบบกระชับ เป็นต้น
- Gboard – ได้ฟีเจอร์ Smart Reply แนะนำข้อความตอบกลับตามบริบทโดยอัตโนมัติ
แต่ Gemini Nano บน Pixel 8 และ Pixel 8a ถูกปิดไว้เป็นค่าเริ่มต้น หากอยากใช้งานต้องเปิดแบบแมนนวลด้วยตัวเอง โดยมีวิธีดังนี้
ขั้นตอนที่ 1
- จากหน้า Settings
- ไปที่ About phone
- แตะ Build number ต่อเนื่องกัน 7 ครั้ง
- จนมีคำว่า ‘You are now a developer!’ ปรากฏ
ขั้นตอนที่ 2
- จากหน้า Settings
- ไปที่ System
- เลือก Developer options
- ต่อด้วย AICore Settings
- จากนั้นเปิด Enable on-device GenAI Features เป็นอันเสร็จ
DP Alt เสียบสายส่งภาพขึ้นจอได้โดยตรง
![](https://images.droidsans.com/wp-content/uploads/2024/06/Pixel8a_Display_Port_Support.width-1000.jpg)
Pixel 8, Pixel 8 Pro และ Pixel 8a ได้รับการปลดล็อก DP Alt อย่างเป็นทางการแล้ว สามารถส่งภาพขึ้นจอทีวีหรือมอนิเตอร์ได้แบบเนทีฟผ่านสาย USB-C to USB-C หรือ USB-C to HDMI หรือจะผ่านดองเกิลที่เป็นตัวแปลงอีกทอดก็ได้
ทั้งนี้ต้องแจ้งก่อนว่าโหมดเดสก์ท็อปบน Android 14 ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ดังนั้นภาพที่ส่งขึ้นจอจึงเป็นการส่งแบบมีร์เรอร์ (mirror) หรือการสะท้อนภาพธรรมดา ยังไม่ใช่โหมดเดสก์ท็อปฉบับสมบูรณ์เหมือน DeX ของ Samsung ส่วน Pixel รุ่นอื่น ๆ ที่เหลือทั้งหมด ไม่รองรับ DP Alt เป็นข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ที่ตัวพอร์ต ไม่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์
Find My Device มือถือหาย ปิดเครื่องก็ตามได้
![](https://images.droidsans.com/wp-content/uploads/2024/06/image-37.png)
Find My Device บน Pixel 8, Pixel 8 Pro และ Pixel 8a ปลดล็อกโหมดค้นหาขณะปิดเครื่อง เงื่อนไขคือ ต้องมีช่องทางเชื่อมต่อเน็ต (อยู่ในระยะ Wi-Fi ที่ล็อกอินไว้ หรือใช้เน็ตจากซิม)
ทาง Google แจ้งว่าช่วงเวลาการปิดเครื่องขั้นต่ำที่ยังสามารถค้นหาได้อยู่ คือ 23 ชั่วโมง แม้ไม่ได้ระบุรายละเอียดก็พอจะเดาได้ว่าขึ้นอยู่กับประจุแบตที่เหลือ ยิ่งแบตเหลือเยอะ ยิ่งค้นหาได้นาน
ฟีเจอร์นี้ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่จำกัดเฉพาะ Pixel 8, Pixel 8 Pro และ Pixel 8a สามรุ่น ด้วยข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์เช่นเคย แต่ในอนาคต Google รับปากไว้ว่าจะขยายให้รุ่นอื่น ๆ ได้ใช้งานอย่างทั่วถึง
อธิบายเพิ่มเติมคือ Pixel 8, Pixel 8 Pro และ Pixel 8a มีฮาร์ดแวร์แบบพิเศษ ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับฟีเจอร์นี้ตั้งแต่แรก ในขณะที่รุ่นอื่น ๆ ในตลาดไม่มี พอปิดเครื่องแล้ว Bluetooth ที่เป็นหัวใจของเครือข่าย Find My Device จะขาดไฟเลี้ยง จึงใช้ได้แค่การค้นหาแบบเปิดเครื่องที่เป็นท่าเบสิก ซึ่ง Google ก็พยายามหาวิธีที่จะทำให้ใช้งานได้เหมือน ๆ กันทุกรุ่นอยู่ แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อม ก็ต้องรอกันไปก่อน
HDR+ ตีบวก Google AI ช่วยเลือกเฟรมอัตโนมัติ
![](https://images.droidsans.com/wp-content/uploads/2024/06/Pixel8Pro_Top_Shot_HDR_before_an.width-1000.jpg)
แอป Camera ได้รับการปรับปรุงเล็กน้อยในอัปเดตนี้ อย่างแรกคือ โหมด HDR+ รองรับการเลือกเฟรมอัตโนมัติ กดชัตเตอร์แล้วจะเป็นการถ่ายรูปรัว ๆ แล้วระบบจะคัดเอาภาพที่ดีที่สุดให้เอง โดยพิจารณาจากการที่ภาพไม่หลุดโฟกัส และตัวแบบไม่หลับตา (คล้ายฟีเจอร์ Motion Photos ของเดิม แต่เปลี่ยนจากภาพเคลื่อนไหวทั่วไป เป็นหน้าคน)
![](https://images.droidsans.com/wp-content/uploads/2024/06/pixel-feature-drop-june-2024-02.jpg)
อย่างถัดมาคือ Pixel 6 Pro, Pixel 7 Pro และ Pixel Fold สามารถเลือกเลนส์แบบแมนนวล แบบเดียวกับ Pixel 8 Pro ได้แล้ว จากที่ก่อนหน้านี้มีให้เลือกเฉพาะระยะซูม ของใหม่จะเปลี่ยนเป็นการเลือกเลนส์ UW / W / T แทน (อัลตราไวด์ / ไวด์ / เทเลโฟโต)
Lookup เช็กได้ว่าใครโทรมา
![](https://images.droidsans.com/wp-content/uploads/2024/06/pixel-feature-drop-june-2024-03.jpg)
เพิ่มปุ่ม Lookup ในแอป Phone กดไปแล้วระบบจะดึงเบอร์ไปค้นหาผ่าน Google Search ทำให้ทราบได้ว่าเป็นใคร มาจากไหน อาจช่วยคัดกรองมิจฉาชีพได้อีกทาง ควบคู่ไปกับฟีเจอร์ Filter spam calls ที่มีอยู่แล้วในแอป
การอัปเดตอื่น ๆ
![](https://images.droidsans.com/wp-content/uploads/2024/06/PixelTablet_Doorbell.width-1000.jpg)
- Pixel Tablet – เพิ่มแจ้งเตือน Nest Doorbell ขณะอยู่ในโหมดฮับ (ต่อด็อก) ให้เปิดดูภาพจากกล้องและโต้ตอบได้โดยตรง
- Pixel Watch 2 – เพิ่มฟีเจอร์ Car Crash Detection ตรวจจับอุบัติเหตุรถชนอัตโนมัติ
- Google Home – เพิ่มวิดเจ็ต Google Home Favorites คุณสมบัติก็ตรงตามชื่อเลย คือพวกอุปกรณ์ที่ติดดาวไว้ สามารถดึงมาโชว์เป็นวิดเจ็ตได้
![](https://images.droidsans.com/wp-content/uploads/2024/06/pixel-feature-drop-june-2024-05.jpg)
อัปเดตนี้อยู่บนพื้นฐาน Android 14 ดังนั้นใครที่อยู่ใน Android 15 เวอร์ชันเบตา หากอยากอัปเดต ต้องดาวน์เกรดกลับมา Android 14 ก่อน (ข้อมูลหายหมด) ส่วนใครที่อยู่ใน Android 14 อยู่แล้ว อัปเดตได้ทันทีผ่าน OTA หรือถ้า OTA ยังไม่มา แต่อดใจไม่ไหว อยากลองของใหม่ ไม่อยากรอ ก็สามารถอัปเดตผ่านการแฟลชได้ เป็นวิธีที่ไวกว่า (วิธีอัปเกรด / ดาวน์เกรด แบบละเอียด ดูที่นี่)
ที่มา : Google
Comment