รายงานประจำปีล่าสุดของ Sony (Corporate Report) ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ยอดขายของเกมในรูปแบบแผ่น (Physical Software) ในปี 2024 ที่ผ่านมา เหลือเพียงแค่ 3% จากรายได้ทั้งหมดของธุรกิจเกม

ถึงแม้ว่ารายได้ 3% ที่สามารถทำได้จากการขายเกมในรูปแบบแผ่นจะมีจำนวนถึง 953 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (จากรายได้รวม 3.17 หมื่นล้านดอลลาร์) แต่เมื่อนำไปเทียบกับรายได้หมวดเดียวกันของปี 2020 ก็ถือว่าลดลงมาเยอะพอสมควรจากตัวเลข 6% และอาจเป็นสาเหตุที่ช่วงหลังมานี้ Sony หันมาผลักดัน PlayStation 5 รุ่น Digital-Only มากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อดูสัดส่วนรายได้ทั้งหมดของ PlayStation ในปี 2024 ที่ผ่านมาก็จะเห็นภาพรวมที่ชัดมากขึ้นกว่าเดิมว่า Sony สามารถทำรายได้จากส่วนไหนได้เยอะมากที่สุด
- Add-on Content : 29%
- Hardware : 24%
- Digital Software : 20%
- Network Services : 14%
- Physical Software : 3%
- Other : 10%
ตัวเลขดังกล่าวสามารถทำให้เราเข้าใจได้ทันทีว่าทำไม Sony ถึงให้ความสำคัญกับเกมแนว Live-Service มากขึ้นกว่าเดิม เพราะรายได้จากการขายคอนเทนต์เสริมหรือ DLC นับเป็นรายได้อันดับแรกของธุรกิจเกม ซึ่งในรายงานก็ได้ทำการยกตัวอย่างความสำเร็จของเกมอย่าง Helldivers 2, Destiny 2, และ Gran Turismo

Eurogamer วิเคราะห์ว่าหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ยอดขายแผ่นเกมลดลงเรื่อยๆ คือการที่ Sony มีเกม First-party (เกมที่สร้างโดยสตูดิโอของ Sony เอง) ออกมาค่อนข้างน้อย ซึ่งปกติแล้วเกมประเภทนี้มักจะมียอดขายในรูปแบบแผ่นสูงมากเป็นพิเศษ ทำให้เกิดคำถามใหม่ขึ้นมาว่า เป็นเพราะลูกค้าไม่ต้องการซื้อแผ่นเกมแล้วหรือเป็นเพราะการมาถึงของเครื่องคอนโซลรุ่น Digital-Only
แถมก่อนหน้านี้ก็เคยมีรายงานออกมาว่า Sony กำลังวางแผนที่จะให้เครื่องคอนโซลรุ่นถัดไปอย่าง PlayStation 6 จะมีเพียงแค่รุ่น Digital-Only ขายเป็นหลักเท่านั้น ส่วนอุปกรณ์อ่านแผ่นจะวางขายแยกเป็นอุปกรณ์เสริมตั้งแต่แรก
ที่มา : Eurogamer
Comment