เปิดให้กันได้ระยะนึงแล้วสำหรับเกม Pokémon Quest ซึ่งเป็นเกมแนว RPG (Role-Playing Game) ที่มีกราฟฟิกเป็นเหลี่ยมสุดน่ารัก ลงให้กับทั้งเครื่อง Nintendo Switch, iOS, และ Android แล้วมันจะน่าเล่นซักแค่ไหนเราไปดูตัวเกมเกมอย่างละเอียดไปพร้อมๆ กัน
สำหรับระบบการต่อสู้ใน Pokémon Quest ผู้เล่นจะสามารถเลือกโปเกม่อนมาใช้ออกสำรวจพื้นที่ได้สูงสุดทีละ 3 ตัว โดยในเกมนี้จะไม่มีโปเกม่อนเทรนเนอร์มาท้าสู้กับเรา แต่จะเป็นการสู้กับโปเกม่อนป่าที่แต่ละพื้นที่ก็จะมีรูปแบบ (type) ที่ต่างกันออกไป รูปแบบต่างๆนี้จะมีผลต่อดาเมจในการโจมตีแต่ที่ได้รับ ตัวอย่างเช่นโปเกม่อนรูปแบบแมลง (bug) จะแพ้ทางโปเกม่อนรูปแบบบิน (flying) ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปเล่นแต่ละด่านก็จะมีรูปแบบโปเกม่อนที่แนะนำ ไม่จำเป็นต้องไปเปิดดูตารางบทสรุปเหมือนสมัยก่อน
ส่วนท่าโจมตีปกติจะเป็นสิ่งที่โปเกม่อนใช้เองอัตโนมัติและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางตัวจะโจมตีระยะประชิด และที่เหลือจะโจมตีระยะไกล โดยตัวเกมจะจัด formation ทีมให้อัตโนมัติตามระยะการโจมตีอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีท่าพิเศษ (moves) ที่เมื่อกดใช้แล้วจะต้องรอ cooldown จนเสร็จจึงจะใช้ใหม่ได้ และยังสามารถกดปุ่ม auto ให้โปเกม่อนเลือกใช้ท่าเองแล้วเรานั่งดูเฉยๆก็ได้เช่นกันในกรณีที่เราขี้เกียจต้องมาคอยกดเองทุกครั้งไป
ต่อไปเป็นระบบการอัพเกรดโปเกม่อน โดยเมื่อจบการสำรวจแต่ละครั้งโปเกม่อนที่เราใช้จะได้รับค่าประการณ์เพื่ออัพเลเวลเหมือนกับที่เราคุ้นเคยกัน อย่างไรก็ตามใน Pokémon Quest จะต่างออกไปตรงที่เรานำโปเกม่อนที่ไม่ได้ใช้งานมาใช้เป็นตัวฝึกอีกตัวนึงเพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์หรือเปลี่ยน moves ใหม่ๆได้ (ในเกมนี้โปเกม่อนจะไม่ได้รับท่าใหม่เมื่ออัพเลเวล หากต้องการท่าใหม่ต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น และเมื่อใช้โปเกม่อนรูปแบบเดียวกันจะเพิ่มโอกาสฝึกท่าสำเร็จมากกว่า)
ด้านบนเราได้พูดถึงการอัพค่าสถานะที่ติดตัวโปเกม่อนไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงตาของไอเท็มอัพเกรดที่สามารถให้แต่ละตัวถือเอาไว้และนำออกมาใส่ให้ตัวอื่นๆได้ แบ่งเป็น Move Stone หรือหินสำหรับอัพเกรดประสิทธิภาพของท่าต่างๆ มีคุณสมบัติทั้งช่วยเพิ่มระยะการโจมตีของท่านั้นๆ หรือว่าลดเวลา cooldown ลง เป็นต้น ส่วนหินที่จะมาช่วยเพิ่มค่า HP กับ ATK จะเป็น Sturdy Stone กับ Mighty Stone ตามลำดับ โดยที่ตัวหินที่มีตัวเลขบอกค่าพลังที่เพิ่มขึ้นเมื่อให้โปเกม่อนถือไว้ พร้อมกับสีที่บอกระดับความหายาก (เรียงจากหาง่ายสุดคือสีเทา, สีน้ำตาล, สีฟ้า, และสีทอง) ยิ่งหินมี rarity สูงเท่าไหร่ก็จะมีสเตตัสย่อยเสริมมาให้มากขึ้นเรื่อยๆ
Base Camp หรือบ้านที่เป็นที่อยู่ของโปเกม่อนเราทั้งหมด เราสามารถใช้ PM Ticket ในการขยายความจุช่องเก็บโปเกม่อนและหินต่างๆ ในการเพิ่มจำนวนโปเกม่อนผู้เล่นจะต้องทำอาหารโดยใช้วัตถุดิบที่หามาจากการออกสำรวจและการ recycle หินที่เราไม่ใช้แล้ว ซึ่งอาหารแต่ละอย่างจะดึงดูดโปเกม่อนตัวใหม่มารูปแบบต่างกันออกไปตามตารางด้านล่าง สำหรับหม้อที่ใช้ทำอาหารทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน โดยแต่ละแบบจะให้โปเกม่อนใหม่ที่มีระดับเลเวลต่างกัน ยิ่งหม้อระดับสูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งใช้จำนวนวัตถุดิบมากขึ้น
ที่มา: vg247
นอกจากนี้เรายังสามารถตกแต่ง Base Camp ของเราได้ด้วย decorations ต่างๆ ทั้งที่ได้จากการเอาชนะบอสแต่ละพื้นที่หรือซื้อได้จาก Poké Mart โดยใช้ PM Ticket ซึ่งของตกแต่งแต่ละอย่างจะให้ effect ที่แตกต่างกันออกไป ถึงแม้ว่า Pokémon Quest จะเป็นเกมที่เปิดให้ดาวน์โหลดไปเล่นกันได้ฟรีๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นเกมแนว Pay-to-Win เสมอไปเพราะเกมนี้สามารถเล่นเก็บเลเวลโปเกม่อนและตะลุยด่านต่างๆไปได้เรื่อยๆอย่างไม่ยากเย็นนัก ส่วน in-app purchase ส่วนใหญ่ที่ต้องใช้เงินจริงซื้อนั้นจะเป็นพวกของตกแต่ง Base Camp และแถม PM Ticket มาให้อีกเล็กน้อยที่ไม่จำเป็นต้องไปจ่ายตังซื้อซักเท่าไหร่
สรุปข้อดี
- ระบบเข้าใจง่ายเหมาะกับทุกเพศทุกวัย
- ใช้เวลา grinding เก็บเลเวลหาของนาน ทำให้เล่นได้นาน
- ไม่ใช่เกมแบบ Pay-to-Win
สรุปข้อเสีย
- ไม่มีโหมดออนไลน์สำหรับเล่นกับคนอื่น
- แถบ battery สามารถเล่นได้เพียงทีละ 5 ครั้ง และใช้เวลาชาร์จขีดละ 30 นาที (หากใช้ 700 PM ซื้อ Mewtwo Arch จะเพิ่ม maximum battery เป็น 6)
Comment