สำหรับใครที่รอ Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro เรือธงรุ่นที่เน้นเรื่องประสิทธิภาพและเทคโนโลยีใหม่ๆ กันอยู่ ตอนนี้ droidsans ได้สัมผัสเครื่องตัวเป็นๆ แล้วทั้งคู่ ซึ่งจุดที่น่าสนใจนอกจากชิป Kirin 980 ที่แรงขึ้น , AI ที่ทำงานได้เร็วขึ้นด้วยพลัง Dual NPU แล้ว ยังมีการอัพเกรดกล้อง Triple Camera เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย (ขอแยก Mate 20X ไปไว้อีก blog นึงแล้วกัน)

ขนาดตัวเครื่องของ Mate 20 นั้นจะใหญ่กว่า ด้วยหน้าจอ LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ และมีติ่งกล้องหน้านิดเดียวเท่านั้น ในขณะที่ Mate 20 Pro นั้นใช้เป็นหน้าจอ OLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด QHD+ และมีติ่งกล้องหน้าที่ใหญ่กว่า เพราะมีระบบการสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติ ส่วนขอบจอนั้นโค้งลงทั้ง 2 ข้างซ้ายขวาแบบ Dual Edge

วัสดุตัวเครื่องยังเป็นโลหะและกระจกเหมือนเคย ส่วนกล้องหลัง 3 ตัวพร้อมแฟลชที่ถูกออกแบบมาเป็นเหมือนลูกเต๋า 4 เหลี่ยมนั้นจริงๆ แล้วเป็นแรงบันดาลใจมาจากไฟหน้ารถของ Porsche 919 สำหรับสแกนลายนิ้วมือของ Mate 20 นั้นยังอยู่ที่ด้านหลัง ส่วนของ Mate 20 Pro นั้นใช้เป็นการสแกนนิ้วมือใต้กระจกหน้าจอแบบ Mate RS Porsche Design ส่วนเรื่องสีสันนั้นก็ยังมีการไล่โทน Gradient ด้วย เหมือนกับ P20

 

พรีวิว Huawei Mate 20

สำหรับ Mate 20 นั้นจะมาในรูปทรงปกติ ไม่ได้ใช้หน้าจอโค้ง ขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้วก็ถือว่าใหญ่เต็มไม้เต็มมือแล้ว ใครที่ไม่ชอบติ่งก็น่าจะรับได้ เพราะเจาะมาแค่ส่วนของกล้องหน้าเท่านั้น ความละเอียด Full HD+ ก็ยังถือว่าแสดงผลได้ดี ความละเอียดและสีสันโอเค แม้จะมีหน้าจอใหญ่ ส่วนขอบจอบนและล่างก็ถือว่าบางเกือบสุดเลยทีเดียว

เซนเซอร์นสแกนลายนิ้วมือนั้นอยู่ที่ด้านหลัง เหมือนกับ Mate รุ่นก่อนๆ กล้องหลัง 3 ตัวของ Mate 20 นั้นแม้จะดีไซน์เหมือนกับรุ่น Pro แต่เซนเซอร์ที่ใช้ก็มีความแตกต่างกัน โดยกล้องหลักจะมีความละเอียด 12MP แต่กล้อง Ultra Wide 16MP และกล้อง Telephoto 8MP นั้นยังเป็นตัวเดียวกับที่ใช้ในรุ่น Pro

ในส่วนของถาดซิมนั้นแงะออกมาแล้วเหมือนจะเป็นช่องนาโนซิม 2 ช่อง แต่จริงๆ แล้วเราสามารถเลือกใส่ Nano Memory Card ในอีกช่องนึงได้ ซึ่งเป็นเมมแบบใหม่ ขนาดเท่ากับนาโนซิมเลย นั่นหมายความว่าเราสามารถเพิ่มความจุให้กับ Mate 20 ได้อีก

และ Mate 20 ยังมีช่องหูฟัง 3.5 มม ติดมาให้ (Pro ไม่มี) ส่วนระบบการชาร์จแบตเตอรี่นั้นยังเป็น SuperCharge เวอร์ชั่นแรก รับไฟได้ 22.5 Watt

สเปค Huawei Mate 20

  • EMUI 9.0 (Android 9 Pie)
  • หน้าจอ 6.5 นิ้ว RGBW LCD ความละเอียด FHD+ 2240 x 1080
  • CPU : Kirin 980 ขนาด 7 นาโนเมตร Dual NPU
  • RAM : 4/6GB
  • ความจุ : 128 GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว : เลนส์ Wide 12MP RGB f/1.8 + เลนส์ซูม Tele RGB 8MP f/2.4 + เลนส์ Ultrawide 16MP RGB f/2.2
  • กล้องหน้า : 24MP
  • แบตเตอรี่ : 4000 mAh รองรับ SuperCharge  รับกระแสสูงสุด 22.5 w
  • กันน้ำกันฝุ่น IP53

 

พรีวิว Huawei Mate 20 Pro

ขนาดตัวเครื่องนั้นถ้าดูผ่านๆ Mate 20 Pro ก็ถือว่าพอๆ กัน แต่จริงๆ แล้วหน้าจอมีขนาดเล็กกว่าที่ 6.4 นิ้ว โดยเลือกใช้จอ Curved OLED ความละเอียด QHD+ ซึ่งเหมือนกับตอน Mate 9 Pro แต่เราอาจจะคุ้นตากับจอแบบนี้บน Galaxy S หลากรุ่นมากกว่า

ส่วนของ notch หรือรอยบากด้านบนนั้นจะใหญ่กว่ารุ่นปกติ เพราะมีการนำเอาระบบสแกนใบหน้าแบบ 3D เข้ามาใช้งาน รอยบากของ Mate 20 Pro นั้นใส่มาเพียบ ทั้ง Dot Projector, กล้องหน้า 24MP, Flood Illuminator, TOF และ Infrared เพื่อนำเอามาใช้ในการปลดล็อคใบหน้าแบบ 3D คล้ายๆ กับระบบของ iPhone X

ถ้าสังเกตุดีๆ ฝาหลังของ Mate 20 Pro นั้นจะดูเรียบและสวยกว่าของ Mate 20 นั่นก็เพราะว่าที่ด้านหลังนั้นไม่มีสแกนลายนิ้วมือมากวนสายตา เพราะในรุ่น Pro นั้นเลือกใช้สแกนลายนิ้วมือแบบที่ฝังเอาไว้บนหน้าจอแทน นั่นหมายความว่าเราสามารถจะปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้า หรือผ่านการสแกนนิ้วก็ได้

ส่วนกล้องหลัง 3 ตัวที่ถูกจับมาเรียงกันนั้น ยังคงใช้เซนเซอร์หลักเป็น 40MP ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Light Fusion หรือรวมแสงเหมือนกับที่ใช้ใน P20 Pro โดยมีกล้อง Ultra Wide มาเสริมในการถ่ายภาพมุมมองกว้าง และกล้อง Telephoto ที่สามารถใช้ระบบ AI ซูมได้ไม่เสียรายละเอียดที่ระยะ 5x

ระบบ AI ที่สร้างชื่อให้กับ P20 Pro นั้นก็ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นไปอีกใน Mate 20 Pro เพราะตัวชิปเซ็ท Kirin 980 นั้นมีการใส่ Dual NPU ทำให้ระบบ AI ประมวลผลได้รวดเร็วมากขึ้น การถ่ายภาพแบบ Night Mode ไม่ต้องมีขาตั้งแล้วได้ภาพสว่างๆ ที่หลายๆ คนเรียกว่าโหมดโกงขั้นเทพนั้นก็ยังมีให้ใช้งานเหมือนเดิม

แต่ส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาคือระบบ AI ในโหมดการถ่ายวิดีโอ ที่เราสามารถเลือกปรับซีนและโทนสีต่างๆ ของภาพได้ในขณะถ่าย และยังใช้ AI เข้ามาช่วยอีกด้วย ทั้งในการตัดสีของภาพออกไป หรือจะเป็นการเบลอพื้นหลังด้วย AI

กล้องหน้า 24MP ที่มีการใช้ระบบ 3D เข้ามาช่วยนั้น ก็ทำให้การถ่ายเซลฟี่ดีขึ้น เพราะสามารถกำหนดจุดต่างๆ ที่ใช้ในการปรับหรือเกลี่ยนตอนทำ Beauty Mode ได้ละเอียดมากขึ้น

สเปค Huawei Mate 20 Pro

  • EMUI 9.0 (Android 9 Pie)
  • หน้าจอ 6.4 นิ้ว Curved OLED ความละเอียด 3120 x 1440
  • CPU : Kirin 980 ขนาด 7 นาโนเมตร Dual NPU
  • RAM : 6 GB
  • ความจุ :128  GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว : เลนส์ Wide 40MP RGB f/1.8 + เลนส์ซูม Tele RGB 8MP f/2.4 + เลนส์ Ultrawide 20MP RGB f/2.2
  • กล้องหน้า : 24MP
  • แบตเตอรี่ : 4200 mAh รองรับ SuperCharge 2.0 รับกระแสสูงสุด 40w
  • มี Wireleess Reverse Charge
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68

 

ฟีเจอร์ใหม่ของ Mate 20 และ Mate 20 Pro

ในเครื่องที่มี notch screen ของ Huawei นั้น สามารถที่จะเลือกปิดได้เหมือนเดิม ทั้ง Mate 20 และ Mate 20 Pro แค่ต้องเข้าไปตั้งค่านิดหน่อย

ซึ่งหากกดปิดไปแล้ว ก็จะเป็นการถมดำในส่วนของแถบด้านบนไป แต่ยังคงการแสดงผลในส่วนของสัญญาณ แบตเตอรี่ และข้อมูลการแจ้งเตือนที่ด้านบนเหมือนเดิม

ระบบ Desktop Mode ของ Huawei ตอนนี้สามารถเปิดทำงานแบบไร้สายได้แล้ว หาทีวีหรือจอรองรับ Miracast ก็เปิดใช้งานได้เลย

ระบบชาร์จเร็ว 40 Watt การจ่ายไฟแรงขนาดนี้ก็มีการรับรองมาแล้วในเรื่องความปลอดภัย โดยทาง Huawei เคลมว่าสามารถชาร์จแบตได้มากถึง 70% ภายในเวลา 30 นาที (เฉพาะในรุ่น Pro)

กล้องหลัง 3 ตัวที่ร่วมพัฒนากับ LEICA นั้น สาเหตุที่เลือกตัดกล้อง Monochrome ขาวดำออกไป นั่นก็เพราะระบบการถ่ายภาพแบบรวมแสงและ AI ของ Huawei นั้นดีขึ้นมาก และเพียงพอที่จะไม่ต้องใช้ภาพขาวดำมาเสริมแล้ว และการเลือกใช้เซนเซอร์แบบกว้าง Ultra Wide เพื่อเพิ่มมิติในการถ่ายภาพ

 

กล้องหน้าของ Mate 20 Pro มีลูกเล่นในการใช้งานมากขึ้น นอกจากโหมดบิวตี้ที่ปรับแต่งได้ละเอียดขึ้นแล้ว ยังสามารถนำมาสร้างวัตถุแบบ 3D เพื่อนำไปแชร์ต่อได้ (คล้ายกับของ Xperia)

ส่วนฟีเจอร์ Reverse Wirless Charge นั้นคือการแปลง Mate 20 Pro ให้กลายเป็นแท่นชาร์จไร้สาย เอาไว้ชาร์จหูฟัง มือถือ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ได้ด้วย

จับมาให้ดูกันแบบหลายๆสีจากในงานเปิดตัวใครับ แถม Mate 20 RS ตัวท็อปสุดๆมาให้ด้วย

ตอนนี้คงต้องมารอลุ้นกันว่าทั้ง 2 รุ่นจะเปิดตัวในไทยเมื่อไหร่ และราคาจะถูกหรือแพงแค่ไหน ล่าสุดเห็นว่าราคาของ P20 Pro ลดไปเหลือ 19900 แล้ว นั่นหมายยความว่าราคาของตระกูล Mate 20 อาจจะเริ่มต้นที่ราวๆ 20,000 กว่าบาทขึ้นไปก็เป็นได้