สมาร์ทโฟนสมัยนี้แข่งกันจอใหญ่เสียเหลือเกิน บางตัวใหญ่ถึงขนาดจะเรียกว่าสมาร์ทโฟนก็ดูประหลาด จะแท็บเลตก็ไม่ใหญ่พอขึ้นไปถึง จนมีคำเรียกชื่อเฉพาะเหล่าสมาร์ทโฟนกลุ่มนี้ว่า แฟบเบล็ต (Phablet) โดยล่าสุดเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาในงาน IFA ทาง Lenovo ก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนที่เป็น Phablet มาสองรุ่นด้วยกันก็คือ Lenovo PHAB และ Lenovo PHAB Plus นั่นเองค่า สำหรับวันนี้น้อง Pang Poko ก็ได้รับ Lenovo PHAB Plus มาพรีวิวด้วยแหล่ะ งั้นตามไปดูกันเลยดีกว่าาา 🙂

เริ่มแรกมาดูกันที่การดีไซน์กันก่อนดีกว่าเนอะ เริ่มแรกจากการมองเห็นเลย อุทานในใจดังๆว่า โอ้โหวววว ใหญ่เวอวีว่ามาก!!! ตกใจเล็กน้อยถึงปานกลางมีมากเป็นหย่อมๆ 😛 ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีใครทำสมาร์ทโฟนที่รูปร่างใหญ่ขนาดนี้ งานประกอบเป็นแบบ unibody ทำจากโลหะ วางไว้ในห้องแอร์จับทีแทบสะดุ้งเพราะตัวเครื่องที่เย็นเจี๊ยบ ตัวเครื่องทดสอบที่ให้มาเป็นสีทองแอบดูดีมีสกุล และเจ้า PHAB Plus ตัวนี้ยังดีไซน์มาให้ใช้งานมือเดียวได้อีกด้วยนะ (ซึ่งปกติแล้วพวก Smartphone , Tablet จอใหญ่ๆนั้นจะไม่สามารถใช้งานมือเดียวได้นั่นเอง) ส่วนการพกพานั้นก็พอถือไปไหนมาไหนได้ เพราะก็ไม่ได้หนักอะไรมากมายนัก แต่การพกใส่กระเป๋ากางเกงนี่สิ อาจจะลำบากนิดนึงเวลานั่งมันอาจจะร่วงหล่นออกมาได้ ทางที่ดีควรจะใส่กระเป๋าสะพายไว้ดีกว่าเนอะ

หน้าจอนั้นมีขนาดใหญ่ถึง 6.8 นิ้ว FullHD ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ถือว่าคมชัดดีทีเดียวหล่ะ จะเห็นว่าด้านล่างนั้นเค้าทำขอบมาใหญ่มาก อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ ว่าเค้าจะทำมากว้างเพื่ออะไร =0= หรืออาจจะเอาไว้จับตอนเล่นเกมก็ได้มั้งงงง 😛

ด้านหน้าส่วนบนจะมีช่องลำโพงสำหรับสนทนา , กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

ด้านหน้าส่วนล่างจะมีปุ่มทัชสกรีน 3 ปุ่ม คือ Back , Home , Recent App

ด้านบนของตัวเครื่องก็จะมีเพียงช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.เท่านั้น

ด้านล่างของตัวเครื่องก็จะมีช่องไมโครโฟนสำหรับสนทนา และช่องเสียบสาย MicroUSB 

ด้านขวาของตัวเครื่องก็จะมีปุ่ม Power และปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง

ด้านซ้ายนั้นก็จะมีเพียงถาดใส่ซิม (Nano Sim และ Micro Sim) โดย Lenovo PHAB Plus รองรับ 2 ซิมก็จริงแต่ถ้าต้องการใส่ microSD card ก็ต้องยอมเอาช่องซิมนึงไปแลกนะ

ด้านหลังก็มีช่องลำโพงอยู่แถบด้านบนสุด , กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับไฟแฟลชคู่ LED ทูโทน

อย่างที่บอกไปว่าเจ้า Lenovo PHAB Plus นั้นดีไซน์มาเป็นแบบ Unibody นั่นก็คือมันจะไม่สามารถถอดฝาหลังออกมาได้นั่นเองจ้า

 

Lenovo PHAB Plus ก็มาพร้อมกับระบบเสียง Dolby Atmos Surround ที่ทำให้เรานั้นสัมผัสถึงรูปแบบของเสียงได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นเสียงแหลม , เสียงทุ้ม หรือพวกเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ เราจะได้ยินเสียงที่มันไม่ได้ถูกบิดเบือนหรือปรุงแต่งมากจนผิดเพี้ยนไปนั่นเอง แถมระบบนี้ยังใช้ได้กับหลายแอปไม่ว่าจะเป็น ดูหนัง , ฟังเพลง หรือแม้กระทั่งเล่นเกมก็ตาม ที่สำคัญเราสามารถปรับแต่งเสียงเองได้อีกด้วยนะ 🙂

 

นอกจากนั้นก็ยังมีฟีเจอร์ Single Hand ที่ทำให้เราสามารถใช้งานมือเดียวได้อีกด้วย โดยที่ฟีเจอร์นี้เมื่อเราลากนิ้วเป็นรูปตัว C บนแอปที่เราเปิดอยู่ แอปนั้นก็จะลดขนาดหน้าจอให้เล็กลงมา เท่ากับหน้าจอสมาร์ทโฟนปกติเลยหล่ะ 

มาพูดถึงเรื่องกล้องถ่ายรูปกันบ้างดีกว่าเนอะ

กล้องหลังมาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับไฟแฟลชคู่ทูโทนด้วย และนี่คือตัวอย่างภาพถ่ายจาก PHAB Plus ในที่ที่มีแสงปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก PHAB Plus ในที่ที่มีแสงน้อย จะสังเกตได้ว่าภาพจะเห็นเม็ดพิกเซลขึ้นเพียบ ตัวซอฟท์แวร์จะไม่มีการเกลี่ยให้ ข้อดีคือวุ้นจะขึ้นไม่เยอะ แต่ว่าคนที่ไม่ชอบเม็ดพิกเซลอาจจะดูรำคาญตาไปหน่อย

ส่วนกล้องหน้ามาพร้อมกับความละเอียด 5 ล้านพิกเซล แถมมีโหมดบิวตี้ให้อีกด้วย และนี่คือตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า

สรุป
จากที่ได้ทดลองใช้งาน Lenovo PHAB Plus ได้อยู่พักนึงก็ให้ความรู้สึกว่ามันมองเห็นอะไรได้ชัดดีนะ ก็แหงแหล่ะหน้าจอใหญ่ขนาดนี้ 😛 ดีไซน์ก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรเลย ถือไปไหนมาไหนไม่อายใครแน่นอน แต่เค้าอาจจะมองแรงตอนหยิบขึ้นมาคุยโทรศัพท์ เพราะความใหญ่ของมันเนี่ยแหละ ตัวเครื่องก็ไม่ได้หนักหนาอะไร ยังสามารถถือไปถือมาหรือจะถือเล่นเกมก็ไม่รู้สึกเมื่อย ส่วนการ ใช้งานนั้น UI นั้นลื่นไหนดี จะมีแอบกระตุกบ้างเล็กน้อยตอนเปิดแอปและสลับไปใช้งานอีกแอปนึง ไว้ถ้ามีโอกาสลองยาวๆ จะทดสอบเรื่องกล้องและอื่นๆมาให้ได้ทราบกันต่อไปค่ะ

Lenovo PHAB Plus  ก็มี 3 สีให้เลือกคือ Gunmetal Grey, Titanium Silver และ Champagne Gold เริ่มวางขายแล้วตั้งแต่วันนี้ (24 กย. 58) ส่วนราคานั้นอยู่ที่ 11,990 บาท แต่ถ้าใครที่อยากจะได้โปรโมชั่นพิเศษๆก็รอติตามได้ในงาน TME ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 1-4 ตุลาคมนี้ค่ะ

สเปคของ Lenovo PHAB Plus

– หน้าจอ 6.8นิ้ว ความละเอียดระดับ FullHD (1920 x 1080 พิกเซล)
– ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop ปรับแต่งด้วย Vibe UI
– CPU Qualcomm Snapdragon615(Quad-core 1.5GHz Cortex-A53 & Quad-core 1.0GHz Cortex-A53) 
– GPU Adreno405
– RAM 2GB 
– หน่วยความจำภายใน 32GB (เพิ่มเมมได้สูงสุด 64GB )
– กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล
– กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
– ความจุแบตเตอรี่ 3,500mAh
– รองรับ 2 ซิม (แชร์ช่องซิมกับ microSD)
– รองรับ 3G/4G LTE ทุกเครือข่าย