เชื่อว่าหลายคนน่าจะจองกันไปแล้วสำหรับ Sony Xperia XZ มือถือตระกูล X ที่ Sony ยกให้เป็นเรือธงของปีนี้ เรียกว่ายกเครื่องใหม่หมดทั้งดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Loop Surface โค้งสวยงามเหมือนเป็นชิ้นเดียวกัน รวมถึงกล้องถ่ายภาพที่มี Triple image sensing technology และระบบกันสั่น Steadyshot 5 แกนในระบบ EIS แต่หลายคนอาจจะยังรอรีวิวกันอยู่ (ทีมงานกำลังปั่นเต็มที่) ตอนนี้เลยขอเอาพรีวิว Xperia XZ มาให้ชมกันก่อนเผื่อใครรอไม่ไหว

เครื่องทดสอบนี้เราได้มาไม่ครบยกกล่องแบบชุดขายจริง เพราะมาแค่ Xperia XZ และสายชาร์จเท่านั้น แต่เบื้องต้นที่สอบถามคือเครื่องศูนย์ไทยจะมาพร้อมหม้อแปลงปกติ 5V 2A ถึงแม้ตัวเครื่อง XZ จะรองรับ Qualcomm Quick Charge 3.0 ก็ตาม (เห็นว่ามีขายแยก 900 บาท)

ทวนสเปคของ Sony Xperia XZ กันอีกที กับราคาขาย 23,990 บาทในบ้านเรา โดยจะเข้ามาวางจำหน่ายครบทุกสีครับ

  • Android 6.0 Marshmallow
  • จอ IPS LCD, 5.2 นิ้ว Full-HD 1080 x 1920 พิกเซล, TRILUMINOS
  • CPU Snapdragon 820
  • GPU Adreno 530
  • RAM 3GB, ROM 64GB, รองรับ MicroSD สูงสุด 256GB
  • กล้องหลังความละเอียด 23 ล้าน, 1/2.3″, f/2.0, PDAF, RGBC-IR, Laser AF, วิดีโอ 4K, 5-axis stabilization (1080p)
  • กล้องหน้า 13 ล้าน ขนาดเซนเซอร์ 1/3.06″ เลนส์มุมกว้าง 90 องศา
  • แบตเตอรี่ขนาด 2,900 mAh, เทคโนโลยี Qnovo ยึดอายุการใช้งานแบตเตอรี่, Battery Care 
  • รองรับการใช้งาน 2 SIM, ช่องแบบ Hybrid
  • กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP65/IP68
  • ใช้พอร์ท USB Type-C
  • ขนาด 146 x 72 x 8.1 มิลลิเมตร
  • หนัก 161 กรัม
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิม (4G/3G/2G + 3G/2G) เป็น Hybrid slot กับ micro SD
  • มีทั้งหมด 3 สีคือ Mineral Black, Platinum และใหม่ Forest Blue
  • ราคาเปิดตัว 23,990 บาท

ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Loop surface นั้นช่วยให้การจับถือแล้วเข้ามือ กระชับ เหมาะกับการใช้งานกว่ารุ่นก่อนๆ ที่แอบจะมีขอบๆ หรือเหลี่ยมๆ ให้รู้สึกอยู่บ้าง แต่ Xperia XZ นั้นถือสบายกว่า เรียกว่าอารมณ์เดียวกับรุ่นน้อง X Compact

ตัวเครื่องทั้งด้านบนและด้านล่างมีการตัดเรียบทั้งคู่ สามารถเอามาตั้งตรงๆ ได้เหมือน T series (ย้อนวัยกันอีกแล้ว) แถมไม่ล้มด้วย น่าเสียดายลองโทรเข้าให้มันสั่นแล้วมันไม่เดิน แหะๆ โดยด้านบนนั้นเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม และไมค์ตัดเสียงรบกวน

ด้านซ้ายมีช่องถาดซิมอยู่ครับ โดย Xperia XZ รุ่นที่วางจำหน่ายในบ้านเรานั้นเป็นรุ่น dual sim ก็จะมาพร้อมหน่วยความจำภายใน 64GB ครับ ส่วนถาดซิมนั้นเป็นแบบ Hybrid slot โดยมี slot 1 เป็น nano SIM ส่วน slot 2 เป็น nano SIM / micro SD

การรองรับ 4G/3G แบบ dual SIM นั้นทำได้เหมือน Xperia X Performance ครับ โดยซิมใดซิมหนึ่งจะเลือกเกาะ 4G/3G/2G ก็ได้ ส่วนซิมที่เหลือจะเกาะ 3G/2G

ส่วนทางด้านขวาไล่จากตรงกลางเครื่องลงไปเริ่มจากปุ่ม Power ที่ฝังสแกนลายนิ้วมือมาด้วย ถัดลงไปเป็นปุ่มปรับเสียงซึ่งน่าจะเป็นค่ายเดียวที่เอาตำแหน่งปุ่มปรับเสียงไว้ค่อนด้านล่างตัวเครื่อง และเกือบสุดก็จะเป็นปุ่มชัตเตอร์เป็นหนึ่งในไม่กี่ยี่ห้อ ที่ยังมีปุ่มนี้ให้

ส่วนสาเหตุที่ทาง Sony จัดตำแหน่งปุ่มปรับเสียงของ Xperia XZ ไว้ด้านล่างเพราะต้องการให้เอามาใช้คู่กับปุ่มชัตเตอร์เพื่อทำหน้าที่ในการซูมเข้าออกนั่นเอง ซึ่งถ้ามองในมุมนี้ก็โอเค แต่เวลาถือใช้งานเป็นสมาร์ทโฟนมันปรับเสียงยากมาก (โดยเฉพาะถ้าถือด้วยมือขวา)

ส่วนด้านล่างนั้นเป็นช่องไมโครโฟนสนทนา และ USB Type C ที่รองรับระบบ Quick Charge 3.0 ของ Qualcomm สังเกตุดีๆ ว่าไมโครโฟนนั้นอยู่ด้านล่างตัวเครื่องนะครับ ส่วนช่องที่อยู่ด้านล่างจอนั้นเป็นลำโพงคู่สเตอริโอ

ซึ่งเป็นลำโพงคู่หน้าที่จับคู่กับด้านบนตัวเครื่องอีกที โดยเสียงนั้นดังกว่า Xperia X Compact มีมิติใช้ได้ แต่เรื่องความดังก็ยังไปเทียบกับรุ่นอื่นๆ ที่เป็นลำโพงคู่ไม่ค่อยจะไหว

ส่วนโลหะชื่อแปลกๆ ALKALEIDO นั้นดูเหมือนจะอยู่บริเวณฝาหลัง Xperia XZ เท่านั้น ส่วนสีของตัวเครื่องนั้นจะมีการปรับเฉดเล่นเงาตามมุมที่ตกกระทบของแสง ซึ่งสีฟ้า Forest Blue นั้นปกติจะเป็นสีน้ำเงินเข้ม แต่ถ้าโดนแสงก็จะกลายเป็นสีฟ้าอ่อน ลองดูจากภาพได้ครับ  

หน่วยความจำในตัวเครื่องนั้นให้มา 64GB ก็จริง แต่หักลบ system ไปแล้วเหลือแค่ 50GB เท่านั้น แอบสงสัยว่าทำไม ROM ของ Sony มันใหญ่จัง

ระบบเสียง DSEE HX นั้นช่วยในการอัพสเกลไฟล์เพลงให้ขยับขึ้นมาได้ใกล้กับ Hi-Res ที่ 96KHz

มาถึงกล้องของ Xperia XZ กันบ้าง ตัวเซนเซอร์นั้นเป็น IMX300 แบบเดียวกับที่ใช้ใน Xperia Z5 เป็นต้นมา แต่ถูกอัพเกรดด้วยเซนเซอร์ที่เสริมเข้ามาอย่าง Laser Auto Focus และ RGBC Infrared Sensor

จากที่ทดลองเล่นดูคร่าวๆ ก็พบว่ามันจับโฟก้สได้เร็วขึ้น การมี Laser มาเสริมน้้นช่วยในเรื่องของการวัดระยะโฟกัสใกล้ๆ หรือมาโครได้เร็วขึ้น ส่วน RGBC IR ก็ช่วยวัดค่า White Balance ได้แม่นขึ้นด้วย

โหมดกล้องหลักๆ ก็ยังมากันครบทั้ง AR Effect, Sound Photo, Style Portrait เซลฟี่หลากหลายรูปแบบ, Background defocus เบลอหลัง, Creative Effect, Timeshift ถ่ายสโลโมชั่น และยังโหลดเพิ่มได้อีก

แต่ที่ชอบเลยของ Xperia XZ คือเราสามารถเลือกเปิดสไลเดอร์ปรับ white balance และ exposure value ได้นี่แหละ สะดวกมากๆ (มีมาตั้งแต่ Z5) อ้อ แล้วก็มี Manual Mode ด้วย

รวมๆ ที่ได้ลองเล่น Xperia XZ มานั้นค่อนข้างประทับใจเลย ทั้งขนาดตัวเครื่อง การใช้งานลื่นไหลติดนิ้วดีงาม UI ไม่มีอาการหน่วงให้เห็น จังหวะถ่ายรูปและเซฟภาพนั้นอาจจะเห็นว่ามีหมุนๆ เหมือนเดิมแต่เอาจริงๆ มันถ่ายต่อเนื่องได้นะ ขอตัดจบพรีวิว Xperia XZ แต่เพียงเท่านี้ 

ปิดท้ายด้วยภาพบางส่วนจาก Xperia XZ ที่ไปลองถ่ายมาเล็กน้อย ส่วนชุดใหญ่เต็มๆ รอติดตาม Full Review ได้ในสัปดาห์หน้าครับ