Wiko ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน 2 รุ่นใหม่ที่มาพร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือในราคาสุดประหยัด นั่นก็คือ Wiko U Feel ในราคา 5990 บาท และ Wiko U Feel Lite ราคา 4590 บาท โดยทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับ Android 6.0 Marhsmallow อีกด้วย ทีมงานได้เครื่องมาลองแล้วเลยขอจัดพรีวิวแบบด่วนๆ ให้รู้จักตัวเครื่องทั้ง 2 รุ่นกันซะก่อน

เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะคุ้นกับชื่อของ Wiko กันบ้างแล้ว เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีรุ่นเด่นๆ ราคาไม่แพงออกมาเยอะแยะ ตั้งแต่ RIDGE, Highway Star, Selfie, Fever และล่าสุดกับ Wiko U Feel งานนี้ได้มาลองพร้อมกันสองเครื่องก็จะขอพรีวิวแนะนำไปพร้อมๆ กับ U Feel Lite เลยก็แล้วกัน

สเปค Wiko U Feel

  • หน้าจอ IPS HD 5 นิ้ว
  • CPU MT 6735P quad-core 1.3GHz 64-Bit
  • Android 6.0 Marshmallow
  • ROM 32 GB | RAM 3 GB
  • กล้องหลัง 13 MP,Auto Focus
  • กล้องหน้า 5 MP, Selfie Flash 
  • รองรับ 2 SIM
  • ระบบสแกนลายนิ้วมือ
  • Wiko UI
  • สี Space Grey, Silver
  • ราคา 5,990 บาท 

อุปกรณ์ภายในกล่องของ Wiko U Feel ก็จัดมาครบในกล่อง เครื่อง, เคส, ฟิล์ม, สาย Micro USB, หม้อแปลง, ชุดหูฟัง smalltalk แบบ in-ear 

เคสของ Wiko U Feel เป็นเคสซิลิโคนนุ่ม ผิวใสทั้งชิ้น  

ตำแหน่งและขนาดเจาะมาพอดี แน่นอนก็เพราะ Wiko สั่งผลิดเอง ถ้าไม่ตรงก็แย่ละ การมีเคสซิลิโคนก็ช่วยปกป้องความเสียหายจากการตกหล่น และยังช่วยให้จับได้หนืดมือมากขึ้น

มาแกะกล่อง Wiko U Feel Lite กันต่อเลยละกัน เช็ตของไปพร้อมๆ กัน

สเปค Wiko U Feel Lite

  • หน้าจอ IPS HD 5 นิ้ว
  • Android 6.0 Marshmallow
  • ROM 16 GB | RAM 2 GB
  • กล้องหลัง 8 MP,Auto Focus
  • กล้องหน้า 5 MP, Selfie Flash 
  • รองรับ 2 SIM
  • ระบบสแกนลายนิ้วมือ
  • Wiko UI
  • สี Space Grey, Gold
  • ราคา 4,590 บาท 

อุปกรณ์ในกล่อง U Feel Lite ก็ครบชุดเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ตัวเคสซิลิโคนนิดนืง 

เพราะตัวเคสของ U Feel Lite มีด้านหลังเป็นผิวขุ่น แต่เนื้อยังเป็นซิลิโคนอ่อนเหมือนกัน 

ความแตกต่างของ Wiko U Feel และ Wiko U Feel Lite นั้นมีอะไรบ้าง ขอไล่เรียงเป็นข้อๆ ตามนี้ครับ

  • Wiko U Feel / Wiko U Feel Lite
  • ราคา 5,990 บาท / ราคา 4,590 บาท
  • ROM 32GB, RAM 3GB / ROM 16GB RAM 2GB
  • กล้องหลัง 13MP / กล้องหลัง 8MP
  • แกนกลางเครื่องเป็นโลหะ / ฝาหลังเป็นโลหะ 

ขนาดเครื่องของ U Feel และ U Feel Lite นั้นบอกว่าเท่ากันเลยก็ว่าได้ วางเทียบแล้วพอๆ กันแทบจะทุกมิติ มีหนาๆ บางๆ ต่างกันแค่นิดหน่อยในแต่ะด้านเท่านั้นเอง 

แต่ความรู้สึกตอนหยิบขึ้นมาและลองจับนี่ ฝั่งของ U Feel ดูแน่นหนาและหนักกว่านิดหน่อย อาจจะเพราะแกนกลางเครื่องและขอบโดยรอบนั้นเป็นโลหะก็ได้ ส่วนของ U Feel Lite เหมือนจะเบากว่าหน่อยๆ

ปุ่มสแกนนิ้วของทั้งสองรุ่นนั้นใส่มาเป็นรูปวงรีที่ตำแหน่งของปุ่มโฮม โดยตัวปุ่มจะจมลงไปในตัวเครือ่งนิดหน่อย 

ช่อง Mico USB นั้นอยู่ด้านล่างตัวเครื่อทั้งคู่ 

ตำแหน่งของปุ่มพาวเวอร์และปรับเสียงอยู่ทางด้านขวา 

ช่องหูฟัง 3.5 มม อยู่ทีด้านบน เรียกว่าตำแหน่งของปุ่มและช่องต่างๆ ของ Wiko U Feel และ U Feel Lite แทยจะตรงกันเป๊ะๆ

กล้องหลังของ U Feel นั้นมีความละเอียด 13MP มากกว่า U Feel Lite ที่ 8MP โดยท้้งตู้มาพร้อม Auto focus และ LED แฟลชเหมือนกัน  

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าแกนกลางของ U Feel นั้นเป็นโลหะ ส่วนฝาหลังเลยจะแกะออกมาได้ง่ายหน่อย และตัวเครื่องเวลาจับก็ให้ความรู้สึกการประกอบที่แน่นกว่า ส่วนของ U Feel Lite นั้นชิ้นฝาหลังเป็นโลหะ เวลาแกะก็ต้องเลาะออกทั้งฝาหลังที่ครอบมาถึงด้านข้างตัวเครื่องเลย 

นี่คือสภาพของฝาหลังทั้งสองรุ่น หลังจากแกะออกมาแล้ว 

เรียงจากซ้ายไปขวาคือช่องใส่ Micro SD และช่องใส่ซืมอีก 2 ช่อง

UI ของ Wiko นั้นเน้นความลื่นไหล ไม่ค่อยยัดอะไรมาเยอะแยะนัก เรียกได้ว่าเป็นอีกแบรนด์ที่เน้นความเบาของตัว ROM เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่เร็วและลื่น 

ทั้งสองรุ่นมาพร้อม Android 6.0 Marshmallow 

ฟีเจอร์เสริมของ U Feel และ U Feel Lite ก็จะมีพวก gesture ต่างๆ เช่นเคาะแล้วให้ติดหรือดับ 

แล้วก็พวกลากนิ้วเป็นเครื่องหมายต่างๆ เพื่อเปิดแอพ  

กล้องทั้ง 2 รุ่นความละเอียดไม่เท่ากันก็จริง แต่ก็สามารถอัดวิดีโอได้ที่ความละเอียด Full HD เท่ากัน 

โหมดกล่องที่ให้มาก็มีค่อนข้างครบ ไม่ว่าจะเป็น HDR, Face Beauty, Night, Sports, Panorama และโหมด Pro 

แต่ในโหมด Pro อาจจะปรับไม่ได้หมดทุกอย่าง คือมีแค่พวก White Balacne, ISO, EV ความคมชัด แต่จะไม่มีเรื่องของ Speed shutter ให้ปรับ

ส่วนโหมด Face Beauty ก็เลือกปรับแบบทั่วไปที่ตั้งค่ามาให้แล้ว หรือจะเลือกปรับแบบละเอียดก็ทำได้ มีหน้าเนียน ตาโต หน้าเรียว แล้วก็ปรับระดับตามใจชอบ 

ทั้ง Wiko U Feel และ Wiko U Feel Lite นั้นมาพร้อม LED Flash สำหรับกล้องหน้า ไม่ว่าจะซื้อรุ่นไหนก็ถ่าย Selfie ในที่มืดได้ 

ขอปิดท้ายการพรีวิวด้วยตัวอย่างภาพถ่ายจากทั้ง 2 รุ่นครับ ส่วนรีวิวจะตามมาแน่นอนเร็วๆ นี้ 

= ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Wiko U Feel=

 
= ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Wiko U Feel Lite =