Proton บริษัทเทคโนโลยีจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่หลายคนอาจรู้จักในฐานะผู้พัฒนาแอป Proton Mail ได้เสนอตัวเป็นตัวแทนของนักพัฒนาทั่วโลก ทำการยื่นฟ้องแอปเปิลแบบกลุ่มต่อศาลแขวงสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ในสารพัดข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการผูกขาด App Store
รายละเอียดคำฟ้องหลายอย่าง มีส่วนคล้ายกับบรรดาคดีผูกขาด App Store ที่แอปเปิลถูกฟ้องหรือถูกหน่วยงานกำกับดูแลตรวจสอบก่อนหน้านี้ เช่น คดีในสหราชอาณาจักร บราซิล สเปน อินเดีย ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป รวมถึงกรณี Epic Games ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว ซึ่งเกือบทั้งหมดยังไม่รู้ผลหรืออยู่ในชั้นอุทธรณ์
Proton บอกว่าการเก็บส่วนแบ่ง 30% ของแอปเปิลก่อให้เกิดผลเสียหลายอย่าง ทำให้แอปหรือบริการแพงขึ้นโดยไม่จำเป็น แถมมีกฎยิบย่อยหลายอย่าง บังคับให้ใช้ระบบจ่ายเงินของค่าย แทรกลิงก์ไประบบชำระเงินภายนอกก็ทำไม่ได้
พร้อมกันนี้ Proton ยังตั้งคำถามว่าตัวเลข 30% สมเหตุสมผลกับค่า ‘พัฒนาและบำรุงรักษาแพลตฟอร์ม’ ตามที่แอปเปิลอ้างจริงหรือไม่ เพราะในแต่ละปีแอปเปิลฟันกำไรไปมหาศาล ตัวอย่างคือ คดี Epic Games ที่มีการระบุในชั้นศาลว่าแอปเปิลได้กำไรจากส่วนแบ่งไปเหนาะ ๆ ถึง 78%
Proton วิจารณ์อีกว่าวิธีการของแอปเปิลเป็นการสนับสนุนให้แอปละเมิดความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งานในทางอ้อม โดยชี้ให้เห็นว่าในเมื่อแอปเปิลตั้งค่าธรรมเนียมแพง หลายแอปจึงเลือกที่จะให้ใช้งานฟรี แลกกับการเก็บข้อมูลผู้ใช้งาน เท่ากับว่าแอปนั้น ๆ ไม่ต้องเสียส่วนแบ่งอะไรเลย ทั้งยังได้ข้อมูลไปไว้ในมือฟรี ๆ ส่วนแอปที่เน้นความเป็นส่วนตัวแต่มีการคิดค่าบริการ ก็จะเสียประโยชน์จากแนวทางนี้

จุดประสงค์หลักของการฟ้องร้องคือ Proton ต้องการให้แอปเปิลปรับเปลี่ยนแนวทางของ App Store เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม คล้ายกับที่แอปเปิลเริ่มทำไปบ้างแล้วในยุโรป รวม 18 ข้อ
ตัวอย่างข้อเรียกร้องบางส่วนได้แก่ การเปิดระบบชำระเงินภายนอก การอนุญาตให้ติดตั้งแอปสโตร์ภายนอก การเพิ่มหน้าจอตัวเลือกแอปเริ่มต้นขณะตั้งค่าเครื่อง และเปิดเผยค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ App Store ตามจริงต่อศาล เพื่อหาวิธีคำนวณส่วนแบ่งที่จะเรียกเก็บจากนักพัฒนาให้สมเหตุสมผลต่อไป เป็นต้น
แม้จะมีการเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินกับแอปเปิลเพิ่มเติม แต่ Proton บอกว่าเป็นการเรียกร้องเพื่อชดเชยให้กับนักพัฒนา (ที่เข้าร่วมฟ้องร้อง) ในส่วนของ Proton จะนำเงินไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศลเพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนแทน
โดยทั่วไปคดีลักษณะนี้มักกินเวลานานเป็นปี หรือหลายปี คงใช้เวลาอีกนานกว่าจะได้บทสรุป แต่ศาลอาจตัดสินง่ายขึ้น เนื่องจากมีคดีตัวอย่างอยู่หลายคดีแล้ว
Comment