ปล่อยให้รอมา 1 วันเต็มๆ ในที่สุด Qualcomm ก็ได้เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดของชิปเซ็ทเรือธงรุ่นล่าสุด Snapdragon 855 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีการอัพเกรดประสิทธิภาพขึ้นในทุกๆ ด้าน เรียกได้ว่ามีชิปรุ่นนี้ตัวเดียวมือถือก็พร้อมจะเทพในทันที ว่าแต่มันมีอะไรเก่งขึ้นบ้าง ลองมาดูกันดีกว่า เดี๋ยวจะหาว่าโม้
การเชื่อมต่อระดับ Gigabit
นอกจาก X50 โมเดมชิป 5G ที่เปิดตัวไปเมื่อวาน วันนีัทาง Qulacomm ก็ได้เปิดเผยรายละเอียดของโมเดมภายใน Snapdragon 855 ที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่อแบบ Multi Gigabit ไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหนๆ
หลายคนอาจจะสงสัย ทำไมโมเดม 5G ถึงแยกไปไว้ข้างนอก นั่นก็เพราะว่าไม่ใช่ทุกคนจะอยากใช้ 5G และไม่ใช่ทุกประเทศจะมี 5G ใช้ การเอาโมเดมมาใส่รวมไว้ด้วยก็เป็นการทำให้ชิปแพงขึ้นเฉยๆ เลยต้องแยกกัน
Snapdragon X24 คือโมเดมตัวล่าสุดที่ใช้ใน Snapdragon 855 รองรับการเชื่อมต่อ LTE ระดับ 2 Gbps ผ่านการรวมคลื่น 7CA
และหากมีการใส้ X50 ร่วมด้วย ก็ต้องมีการเพิ่มเสาอากาศ 5G เข้าไปอีกเพียบ เรียกว่าตั้งแต่ 5 เสา – 16 เสากันเลย
นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับ WiFi-6 (802.11ax) และรองรับ WiFi 60 GHz ที่สามารถทำความเร็วได้ระดับ 10Gbps
ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น
Snapdragon 855 ผลิตที่ 7 นาโนเมตร และมีการใช้ Kyro ตัวใหม่ ทำให้สามารถรีดพลังของ CPU ออกมาได้มากกว่าเดิม 45% และพลังของ GPU เพิ่มขึ้นอีก 20%
Kyro 485 เป็นการเอา Prime Core มาใช้เป็นครั้งแรกซึ่งเป็น Core ที่แรงสุดๆ ทำงานร่วมกับ 3 Core ประสิทธิภาพ (Cortex-A76) ส่วนอีก 4 Core ประหยัดพลังงาน (Cortex-A53) จะทำงานร่วมกัน และทุก core จะมี cached และ shared-cached เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แรงขึ้น
จากการทดสอบในเรื่องของประสิทธิภาพ Snapdragon 855 ในการใช้งานต่อเนื่องยังแรงดีไม่มีตก แต่อีก 2 ค่ายที่เป็นชิป 7 นาโนเมตรนั้น ตัวนึงแรง แต่ผ่านไป 10 นาทีประสิทธิภาพก็ลดลง ส่วนอีกตัวนึงยังแรงสู้ไม่ได้นะจ๊ะ
ฝั่งของ GPU Adreno 640 เองก็แรงขึ้น แถมยังจับเอา Vulkan 1.1 มายัดเอาไว้ใน GPU มันซะเลย ทำให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลกราฟิคดีขึ้น และใช้พลังงานจาก CPU น้อยลง
มาเทียบเรื่องของการเล่นเกมแล้ว Snapdragon 855 ก็ยังโชว์เรื่องความสเถียรและความนิ่งได้มากกว่าชิป 7 นาโนเมตรจากอีก 2 ค่าย ซึ่งค่ายนึงแรงกว่า แต่เปิดไปเปิดมากราฟเริ่มแกว่ง ส่วนของอีกค่ายประสิทธิภาพยังไม่ไหว เพิ่งจะทัดเทียมกับ Snapdragon 845 เท่านั้นเอง
นอกจากนั้นยังมีการนำเอา Tensor Accelerator มาใช้งานในชิป Hexagon 690 ในการทำงานด้านของ AI ให้สามารถประมวลผลคำสั่งได้เร็วขึ้น
พลัง AI รุ่นที่ 4
โดยพลังของ AI ใน Snapdragon 855 นั้นไม่ได้มาจากชิปเพียงส่วนเดียว แต่เป็นการเอาชิปทั้งหมดใน CPU มาช่วยกันประมวลผล
ทำให้ 4th Gen AI Engine สามารถทำงานด้าน AI ได้เร็วกว่าเดิมถึง 3 เท่า และเร็วกว่า AI ค่ายอื่นๆ 2 เท่า
เสริมพลังกล้องด้วย Snapdragon 855
หลายคนอาจไม่รู้ว่าในชิปเซ็ตนั้นมีส่วนช่วยในการประมวลผลภาพอยู่ด้วย ไม่ใช่แค่กล้องเพียงอย่างเดียว ซึ่งของ Qualcomm นั้นมันคือ Spectra ISP โดยในรุ่นล่าสุด Spectra 360 ก็มีความสามารถเพิ่มเข้ามาหลายอย่าง ทั้งการถ่ายภาพ Night Mode, ถ่ายวิดีโอ 4K HDR + Bokeh Effect, การซูม และการควบคุมกล้องหลายตัว
จากเดิม ISP อยากจะประมวลผลภาพ ก็ต้องไปยืมพลังจาก Hexagon DSP, CPU, GPU ไม่ว่าจะเป็นการทำเอฟเฟคต่างๆ สีสันการเบลอ แต่ใน Spectra 360 นั้นมีการเพิ่มตัวประมวลผลเข้าไปภายใน ทำให้มันสามารถทำงานได้เร็วขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง และไม่ต้องไปพึ่งพาชิปตัวอื่นๆ มากมายเหมือนก่อน
ทำให้ Snapdragon 855 สามารถจะถ่ายวิดีโอ 4K HDR ได้สบายๆ แถมยังใช้ AI ช่วยเบลอหลังไปพร้อมกันได้ด้วย พูดง่ายๆ ว่ามันสามารถจับความลึกของภาพได้ที่ 60fps เลยทีเดียว
ส่วนใครที่กลัวว่าจะถ่ายวิดีโอ 4K ได้ไม่นาน อันนี้บอกเลยว่าทาง Qualcomm เองทดสอบแล้วชิปรุ่นใหม่นี้ถ่ายวิดีโอได้ดีขึ้น แถมยังประหยัดแบตในการถ่ายกว่าตอน Snapdrgon 800 ถึง 3 เท่า
อีกการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจมากๆ คือการนำเอาฟอร์แมต HEIF มาใช้แทน JPG นั่นทำให้ภาพสามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าเดิม โดย HEIF นั้นเป็น file container ที่สามารถเก็บข้อมูล HDR, Depth, RAW, Alpha Mask, Burst Photo และ Animated Video ได้ในไฟล์เดียวกัน ทำให้เราสามารถมาแต่งหรือเปลี่ยนแปลงทีหลังได้
สายเกมว่าไง
ปีที่ผ่านมามีสมาร์ทโฟนสายเกมมิ่งผุดขึ้นมาเยอะแยะมากมาย ล้วนแล้วแต่ใช้ชิปของ Qualcomm ทำให้ปีนี้มีการโฟกัสไปในเรื่องของการพัฒนาด้านเกมมากขึ้น
นอกจาก Adreno 640 จะสามารถประมวลผลกราฟิคได้ดีขึ้นแล้ว ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ที่คอเกมน่าจะชอบกันเข้าไปในตัวชิปเซ็ตด้วย
อย่างแรกคือการเอา Vulkan 1.1 เข้าไปฝังในตัวชิปเพื่อช่วยให้ประมวลผลด้านกราฟิคได้เร็วขึ้น เพิ่มความสามารถในการเรนเดอร์ การรองรับภาพในเกมระดับ True HDR มีตัวช่วยให้โหลดเกมให้เร็วขึ้น เฟรมเรตไม่ดร็อป ภาพไม่วาร์ป และตัวป้องกันการโกงอีกด้วย และยังมี PBR ที่ช่วยให้ตัวละครเคลื่อนไหวเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ภาพและเสียงก็ไม่ลืม
การแสดงผลก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในสมาร์ทโฟนสมัยนี้ Snapdragon 855 ก็จะยกเอาความพิเศษระดับโรงหนังมาใส่ในจอมือถือด้วย HDR10+ ที่แสดงสีได้มากกว่า HDR10 เดิมๆ รองรับ Dolby Vision และเพิ่มการเรนเดอร์ภาพ 120fps
ส่วนพลังเสียงเองก็มีชิป Qualcomm Aqstic ในการถิดรหัสไฟล์เสียงต่างๆ และส่งผ่านไปยัง Smart Speaker Amp ให้เสียงที่มีรายละเอียดและชัดเจน ส่วนการฟังแบบไร้สายก็ได้รับการปรับปรุง ลดความหน่วงลงด้วย aptX Adaptive เสียงกับภาพมาตรงกันแน่นอน แถมยังมี Qualcomm TrueWireless Plus ที่ออกมารองรับหูฟังไร้สาย True Wireless แบบใหม่ ที่กระจายสัญญาณไปพร้อมกันทั้ง 2 หูอีกด้วย
นี่เป็นการฟังการเปิดตัวชิปเซ็ตที่ยาวนานที่สุดเท่าที่เคยไปมา กินเวลาไปกว่า 2 ชั่วโมง เรียกว่านานกว่างานเปิดตัวมือถือซะอีก ก็หวังว่าทุกคนจะได้ข้อมูลของ Snapdragon 855 กันไปแบบครบๆ ซึ่งจริงๆ ยังมีเรื่องปลีกย่อยที่ยังไม่ได้เขียน แล้วก็โซนเดโมที่ได้ไปลองมา ยังไงขอเก็บไว้เล่าเป็นตอนๆ หลังจากนี้แล้วกันนะครับ
ยุคของ 5G
แบบสรุปๆครับ
https://www.qualcomm.com/media/documents/files/snapdragon-855-mobile-platform-product-brief.pdf
โอว..ขอบคุณครับ
อันนี้ดูง่ายกว่าเยอะเลย
งั้นๆ น่าผิดหวัง
ถ้านี่ไม่ว๊าวก็คงไม่มีใครทำว๊าวเเล้วครับปีนี้
ถ้าชื่อไม่ขึ้นด้วย A หรือ i คนนี้ยังไงก็ผิดหวัง แต่ถ้าเป็น A หรือ i ขึ้นต้นต่อให้เป็นแค่ตดก็ยังบอกหอมสดชื่น
จะอวตารมากี่ร่างก็รู้อยู่ดีแหละ สันดานเดิมๆ
+1
แล้วไง?
เปิดตัวทีหลังแต่ดูทรงแบบนี้
คะแนนbenchmarkน่าจะแพ้a12อยู่ดีนะครับ
appleนี่ทำcpuมาดีจริงๆ
ผมเข้าใจว่า 7nm ตอนนี้มี Bionic A12 กับ Kirin 980 และ SD 855
A12 คือตัวที่แรง 10นาที แล้วลดลง ตามกราฟ หรือเปล่านะครับ
แต่ Feature ต่างๆ ที่จัดเข้ามา ทั้ง AI และประมวลผลภาพ ทำให้ระบบความเร็วเสถียรอยู่ได้นาน
ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจเป็นอีกทางเหมือนกันนะ
ผมมองว่า a12 คือตัวเสถียรแต่ต่ำกว่าอีกตัวที่แรงแต่10นาทีแล้วต่ำกว่าตัวเสถียร
เป็นมาหลายรุ่นแล้วครับ มีค่ายนึงจะแรงมากแต่ลดความเร็วลง ยิ่งใช้ไปนานๆปีสองปีจะแอบลดความเร็วถาวรเลยครับ ส่วนอีกค่ส่วนอีกค่ายไม่เคยแรงสู้snapได้ แต่หลังเน้นพัฒนาเรื่องความเสถียรกับประหยัดแบ
ระบบเสียง Qualcomm Aqstic .. รอฟังเลย 🙂
กาาฟนี้พอเดาได้เลยสีไหนค่ายไหน
ไม่ว่าจะค่ายไหน สุดท้ายรอดูตอนที่เอามาใช้จริงใน Smartphone ว่าจะได้เท่าที่โม้มั้ย เพราะตัวเลขและกราฟหลายอย่างมันเหมือนเป็นแค่ทฤษฎี พอเอาไปใช้งานจริงมันก็ไม่ค่อยได้ตามนั้น
ข้อสังเกตงานนี้บรรยายยาวมาก ปล่อยของเยอะแต่ไม่พูดถึงว่าประหยัดพลังงานขึ้นกี่% หรือถ้าไม่ประหยัดมากขึ้นปกติก็จะเอาประสิทธิภาพเทียบกับพลังงานมาโชว์อย่างทุกที
Gpu ก็ตัวเดิมเพิ่มALU มา50%แต่แรงขึ้นได้แค่20% มีดีหน่อยที่โชว์ว่ารันนานๆแล้วประสิทธิภาพไม่ลดลง อย่างน้อยก็ไม่น่ามีปัญหาเรื่องความร้อน
โดยรวมชอบครับ รอ…
พัฒนาไปในทุก ๆ ด้านเลยจริง ๆ ตื่นเต้นมาก อยากลองอยากลองจับเครื่องแล้ว บน Mi 9
ทั้งสองค่ายแหละ บางทีผมก็เบื่อการพรีเซ้นแบบตัวเลขนะ กราฟดีกว่านู่นนี่นั่น อยากเห็นแบบสมัยก่อนที่เอาเครื่องเก่าเทียบเครื่องใหม่ไปเลยว่ามันเร็วกว่าเดิมแค่ไหน (ผลที่ได้คงเร็วกว่าเดิมนิดนึงในการใช้งานจริง แต่ถ้าตาม benchmark ก็คะแนนห่างกันเยอะ อาจเพราะไม่มีแอปหนักๆ ให้ลองจริงๆ)
เห็น benchmark ที่ leak ออกมาแสดงถึงพลังที่ใกล้เคียง a12 bionic ของ แอปเปิ้ล ต้องรอดูว่า พอของจริงทำขาย จะเร็อพอกะไอโฟน ปี 2018 ไหม
ถ้าเร็วพอกัน มันส์แน่ เพราะที่ผ่านมา เอามาเล่นเกมที่ไรแพ้ ไอโฟนทุกที ดช่น fortnite ไอโฟน xs, xr เปิด 60 fps ได้ แต่ sd 845 เปิดไม่ได้
รอลุ้นดูละกัน
ต้องรอตัว 7nm เทียบกันครับ อาจจะต่างกันไม่เยอะแล้ว
สุดท้ายแล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับว่า OS รีดใช้ประสิทธิภาพมันออกมาได้ดีแค่ไหนครับ ถึงจะแรงกว่า แต่พื้นฐาน Android ที่ทำออกมารองรับความหลากหลายก็คงจะสู้ iOS ไม่ได้อยู่ดี ยังไม่รวมที่แต่ละยี่ห้อปรับแต่งอีกด้วย
เท่าที่ทราบมา เค้าเบนมาร์คบน android นะครับ และทำคะแนนได้พอกับ a12 bionic ของ apple ด้วย
ผมว่าปีหน้า สนุกแน่ ในเรื่อง เกม จะไม่แพ้ขาดลอย เหมือนตอนนี้ อีกต่อไป แบบว่าแพ้ชนะกันแค่เสี้ยวเดียวแทน
สเปกเยอะแยะมากมาย รู้บ้างไม่รู้บ้าง เอาว่า คนทั่วไปปัจจุบัน อย่างผมก็แค่อยากรู้ว่า aututu ได้เท่าไหร่ ถึงแม้มันจะไม่ใช่คำตอบของความแรงทั้งหมดก็๋ตามเถอะ 555