Qualcomm เผยชิป Snapdragon X Elite มาอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยคะแนนทดสอบเอาชนะ Apple M3 AMD Ryzen 9 และ Intel Core Ultra 9 185H ในหลายด้าน ทั้งด้านประสิทธิภาพการประมวลผลต่อวัตต์ การประมวล AI และอุณหภูมิ แต่จุดเด่นของ Snapdragon X Series ไม่ได้มีเพียงแค่ประสิทธิภาพชิป แต่ยังรวมไปถึงพื้นฐานด้านอื่น ๆ ที่เค้าวางเอาไว้สำหรับอนาคตด้วย
เนื้อหาในบทความนี้มาจากช่วงถามตอบ Q&A กับ Cristiano Amon (CEO), Alex Katouzian (Group General Manager, Mobile, Compute, & XR (MCX) และ Kedar Kondap (SVP and GM, Compute and Gaming) ที่ Qualcomm เชิญเราไปที่ไต้หวันเมื่อวันที่ 2 – 5 มิถุนายน ที่ผ่านมานี้ครับ
มีพันธมิตรที่แข็งแรง
ที่ผ่านมามีความพยายามใช้ระบบ Windows บนสถาปัตยกรรม ARM มาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนคราวนี้ Qualcomm ได้ติดต่อกับผู้ผลิตโน้ตบุ๊กรายใหญ่ 7 เจ้าทั้ง ACER ASUS DELL HP Lenovo Microsoft และ Samsung มาให้ทุกเจ้ารวมมือกันเป็นหนึ่งเดียว แถมได้แรงสนับสนุนมาจาก Microsoft ที่นำระบบ Copilot+ มาใส่ใน Windows 11 พร้อมให้ใช้กับโน้ตบุ๊กเจนเนอเรชันใหม่ทันทีที่วางขาย
การสนับสนุนนักพัฒนา
จุดสำคัญที่สุดที่ทำให้ Snapdragon X Series ไปได้ไกลกว่าแค่ช่วงเริ่มต้น คือการสนับสนุนนักพัฒนามาตั้งแต่ก่อนหน้าจะเปิดตัว จนไปถึงหลังช่วงเปิดตัว ด้วยการติดต่อกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ดังที่เราคุ้นเคยกันดี อย่างแอปทำงาน Microsoft 365, Adobe Photoshop และ Lightroom, Davinci Resolve และเบราเซอร์ต่าง ๆ ให้ปรับการทำงานให้เข้ากันดี
นอกจากนี้ยังออกตัว Snapdragon X Elite Developer Kit มินิพีซีสำหรับผู้พัฒนาให้ใช้เพื่อสร้างแอป Native บน ARM และมีฐานข้อมูลและบริการสำหรับนักพัฒนาให้ทำ Emulation จากแอปที่รันบน x86 32-bit มาเป็น ARM64 รวมถึงทรัพยากรการพัฒนาแอปที่ใช้ระบบ AI เพื่อดึงประสิทธิภาพของชิปให้ได้เต็มที่
Snapdragon X Series จะได้ใช้ในอุปกรณ์อื่น
ในงาน Qualcomm Keynote 2024 ได้มีการกล่าวถึงอนาคตของชิป Snapdragon X ว่าจะไม่ได้จบอยู่ในโน้ตบุ๊กเท่านั้น แต่ยังมีแผนที่จะขยายไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ โดยที่ผ่านมา Qualcomm ได้ผลิตชิปสำหรับที่ใช้ในมือถือ โมเด็มสัญญาณ รถยนต์ อุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ทำให้มีประสบการณ์ในหลายตลาด และพร้อมจะต่อยอดนำชิป Snapdragon X ไปใช้ในอุปกรณ์อื่นด้วย ซึ่งคาดว่าเราจะได้เห็นกันในงาน Snapdragon Summit 2024
นอกจากนี้ ยังมีการเผยด้วยว่า จะมีชิป Snapdragon X รุ่นย่อยออกมาหลากหลายตัว เพื่อให้ครอบคลุมสินค้าทุกระดับตั้งแต่ “Top to bottom” เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง AI ได้มากขึ้น ไม่ได้จำกัดในอุปกรณ์ราคาแพงที่สุดเท่านั้น
จุดยืน Performance Per Watt (PPW) สำคัญที่สุด
ทุกเจ้าแข่งด้านความแรงซีพียูมานานแล้ว แต่ Qualcomm มองว่าหน่วยที่สำคัญที่สุดคือ Performance Per Watt (PPW) หรือประสิทธิภาพการประมวลผลต่อวัตต์ ที่ขณะนี้ชิป Snapdragon X Elite ถือเป็นผู้นำอยู่ โดยมีประโยชน์ทำให้เราได้ใช้คอมแรง ๆ แต่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน และยังคุมอุณหภูมิไม้ให้ร้อนเกินไป
“ถ้าวัดความแรงกันโดยไม่เทียบการใช้พลังงานด้วย ก็อย่ามาเทียบกันตั้งแต่แรกดีกว่า” Alex Katouzian กล่าว
นอกจากนี้ การมีชิป NPU ทำงานประมวลผล AI อยู่ด้านหลังนั้นมีประสิทธิภาพกว่า เพราะไม่ต้องรบกวน CPU หรือ GPU ที่มีหน้าที่สำคัญในการรันระบบคอมอยู่แล้วด้วย
แรงเล่นเกมได้ ต่อ GPU แยกก็ได้
ถึงการตลาดจะเน้นด้านการทำงานเสียส่วนใหญ่ แต่สำหรับซีพียูรุ่นใหม่แล้ว Snapdragon X Series ถือว่าเตรียมการมาดีพอสมควรสำหรับคอเกม โดยเค้าได้มีการปรับ Optimize ให้รองรับการเล่นเกมกว่า 1000+ เกม และถึงแม้จะยังไม่มีการวางแผนผลิตชิปมาพร้อม Dedicated GPU ด้วยกัน แต่ก็สามารถเสียบต่อ GPU นอกเอาเองได้ตามปกติ ไม่ได้มีปัญหากีดกันใด ๆ
ทั้งนี้ ชิป Snapdragon X Series จะยังไม่ใช่ชิปที่ปรับ Optimized มาสมบูรณ์เข้ากับแอปทุกอย่างเหมือน x86 ที่มีมาก่อนแล้ว แต่จะต้องใช้เวลาให้นักพัฒนาและผู้ให้บริการรายต่าง ๆ เข้ามาร่วมมือผลักดันกันต่อไปอีก ทีนี้ก็เหลือแต่รอดูว่าหลังจากโน้ตบุ๊กวางขายจริง ถึงมือผู้ใช้และนักทดสอบแล้ว จะมีผลตอบรับดีแค่ไหน จะสมกับที่เค้าแสดงความมั่นใจออกมาหรือไม่ครับ
Comment