เปิดตัวในบ้านเราไปได้ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง สำหรับมือถือรุ่นประหยัดอย่าง Realme C1 ด้วยราคาแค่ 3,990 บาท เท่านั้น แต่สเปคหลายๆ อย่างครบเครื่องคุ้มค่าตัว แถมยังมีจุดเด่นอยู่ที่แบตเตอรี่สุดอึดขนาด 4230 mAh ที่ใช้งานปกติได้สบายๆ ถึง 2 วัน แบบไม่ต้องชาร์จเลย ส่วนการใช้งานอื่นๆ จะเป็นยังไงบ้าง.. มาดูกัน 

ตัวเครื่องและดีไซน์

Realme C1 มีหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:9 มีรอยแหว่งเป็นแถบด้านบนสำหรับวางกล้องเซลฟี่, ลำโพง และเซ็นเซอร์ ส่วนด้านหลังเป็นพลาสติกมันวาวที่เป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก (เพราะมันไม่ได้ฉาบด้วย Anti-Fingerprint Coating) และมีวางจำหน่ายแค่สีเดียวเท่านั้น คือสีดำ Mirror Black

มีกล้องหลังคู่ความละเอียด 13MP + 2MP พร้อมแฟลช LED อยู่ข้างๆ โดยเลนส์กล้องจะนูนขึ้นมานิดหน่อย แต่เนื่องจากในกล่องมีเคสมาให้ด้วยก็เลยตัดปัญหาส่วนนี้ออกไปได้อยู่ ส่วนเซ็นเซอร์สแกนนิ้ว ไม่ต้องไปมองหาที่ไหน…เพราะมันไม่มี (ต้องใช้สแกนหน้า, รหัส หรือลากเส้นในการปลดล็อคเท่านั้น)

ด้านซ้ายเป็นตำแหน่งของถาดซิม ซึ่งเป็นถาดที่รองรับซิมคู่ + MicroSD Card ทำให้ไม่ต้องเลือกว่าจะใส่ซิมที่ 2 หรือจะเพิ่มความจุด้วยการ์ดดี

Software และ UI

เนื่องจากมือถือแบรนด์ Realme นั้นให้ทาง OPPO เป็นผู้ผลิคดังนั้นพวกซอฟท์แวร์ UI ก็เลยใช้ Color OS เป็นฐานและมีการปรับแต่งนิดหน่อย แต่โดยรวมก็จะไม่ต่างกันมากนัก

มีพวกฟังก์ชั่นตัวช่วยในการเล่นเกม เช่นปิดการแจ้งเตือน หรือ pop up เป็นหน้าต่างแชทขึ้นมา เพื่อไม่ให้รบกวนระหว่างกำลังบวก รวมถึงมีพวก gesture control ลากนิ้วเปิดแอปต่างๆ ได้

ประสิทธิภาพการใช้งานและเล่นเกม

Realme C1 ใช้ชิป Snapdragon 450 ซึ่งเป็นชิปตัวท็อปในซีรี่ส์ 4xx สามารถใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ทั้งดูไฟล์หนัง สตรีมหนัง เล่นโซเชียล เล่นเว็บ ฟังเพลง ฯลฯ ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น ในการทดสอบได้คะแนน AnTuTu ไป 72455 คะแนน

มาถึงประสิทธิภาพในการเล่นเกมกันบ้าง ขอเริ่มที่เกมยอดฮิตถล่มทลายอย่าง ROV กันบ้าง เพราะยังไงซะมันก็เป็นเกมยอดฮิต พบว่าเปิด HD ยังสามารถเล่นได้เฟรมเรทอยู่ที่ 27 – 30 fps และไม่มีอาการทัชหลุดเหมือนอีกรุ่นที่สเปคคล้ายๆ กัน และไม่มีโหมดเฟรมเรทสูงให้เปิดนะ

ต่อด้วยเกมกราฟฟิคโหดของจริงอย่าง PUBG ก็แน่นอนว่าตัวเกมจะตั้งค่า deafault เป็นแบบต่ำสุด เพื่อความลื่นไหลในการเล่น…ซึ่งมันก็ลื่นไหลจริงๆ นั่นแหละ ระบบทัชโอเค การยิง การขยับเป้าได้อยู่

ส่วนอีกหนึ่งเกมภาพงามอย่าง Star Ocean Anamnesis ถ้าปรับกราฟฟิคลงมาเป็นระดับกลางๆ ก็ถือว่าเล่นได้ลื่นอยู่เหมือนกัน

แต่ถ้าใครสนใจจะซื้อเอาไปเปิดบอทตีมอนอย่าง Ragnarok M อันนี้อาจจะต้องแสดงความเสียใจ คือมันก็ติดตั้งได้แหละ แต่ต้องไปลบแอปแทบทุกตัวออกจากเครื่องซะก่อน ไม่งั้นหน่วยความจำไม่พอแน่นอน ซึ่งก็กลัวว่าหากต่อไปมี patch อัพเดทมา อาจจะลงเพิ่มไม่ได้แล้ว เพราะเมมเต็มก่อน

 

กล้องถ่ายรูปและวิดีโอ

กล้องหลังคู่ของ Realme C1 ความละเอียด 13MP + 2MP ถือว่าอยู่ในระดับพอใช้ เมื่อถ่ายในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอภาพที่ได้ก็ถือว่าโอเคเลยล่ะ แต่พอแสงน้อยลงไปรายละเอียดก็จะเริ่มหาย รวมถึงสีก็จะดูจืดๆ หม่นๆ ลงไปด้วย แต่ถือว่าจัดการเรื่อง Noise ได้โอเคอยู่

การถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอโดยรวมถือว่าอยู่ในขั้นใช้ได้ (ในสภาพแสงพอเหมาะ) จากรูปตัวอย่างจะเห็นว่ามันสามารถเบลอร่องแขนได้ด้วยนะ

โหมดการถ่ายวิดีโอของ Realme C1 ก็ไม่ได้มีฟีเจอร์อะไรมาให้นอกจากการตั้งความละเอียดได้ 2 แบบ คือ 720p / 1080p สามารถเปิดโหมด Beauty และ Filter ระหว่างถ่ายวิดีโอได้

สำหรับกล้องเซลฟี่ขนาด 5MP ของ Realme C1 นอกจากจะมีโหมด AI Beauty แล้ว มันยังมีโหมดสติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊กๆ ให้สาวๆ (หรือหนุ่มๆ ก็ไม่ว่ากัน…) ได้เล่นกันอีกด้วย

การปลดล็อคเครื่อง

เนื่องจาก Realme C1 ไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือให้มาด้วย มันก็เลยมีแค่ระบบปลดล็อคพื้นฐานอย่างการใส่รหัส และการลากเส้น Pattern ส่วนระบบปลดล็อคที่ล้ำขึ้นมาหน่อย (แต่อาจจะไม่ปลอดภัยเท่า) ก็คือระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า ซึ่งระบบนี้ถือว่าปลดล็อคได้รวดเร็วจริงๆ เลยล่ะ เพราะแค่ยกเครื่องขึ้นมาแล้วกดปุ่ม Power เมื่อมันเห็นหน้าเรา ก็จะเข้าสู่หน้าจอมือถือทันที และจากบันทึกใบหน้าครั้งแรกไม่ได้ใส่แว่นตาเอาไว้ แต่พอจะปลดล็อคแล้วใส่แว่นตาเอาไว้ มันก็ยังจำหน้าเราได้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีระบบไม่ปลดล็อคเครื่องให้ถ้าหากว่าเรากำลังหลับตาอยู่ด้วยนะ อันนี้เอาไว้ป้องกันคนแอบปลดล็อคเครื่องตอนเรากำลังหลับได้ดีเลยล่ะ เพราะมันสแกนหน้าตอนเราหลับไม่ได้นั่นเอง

แบตเตอรี่

สำหรับจุดเด่นสุดๆ ของ Realme C1 ก็ต้องยกให้กับแบตเตอรี่ขนาด 4230 mAh เมื่อใช้ร่วมกับหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ที่มีความละเอียด HD+ กับชิประดับกลางอย่าง Snapdragon 450 ทำให้การใช้งานปกติทั้ง เล่นเน็ต ดูหนังออนไลน์ ฟังเพลง เล่นโซเชียล เล่นเกม ยืนยาวได้ถึง 2 วัน สบายๆ เลยทีเดียว และจากการทดสอบดูวิดีโอความละเอียด HD ใน YouTube ผ่าน WiFi ความสว่างหน้าจอประมาณ 70% และเสียบหูฟังเปิดเสียงที่ 60% ก็พบว่าดูต่อเนื่องไปได้ 8 ชั่วโมงครึ่ง แบตเตอรี่ยังเหลืออยู่เกิน 50% เลยทีเดียว

อันนี้เป็นภาพที่แคปไว้ซักพักแล้วหลังจากปิด YouTube ไปแล้วนะ แบตเตอรี่เลยเหลือต่ำกว่า 50% ไปหน่อยนึง

Play video

สเปค REALME C1

  • หน้าจอ Full Notch Display ขนาด 6.2 นิ้ว HD+  อัตราส่วน 19:9
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 450 Octa-Core
  • GPU : Adreno 506
  • RAM : 2 GB
  • ความจุ : 16GB (รองรับ MicroSD สูงสุด 256GB)
  • กล้องหลัง : 13MP (f/2.2)+ 2MP (f/2.4) Dual Rear Camera
  • กล้องหน้า : 5MP (f/2.2) + AI Beauty 2.0
  • เซนเซอร์ : E-Compass, Accelerometer, G-Sensor, Proximity Sensor, Light Sensor
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 b/g/n, WiFi Direct, hotspot, BT 4.2
  • ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ มีเพียง Face Unlock
  • แบตเตอรี่ : 4230 mAh
  • ขนาด : 156.2 x 75.6 x 8.2 มม./น้ำหนัก 168 กรัม
  • ระบบปฏิบัติการ : Android Oreo 8.1 ครอบด้วย ColorOS 5.1
  • สีที่เปิดตัว : ดำ Mirror Black
  • ราคาเปิดตัว 3,990 บาท

สรุป

Realme C1 เป็นมือถือราคาประหยัดที่สามารถใช้งานทั่วไปได้แบบสบายๆ ตอบโจทย์คนงบน้อยแต่อยากได้อะไรครบๆ ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกม เล่นโซเชียล แถมยังเล่นได้แบบสบายใจไม่ต้องห่วงว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างวันด้วย เพราะถ้าหากว่าไม่ได้ใช้งานหนักหน่วงจริงๆ มันสามารถอยู่ได้ 2 วัน สบายๆ ต่อการชาร์จเต็ม 100% ครั้งนึง หรือต่อให้ใช้งานหนักๆ อย่างถ้าใครฟิตจัด นั่งเล่นเกมต่อเนื่อง 4 – 5 ชม. ก็แน่ใจได้ว่าวันนั้นยังเหลือแบตเตอรี่ไว้ใช้ได้จนถึงบ้านแน่นอน

ข้อติอย่างนึงก็คือความจุในตัวเครื่องที่ให้มา 16GB ถือว่าน้อยมากสำหรับการใช้งานในปัจจุบัน เพราะแอปต่างๆ ที่มากับตัวเครื่อง ก็กินพื้นที่ไปเกือบครึ่งแล้ว ไหนจะเอามาลงแอปจำเป็นที่เราต้องใช้บ่อยๆ ทีนี้ก็จะเหลือที่เอาไว้ให้ลงเกมหรือแอปอื่นๆ อีกนิดหน่อย ถ้าเป็นเกมแคชวลก็อาจจะได้หลายเกม แต่ถ้าลงเกมระดับ AAA ภาพงามๆ ก็อาจจะได้แค่ 2 – 3 เกมเท่านั้น สำหรับคนที่ต้องการมือถือใช้งานทั่วๆ ไป ไม่ได้เน้นเล่นเกมกราฟฟิคหนักๆ ก็ถือว่า Realme C1 เป็นมือถือที่ตอบโจทย์การใช้งานพื้นานได้ครบและลื่นไหล ในราคาแค่ 3,990 บาท