ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ฟังก์ชันครบ ๆ ในงบไม่เกิน 5 พันบาท ขอแนะนำ  Redmi Watch 4 เลย ให้ฟังก์ชันที่ค่อนข้างครบครัน ทั้งจอใหญ่มองชัดแบบไม่ต้องเพ่ง, โหมดออกกำลังกาย, การตรวจจับด้านสุขภาพต่าง ๆ แบตเตอรี่ใช้งานนาน อีกทั้งยังรองรับการโทรผ่าน Bluetooth อีกด้วย

แกะกล่อง Redmi Watch 4

Redmi Watch 4 ที่เราได้มารีวิวเป็นสี Silver Gray เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะเจอกับนาฬิกา สายชาร์จแบตเตอรี่ และคู่มือ

ดีไซน์พรีเมี่ยม กรอบอะลูมิเนียมสุดคลาสสิก 

 Redmi Watch 4 มาพร้อมดีไซน์เรียบ ๆ หน้าจอแบน ตัวเรือนทำมาจากอะลูมิเนียมที่แข็งแกร่งและทนทาน ตัวเรือนมีความบาง ไม่หนาจนเกินไป ใส่แล้วคล่องตัวดี ด้านข้างของตัวเครื่องจะมีเม็ดมะยมเอาไว้ปรับเลื่อนฟีเจอร์ภายในเครื่อง 

สายรัดเป็นยางที่ให้ลุคสปอร์ต สามารถปลดและถอดเปลี่ยนได้อย่างง่าย แต่ข้อสังเกตตอนใช้งานคือ ในตอนที่ใส่สายรู้สึกว่าสอดสายเพื่อเข้ามาล็อกบนข้อมือค่อนข้างลำบาก เนื่องจากสายมีความฝืดอยู่นิดหน่อยและตัวล็อกสายก็ติดยากนิดนึง 

จอใหญ่ ไม่ต้องเพ่งเยอะ 

Redmi Watch 4 จุดเด่นแรงของรุ่นนี้เลยก็คือให้หน้าจอ AMOLED มาใหญ่ถึง 1.97 นิ้ว ใหญ่ชนิดที่ว่าไม่ต้องแค่มองผ่าน ๆ ก็เห็นได้ชัด ไม่ต้องเพ่งเยอะเลยจริง ๆ มีประโยชน์มาก ๆ เวลามีแจ้งเตือนข้อความเข้ามา และปรับเลื่อนหน้าจอได้ลื่นไหล 60Hz อีกทั้งยังสว่างสู้แดดด้วยความสว่างสูงสุด 600 nits ออกแดดจ้าก็ไม่ต้องกังวล 

หน้าปัดหลากสไตล์ มีให้เลือกกว่า 200 รูปแบบ 

ในรุ่นนี้ตัวเลือกหน้าปัดให้ใช้ตามใจมากกว่า 200 รูปแบบ สามารถเปลี่ยนได้ตามมูด & โทนตามใจเราในแต่ละวันได้เลย หรือจะปรับแต่งเป็นรูปที่เราถ่ายไว้ หรือเซฟไว้มาใช้ก็ได้ และเลือกใช้งานผ่านแอป Mi Fitness ได้เลยค่ะ

ใช้งานโทรคุยผ่าน Bluetooth 

ฟีเจอร์รับสายผ่านสมาร์ทวอทช์ หนึ่งในฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์มาก ๆ เอาไว้เวลาที่เราออกกำลังกาย วิ่งอยู่บนลู่วิ่ง ไม่สะดวกรับสายก็กดรับผ่านสมาร์ทวอทช์ได้ทันที ซึ่ง Redmi Watch 4 เค้ามีลำโพงและไมค์ในตัวเลย เสียงที่ได้ยินผ่านลำโพงเวลาที่ยกข้อมือขึ้นมามีความชัดแจ๋ว จับคำได้ว่าอีกผ่ายสื่อสารว่าอะไร ส่วนเวลาเราพูดกลับไปอีกฝ่ายก็ได้ยินชัดเจนดี 

แต่จากที่ลองทดสอบการโทรผ่านแอปอื่น ๆ พบว่ายังไม่สามารถใช้งานได้ เมื่อทดสอบด้วยการโทรเข้าผ่าน Messenger ตัวเครื่องไม่มีสัญญาณการโทรเข้าใด ๆ และเมื่อโทรเข้าผ่าน LINE พบว่าตัวเครื่องมีแจ้งเตือนสายเรียกเข้า แต่เมื่อกดรับสาย กลายเป็นเครื่องตัดสายให้ซะงั้น 

ส่วนการแจ้งเตือนข้อความจะเห็นเป็นข้อความแสดงขึ้นมาได้ชัดเจนเลยว่าใครส่งมาและเขียนว่าอะไร แต่ไม่สามารถพิมพ์ตอบกลับได้

โหมดออกกำลังกายกว่า 150 โหมด  

สมาร์ทวอทช์ได้มีการแบ่งโหมดออกกำลังกายมาให้เป็นสัดส่วนแบบชัดเจน อย่างโหมดออกกำลังกายที่เรามักใช้เป็นประจำ อย่างเช่น วิ่ง, ฟรีสไตล์, กระโดดเชือก, ว่ายน้ำ, หรือปั่นจักรยาน เป็นต้น ก็จะมีให้เลือกในอันดับต้น ๆ อยู่แล้ว 

นอกเหนือจากนี้จะอยู่ในช่องเพิ่มเติมให้เรากดเข้าไปดูลึก ๆ ซึ่งก็จะมีรายการกีฬาแยกย่อยออกไปอีกที เช่นในโหมดการเต้นก็จะมีการเต้นแต่ละประเภทให้เลือกเป็น บัลเล่ต์, ซุมบ้า ฯลฯ และสำหรับสายวิ่ง ตัวสมาร์ทวอทช์มาพร้อมกับชิป GNSS  ที่สามารถติดตามระยะการวิ่งได้ด้วย

กันน้ำระดับ 5ATM  

ในการใช้งาน Redmi Watch 4  บอกเลยว่าหายห่วง เพราะว่ารุ่นนี้เค้ามาพร้อมฟีเจอร์กันน้ำในระดับ 5ATM เทียบเท่าความลึก 50 เมตร ไม่ว่าใส่กลางแจ้งแล้วฝนตกลงมา, ใส่อาบน้ำ, ใส่ว่ายน้ำ หรือดำน้ำคือได้หมด ไม่ต้องถอดเปลี่ยนให้ยุ่งยาก

ฟีเจอร์ตรวจจับด้านสุขภาพแบบจัดเต็ม 

ตรวจจับการนอนหลับ

อย่างที่ทราบกันดีว่าการนอนหลับที่ดีเป็นพื้นฐานของการมีสุขภาพที่ดีไปด้วย ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวของ Redmi Watch 4 นั้น จะช่วยตรวจจับการนอนหลับของเราตลอดค่ำคืนแบบอัตโนมัติ อีกทั้งยังบันทึกข้อมูลผ่านแอป ซึ่งก็จะมีข้อมูลการนอนหลับแบบละเอียด ดังนี้

  • ระยะเวลาที่หลับลึก
  • ระยะเวลาที่หลับตื้น
  • ช่วงที่ตื่นกลางดึก 
  • อัตราการเต้นของหัวใจขณะหลับ  

อีกทั้งยังสามารถดูข้อมูลแบบเต็ม ๆ ได้ โดยข้อมูลจะขึ้นเป็นกราฟมาให้แบบนี้เลย ทำให้เวลาดูคือเข้าใจง่ายมาก ๆ แถมยังเจาะดูได้เป็นช่วง ๆ หรือดูข้อมูลที่สรุปเป็นระยะเวลาและค่าเฉลี่ยของอัตราการเต้นของหัวใจในแต่ละช่วงมาให้ด้วย 

นอกจากนี้ัยงมีฟีเจอร์ Sleep Animal ที่จะนำบันทึกการนอนของเรามาวิเคราะห์ว่าเราเป็นเหมือนสัตว์ชนิดไหนบ้าง มีทั้ง นกเพนกวิน, นกฮูก,แกะ ฯลฯ อีกทั้งยังมีข้อมูลแนะนำเกี่ยวกับสุขภาพมาให้ด้วย

การตรวจวัดสุขภาพอย่างใกล้ชิดและเรียลไทม์ 

ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าสมาร์ทวอทช์ให้คอยวัดค่าสุขภาพของเราแบบตลอดเวลาได้ ไม่ว่าจะเป็นวัดอัตราการเต้นของหัวใจ,อ็อกซิเจนในเลือด, ความเครียด, ช่วงเวลาที่ลุกยืน โดยในแต่ละพาร์ทจะปรับได้แตกต่างกัน เช่นในการวัดอ็อกซิเจนในเลือดก็จะสามารถปรับได้ว่าให้ตัวเครื่องคอยแจ้งเตือนเราเมื่อมีระดับอ็อกซิเจนต่ำอยู่ที่เท่าไหร่ หรือในพาร์ทตรวจจับความเครียดก็จะมีแจ้งเตือนให้เราผ่อนคลาย หากมีระดับความเครียดสูงเกินไป

แจ้งเตือนให้วัดความดัน 

สำหรับผู้ใช้งานที่มีปัญหาสุขภาพในเรื่องของความดันโลหิต และจำเป็นจะต้องคอยวัดความดันและจดบันทึกอยู่สม่ำเสมอ ซึ่งเจ้าสมาร์ทวอทช์เครื่องนี้ไม่สามารถวัดความดันได้ แต่ว่าสามารถแจ้งเตือนให้เราไปวัดความดันและบันทึกข้อมูลลงในแอปได้เลย

โดยในแอปก็จะสรุปข้อมูลค่าเฉลี่ยความดันที่เราวัดได้ออกมา ว่าตัวเลข Systolic และ Diastolic สูงสุดและต่ำสุดอยู่ที่เท่าไหร่ 

บันทึกและแจ้งเตือนรอบเดือนของสาว ๆ 

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เป็นตัวช่วยที่สำคัญสำหรับสาว ๆ อย่างฟีเจอร์ตรวจวัดรอบเดือน โดยฟีเจอร์นี้จะบันทึกวันที่มีประจำเดือน, คาดการณ์วันที่ประจำเดือนจะมา, ช่วงตกไข่ และช่วงก่อนวันตกไข่ พร้อมมีให้บันทึกอาการต่าง ๆ อย่างละเอียด ซึ่งมีประโยชน์มาก ๆ เลยเพราะว่า หากเดือนไหนที่สาว ๆ ประจำเดือนมาผิดปกติ ก็จะได้เทียบความต่างของประจำเดือนในแต่ละเดือนแล้วนำไปคุยกับคุณหมอได้

การใช้งานทั่วไป 

Redmi Watch 4 ,มีฟังก์ชันการใช้งานอื่น ๆ ได้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการดูปฏิทิน, ดูพยากรณ์อากาศ, นับจำนวนก้าวของเราในแต่ละวัน, ตั้งนาฬิกาปลุก, จับเวลา, ปิดเสียงมือถือ, ค้นหามือถือ,ใช้งานในรูปแบบไฟฉาย, เปิด-ปิดเพลง, หรือเป็นรีโมทถ่ายรูปก็ได้

แบตอึด ใช้งานได้นาน

Redmi Watch 4 ให้แบตเตอรี่มาอยู่ที่ 470mAh ชาร์จแบต 1 ครั้ง สามารถใช้งานได้นาน 20 วัน ในโหมดการใช้งานทั่วไป และโหมด AOD ใช้งานได้ 10 วัน ซึ่งหลังจากที่ได้เปิดใช้งานให้ตรวจจับสุขภาพแบบเรียลไทม์และใส่ติดต่อกันหลาย ๆ วัน พบว่าแบตเตอรี่ลดเฉลี่ยวันละ 7 – 10% เท่านั้น แล้วแต่ว่าวันนั้นจะได้รับแจ้งเตือนบ่อยหรือเปิดหน้าจอใช้บ่อยแค่ไหน  จากการทดสอบใช้งานแบบทั่วไปหลังจากที่ชาร์จแบตเต็ม 100% พบว่า เมื่อใช้งานในระยะเวลา 3 วัน แบตเตอรี่ลดลงไปเพียงแค่ 19% เท่านั้น  ถือว่าอึดใช้ได้เลยล่ะ 

สรุปการใช้งาน

Redmi Watch 4 ถือว่าเป็นอึกหนึ่งสมาร์ทวอทช์ที่ใช้งานได้แบบครอบคลุมเลย เพราะนอกจากตรวจจับด้านสุขภาพได้แล้วนั้น ยังสามารถรับสายและพูดคุยผ่านตัวนาฬิกาได้ด้วย อีกจุดเด่นที่ชอบเลยก็คือตัวหน้าจอที่ให้มาใหญ่สะใจแบบไม่ต้องเพ่งนาน ดีต่อใจคนสายตาสั้นมาก ๆ (คนสายตาปกติน่าจะโอเคตามทั่วไปเลยล่ะ) แถมแบตเตอรี่ให้มาเยอะ แบตค่อนข้างอึด ใช้งานได้นานมาก ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จเลย

ข้อดี

  • จอใหญ่สะใจ
  • แบตให้เยอะ
  • รับสายผ่านนาฬิกาได้
  • กันน้ำ 5ATM
  • โหมดออกกำลังกายมีให้เลือกเยอะ
  • หน้าปัดมีให้เลือกหลากหลาย
  • งานประกอบดูดี ไม่ก๊องแก๊ง
  • จอสู้แสงได้ดี

ข้อสังเกต

  • สายรัดแอบใส่ยากนิดนึง
  • รับสายจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ ไม่ได้
  • ใช้รับสายได้แค่การโทรทั่วไป
  • พิมพ์ข้อความตอบกลับไม่ได้

ราคา

Redmi Watch 4 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สี Obsidian Black และ Silver Gray วางจำหน่ายในราคา 4,190 บาท สามารถสั่งซื้อผ่านร้านค้า Official ได้ทั้งใน Shopee และ Lazada เลย