เหลือเวลาอีกราวๆ 3 -4 เดือน เราก็น่าจะเห็นการเปิดตัวของมือถือเรือธง Galaxy S11 แล้ว และล่าสุดก็ได้มีภาพเรนเดอร์แบบ 360 องศา ของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ออกมาให้เห็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนรูปร่างหน้าตาจะออกมาเป็นยังไง…ไปดูกันเลยครับ

ภาพเรนเดอร์ของ Galaxy S11 ที่หลุดมาคราวนี้ ได้มาจากแหล่งข่าวหลุดเจ้าประจำอย่าง @OnLeaks ซึ่งเป็น Leaker ชื่อดังที่มักจะปล่อยภาพเรนเดอร์ของสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นมาก่อนวันเปิดตัวล่วงหน้าเป็นเดือนๆ แถมไม่ค่อยพลาดอีกต่างหาก เรียกได้ว่าถ้ามีภาพเรนเดอร์หลุดมาจากเจ้านี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่ตัวจริงจะออกมาตามข่าว

และจากภาพเรนเดอร์ของ Galaxy S11 ที่หลุดออกมาคราวนี้จะเห็นว่าดีไซน์การจัดวางกล้องหลัง เปลี่ยนจากซีรีส์ Galaxy S10 และ Note 10 ไปเลย เพราะกล้องหลังทั้งหมดจะย้ายมาอยู่บนแท่น 4 เหลี่ยมผืนผ้าบริเวณมุมซ้ายบนที่นูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย ซึ่งจากภาพพอจะบอกได้ว่า มันมีกล้องหลังทั้งหมดถึง 5 ตัว + แฟลช LED อีก 1 ดวง

ตามข้อมูลบอกว่ากล้องทั้ง 5 ประกอบด้วยเซนเซอร์หลักความละเอียด 108MP ที่คาดว่าน่าจะใช้เป็นเวอร์ชั่นที่อัพเกรดสเปคขึ้นมาจากรุ่นที่ใช้ใน Mi Note 10, กล้อง Ultra Wide, กล้อง Telephoto ที่สามารถซูมแบบ Optical ได้ 5x, เซนเซอร์ ToF และกล้องตัวสุดท้ายที่ยังไม่มีข้อมูลว่าจะเป็น Depth sensor หรือว่าเลนส์ Macro กันแน่

พลิกเครื่องกลับมาจะเห็นหน้าจอแบบ Infinity-O ที่เจาะรูไว้สำหรับวางกล้องหน้าแบบเดียวกับซีรีส์ Galaxy Note 10 และแน่นอนว่าขอบจอทั้ง 2 ข้างยังคงเป็นแบบโค้งเหมือนเดิม (ยังไม่โค้งถึงขนาด Waterfall เหมือนบางรุ่นในตอนนี้)

ขอบเครื่องด้านขวามีปุ่ม Power กับปุ่มปรับเสียง และยังคงไม่มีปุ่ม Bixby เหมือนกับ Note 10 เหมือนเดิม

ขอบเครื่องด้านล่างมีพอร์ท USB-C และลำโพง 1 ตัว ส่วนรูหูฟัง 3.5 มม. ไม่ต้องไปมองหาที่ไหน เพราะคงไม่กลับมาในซีรีส์เรือธงอีกแล้ว

สำหรับสเปคที่หลุดออกมา (ย้ำว่ายังเป็นแค่สเปคหลุดเท่านั้น) Galaxy S11 จะยังคงมี 3 รุ่น ใช้หน้าจอแบบ SAMOLED ทั้งหมด แต่ต่างกันที่ขนาด โดยรุ่นเล็ก S11e มีจอขนาด 6.3 นิ้ว, S11 ขนาด 6.7 นิ้ว และรุ่นท็อป S11+ ขนาด 6.9 นิ้ว ส่วนชิปเซ็ตก็จะใช้ Exynos 990 (เครื่องในบางโซนจะใช้ Snapdragon 865) ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบด้วย One UI 2.0 มีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 161.9 x 73.7 x 7.8 มิลลิเมตร

คาดว่า Samsung น่าจะเผยโฉม Galaxy S11 ทั้ง 3 รุ่น ในช่วงเวลาเดิมจากรุ่นก่อนๆ คือราวๆ เดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม เพราะฉะนั้นก็จะเหลือเวลาอีกประมาณ 3 – 4 เดือน ไม่แน่ว่าตอนนั้นอาจจะมีการปรับปรุงดีไซน์บางอย่างอีกก็ได้ ส่วนสเปคและฟีเจอร์อื่นๆ หลังจากนี้เราน่าจะได้เห็นข้อมูลต่างๆ ทะยอยหลุดออกมาอีกแน่นอน

 

ที่มา: sammobile