หากพูดถึงเกมมิ่งโน้ตบุ๊คแบรนด์ Acer แน่นอนว่าหลายคนอาจจะคิดถึงตัว Predator ที่เป็นตัวโน้ตบุ๊คสเปคเทพราคาค่อนข้างสูง กับ Nitro 5 ที่สเปคแรงแต่ราคาเป็นมิตรกับผู้บริโภคมากขึ้น โดยในบทความนี้เองทีมงานก็มีโอกาสรีวิวเจ้า Acer Nitro 5 รหัส AN515-43-R0T3 ที่ใช้สเปค Ryzen 7 3750H + GTX 1650 + จอ 120Hz ในราคาเพียง 20,900 บาท ประสิทธิภาพและการใช้งานจะเป็นอย่างไรบ้างไปดูกันครับ

Play video

ดูเป็นคลิปรีวิวเต็มได้ที่ช่อง คอมคร้าบ และฝากกด Subscribe ช่องด้วยนะครับผม

สเปคเบื้องต้น Acer Nitro 5 AN515-43-R0T3

  • CPU : AMD Ryzen 7 3750H
  • GPU : NVIDIA GeForce GTX 1650 4GB GDDR5
  • Ram : 8GB DDR4 bus 2400
  • Storage : SSD m.2 PCIe 512GB
  • Display : ขนาด 15.6 นิ้ว Full HD IPS 120Hz
  • Network : Wi-Fi 5 802.11ac / Bluetooth 5.0
  • Weight : 2.2 kg
  • Warranty : 3 ปี Onsite Service

ดีไซน์

สำหรับดีไซน์งานประกอบของ Acer Nitro 5 ก็ถือว่ายังคงคลุมโทนสีดำแดงมาโดยตลอด วัสดุเป็นพลาสติก แกนฝาพับเป็นสีแดงอันใหญ่ สลักชื่อ Nitro โดดเด่นอยู่ตรงกลาง ฝาหลังทำเป็นลายตาข่ายผิวนูนออกมา ช่วยให้เวลาเราถือจับพกพาไปไหนไม่ลื่นหลุดมือง่าย พร้อมโลโก้ Acer ตรงกลางสีดำปกติ แต่เวลาถือจับตรงฝาหลังอาจจะเป็นรอยนิ้วมือง่ายสักหน่อย

ด้านหลังจะมีช่องที่เป็นฟินระบายความร้อนหนึ่งช่องอยู่ฝั่งขวามือตัวเครื่อง ส่วนฝั่งทางซ้ายจะเป็นช่องม็อคอัปเซาะร่องทำเป็นตะแกรงช่องระบายความร้อนเฉยๆ เพื่อให้เครื่องดูบาลานซ์กันเหมือนไอพ่นเครื่องบินเจ็ต

ถัดมาดูที่ดีไซน์ด้านในกันบ้าง ขอบหน้าจอของ Acer Nitro 5 เครื่องนี้มาพร้อมกับหน้าจอขอบบางขนาด 15.6 นิ้ว มีกล้อง Webcam อยู่ด้านบนตรงกลาง พร้อมกับไมค์ตัดเสียงสองตัว ซึ่งตัวขอบหน้าจออาจจะดูหนากว่ารุ่นอื่นๆ ในปัจจุบันสักหน่อย

คีย์บอร์ดตัวเครื่องให้มาเป็นแบบ Full Size มี Numpad พร้อมไฟ Backlit สีแดง ปรับได้ 3 ระดับ มีปุ่มลูกศรขนาดใหญ่ และปุ่มกดแต่ละปุ่มสัมผัสถือว่านุ่มละมุนมาก ส่วนตัวชอบฟีลลิ่งการกดแบบนี้แป้นไม่เด้งกระด้างจนเกินไป ส่วนทัชแพดให้มาขนาดแอบเล็กไปนิดหนึ่ง เยื้องไปทางฝั่งซ้ายหน่อยๆ โดยรวมแล้วงานดีไซน์ Acer Nitro 5 รุ่นนี้ถือว่าโอเคในระดับหนึ่งเลยทีเดียวครับ

พอร์ตเชื่อมต่อ

มาดูทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อกันบ้าง สำหรับทางด้านซ้ายมือตัวเครื่องไล่ลำดับจากซ้ายไปขวาจะเป็น Kensington lock, Lan, HDMI 2.0, USB 3.1 Type C และ USB 3.1 Type A x2 ซึ่งพอร์ตทางขวาจะเป็นแบบ USB Charging ด้วยคือ ปิดเครื่องแล้วแต่ยังจ่ายไฟชาร์จได้ โดยหากอยากปิดฟังก์ชันนี้ต้องไปปิดในโปรแกรม Quick Access นะครับ

ส่วนพอร์ตทางด้านขวาจะมีช่องเสียบหูฟัง Headset 3.5 mm, USB 2.0 Type A, ช่องเสียบสายชาร์จ และช่องฟินระบายความร้อนอีกหนึ่งช่อง ซึ่งหลายคนอาจจะกังวลเรื่องลมร้อนเป่ามือเวลาใช้เมาส์มือขวา แต่บอกเลยว่าลมมันไม่ได้ร้อนแรงขนาดนั้น ส่วนใหญ่จะเป่าออกแรงทางด้านหลังเครื่องมากกว่า

ทดสอบประสิทธิภาพ

Acer Nitro 5 รหัส  AN515-43-R0T3 เครื่องนี้จะใช้ซีพียูเป็น AMD Ryzen 7 3750H ขนาด 12nm ความเร็ว 2.3-4.0 GHz แบบ 4 Core/8 Thread และมี L3 Cache 4MB ส่วนการ์ดจอเลือกใช้ NVIDIA GeForce GTX 1650 ขนาด 4GB GDDR5 รุ่นยอดนิยม สังเกตที่ Ram ตัวเครื่องให้มา 8GB DDR4 bus 2400 แต่สามารถใช้ได้จริงเพียง 5.94GB

คราวนี้ทดสอบ SSD m.2 ตัวเครื่องกันบ้าง ซึ่งตัวเครื่องให้มาขนาด 512GB แต่โปรแกรมมองเห็นเป็นขนาด 276GB ซะอย่างงั้น (ใช้ได้จริง 476GB) ทดสอบแล้วได้ค่าความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 1645 MB/s และเขียนอยู่ที่ 877 MB/s ถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ตามมาตรฐาน PCIe

ถัดมาดูที่ผลทดสอบ Cinebench R20 ที่เป็นโปรแกรมไว้ทดสอบประสิทธิภาพซีพียูโดยเจ้า AMD Ryzen 7 3750H ได้ คะแนนอยู่ที่ 1681 คะแนนด้วยกัน และเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ผลเป็นดังนี้

  • Ryzen 7 4800HS ได้คะแนน 3864 แรงกว่าราว 130%
  • Intel Core i5-9300H ได้คะแนน 1755 แรงกว่าราว 5%

สำหรับการทดสอบเล่นเกมทีมงานจะใช้ทั้งหมด 3 เกมหลักๆ คือ PUBG, GTA V และ DOTA 2 ซึ่งปรับความละเอียดเป็นแบบ Full HD ทั้งหมด โดยค่าเฉลี่ย FPS เกมต่างๆ ได้ออกมาดังนี้

  • PUBG ปรับ Medium : เฉลี่ย 60 / ต่ำสุด 27 / สูงสุด 76
  • GTA V ปรับ Very High : เฉลี่ย 83 / ต่ำสุด 63 / สูงสุด 103
  • DOTA 2 ปรับ High : เฉลี่ย 68 / ต่ำสุด 48 / สูงสุด 91

หลังจากที่เล่นเกมหนักๆ เสร็จมาดูที่อุณหภูมิตัวเครื่องกันบ้าง ซึ่งเจ้า Acer Nitro 5 เครื่องนี้ถือว่าทำได้ค่อนข้างน่าประทับใจเลยทีเดียว โดยหลังจากเบิร์นเทสหนักๆ มีอุณหภูมิซีพียูสูงสุดอยู่ที่ 85 องศา ส่วนการ์ดจอมีอุณหภูมิสูงสุดเพียง 67 องศาเท่านั้น ถือว่าเย็นมากเลยทีเดียว

ส่วนผลการทดสอบแบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อ WiFi ดู YouTube ปรับแสงราว 30% ปิดไฟคีย์บอร์ด ได้นานสูงสุดอยู่ที่ 5 ชั่วโมง 43 นาที ด้วยกัน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติทั่วไปของเกมมิ่งโน้ตบุ๊คครับ

อะแดปเตอร์ชาร์จตัวเครื่องขนาดค่อนข้างหนาและใหญ่ ถือมือหนึ่งเต็มๆ โดยสามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 135W ครับ

เพิ่มเติมทีมงานได้ทดสอบด้วยโปรแกรม PCmark 10 ที่ไว้วัดคะแนนการทำงานโดยรวมของเจ้า Acer Nitro 5 เครื่องนี้ด้วย ซึ่งได้คะแนนอยู่ที่ 3405 คะแนนด้วยกันครับ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ปกติ ทั่วไป

ปิดท้ายด้วยการทดสอบคาลิเบรทหน้าจอ โดยหน้าจอ 120Hz ของเจ้าเครื่องนี้มีขอบเขตสีอยู่ที่ 60% sRGB ด้วยกันครับ

การแกะอัปเกรด

ต้องบอกก่อนเลยว่าการแกะอัปเกรด Acer Ntiro 5 รุ่นนี้ค่อนข้างยากเลยทีเดียว ฝาล็อคแน่นมาก และต้องแกะออกมาตั้งฝาตะแกรงด้านหลังเครื่องด้วย ซึ่งหากแกะไม่เป็นมีโอกาสเกลียวหักหรือหลุดแตกได้ง่ายๆ ไม่แนะนำให้แกะอัปเกรดด้วยตัวเองหากไม่เชี่ยวชาญนะครับ สำหรับคนที่อยากลองอุปกรณ์ที่ใช้ก็มีเพียงไขควงแฉกกับบัตรแข็งๆ วิธีการแกะก็เหมือนเดิมคือไขน็อตออกให้หมด แล้วค่อยๆ ใช้บัตรแข็งเซาะออกจากด้านหลังครับผม

ด้านในตัวเครื่องจะเห็นว่าใช้ระบบระบายความร้อนเป็นพัดลม 2 ตัวแบบติดกัน ฮีทไปป์ 3 เส้น สำหรับการอัปเกรดสามารถใส่ Ram ได้ 2 Slot, ใส่ SSD m.2 ได้ 2 Slot (PCIe และ SATA) และสามารถใส่ SSD หรือ HDD 2.5 ได้อีกหนึ่งลูก ส่วนแบตเตอรี่ตัวเครื่องให้มาอยู่ที่ขนาด 3815 mAh ตามปกติมาตรฐานทั่วไป

โดยภายในกล่อง Acer Nitro 5 รุ่นนี้ได้ให้สายแปลงสำหรับใส่ HDD หรือ SSD ไว้ให้ด้วยไม่ต้องไปซื้อแยก และน็อตตัวเล็กไขล็อคกับ Box หรือล็อค SSD m.2 ก็ได้เช่นกัน ถือว่าทาง Acer ค่อนข้างใส่ใจรายละเอียดเผื่อคนซื้อมาอัปเกรดเพิ่มเติมดีเลยทีเดียวครับ

สรุป

จากการใช้งานโดยรวมทั้งหมด สำหรับเจ้า Acer Nitro 5 รหัส AN515-43-R0T3 ถือได้ว่าทำได้ดีกว่าที่คิดไว้ตอนแรกพวกสมควร ถึงแม้ว่าซีพียูจะเป็น Ryzen 7 3750H รุ่นเก่าที่ความแรงค่อนข้างแตกต่างจาก Ryzen 7 4800HS พอสมควรแต่ก็ยังสามารถเล่นเกมได้ลื่นๆ อยู่ เฉลี่ย FPS 60 ขึ้นไปพอไหว (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าด้วย) ที่รู้สึกเซอร์ไพรส์เลยคือสามารถเล่น GTA V ปรับ Very High ได้เฉลี่ย 80+ สบายๆ

สำหรับการใช้งานจอ 120Hz ก็ทำได้ลื่นไหล รู้สึกได้เลยว่าแตกต่างจากจอ 60Hz ปกติ ทั้งความสบายตาและเรื่องการฉีกขาดของภาพที่แทบจะไม่พบให้เห็นเลย ส่วนข้อสังเกตของเจ้าเครื่องนี้คือตัวซีพียูเรียกกิน Ram ค่อนข้างเยอะจากที่ตัวเครื่องให้ Ram มา 8GB ตามหลักควรใช้ได้จริงราวๆ 7.5GB+ แต่รุ่นนี้จะใช้ได้ราวๆ เพียง 5.94GB เท่านั้น แนะนำว่าควรใส่ Ram เพิ่มไปอีก 8GB จะดีมาก

ข้อดี

  • สเปคเทียบกับราคาที่จ่ายโดยรวมถือว่าให้มาค่อนข้างครบทั้ง Ryzen 7 3750H + GTX 1650 + จอ 120Hz + SSD m.2 PCIe 512GB
  • ระบบจัดการความร้อนทำได้ดีมาก
  • ปุ่มคีย์บอร์ดนุ่มมือ เสียงไม่ดังจนเกินไป
  • คีย์บอร์ดยังคงมี Numpad มาให้
  • การอัปเกรดให้สามารถใส่ SSD m.2 ได้ 2 Slot, SSD หรือ HDD 2.5 และ Ram มี 2 Slot
  • ภายในกล่องมีสายแปลงใส่ HDD 2.5 หรือ SSD มาให้เลย พร้อมน็อตตัวเล็กอีก 4 อัน
  • ประกันเยอะให้มาถึง 3 ปี แบบ Onsite Service

ข้อสังเกต

  • ตัวซีพียูกิน Ram ค่อนข้างเยอะ จาก 8GB ใช้ได้ 5.94GB
  • การแกะอัปเกรดค่อนข้างยาก สลักฝาหลังล็อคแน่นมาก