ทุกวันนี้ การจะเลือกซื้อ Smartphone สักเครื่อง สำหรับคนกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นที่สุดก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แล้วพอจะหาข้อมูลเปรียบเทียบในอินเตอร์เนต เราก็มักจะเจอกับข้อมูลข้างเดียว คือไม่ได้ทดสอบแบบเปรียบเทียบ หรือถ้าเจอข้อมูลแบบเปรียบเทียบ ก็อาจจะไม่ละเอียดตรงใจเท่าไหร่นัก
ครั้งนี้เลยขอทดสอบเปรียบเทียบจับเอา iPhone 6 Plus, Samsung Galaxy Note 4 และ Sony Xperia Z3 สามรุ่นเรือธงยอดนิยม จากฝั่ง Android และ iOS มาปะทะกันซึ่งๆหน้าในแบบที่คิดว่าละเอียดครอบคลุมในทุกด้านให้มากที่สุด ให้คะแนนชี้วัดกับไปเลยว่าตัวไหนดีกว่า โดยผมจะทดสอบแบ่งเป็น 6 ส่วน ดังนี้
1.ความเร็ว – ในหัวข้อนี้ผมจะทดสอบโดยใช้ 3DMark, GFXBench และ Geekbench 3 ครับ
2.หน้าจอ – ในหัวข้อนี้ ผมจะมีนักถ่ายภาพมือรางวัลระดับโลกมาเป็นคนตัดสินเรื่องสีของจอนะครับ โดยใช้รูปที่ได้รางวัล รวมไปถึงรูปอื่นๆทั้งสีและขาวดำ แล้วเอามาเปิดดูบนจอ แล้วเทียบกันว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน
3.เสียงจากหูฟัง – ในหัวข้อนี้ ผมจะมีผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการเครื่องเสียงรถยนต์ โดยได้รางวัลแชมป์โลกเรื่องคุณภาพเสียงมาแล้ว และยังเป็นถึงผู้ตัดสินเกี่ยวกับเครื่องเสียงรถยนต์ในระดับเอเชีย มาช่วยตัดสินคุณภาพเสียงของ Smartphone เวลาเสียบหูฟังที่มากับโทรศัพท์รุ่นนั้นๆ รวมไปถึงเวลาใช้หูฟังระดับเทพแล้วเสียงจะเป็นยังไงด้วย แล้วในหัวข้อนี้ผมจะมีโทรศัพท์ที่ขึ้นชื่อว่าเน้นคุณภาพเสียงมาร่วมทดสอบด้วย นั่นก็คือ Vivo XPlay 3S มาเพื่อเป็นตัวเปรียบเทียบอีกตัวนึง
4.คุณภาพเสียงโทรศัพท์ – ในหัวข้อนี้ ผมจะเอาโทรศัพท์เข้าห้องอัดเสียงเพื่อควบคุมเสียงรอบข้างและใช้ไมค์คุณภาพสูงเพื่อจับเสียงและวัดความดังของโทรศัพท์ทั้งด้านลำโพงและด้านไมค์เวลาคุยโทรศัพท์ แล้ววัดกันไปเลยว่าใครจะเสียงจะดังฟังชัดกว่ากัน
5.คุณภาพกล้อง – ในหัวข้อนี้ ผมจะถ่ายภาพในหลายๆสภาพแสง แล้วมาวัดกันว่าใครจะดีกว่ากัน ทั้งเรื่องสีสัน ความคมชัด โดยในหัวข้อนี้ผมจะมี Oppo Find 7 มาร่วมทดสอบด้วย เนื่องจากตัว Find 7 ผมเคยทดสอบแล้วถือได้ว่าเป็นตัวอ้างอิงได้ตัวนึง เพื่อผู้อ่านจะได้เห็นภาพเปรียบเทียบกับตัวอื่นแบบคร่าวๆได้
6.แบตเตอรี่ – ในหัวข้อนี้ ผมทดสอบโดยการใช้งานจริงพร้อมๆกัน ทำทุกอย่างเหมือนๆกันในหลายๆด้าน ตั้งแต่ชาร์จแบตเต็ม จนแบตหมดจนเครื่องดับไปเอง
ก่อนอื่นมาเริ่มกันด้วยคุณสมบัติของเครื่องกับรูปเปรียบเทียบเครื่องกันก่อนนะครับ
เปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy Note 4 vs Apple iPhone 6 Plus vs Sony Xperia Z3
* ขอบคุณข้อมูลจากเวป www.phonearena.com
ทีนี้มาดูรูปเปรียบเทียบกันครับ
เอาล่ะครับ ทีนี้ก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า
1.ความเร็ว
ผมจะใช้โปรแกรมทั้งหมด 3 ตัวในการทดสอบความเร็ว มาเริ่มที่ตัวแรก 3DMark
โปรแกรมตัวนี้ ทางบริษัท Futuremark บอกว่าเอาไว้สำหรับทดสอบข้ามระบบได้ นั่นก็คือทดสอบทั้ง iOS และ Android ทดสอบที่ความละเอียด 720p และเอาคะแนนมาเทียบกัน มาดูคะแนนกันเลยครับ
เราจะมาดูที่คะแนนแยก จะเห็นว่าคะแนน Graphics ของ iPhone ทำได้ดีที่สุด ส่วนคะแนนด้าน Physics ของ Note 4 ทำได้ดีกว่าเยอะ ส่วน iPhone ได้คะแนนน้อยที่สุด ซึ่งคะแนนรวมก็ออกมาก็เป็นอย่างที่เห็นนะครับ
ส่วนคะแนนแยกส่วนแบบละเอียด สามารถดูได้ที่ 3D Mark Result : iPhone 6 vs Galaxy Note 4 vs Xperia Z3
ต่อมาโปรแกรมที่สอง Geekbench ตัวนี้เอาไว้ทดสอบความเร็วด้าน CPU มาดูคะแนนกันครับ
จะเห็นได้ว่าถ้าดูคะแนนแบบหนึ่ง Core ของ iPhone 6 Plus จะคะแนนนำห่างพอสมควร แต่ถ้าดูแบบหลาย Core ทีนี้ Note 4 จะทิ้งห่างพอสมควรเช่นกัน แต่ Z3 กับ iPhone 6 Plus คะแนนส่วนนี้จะสูสีกัน
คะแนนแยกส่วนแบบละเอียด สามารถดูได้ที่ Geekbench Result : iPhone 6 vs Galaxy Note 4 vs Xperia Z3
มาต่อกันที่โปรแกรมที่สาม GFXBench ตัวนี้เอาไว้ทดสอบพลังของ Graphics Processor โดยเฉพาะ โดยจะแบ่งหลักๆดังนี้
1. Manhattan – หัวข้อนี้จะทดสอบการประมวลผลภาพชั้นสูง โดยจะใช้ OpenGL ES 3.0 และจะนับเป็น Framerate
2. 1080p Manhattan Offscreen – หัวข้อนี้ก็เหมือนกันข้อ 1 แต่จะต่างกันตรงที่ข้อ 1 จะมีผลมากถ้าความละเอียดหน้าจอแตกต่างกัน เพราะยิ่งหน้าจอละเอียด ก็จะยิ่งได้คะแนนน้อย เพราะคะแนนนับจาก Framerate ดังนั้นหัวข้อนี้จะคำนวณคะแนนที่ความละเอียด FullHD เท่ากัน โดยจะไม่แสดงผลออกมาจริงๆ แต่จะนับจากภายในโปรแกรมเอง
3. T-Rex – หัวข้อนี้ แทนที่จะใช้ OpenGL ES 3.0 ก็จะใช้แค่ OpenGL ES 2.0 แต่ก็ถือว่ามีความซับซ้อนในระดับสูงเช่นกัน และจะนับคะแนนเป็น Framerate เหมือนกันด้วย
4. 1080p T-Rex Offscreen – หัวข้อนี้ก็เหมือนกับข้อ 3 แต่คำนวณที่ความละเอียด Full HD และคำนวณแบบภายในเหมือนกับข้อ 2
เอาล่ะครับ มาดูคะแนนกันเลย
จะเห็นว่าพลังทางด้าน Graphics ของ iPhone 6 Plus ทำได้ดีกว่าเยอะมาก และความละเอียดระดับ QHD ของ Note 4 ทำให้คะแนนตกลงพอสมควร
และสำหรับคะแนนแยกส่วน ไปดูกันต่อเลยครับ GFXBench Result : iPhone 6 vs Galaxy Note 4 vs Xperia Z3
ทีนี้มาสรุปคะแนนด้านความเร็วกันนะครับ
อันดับหนึ่ง iPhone 6 Plus ได้ 9.5 คะแนน เพราะพลังทางด้าน Graphics จริงๆที่ทำให้คะแนนมาเป็นอันดับหนึ่ง ทิ้งห่างคู่แข่งไม่ใช่น้อย ส่วนคะแนนด้านอื่นๆก็ไม่หนีกันมาก ผลัดกันแพ้ชนะนิดๆหน่อยๆ (ยกเว้นคะแนน Physics ของ Note 4 ที่ห่างกันอยู่) แต่ถึงยังไงก็ตามทาง iPhone 6 ไม่ทันครับ
อันดับสอง Samsung Galaxy Note 4 ได้ 9 คะแนน แพ้เพราะคะแนนทางด้าน Graphics จริงๆครับ
อันดับสาม Sony Xperia Z3 ได้ 8.8 คะแนน แพ้ Note 4 ไปฉิวเฉียดเพราะคะแนน Physics กับคะแนน Multicore ครับ ถึงจะตีตื้นขึ้นมาจาก T-Rex ได้บ้าง แต่ก็ไม่ทันครับ
2.หน้าจอ
ในหัวข้อนี้ ผมได้เชิญนักถ่ายภาพมือรางวัล ที่ไปกวาดแชมป์ระดับโลกมาเป็นผู้ตัดสินเรื่องคุณภาพสีของหน้าจอ โดยท่านผู้นี้คือ คุณทวีพงษ์ ประทุมวงษ์ ช่างภาพสตรีทจากกลุ่ม Street Photo Thailand [รางวัลและผลงาน]
คอมเม้นท์จากคุณทวีพงษ์ ต่อหน้าจอทั้ง 3 เครื่อง
“ก่อนอื่นเลยผมขอบอกก่อนว่าในการทำงานของผม ผมจะใช้จอ Apple Cinema Display 30″ ที่ Calibrate สีของหน้าจอแล้ว เป็นจอหลักในการทำงานของผมทั้งหมด ดังนั้นผลของของการเปรียบเทียบสีครั้งนี้ก็พอจะพูดได้ว่าผลของมันจะอ้างอิงกับหน้าจอนี้เป็นหลักนะครับ
วิธีเปรียบเทียบของผม ผมจะ copy รูปของผมประมาณ 20 รูปลงไปในโทรศัพท์ มีทั้งรูปสีและรูปขาวดำ ซึ่งผมจะคุ้นเคยกับรูปพวกนี้มาก ดังนั้นผมจะตัดสินได้ง่ายถ้าสีของมันผิดไปจากที่ผมคุ้นเคยนะครับ สภาพแสงตอนที่ผมดูตัดสินในครั้งนี้ จะเป็นแสงของดวงอาทิตย์ที่ผ่านเข้ามาจากริมหน้าต่าง แล้วตอนทดสอบกลางแจ้งก็ดูผ่านแสงทิตย์โดยตรงครับ“
มาดูผลกันเลยครับ วิธีการรีวิวของผมจะใช้วิธีเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังนะครับ อยากให้อ่านจนจบ เพราะผมจะไม่ได้แยกเป็นหัวข้ออะไร แต่จะมีสรุปสุดท้ายให้นะครับ
“รูปแรกเป็นรูปที่มีสีของจีวรพระเป็นสีหลัก และรูปนี้จะมีโทนมืดอยู่ค่อนข้างมาก แวปแรกที่ดูภาพนี้กับ Note 4 ความรู้สึกแรกที่แล่นเข้ามาในหัวคือสีสดสะท้อนแสงมาก ผมบอกคุณเบ็นเลยว่าอันนี้สดเกินไปมาก ซึ่งคุณเบ็นก็บอกมาว่าเครื่องนี้สามารถปรับโหมดสีของจอภาพได้ ผมเลยให้คุณเบ็นลองปรับโหมดสีเป็นโหมดอื่น คุณเบ็นก็ปรับโหมดต่างๆ เปรียบเทียบให้ผมดู สุดท้ายผมชอบมากกับโหมด Basic ซึ่งสีที่ได้ในแวปแรกที่ดูในโหมดสีนี้ถึงขั้นทำให้ผมสตั้นไปประมาณ 5 วินาที เพราะมันสุดยอด.. ผมถึงขั้นชอบมากในโหมดนี้ สีที่ได้ตรงตามจริง และคอนทราสของภาพ โดยเฉพาะในโทนมืด ทำออกมาได้ไม่มีที่ติ และความคมชัดของภาพก็สุดยอดมากๆ ซึ่งตรงนี้คุณเบ็นบอกว่าโปรแกรมดูภาพของ Samsung เองจะมีการเร่งความคมของภาพนิดหน่อย ผมก็เลยดูภาพเดียวกันเทียบโดยใช้โปรแกรมของ Samsung เอง กับโปรแกรม Photo ของ Google ซึ่งพอเทียบกันแล้ว เลยรู้ว่าโปรแกรมดูภาพของ Note 4 มีการเร่งความคมขึ้นมาจริงๆ เวลาดูภาพทั่วไปจะรู้สึกว่าคมชัดดี แต่พอดูภาพที่มีรายละเอียดมากๆจะรู้สึกได้ว่าภาพมีการเร่งความคมขึ้นมามากไปนิดนึง แต่เรื่องเร่งความคมนี้โดยรวมผมชอบนะ เพราะเวลาดูภาพจะรู้สึกว่ามันคมชัดดี ถ้าไม่ได้ไปเพ่งอะไรมากถือว่า Note 4 แอบเร่งความคมได้เนียนดี เอาล่ะ จาก Note 4 ผมก็มาดูภาพจาก iPhone 6 Plus บ้าง ซึ่งสีที่ออกมานั้นผมชอบเลย เพราะผมค่อนข้างคุ้นเคยกับสีแบบนี้ เพราะใกล้เคียงกับจอที่ผมใช้งานอยู่ แต่คอนทราสของภาพยังสู้ Note 4 ไม่ได้ แล้วคมคมชัดของภาพก็ยังสู้ Note 4 ไม่ได้เหมือนกัน ทีนี้มาดู Sony Xperia Z3 กันบ้าง แวปแรกที่ดูคือ โอ้วว ทำไมมันอมฟ้าขนาดนี้ คุณเบ็นก็เลยปรับโหมดให้ดูอีกโหมดนึง ก็ยังคล้ายๆเดิม คุณเบ็นก็บอกว่ามันสามารถปรับสีหน้าจอได้ตามใจ ซึ่งก็ลองแล้ว ยังไงสีขาวมันก็ยังมีโทนอมฟ้า บอกตามตรง ผมค่อนข้างรับไม่ได้กับสีแบบนี้ ผมเลยถามความเห็นคุณเบ็น ซึ่งคุณเบ็นก็บอกเหมือนกับผม แล้วคุณเบ็นได้บอกว่าเครื่องนี้เป็นเครื่องที่ 3 แล้ว ก่อนหน้านี้ 2 เครื่องก็เป็นแบบนี้ พยายามเปลี่ยนเครื่องเผื่อว่าจะดีขึ้น แต่ก็เหมือนเดิม พอบอกแบบนี้ผมก็เลยเอา Z3 มาดูรูปอื่นๆก่อนว่าเป็นยังไง ผมก็ได้ดูรูปสีอีกหลายๆรูป แล้วก็รูปขาวดำอีกหลายๆรูป สรุปว่าสีมันอมฟ้ามาก ผมเลยวางมันลงไปอย่างแผ่วเบาบนเก้าอี้ผ้าอันนุ่มนวลแล้วก็บอกคุณเบ็นว่าเอาเก็บไปได้เลย ไม่ต้องเทียบอะไรกับอีก 2 ตัวนั้น คุณเบ็นก็หัวเราะแล้วก็เก็บไป“
“มาต่อกันที่รูปสีรูปอื่นๆ ซึ่งดูไปดูมา ประมาณครึ่งนึงที่ผมชอบภาพจาก Note 4 มากกว่า แล้วอีกครึ่งผมชอบ iPhone มากกว่า ถึงตอนนี้ผมพอจะรู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทั้งที่จริงๆ Note 4 มีคอนทราสภาพที่ดีมากๆ สีแต่ละสีที่ออกมาก็ตรงมาก แต่ทำไมหลายๆภาพผมถึงรู้สึกว่าสู้ iPhone ไม่ได้ ซึ่งความเข้าใจทั้งหมดไขกระจ่างตอนที่ได้มาดูภาพขาวดำนี่เอง ภาพขาวดำของ Note 4 สู้ทาง iPhone ไม่ได้เลย โทนสีขาวดำของจอ iPhone ตรงมาก แต่โทนสีขาวดำของจอ Note 4 ออกไปทางโทนเขียวนิดๆ ซึ่งชีวิตการถ่ายภาพของผมจะคลุกคลีกับการถ่ายภาพขาวดำมาตลอด ดังนั้นตาผมจะไวกับโทนสีขาวดำเป็นพิเศษ ถ้ามีเพี้ยนไปผมจะรู้สึกได้ไม่ยาก นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมภาพสีหลายๆภาพถึงสู้ iPhone ไม่ได้ เพราะภาพสีหลายๆภาพที่มีโทนสีขาวดำเทาเป็นส่วนประกอบอยู่เยอะ จะออกเพี้ยนไปทางเขียวนิดๆ เลยเป็นผลทำให้ภาพเหล่านั้นสู้ iPhone ไม่ได้“
“อีกจุดนึงที่อยากจะพูดถึงก็คือจอของ Note 4 เวลาดูเอียงนิดๆแล้วสีจะเพี้ยนไปทางโทนเขียวมากขึ้น ถ้าจอของ Note 4 แก้ไขเรื่องโทนสีขาวดำได้ แล้วถ้าแก้เรื่องมองเอียงนิดๆแล้วเพี้ยนได้อีกหน่อย มันจะเป็นจอที่สุดยอดไม่มีที่ติเลย เพราะเรื่องคอนทราสโดนเด่นมากๆและเรื่องสีที่แสดงออกมาได้ตรงมากๆอีก“
“ทีนี้ก็มาดูเรื่องกลางแจ้งกันบ้าง ซึ่งคุณเบ็นก็หยิบ Z3 มาให้ผมอีกรอบ จริงๆก็ไม่อยากจะดูเท่าไหร่ แต่คุณเบ็นก็ยืนยันว่าต้องดู ผมก็เอามาเปิดดู แวปแรกที่เห็น ผมพูดเลยว่าเฮ้ย ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับ คือมันดีกว่าที่คิด เพราะจอมันสว่างดีมาก สู้แสงได้ดี โทนสีที่มันอมฟ้าจะมองไม่ค่อยออกแล้ว เพราะแสงแดดมันแรงมาก ก็ทำให้ผมรู้สึกดีกับจอ Z3 ขึ้นมาบ้าง ทีนี้พอมาดูเทียบจอ iPhone กับ Note 4 ผมว่า เรื่องความสว่างดูแล้วไม่หนีกันมาก ส่วนเรื่อง contrast พอมาดูกลางแจ้งแล้ว ผมกลับรู้สึกว่าจอของ iPhone ทำได้ดีกว่า สีสันก็มีความถูกต้องมากกว่า ทีนี้คุณเบ็นบอกว่า Note 4 มันมีโหมดหน้าจอที่สามารถปรับแสงแดดให้สู้แสงได้แบบอัตโนมัติ แต่ผมดูแล้วโหมดสีสดแบบนั้นผมขอบาย ไม่ใช้มันดีกว่า“
ทีนี้มาถึงช่วงให้คะแนนแล้ว คุณเบ็นยืนยันว่าต้องให้คะแนน ผมก็ขอสรุปคะแนนให้ตามนี้
อันดับหนึ่ง iPhone 6 Plus ได้ 9.5 คะแนน (เต็ม 10) โดยรวมแล้วแทบจะไม่มีที่ติ มีเพียงแต่คอนทราสของภาพที่ยังสู้ Note 4 ไม่ได้ และความถูกต้องของสียังไม่อยู่ในจุดที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ใกล้เคียงมากๆแล้ว แล้วความสว่างสู้แสงก็ทำได้ดีที่สุด สียังดูดีแม้จะอยู่กลางแจ้ง
อันดับสอง Samsung Galaxy Note 4 ได้ 9 คะแนน ผมให้คะแนนในโหมด Basic ที่จะได้คะแนนเยอะกว่าโหมดสีอื่น จุดเด่นคือคอนทราสของภาพที่สมบูรณ์แบบ และความเที่ยงตรงของสีที่ตรงมาก และโปรแกรมดูภาพของ Samsung เองที่แอบเร่งความคมมาได้ในระดับที่ไม่น่าเกลียด แต่ปัญหาหลักคือโทนสีขาวดำที่จะอมไปทางเขียวนิดๆ ทำให้การดูภาพโดยรวมที่มีโทนสีขาวดำในภาพออกไปทางเพี้ยน ส่วนเรื่องสู้แสงถือว่าทำได้ดี แต่ความถูกต้องของสียังสู้ iPhone 6 Plus ไม่ได้อยู่ดี อีกจุดนึงคือเวลามองเอียงๆหน่อย โทนสีจะเพี้ยนไปทางอมเขียมมากขึ้นด้วย
อันดับสาม Sony Xperia Z3 ได้ 8 คะแนน โดยรวมถือว่าทำได้ดี ยกเว้นเรื่องเดียวคือโทนสีอมไปทางฟ้ามาก ไม่ใช่ว่าสีขาวออกไปทางโทนเย็นนะครับ แต่น่าจะมาจากแสง backlight เลย ที่เป็นต้นเหตุของการเพี้ยนทั้งหมด ถ้าแก้ได้น่าจะดีกว่านี้เยอะ
3.เสียงจากหูฟัง
หัวข้อนี้ผมได้เชิญผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสียงมาเป็นผู้ตัดสินในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ท่านนี้ก็คือ คุณ รวีโรจน์ องค์ศิริวัฒนา เป็นเจ้าของร้าน Mirage Car Audio เคยทำรถเข้าแข่งขันคุณภาพเสียงชิงแชมป์โลกที่ประเทศอเมริกาแล้วได้แชมป์โลกมาแล้ว 2 รางวัล แล้วยังได้รางวัลชนะเลิศเรื่องคุณภาพเสียงในระดับอื่นๆมาอีกเป็นร้อยๆ รางวัล ปัจจุบันเป็นผู้ตัดสินเรื่องคุณภาพเสียงในระดับเอเชีย
โดยในรอบนี้ จะใช้วิธีการการตัดสินโดยคุณรวีโรจน์จะ copy เพลงที่ใช้ตัดสินเป็นประจำเข้าไปในโทรศัพท์ และจะมีการตัดสินสองรอบ โดยรอบแรกจะใช้หูฟังที่มากับเครื่อง แล้วรอบที่สองจะตัดสินโดยใช้หูฟังคุณภาพสูงอย่าง Westone W60 มาตัดสินกันอีกรอบ แล้วพิเศษของหัวข้อนี้ จะมีโทรศัพท์ที่ขึ้นชื่อว่าเสียงดีมาร่วมตัดสินด้วย นั่นก็คือ Vivo Xplay 3S ที่ใช้ชิปเสียง ES9018 ที่ขึ้นชื่อว่าเสียงดีมากที่สุดตัวหนึ่ง
มาเริ่มกันเลยครับ รอบแรก เริ่มฟังโดยใช้หูฟังที่มากับโทรศัพท์ ผมจะยังไม่เรียงลำดับคะแนนแต่จะเรียงลำดับการฟังนะครับ
1. iPhone 6 Plus – เสียงที่ได้ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ย่านเสียงกลางและเสียงแหลมมีความชัดเจน แต่เบสย่านลึกยังถือว่าขาดไปหน่อย แต่ก็ถือว่าไม่ได้ขาดมากจนเสียอารมณ์ บรรยากาศถือว่าพอใช้ได้
2. Samsung Galaxy Note 4 – แนวเสียงถือว่าคล้ายๆกับ iPhone แต่เสียงที่ได้มีความครบเครื่องมากกว่า เพราะเสียงเบสมีน้ำหนักมากกว่า iPhone แต่เสียงย่านกลางแหลมมีความหยาบกว่า iPhone เล็กน้อย
3. Sony Xperia Z3 – เสียงจะออกไปทางบาง ขาดเบสย่านลึก และเสียงกลางก็ออกบางด้วยเช่นกัน
4. Vivo Xplay 3s – เสียงออกมาครบเครื่อง มีความลื่นไหลกว่าทุกตัว รายละเอียดก็มาครบกว่าเช่นกัน บรรยากาศก็ดีกว่าและเสียงที่ออกมายังชัดเจนอีกด้วย แต่ย่านเบสลึกๆยังน้อยกว่า Note 4 นิดๆ คือน้อยกว่านิดเดียวจริงๆ
ทีนี้มาต่อกันรอบสองเลย โดยจะใช้หูฟัง Westone W60 เป็นตัวตัดสิน
1. iPhone 6 Plus – เสียงที่ได้มีความสมดุล เสียงนักร้องชัดเจน เสียงแหลมมีรายละเอียดที่ดี เสียงเบสถือว่าโอเค แต่เบสย่านลึกน้อยไปนิด
2. Samsung Galaxy Note 4 – เสียงเบสย่านลึกเยอะและเสียงมิดเบสมีความชัดเจนกว่า iPhone แต่เสียงกลางจมกว่า iPhone และเสียงแหลมมีความสดชัด
3. Sony Xperia Z3 – เสียงเบสย่านลึกน้อย และมิติเวทีทำได้ไม่ค่อยดี แบนเป็นแนวราบกว่าตัวอื่นๆ เสียงมิดเบสก็ไม่ชัด แล้วเสียงแหลมก็ไม่ค่อยมีละออง ยังดีที่เสียงกลางยังมีเนื้อเสียงที่โอเคอยู่
4. Vivo Xplay 3s – เสียงเบสย่านลึกมีความพอดีที่สุด เสียงมิดเบสดีถึงจะชัดน้อยกว่า Note 4 ไปนิดนึงก็ตาม แต่นอกนั้นดีกว่าตัวอื่นหมด เสียงกลางสะอาด มิติของเสียงก็ดีกว่าทุกตัว เสียงแหลมก็มีรายละเอียดที่ดีกว่าทุกตัวและมีละอองเสียงแหลมที่ดีกว่าทุกตัวเช่นกัน
เอาล่ะครับ ทีนี้มาถึงตอนให้คะแนนกันแล้ว ตอนแรกกะว่าจะให้คะแนนแยกกันระหว่างรอบแรกและรอบสอง แต่ผลสุดท้ายลำดับก็เหมือนกันในทั้งสองรอบ ก็เลยสรุปรวบยอดมาเลยละกันครับ
อันดับหนึ่ง Vivo Xplay 3s ได้ 9.5 คะแนน ถือว่าทำได้ดีกว่าตัวอื่นแบบรู้สึกได้ไม่ยากนัก แทบจะเรียกได้กว่าดีกว่าทุกอย่าง คุณภาพเสียงของมันถือว่าสอบผ่านสบายๆ ถึงเสียงของมันจะยังดีสู้เครื่องเล่นดีๆไม่ได้ก็ตาม แต่นั่นก็แพงกว่าเยอะเลยทีเดียว
อันดับสอง มีคะแนนเท่ากันสองรุ่น นั่นคือ Samsung Galaxy Note 4 และ iPhone 6 Plus ได้ 9 คะแนน ถือว่าทั้งสองตัวนี้ดีกันคนละด้าน โดยฝั่ง Note 4 ทำได้ดีมากๆในย่านเสียงเบส ส่วน iPhone 6 Plus ทำได้ดีกว่าในย่านเสียงกลางแหลม นอกนั้นก็ถือว่าทำได้ดีพอๆกัน
อันดับสี่ Sony Xperia Z3 ได้ 8.5 คะแนน ถือว่าทำได้ไม่ดีเท่าตัวอื่น คือสรุปว่าด้อยกว่าตัวอื่นแทบจะทุกด้านเลยทีเดียว
ในหัวข้อนี้ ผมได้เอาโทรศัพท์ไปเข้าห้องอัดเสียง แล้วใช้ไมค์คุณภาพสูงอัดเสียงจากลำโพงของโทรศัพท์ตอนคุยโทรศัพท์ ซึ่งวิธีที่ผมทำมีดังนี้
1. เพื่อลดปัญหาเครือข่ายที่ต่างกัน ผมใช้ซิมอันเดียวในการทดสอบทั้งหมด
2. นำโทรศัพท์ที่จะทดสอบเข้าห้องอัด และจะยึดให้แน่นกับขาตั้ง แล้วใช้ไมค์คุณภาพสูงจ่อติดกับลำโพงที่ใช้คุยของโทรศัพท์
3. การโทรเข้าไปที่โทรศัพท์ จะใช้โทรศัพท์บ้านโทรเข้าไป แล้วทดสอบ เสร็จแล้ววางสาย แล้วโทรเข้าไปทดสอบใหม่ จะทำทั้งหมด 3 รอบต่อหนึ่งเครื่อง แล้วเลือกครั้งที่ดีที่สุด (ซึ่งสุดท้ายแล้วทั้งสามครั้งแทบไม่ต่างกัน)
4. เพื่อควบคุมเสียงพูดให้เท่ากันทุกครั้ง เสียงพูดที่ใช้ทดสอบจะเป็นเสียงพูดที่อัดไว้แล้ว เล่นผ่านลำโพงที่ระดับความดังเท่ากัน แล้วเอาโทรศัพท์บ้านจ่อลำโพงที่จุดเดียวกันเป๊ะ
5. การทดสอบไมค์ในการพูดโทรศัพท์ จะทำสลับกัน คือจะเอาโทรศัพท์บ้านเข้าไปในห้องอัด แล้วใช้ไมค์อัดเสียงจ่อที่ลำโพงของโทรศัพท์บ้าน และเอาโทรศัพท์ที่จะทดสอบออกมาพูดโดยใช้เสียงที่อัดไว้แล้วเหมือนเดิมในข้อ 4
เสียงที่อัดไว้ทั้งหมด จะเอามาวิเคราะห์เสียงด้วย Software เฉพาะทางโดยเฉพาะ
มาดูผลกันครับ
ดูกราฟนี้อาจจะงง เพราะจะสลับกับแบบอื่น คือกราฟนี้จะวัดจากเสียงที่ดังที่สุดเป็น 0 และเสียงที่เบากว่าก็จะติดลบ ว่าเบากว่าเสียงที่ดังที่สุดกี่เดซิเบล แล้วบางช่องจะเหมือนไม่มีตัวเลข เพราะเป็นตัวเลขศูนย์ครับ (ได้เลขศูนย์คือดังที่สุด)
มาวิเคราะห์ผลกันครับ
เสียงลำโพงจากโทรศัพท์เวลาคุยโทรศัพท์ (ลำโพงที่ช่องหูโทรศัพท์ ที่เราจะได้ยินเสียงฝั่งตรงข้าม) ของทาง Sony Xperia Z3 ทำได้ดีที่สุด เสียงดัง ฟังชัด ใสเคลียร์ ส่วน Note 4 ทำได้ดีรองลงมา คือเบากว่าทาง Z3 ประมาณ 2.2 เดซิเบล แล้วเสียงที่ได้ยินจะออกใส แต่เนื้อเสียงจะบางกว่าอีกสองตัว ส่วน iPhone 6 Plus เบากว่า Z3 ประมาณ 5.49 เดซิเบล แต่เสียงที่ได้มีความอิ่ม แต่ไม่ใสนัก
ทีนี้มาดูฝั่งไมค์บ้าง (วัดเสียงว่าปลายทางจะได้ยินเราดีแค่ไหน) ของทาง Samsung Galaxy Note 4 ทำได้ดีที่สุด เสียงที่ได้ชัดเจน ใสเคลียร์ ส่วน Z3 กับ iPhone 6 Plus จะเบาลงมาประมาณ 2.78 เดซิเบล แต่เสียงของทาง Z3 จะทำได้ชัดกว่าและเคลียร์กว่า iPhone 6 Plus อยู่พอสมควร
มาถึงการให้คะแนนนะครับ
อันดับหนึ่ง Sony Xperia Z3 ได้ 9.5 คะแนน เพราะคุณภาพเสียงลำโพงดีที่สุด ไม่ใช่แค่ดัง แต่เพราะคุณภาพเสียงคุยที่ทำได้ชัดใสเคลียร์กว่าจริงๆ และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเวลาคุยโทรศัพท์ครับ ส่วนฝั่งไมค์ก็ทำได้ดี คุณภาพเสียงดี ถึงจะเบากว่าทาง Note 4 แต่ก็ถือว่าไม่มาก และคุณภาพเสียงพอๆกัน
อันดับสอง Samsung Galaxy Note 4 ได้ 9.2 คะแนน เพราะคุณภาพเสียงลำโพงยังสู้ทาง Z3 ไม่ได้ ถึงจะเบากว่าไม่เยอะ แต่คุณภาพความชัดใสเคลียร์สู้ไม่ได้ครับ ของ Note 4 ออกไปทางใสแต่เนื้อเสียงพูดจะบางลงพอสมควร แต่ฝั่งไมค์ของ Note 4 ทำได้ดีที่สุด
อันดับสาม iPhone 6 Plus ได้ 8.8 คะแนน เพราะคุณภาพเสียงทั้งสองฝั่งทำได้แพ้ทั้งสองตัว แต่ถึงจะแพ้ก็ไม่ได้หมายความว่าเสียงโทรศัพท์ไม่ดีนะครับ เพียงแต่ดีไม่เท่าอีกสองตัวแค่นั้นเอง
5.คุณภาพกล้อง
ในหัวข้อนี้ ผมจะมี Oppo Find 7 เข้ามาร่วมด้วย เพราะผมเคยทดสอบ Oppo Find 7 อยู่หลายครั้ง คนที่อ่านจะได้มีจุดที่ให้อ้างอิงกับตัวอื่นๆด้วยนะครับ แล้วผมจะถ่ายโดยแบ่งออกเป็น 5 สภาพแสง โดยจะไล่จากแสงมากไปแสงน้อย รวมไปถึงกล้องหน้าดังนี้
1. กลางแจ้ง (มี 2 รูป)
2. กลางแจ้ง แต่อยู่ในร่ม (มี 2 รูป)
3. อยู่ในบ้าน ใช้แสงจากหลอดไฟ (มี 3 รูป)
4. อยู่ในบ้าน คุมแสงให้เหลือน้อยมาก (มี 2 รูป)
5. กล้องหน้า โดยถ่าย 2 รูป คือในบ้านแต่ใช้แสงริมหน้าต่าง และในบ้านใช้แสงจากหลอดไฟ
** ทุกรูปสามารถดูรูปขนาดเต็มได้ โดยการกดไปที่รูปเฟืองทางมุมขวาบน แล้วเลือก View Full Resolution นะครับ
*** ทุกภาพจะเรียงลำดับเป็น Oppo Find 7 – iPhone 6 Plus – Galaxy Note 4 – Xperia Z3
มาเริ่มจากแสงข้อหนึ่ง กลางแจ้ง
รูปนี้จะถ่ายใบไม้ ให้ดูรายละเอียดของใบไม้และสีสันของภาพนะครับ
มาต่อด้วยรูปกลางแจ้งรูปที่สอง
รูปนี้จะถ่ายให้ย้อนแสงเต็มที่ มาดูว่าตอนย้อนแสงแล้วจะทำได้ดีขนาดไหน
มาดูเรื่องสีสันของภาพกันก่อน โดยรวมแล้ว Oppo Find 7 กับ iPhone 6 Plus ทำได้ค่อนข้างดีกว่าตัวอื่น แต่ทั้งสองตัวนี้จะต่างกันในเรื่องโทนสี ทาง Find 7 จะเน้นให้คอนทราสเข้ม ส่วน iPhone เน้นให้คอนทราสต่ำกว่า แต่โทนสีจะออกไปในทางเดียวกัน ส่วน Note 4 และ Z3 เน้นภาพออกไปในโทนสว่างๆ แต่ Z3 สีจะออกไปทางโทนเย็นกว่าตัวอื่น
ส่วนเรื่องรายละเอียดของภาพ ถือว่า Note 4 ทำได้ดีมาก ดีไม่แพ้ทาง Z3 ที่ละเอียดกว่าด้วย แต่ภาพจากทั้ง Note 4 และ Z3 ดูมีการทำภาพเร่งความคมมาเลย โดยเฉพาะ Note 4 ที่เร่งความคมจนเรียกว่าขึ้นขอบเลย ไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก แต่ถือว่ารับได้ เพราะคนส่วนใหญ่คงจะชอบแบบนี้ ส่วนทาง Find 7 กับ iPhone เนื้อไฟล์จะธรรมชาติมากกว่า ดูเนียนตา แต่ก็เก็บรายละเอียดสู้ทาง Note 4 และ Z3 ไม่ได้
มาต่อที่สภาพแสงที่สอง กลางแจ้ง แต่อยู่ในร่ม
อันนี้ถ่ายให้ดูสีสันและรายละเอียดครับ
รูปแรก หมอน ให้ดูรายละเอียดเส้นด้ายและสีสันของด้าย รวมไปถึงการเก็บรายละเอียดในส่วนที่โดนแสงเต็มๆ ว่ายังเก็บรายละเอียดได้อยู่หรือไม่
มาต่อรูปที่สอง รูปนี้ไม่ต้องพูดเยอะ เดี๋ยวหิว
มาดูเรื่องสีสันของภาพนะครับ รูปหมอนถือว่า iPhone 6 Plus กับ Note 4 ทำได้ดี ส่วน Find 7 ก็ทำได้ดี แต่โทนสีออกไปในทางเย็นมากกว่าหน่อย ส่วน Z3 ก็ออกโทนเย็น แต่ว่าเย็นที่ขอบๆหมอน แต่กลางหมอนออกโทนอุ่น ซึ่งถ่ายมาหลายรูปก็เป็นทุกรูป ส่วนรูปที่สอง ของทาง Find 7 กับ iPhone 6 Plus ทำได้ดี ส่วนของ Note 4 ออกแดงไปหน่อย ส่วนของ Z3 ออกแดงปนม่วงด้วย
มาดูรายละเอียดของภาพ ของ Find 7 ถึงจะแค่ 13 ล้าน แต่ก็ทำได้ดีไม่แพ้ใคร นอกจากจะรายละเอียดครบแล้วยังธรรมชาติที่สุด ส่วน Note 4 ก็รายละเอียดดี แต่มีการเร่งความคมจนขึ้นขอบ ส่วน Z3 รูปหมอนจะไม่ค่อยดีมากนัก แต่รูปที่สองเก็บรายละเอียดได้ดี ส่วน iPhone 6 Plus แพ้ไปตามระเบียบ 8 ล้าน
มาต่อกันที่สภาพแสงที่สาม อยู่ในบ้านโดยใช้แสงจากหลอดไฟ
รูปแรก ดอกไม้ ให้ดูรายละเอียดและสีสัน
รูปที่สอง ตุ๊กตา หลักๆให้ดูรายละเอียดเส้นขนนะครับ
รูปที่สาม หลักๆให้ดูที่สีผิวนะครับ
แสงไฟในบ้านทั้งหมดจะเป็นแสง warm light นั่นก็คือไฟเหลืองนะครับ เรื่องสีสันของภาพ โดยรวมถือว่า Sony Xperia Z3 ทำได้ดีที่สุด ส่วน Note 4 ก็ทำได้ดี ยกเว้นรูปสุดท้ายที่สีผิวจะออกอมแดงไปหน่อย ส่วน iPhone 6 Plus ก็ทำได้ดีทุกรูปเช่นกัน แต่โทนสีจะเน้นออกไปทางคอนทราสต่ำ สีจืดไปหน่อย ส่วน Oppo Find 7 เน้นคอนทราส เลยทำให้แสงสีเหลืองจากหลอดไฟดูเข้มไปนิดนึง
เรื่องรายละเอียดของภาพ ของ Z3 ทำได้ดีที่สุด ส่วน Find 7 กับ Note 4 ถือว่าทำได้ดีพอๆกัน ส่วน iPhone 6 Plus ก็ทำได้ดีในระดับ 8 ล้าน แต่ก็สู้คู่แข่งที่ละเอียดกว่าไม่ได้นะครับ
มาต่อกันที่สภาพแสงที่สี่ แสงน้อย
รูปแรก ให้ดู Noise และสีสัน
รูปที่สอง ให้ดู Noise และรายละเอียด
มาดูเรื่องสีสันกันก่อน ถ้าเน้นความสมจริงๆก็ถือว่า Sony Xperia Z3 ทำได้ดีที่สุด สีแดงของเครื่องอัดเทปมาสเตอร์ออกมาเข้ม ถึงจะเข้มเกินไปนิดนึงก็ตาม ส่วน Oppo Find 7 ก็ให้สีที่สมจริง ส่วน iPhone 6 Plus สีจะออกจืดไปหน่อย ส่วน Note 4 เหมือนจะมีการปรับภาพให้เร่งความสว่างในโทนมืดขึ้นมามากเกินไปหน่อย สีที่ได้เลยดูเหลืองมากเกินจากที่ควรจะเป็นไปหน่อยและสีที่ควรจะแดงก็กลายเป็นสีส้ม
เรื่องรายละเอียดของภาพและ Noise ถือว่า Sony Xperia Z3 ทำได้ดีที่สุด ส่วน iPhone 6 Plus ก็ทำได้ดีมาก Noise น้อยมาก แต่รายละเอียดสู้ทาง Z3 ไม่ได้ ส่วน Note 4 มีการลด Noise ในภาพมาเยอะมาก ถึงจะ Noise ต่ำ แต่ก็ทำให้รายละเอียดต่างๆหายหมด ส่วน Find 7 มี Noise เยอะ และรายละเอียดก็ไม่ดีนัก ถ้าจะให้ดีก็ต้องใช้โหมด Slow Shutter ซึ่งต้องใช้ขาตั้งให้นิ่ง ทำให้ถ่ายลำบาก และแทบจะเป็นไม่ได้ที่จะใช้โหมดนี้โดยไม่มีขาตั้ง แต่ภาพก็จะกลายเป็นดีที่สุด
มาต่อกันที่กล้องหน้ากันบ้าง
รูปแรก แสงจากริมหน้าต่าง
รูปที่สอง แสงจากไฟในบ้าน ไฟ Warm White โทนเหลืองนะครับ
มาดูเรื่องสีกันก่อน สำหรับรูปแรก ของ Oppo Find 7 ออกมาดีที่สุด ส่วน Note 4 ก็ทำได้ดีมาก ถึงสีจะจืดไปนิดก็ตาม ส่วน iPhone 6 Plus เหมือนมีการปรับภาพ (ภาษาคนถ่ายภาพเรียกว่าเร่ง Clarity) ผลของมันก็คือทำให้รอยสิวดำๆบนใบหน้าที่จริงๆแล้วไม่เข้มนัก ออกมาเข้มเกินจริง ส่วน Z3 ก็แอบมีการปรับหน้าเนียน ทั้งๆที่ไม่ได้เปิดฟังชั่นปรับหน้าเนียน สำหรับรูปที่สอง ถือว่ายังไม่มีตัวไหนทำได้น่าพอใจ แต่ iPhone ออกมาดูดีที่สุด ส่วน Find 7 ก็ยังดูโอเค ถึงจะออกแดงมากไปก็ตาม ส่วน Note 4 ออกแดงม่วง และ Z3 ออกเหลืองเขียว
ทีนี้มาดูรายละเอียดจากกล้องหน้า โดยรวม Oppo Find 7 ดีที่สุด รองลงมาก็ Note 4 ส่วน iPhone 6 Plus กับ Z3 ทำได้พอๆกัน
มาถึงคะแนนสำหรับเรื่องกล้องแล้วนะครับ
มาดูคะแนนแยกในแต่ละหัวข้อตามนี้ครับ
ผมก็จะขอปัดเศษคิดคะแนนเป็นดังนี้นะครับ
อันดับหนึ่ง Oppo Find 7 ได้ 8.8 คะแนน
อันดับสอง Samsung Galaxy Note 8.7 คะแนน
อันดับสาม Sony Xperia Z3 ได้ 8.7 คะแนน (คะแนนเท่ากัน แต่ดูที่คะแนนก่อนปัดเศษได้น้อยกว่า)
อันดับสี่ iPhone 6 Plus ได้ 8.6 คะแนน
*** เนื่องการการรวมคะแนน จะเอาเรื่องความละเอียดมานับด้วย ซึ่งบางคนอาจจะไม่สนใจเรื่องความละเอียดเลย สนใจแต่เรื่องสีสันของภาพ อันดับจะเปลี่ยนกลายเป็น Z3 มาท้ายสุดทันทีนะครับ ที่เหลือสูสีครับ
มาต่อกันที่หัวข้อสุดท้าย แบตเตอรี่
รอบนี้ผมจะชาร์จโทรศัพท์ให้เต็มทุกตัว โดยใส่ซิมไว้ทุกเครื่อง เปิดใช้งานพร้อมกัน และปรับความสว่างหน้าจอแบบตั้งเอง โดยเทียบความสว่างด้วยสายตา โดยเปิดภาพสีขาว และปรับให้ได้ความสว่างที่เท่ากันมากที่สุด และใช้จนกว่าแบตจะหมดไปเอง เพราะผมเจอมาว่าเปอร์เซนต์แบตเตอรี่จะลดเร็วหรือลดช้าในแต่ละเครื่องจะไม่เท่ากัน บางเครื่องลดช้าในช่วงแรก และลดเร็วในช่วงหลัง หรือบางเครื่องอาจจะลดเร็วในช่วงแรก แต่ไปลดช้าในช่วงหลัง ดังนั้นเพื่อให้ดี ผมเลยทดสอบจนกว่าแบตจะหมด เครื่องดับไปเอง แล้วทุกเครื่องจะลงโปรแกรมไว้เหมือนกัน มีการใช้ Social Media และเมล์ ที่เหมือนกัน นั่นก็คือมีการ Login Facebook, Hangout (ที่คุยกันตลอดในกลุ่ม), Instagram, Twitter และ Gmail โดยจะไม่มีการใช้ Line เพราะควบคุมการเตือนให้เท่ากันเป๊ะๆได้ลำบาก จึงตัดทิ้งไป
มาเริ่มตอนเช้า ผมเปิดใช้ Wifi ที่บ้าน เปิดดู Youtube วีดีโอตัวเดียวกัน เปิดทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง พอผ่านไป 1 ชั่วโมง ผมก็มาดูเปอร์เซนต์แบตที่ยังเหลืออยู่ ของ Note 4 ยังเหลือ 89% ส่วนของ Z3 ยังเหลือ 91% แล้วที่ตกใจคือของ iPhone 6 Plus ยังเหลือ 97% กันเลย
ทีนี้ก็มาต่อกัน Combo ชุดใหญ่ ซึ่งตอนนี้ผมจะมีออกไปนอกบ้านด้วย ก็จะมีใช้ 3G อยู่เยอะพอสมควร แล้วผมก็ใช้งานต่างๆดังนี้
- เล่น Social Media ทั้งหลาย นานหลายชั่วโมง (ไม่ได้จับเวลาเป๊ะๆ แต่เล่นเท่ากันทุกเครื่อง)
- เล่นเกมส์ FIFA 15 นาน 45 นาที
- เปิดใช้งาน GPS ให้นำทาง โดยใช้ Google Maps นาน 30 นาที
- โทรศัพท์คุยกัน นาน 1 ชั่วโมง (โดยใช้โทรหากันเอง)
- ฟังเพลง แบบเสียบหูฟัง นาน 4 ชั่วโมง (โดยปรับเสียงในหูฟังให้ดังเท่ากัน และฟังเพลงเดียวกัน เล่นแบบวนเพลงเดียว)
ถึงตอนนี้ก็ดึกล่ะครับ ผมก็เปิดเครื่อง Standby ทิ้งเอาไว้ แล้วตั้งนาฬิกาปลุกตื่นมาดูทุกชั่วโมง ทุกเครื่องการสามารถรอดมาได้จนถึงเช้าอีกวันนะครับ จากนั้นผมก็เริ่มทดสอบต่อเลยดังนี้
- เล่นเกมส์ Leo Fortune นาน 45 นาที (ว่าง่ายๆเลย ก็คือเปิดเกมส์ทิ้งไว้นั่นแหละครับ)
- เล่น Social Media ทั้งหลายอีกประมาณนึง
จนถึงตอนนี้ก็มีเครื่องนึงที่แบตหมดสนิทไปก่อนเครื่องแรกนะครับ นั่นก็คือ Samsung Galaxy Note 4 โดยแบตสามารถอยู่ได้ทั้งหมด 1 วันกับอีก 3 ชั่วโมง 54 นาที ซึ่งผมก็มาดูเปอร์เซนต์แบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ของอีกสองเครื่อง โดย iPhone 6 Plus ยังเหลือ 27% ส่วน Sony Xperia Z3 ยังเหลือ 28% แล้วผมก็ทดสอบต่อเลยดังนี้
- เริ่มด้วยการโทรศัพท์หากันอีก 1 ชั่วโมง
- เปิด GPS นำทางอีก 30 นาที
- ตามด้วยเล่น Social ทั้งหลายอีกเป็นชั่วโมง
จนถึงตอนนี้ iPhone 6 Plus แบตก็หมดลง โดยแบตสามารถอยู่ได้ทั้งหมด 1 วันกับอีก 13 ชั่วโมง 35 นาที ซึ่งหลังจากนี้ผมก็ถึงเวลานอนอีกรอบ ก็เลยต้องตั้งนาฬิกาปลุกมาดูทุกชั่วโมง ซึ่งช่วงนี้ผมจะใช้ Standby เป็นหลัก แล้วในที่สุด Sony Xperia Z3 ก็แบตหมดตอนที่ใช้ไปทั้งหมด 1 วันกับอีก 21 ชั่วโมง 55 นาที
เรามาดูภาพจังหวะสุดท้ายก่อนที่แบตจะหมดของแต่ละเครื่องกันครับ
iPhone 6 Plus / Samsung Galaxy Note 4 / Sony Xperia Z3
ทีนี้ก็มาให้คะแนนในเรื่องแบตกันนะครับ
อันดับหนึ่ง แน่นอนว่าต้องเป็น Sony Xperia Z3 ได้ 9.5 คะแนน เพราะอึดสุด และจากที่ใช้มา บอกได้เลยว่ามันอึดจริงครับ พันวันสบายๆอยู่แล้ว ถ้าใช้ไม่หนักมากก็คงได้สองวันขึ้นไป
อันดับสอง เป็น iPhone 6 Plus ได้ 9.2 คะแนน ซึ่งก็ถือว่าอึดเช่นกัน เพียงแต่ยังอึดสู้ Z3 ไม่ได้แค่นั้นเอง
อันดับสาม Samsung Galaxy Note 4 ได้ 8.7 คะแนน และจากที่ใช้งานมา ถ้าวันไหนใช้หนักๆก็จะได้พอดีวันฉิวเฉียดพอดี ถือว่ายังสู้อีกสองตัวไม่ได้ แต่ก็ถือว่าแบตอึดพอสมควรครับ
ทีนี้มาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว คือช่วงรวมคะแนนสรุปผลทั้งหมด มาดูกันครับว่าเป็นยังไงกันบ้าง
สรุปโดยรวมแล้ว iPhone 6 Plus ชนะไปไม่เยอะนะครับ คือจริงๆแล้วหลังจากที่ได้ใช้ทุกเครื่องมาระยะนึง ผมอยากจะบอกว่าทุกเครื่องใช้งานได้ดีหมดแหละครับ อย่างแรกเลยที่สำคัญที่สุด อยู่ที่ว่าเราชอบระบบไหนมากกว่ากัน ระหว่าง iOS กับ Android ถ้ามีคำตอบอยู่ในใจแล้วก็คงไม่ยากที่จะตัดสินใจ ส่วนเรื่องอื่นๆเป็นรายละเอียดปลีกย่อย ดูว่าเราชอบและใช้อะไรบ่อยๆบนโทรศัพท์ แล้วเอาบทความนี้เป็นส่วนช่วยในการตัดสินใจก็ได้ครับ
ผมว่า note 4 ก็ดีนะ แต่มันยังขาดๆ แต่มันก็ยังถูกกว่า 6+ เอาเป็นว่าชอบ note 4 ละกัน
นาทีนี้คือ Z3 ไม่อยู่ในความคิดที่จะซื้อเลย
ว๊าวววว เป็นหนึ่งในการเทสที่ใหญ่ชนใหญ่และเป๊ะสุดๆแล้ว
เทสโน้นนี้นั้นซะมากมาย สุดท้ายสำหรับผมก็เลิก Z3 เพราะคำว่าใจมันรักอย่างเดี่ยวล้วนๆๆเลย
ชอย note 4 อยู่แล้ว สีทองเหมือนกานน แบตก็อึดครับ ที่สำคัญชาจน์ไฟเร็วจริงวุ๊ยยย z3 ไม่ชอบสีจอ อ่ะครับ ส่วน 6+ อึดอัดครับ 555
สุดยอดของการทดสอบครับ
ปรบมือรัวๆ
ถ้าจอ 5.5+" ใหญ่ยังกะสมุดบัญชี ถ้ามีปากกาด้วย รุ่นนั้นแหละใช่เลย
สัญญาจะติดตามรีวิวต่อๆไปครับ ระเอียดมาก
ใช้จิงไม่ต่างกันเท่าไรขึ้นยุกับชอบแบบไหนมากกว่า
อยากเห็นรีวิวจ้าว htc eye จังครับ ^_^
สุดยอดของการทดสอบครับ วิวต่อๆไปครับ
ขอบคุณมากๆ ครับ
น่าจะพูดถึงขนาดของไฟล์ภาพด้วยนะครับ
เพราะของ iPhone นั้น แค่ 2-3 เม็กต่อภาพเท่านั้น
ส่วนตัวอื่นๆ นี่ ขนาดไฟล์มหึมาเกือบ 10 เม็กต่อภาพกันทั้งนั้นเลยครับ
ขอบคุณสำหรับรีวิวขั้นเทพมากๆ ครับ
เวอร์ไปครับ 16MB ยังแค่ 4-5MB เอง 10MB นั้นมันไฟล์จากกล้อง DSLR แล้วครับ
สุดยอดการเทสครับ เยี่ยม!!
รีวิวได้ละเอียดมาก สุดยอด
ระดับ อ้างอิง
สุดยอดครับ
^_^
ถ้าเอาราคามาเป็นคะแนนความคุ้มค่าด้วยนี่ Iphone ล่วงแน่นอน เพราะราคาสูงกว่าใครเพื่อน คิดง่ายๆ ซื้อ Note 4 แล้วยังเหลือตังค์ซื้อ accessories ได้หลายตัวสบายๆ
จริงๆการทดสอบหยิบเอาสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้ามาทดสอบ ในที่นี้ Note4 มันมี 2 สเปก ต้องรอสเปกที่เป็น Snap Dragon มาทดสอบด้วยซิ เดี๋ยวคงมีมา ส่วน Note 4 ที่วางขายก็รู้ๆกันอยู่
เหมือนที่เอาพวก G3 เมืองไทยมาเปรียบเทียบกัน แต่ไม่เอาเครื่องเมืองนอกซึ่งคนละสเปกกันมาทดสอบ แบบไหนถึงจะเรียกว่า "เรือธง"
อยู่ประเทศไทยก็เลยเอาเครื่องที่ขายในไทยมาทดสอบนะครับ ถ้าเอาเครื่องนอกมาทดสอบแล้วถ้าคนอ่านทั่วไปอยากได้ล่ะครับ
ทดสอบแบบนั้นไว้รอทดสอบย่อยในครั้งต่อๆไปละกันนะครับ
ราคาแรงกว่า แต่ได้ความสามารถดีกว่า
ถือแล้วเปนแฟชั่น เหมือนสะพายหลุยติงต๊อง
โอเลย อยากได้ i6+
เห็น note4 แล้วเหมือนใช้เป๋าโค้ช ในแง่แฟชั่นยังตามห่างมาก
น่าจะเล็งจุดนี้ด้วย
เพราะแค่ 20% ของโลกมั้งที่เน้นฟังกชัน แถวบ้านผมเค้ายังเน้นโทเข้าออกและเล่นไลน์อยู่เลย
ใช้ง่ายๆเป็นพอ ถอย iPhone กันตรึม
ผมไม่ได้มีอคติกับ iphone แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่า iphone มันจะมีภาพลักษณ์สูง บ่งบอกสถานะไปเทียบกระเป๋าราคาแพงได้เลยนะ คนใช้ iphone นี่มีตั้งแต่นักธุรกิจไปยันแม่ค้าส้มตำ-วินมอเตอร์ไซค์ (อันนี้พูดตรงตัว ไม่ได้อุปมาเปรียบเทียบ)
โอเคตอนนี้ของมันยังมาไม่มาก แต่เดี๋ยวอีก 3-4 เดือน มันก็เหมือนกับที่คุณเจอ iphone 5 นั่นแหละ ประเด็นเรื่องความมีสไตล์ ผมเลยมองว่านอกจากจะไม่น่าเกี่ยวแล้ว ยังน่าจะออกไปทางแนวของเกร่อด้วยซ้ำไป
อยากจะขรรม เอาไปเทียบกับกระเป๋าแบนด์เนม iphone มันหายไกลกับคำว่าแบนด์เนมเยอะ ส่วนมากก็ซื้อตามกระแสทั้งนั้นบางคนซื้อ Iphone มายังไม่รู้จักระบบปฏิบัติการคืออะไรเลยด้วยซ้ำซื้อมาตามเพื่อนตามกระแสไปงั้น เหมือนซื้อรถ Honda,Toyota เอามาแค่ขับพอไม่ได้สนใจเรื่องสมรรถนะของตัวถังความช่วงล่างความเกาะถนนอะไรเลย ถ้าคนเล่นมือถือเล่นรถจริงๆเขาจะมองลึกกว่านั้นเยอะ ก็ยังไม่เห็นว่าคนใช้ Iphone จะดูดีกว่ารวยกว่าคนใช้ Android เลยนะ เพราะคนทำ ios ก็เล่น Android มาก่อน 555
อยากจะขรรม เอาไปเทียบกับกระเป๋าแบนด์เนม iphone มันหายไกลกับคำว่าแบนด์เนมเยอะ ส่วนมากก็ซื้อตามกระแสทั้งนั้นบางคนซื้อ Iphone มายังไม่รู้จักระบบปฏิบัติการคืออะไรเลยด้วยซ้ำซื้อมาตามเพื่อนตามกระแสไปงั้น เหมือนซื้อรถ Honda,Toyota เอามาแค่ขับพอไม่ได้สนใจเรื่องสมรรถนะของตัวถังความช่วงล่างความเกาะถนนอะไรเลย ถ้าคนเล่นมือถือเล่นรถจริงๆเขาจะมองลึกกว่านั้นเยอะ ก็ยังไม่เห็นว่าคนใช้ Iphone จะดูดีกว่ารวยกว่าคนใช้ Android เลยนะ เพราะคนทำ ios ก็เล่น Android มาก่อน 555
อยากจะขรรม เอาไปเทียบกับกระเป๋าแบนด์เนม iphone มันหายไกลกับคำว่าแบนด์เนมเยอะ ส่วนมากก็ซื้อตามกระแสทั้งนั้นบางคนซื้อ Iphone มายังไม่รู้จักระบบปฏิบัติการคืออะไรเลยด้วยซ้ำซื้อมาตามเพื่อนตามกระแสไปงั้น เหมือนซื้อรถ Honda,Toyota เอามาแค่ขับพอไม่ได้สนใจเรื่องสมรรถนะของตัวถังความช่วงล่างความเกาะถนนอะไรเลย ถ้าคนเล่นมือถือเล่นรถจริงๆเขาจะมองลึกกว่านั้นเยอะ ก็ยังไม่เห็นว่าคนใช้ Iphone จะดูดีกว่ารวยกว่าคนใช้ Android เลยนะ เพราะคนทำ ios ก็เล่น Android มาก่อน 555
เพิ่งถอย iPad air 2 / 128gb สีทอง มาได้5วัน รู้สึกฟินสุดๆ ในบรรดาทุก tablet
แต่ถ้าให้เลือกมือถือดีๆสักเครื่อง ผมเลือก note 4 อย่างไม่ลังเล
ส่วนใหญ่ มือถือ "เรือธง" แต่ละค่าย คุณภาพก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก ในแง่การ "ใช้งานจริง"
เงินอยู่ในมือเรา รักชอบ หรือสาวกค่ายไหน ก็"จัดไป"เลยครับผม
บทความนี้ รีวิวได้ละเอียด สมกับเป็นมืออาชีพ ขอบคุณมากครับ 🙂
ส่วนตัวถ้ามองภาพรวม ที่บอกว่า Note 4 เป็นแค่แฟชั่น งั้นคงต้องมองภาพรวมของทั้งโลกล่ะ Adroid มีคนใช้งานมากที่สุดในโลกเช่นกัน ถ้านับเป็นจำนวนเครื่อง iPhone ยังห่างไกลนัก และเท่าที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน Nexus6 ก็เป็นที่นิยมมาก Xiaomi ก็กินส่วนแบ่งไปเยอะ คงไม่ต้องพูดนะว่า Android มันล้ำกว่า iOS แค่ไหน อันนี้เค้าเปรียบเทียบตัวที่เห็นอยู่ตรงหน้าเท่านั้นจ๊ะ
เจ๋งครับ ครั้งนี้ละเอียดยิบดีมาก รอ N3 นะ ฮี่ๆ
เป็นรีวิวที่สุดยอดมากครับ
แต่อยากสอบถามเรื่อง การวัดการใช้งานแบตเตอร์รี่ ตอนนำเครื่องออกไปใช้ข้างนอก ที่บอกว่า ใส่ซิมทุกเครื่อง คือใช้ซิมของเครือข่ายเดียวกัน ทุกเครื่องหรือเปล่าครับ ? เพราะการเปลี่ยนคลื่นสัญญาณระหว่างพื้นที่ ของแต่ละเครือข่าย ค่อนข้างมีผลกับแบตอยู่พอสมควร
แล้วการโทรหากันเองนี่ ไม่ทราบจับคู่โทรแบบไหนยังไงครับ แบบทัวร์นาเม้น หรือแบบพบกันหมด ? เพราะฝ่ายโทรออก น่าจะกินพลังงานแบตมากกว่าฝ่ายรับ
ตั้งใจจะใช้ซิมค่ายเดียวกันทุกเครื่อง แต่เกิดเหตุสุดวิสัย มีซิมนึงใช้ไม่ได้ สุดท้ายจะมีเครื่อง iphone ที่ใช้ซิม AIS นอกนั้นจะใช้ Truemove H นะครับ
แต่จุดที่ไปนอกบ้าน เป็นห้างใหญ่กลางเมือง สัญญาณเต็มหมดครับ คิดว่าคงมีผลน้อยที่สุดครับ
ส่วนเรื่องโทรหากัน ผมไม่ได้กำหนดว่าเครื่องไหนโทรเข้าหรือโทรออก เพราะคิดว่าจะรับสายหรือโทรออก ไม่น่าจะมีผลต่างเรื่องแบตตอนคุยยาวๆนะครับ ใครมีข้อมูลตรงนี้ช่วยบอกด้วยก็จะดีนะครับ
คนโทรหา โดนกินแบตในช่วงที่ส่ง request ออกไปยังเสาที่เกาะอยู่
ส่วนฝั่งคนรับ ก็จะโดนกินแบตคืนในช่วงที่โทรศัพท์ส่งเสียงกับตอนที่เครื่องมันสั่น
เทียบกันแล้ว ถือว่าเล็กน้อยมาก ๆ ถ้าสัญญาณเต็ม
หลังจากรับสายแล้ว ก็คงกินแบตพอ ๆ กัน เพราะมันเกิดเชื่อมต่อหากันระหว่างสองเครื่องแล้ว
ถ้าคิดเยอะ คงต้องดูเรื่องของเสาสัญญาณที่แต่ละเครื่องเกาะอยู่อีก ดูจะเยอะไป
สรุปก็คือ คนโทรเสียเงินคนรับไม่เสียเงิน 555
เป็นประเด็นที่น่าสนใจมากครับ
รีวิวได้ละเอียดมากครับ สุดยอดดดดด
รีวิวได้ละเอียดถี่ยิบๆๆ เลย สุดยอดมากๆครับ
รีวิวดีมาก ลงทุนเวอร์ เลอค่าครับ
ทำได้เยี่ยมครับ
ผมตลกตรงที่ว่า ติ่ง IOS แถแล้วนะ ติ่ง Android นี่ก็แท้ไม่แพ้กันหรอก
ทำไมไม่ยอมรับว่ามันไม่มีอะไรสมบูรณ์ ไปหมดหรอก ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันหมด
อย่างติ่งIos ก็ไปว่า android กระตุกทั้งๆที่ไม่เคยลองรุ่นท๊อปหรือพงก pure android
ส่วนติ่ง Android เมื่อก่อนก็ไปว่าสเปคห่วย พอเจอผลคะแนนมันดีกว่า ก็หันไปด่าราคาแทน ผมอยากรู้ราคามันแพงแล้วไงคับ คุณบอกไม่คุ้ม แต่มันตังคนอื่นเค้ร เค้าพอใจในสิ่งที่เค้าเลือก มันไม่ดีคนคงไม่ซื้อหรอก
สุดท้ายจะใช้อะไรก็แล้วแต่ผลทดสอบเป็นอะไร คนก็เลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุดอยู่ดีคับ
Android ต้องเทียบละเอียดแบบนี้เพราะแต่ละเครื่องมันเหมือนๆกันไปหมด
แต่สำหรับ iPhone คำตอบมันอยู่ที่อยากใช้ iOS รึเปล่า ถ้าอยากใช้ iOS ก็คือจบไม่มีตัวเลือกอื่น
จุดเด่นของ iPhone คืออยู่ที่ iOS นี่แหละ ไม่ใช่ดีกว่าหรือแย่กว่า Android แต่มันเป็นของเฉพาะตัวที่มือถืออื่นในโลกไม่มี
review ดีมากๆครับ ติดเรื่องการให้คะแนนยังถนอมน้ำใจกันมากไปหน่อย เหมือนเป็นการบอกอันดับเฉยๆว่า 123
ถามเรื่องการทดสองกล้องครั
Z3 ใช้ superior auto ใช่ไหมครับ
ถ้าใช่ ขนาดรูปจะได้แค่ 8 ล้านนะครับ
ใช้โหมด Manual 20 ล้านครับ
เรื่องหน้าจอใช้อุปกรณ์Calibrateวัดหน้าจอสมาร์ทโฟนโดยตรงไม่ได้เหรอครับ
อุปกรณ์วัดกับการใช้งานจริง ผลอาจจะไม่เหมือนกันนะครับ
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยว่ารีวิวได้ละเอียดมาก แต่ก็อย่างทีบอกล่ะว่า รีวิวกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า android มาหลายสิบแบรนด์ แต่ละแบรนด์ก็มีหลายรุ่น แต่ละรุ่นก็มีหลาย OS จริงๆ เอามาเปรียบเทียบกับทั้ง 2 OS ไม่ได้
iOS ก็ไม่สามารถบอกได้ว่า มีอะไรเด่นกว่า Android เพราะมันหลากหลายมาก Note4 กับ Z3 จริงๆ ก็ไม่ใช่ตัวที่ดีที่สุดของ Android แต่เค้าหยิบแค่ตัวปัจจุบันที่มีขายกัน แต่ iPhone 6 Plus คือตัวที่ดีที่สุดของ iPhone แล้วขณะนี้ ราคากับคุณค่าก็แล้วแต่จะจินตนาการกันว่ามันคุ้มค่าหรือไม่
จริงๆ อยากเห็น iPhone 6 Plus เที่ยบกับ Nexus 6 มากกว่าแต่ก็อย่าไปคิดมากมันก็แค่สีสรรของเทคโนโลยีเท่านั้น พรุ่งนี้ก็เกิดรุ่นใหม่ๆ วันนี้ Note4 กับ Z3 มันไม่ใช้่สเปกบนๆ ของ android หรอก ยังมีเหนือกว่านี้อีกหลายรุ่น และกำลังจะออกมากันอีกเพียบ
รีวิวนี้ไม่ได้เทียบฟังก์ชั่นแต่เทียว Outline เท่านั้นเอง ถ้าเทียบฟังก์ชั่นแต่ละตัว มันก็มีคำตอบอยู่ในตัวอยู่แล้ว เงินใครเงินมัน ใครใช้รุ่นไหนก็รู้อยู่แล้วว่าจ่ายไปกับที่ได้มาคุ้มค่ากันหรือเปล่า แต่รีวิวให้เห็นว่าแต่ละรุ่นมีอะไรบ้างเท่านั้นตอบไม่ได้หรอกว่าอะไรดีกว่า ทั้งสองค่าย เอามาเปรียบกันไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป อย่างความเร็ว iOS ทำได้ดี แต่มันดีกว่า 2 รุ่นนี้ ลองไปเทียบกับค่ายเมืองจ่ายเช่น Meizu ก็คงวิ่งตามกันลิ้นห้อย หรือกล้องหน้ามุมกว้างแบบ Note4 ซึ่งไม่สามารถหาได้ใน iPhone 6 Plus แน่นอน
อยากเห็น Droidsans รีวิว Nexus 6 แบบเจาะลึกว่าทำไมถึงมีคนสนใจสั่งซื้อได้มากมายขนาดนั้น หรือพวกที่ไม่เคยเข้ามาในเมืองไทยมากกว่า หรือนวัตกรรมแปลกๆใหม่ๆ คงจะดีมิใช่น้อย
เอาใจช่วยผู้ที่รีวิวครับ ทำได้ละเอียดดีมาก
ณ วันที่ทดสอบ nexus 6 ยังไม่วางขายนะครับ ยังไงมีทดสอบรอบหน้าแน่นอนครับ
ผลทดสอบวันนี้ก็คือผลวันนี้นะครับ เครื่องในอนาคตที่ยังไม่ออกก็คงต้องรอทดสอบในรอบต่อๆไปครับ
ปรบมือสิครับ…..
รีวิวมีประโยชน์จริงๆ ไม่เข้าข้าง การทดสอบเป็นวิทยาศาสตร์ น่าเชื่อถือครับ
ออกรีวิวมาเรื่อยๆน่ะครับ จะติดตามอ่าน (ล่าสุดซื่อ OPPO ไปก็เพราะอ่านรีวิว และไม่ผิดหวังครับ)
ขอบคุณมากครับ
มีประโยชน์มากๆครับ………….
คหสต. สุดท้ายต้องให้น้ำหนักคะแนนราคาด้วย 555
รีวิวละเอียดมากครับทำให้เห็นจุดเด่นแต่ละเครื่องเล่นว่าไม่มีตัวไหนดีที่สุด
แต่ขอบตัวแนวไหนแบบไหนมากกว่าก็ควรซื้อแบบนั้น
แต่ล่ะเครื่องมีดีแตกต่างกัน Iphone ได้เปรียบเรื่องกราฟฟิค แต่แลกกับราคาที่มหาโหดและหลายๆ ฟังค์ชั่นที่ใช่ในไทยไม่ได้(เสียดาย) มีหลายๆคนเลือกที่ความคุ้มค่าคุ้มราคา โดยมองสิ่งที่ต้องใช้เป็นหลัก ผมมองจากคนรอบๆข้างพอสรุปง่ายๆ คือ Iphone ซื้อมาเพื่อโชว์เป็นแฟชั่นซะเยอะ แต่ Android การใช้งานได้หลากหลายโดยเฉพาะการแชร์ภาพ เพลง และการเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนไฟล์กับคอมที่ง่ายกว่ามากๆ เป็นข้อได้เปรียบของ android กลายเป็นว่าตอนนี้ส่วนใหญ่ที่ใช้ Iphone คือซื้อแล้วยังต้องเสียตังค์ให้ร้านเพื่อลง App ลง เกมส์ ลงเพลงให้…..ส่วนตัวผมคิดว่าเงินในประเป๋าใครกระเป๋ามันครับ อยากใช้ก็ใช้ ตามความต้องการ รีวิวนี้ละเอียดดีครับ เยี่ยมมากๆ ขอบคุณรีวิวดีๆ ครับ
ผมนี่ลุกขึ้นยืนเลย
ดูรีวิวจบ ผมยิ่งอยากได้ Note4 มากยิ่งขึ้น
รอราคาเหลือสองถ้วน สอยเลย
เพิ่งสอยมาจาก lazada 20,151 บาท
ลุกขึ้นยืนเพราะปวดลำไส้เหมือนผมปะ
555 อิๆ
เข้ามาปรบมือครับ สำหรับผมเป็นการทดสอบในฝัน ไม่มีที่ติครับ
ขอออกความคิดเห็นบางส่วนครับ
ภาพแรกที่ถ่ายใบไม้กับท้องฟ้าผมยอมรับครับว่า iPhone ให้โทนสีที่สวยมากๆ รองลงมาขอยกให้ Note 4
ส่วนรูปที่ถ่ายดอกไม้แบบย้อนแสง ผมอยากจะออกความเห็นครับว่า iPhone ที่คุณว่าทำได้ดีกว่าตัวอื่นนั้น ในความคิดผมกลับมองว่าทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรเลยนะครับ ผมกลับมองว่า Oppo Find 7 กับ Note 4 ทำได้ค่อนข้างดีกว่าตัวอื่นเสียอีก
ภาพแจกันดอกไม้ iPhone ก็ให้แสงสว่างที่โอเวอร์มากไปด้วยซ้ำ ส่วนกล้องหน้าผมขอยกให้ Oppo Find 7 นอกนั้นในความคิดผมภาพที่ได้จากกล้อง iPhone ยอดเยี่ยมมากๆครับ
ขอบคุณทุกๆท่านที่รับฟังความคิดเห็นครับ …
แต่ละรูปจะมีทั้งเรื่องสีและเรื่องความละเอียดนะครับ
แล้วแต่หัวข้อจะมีอยู่หลายรูปนะครับ คะแนนต้องคิดจากทุกรูป แล้วคะแนนแต่ละหัวข้อก็แยกกันด้วยนะครับ
ยังไงก็ลองดูอีกทีนะครับ
ส่วนรูปแรก สีของ note4 สู้ทาง find 7 ไม่ได้นะครับ นอกนั้นก็ประมาณนั้นครับ
สุดยอดละเอียดมากครับ
เพิ่มเติมอีกนิส
เร็วๆนี้OPPO ออก PureImage 2.0 ออกมา(แอปกล้องที่PortมาจากN3)
ผมได้มีโอกาสได้ใช้ใน 7A โหดกว่าเดิมมากโดยเฉพาะMode M
สุดยอดมากอะครับ เป็นรีวิวที่ใช้ตัดสินใจได้ดีมาก
ถ้าเข้าใจความต้องการของตัวเองว่าจะใช้อะไรในโทรศัพท์ ก็คงเลือกไม่อยากเลย มาอ่านแบบนี้แล้ว
เป็นผมเอง ถ้ามันทำงานได้เหมือนกัน ถึงจะไม่ได้สุดยอดทุกอย่างเท่าๆกัน ก็คงเลือกตัวที่แบ็ตอึดไว้ก่อน
เล่นเกม เล่นเน็ตแบบหนักหน่วงจะได้ไม่ต้องพกเพาเวอร์แบงค์ให้รำคาณ ส่วนข้อด้อยอย่างอื่น
ไปหาแอป หาวิธิชดเชยเอาที่หลัง แต่เรื่องของเรื่องคือ ราคา z3 เป็นมิตรกว่าด้วยแหล่ะ 555+
รีวิวขั้นเทพจริงๆ ทุ่มเทเวลาจริงๆ
กระทู้อะไรเนี่ย เทสไม่ได้เรื่อง…ก็บ้าละ สุดยอดจริง
ชอบมากครับกับการทดสอบแบบนี้
มีที่มาที่ไป การควบคุมตัวแปร และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆมาพิจารณา
ผมว่าใช้เป็น Reference ได้ในระดับหนึ่งเลยนะ
เป็นกำลังใจในการทำผลงานที่ดีแบบนี้ในชิ้นต่อๆไปครับ
*ผมว่าอธิบายความหมาย การทดสอบ การเปรียบเทียบ หัวข้อการทดสอบ ขั้นตอนการทดสอบ ผลการทดสอบควบคู่ไปด้วยจะดีมากครับ เพื่อป้องกันการหลงประเด็น ^^ *
รีวิวละเอียดดีครับสุกยอด
สุดยอดแห่งการรีวิวครับ ละเอียดยิบ ทุ่มเท อดหลับอดนอน แถมมีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมพิสูจน์
ขอบคุณสำหรับงานดีๆครับ
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ ครบถ้วนทุกแง่มุม ใครรักใครชอบอันไหนก็จัดไป ส่วนผมรออารยธรรมSONY ใน Z4 ต่อไปเพราะมันคุ้นชินกับความอินดี้แล้วครับ
รีวิวสุดยอด ซื้อZ2เพราะZ3ยังไม่เปรี้ยงเท่าไรครับ ^_^
ขอบคุณมากครับสำหรับ Review ที่สุดยอดครับ
สุดยอดแห่งการรีวิว เช่นเคย
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับละเอียดสุดๆ จริงๆ ตอนแรกผมก็เลือกระหว่าง i6+ กับ note 4 เพราะว่าชอบดีไซน์ความบางและขอบมนของ i6+แต่ถ้าการใช้งานที่เหมาะกับตัวคือ note 4 สรุปสุดท้ายเลยใช้การใช้งานที่เหมาะสมกับตัวเราเป็นเครื่องตัดสินใจบวกกับเอาความคุ้มค่าของเงินที่ต้องเสียไปด้วยครับเลยถอย note 4 มาแต่ใจก็ยังชอบ i6+ อยู่กลายเป็นรักพี่เสียดายน้อง 555 แต่ก็เห็นด้วยกับ จขกท นะครับที่ว่าทุกเครื่องมันดีหมด อยู่ที่ว่าเราชอบระบบแบบไหนมากกว่ากัน
นี่ถ้า note 4 แค่ 1080p เหมือนอีก ๒ เจ้า คะแนนแบตน่าจะอึดกว่านี้ ส่ววนตัวก็คิดว่าจอ 2560×1600(1440) บนมือถือไม่ค่อยจำเป็นเท่าไร GPU ต้องทำงานหนักอีก
สุดยอดรีวิวเลยครับ ละเอียดมาก
รีวิวได้ละเอียดดีครับ เจาะถึงรูขุมขนเลย อยากได้ Iphone น่ะ แต่ไม่มีตัง
นี่คือสุดยอด การ review ที่สุดของที่สุดตั้งแต่ติดตามมา มีแขกรับเชิญด้านต่างๆ มีผลการวัดที่เป็นวิทยาศาสตร์ สนับสนุนและเป็นกำลังใจ ทำรีวิวแบบนี้อีกต่อไปนะครับ สู้ๆ
สุดยอดรีวิว ยกระดับมาตราฐานการทดสอบ ด้วยเครื่องมือเฉพาะทาง และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
ไร้ที่ติครับ
ละเอียดมากครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆครับ *0*
นี่แหละรีวิวที่เยี่ยมยอด ชอบแบบนี้แหละ ^^
รีวิวคุณภาพจริงๆครับ ยอดเยี่ยมมากๆ ขอบคุณๆ
ปล. เรื่องซิมก็น่ามีผลกับแบ็ตเยอะนะครับ
อยากให้รีวิวเทียบกับ Huawei Ascend Mate 7 ด้วย จะได้มีตัวเลือกเยอะๆ
สุดยอดแห่งการรีวิวจริงๆครับ ขอขอบคุณในความพยายามและความเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่ครับ
สรุปไอโฟน6+ ดีกว่าแอนดรอย์ระดับเรือธง พันทิพเค้าว่าชนะคาบ้านกันเลยทีเดียว
สุดติ่งกระดิ่งแมว
สุดยอดบทความเลยครับ ยกให้เลย
ละเอียดดีครับ แต่จงจำไว้เลยครับ ทุกการทดสอบไม่มีกลาง 100% ครับ ขึ้นอยู่กับรสนิยมและความชื่นชอบล้วนๆครับ
การทดสอบที่เป็นกลางมีอยู่แน่นอนครับ แต่สิ่งที่จะทำให้ผลการทดสอบมีความผันแปรนั่นคือวิธีการทดสอบและวิธีวัดผลมากกว่าครับ
ืเทพแห่งการรีวิวเลย ละเอียดครบรส สุดยอดครับ ขอปรบมือดังๆ
ถ้าจะเอาความสามารถของคนมาเป็นตัววัด (ไม่ใช้เครื่องมือตรวจวัดโดยตรง) ในส่วนของการทดสอบรูปภาพและคุณภาพเสียง ต้อง blind test ถึงจะดีที่สุด การทดสอบโดยใช้คนที่ชินกับสีและแสงของ monitor ของยี่ห้อหนึ่ง หรือการทดสอบด้วยการฟังแต่รู้ว่าเป็นโทรศัพท์แบบไหน ถือว่าเป็นการทดสอบที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างมาก
สำหรับคนที่มีความชำนาญมากพอ ไม่จำเป็นต้อง blind test หรอกครับ แล้วถึงจะพยายาม blind test ยังไงก็คงรู้อยู่ดี ขนาดจอที่ต่างกัน รวมไปถึงหูฟังที่ต่างกัน ทำให้ blind test เป็นไปได้ยากครับ
เป็น การทำ รีวิว ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยอ่านๆมาจากหลายๆเว็ปเลยครับ สุดยอด
ไม่ค่อยเห็นด้วยกับรีวิวนี้เท่าไหร่นะ ดูเหมือนข้อมูลจะละเอียดในด้านเทคนิค และข้อมูลเชิงทฤษฎีจากโปรแกรมตรวจสอบความเร็ว กราฟฟิค และอื่นๆ
คุณทวีพงษ์ ประทุมวงษ์ ผมไม่สนว่าคุณจะกวาดรางวัลมามากน้อยอย่างไร แต่ต้องการทราบว่าคุณใช้ Xperia Z3 เป็นหรือไม่อย่างไรมากกว่า ที่บอกว่ากล้อง Xperia Z3 อมฟ้า ได้ลองถ่ายภาพเปรียบเทียบ หรือใช้งาน Z3 ได้ถูกต้องหรือไม่ เพราะในโหมด Manual 20.7 ล้าน คุณสามารถตั้งค่าปรับได้ ISO Z3 สูงสุดอยู่ที่ 12800 ตัวแรกของโลกที่ค่า ISO สูงสุด เคยดูช่างภาพอาชีพจากเวปต่างประเทศใช้ Z3 ถ่ายภาพไหมครับ
Z3 ใช้ Lens G, Exmor RS, 20.7 MegaPixel, HDR, BIONZ คิดง่ายๆว่า เลนส์ G เลนส์รางวัล Sony จะได้คะแนนน้อยสุด น้อยกว่า 2 ยี่ห้อนี้ ทั้งๆที่ใช้เลนส์คุณภาพที่พัฒนาจากทีมวิศกร Sony Cybershot ?
ถ้าคิดว่ากล้องจาก Z3 ได้คะแนนน้อยสุด สีเพี้ยนอมฟ้า (หรือให้แสงที่สมจริง สีที่แท้จริงวัตถุ) ลองไปดูรีวิวภาพถ่ายจาก ช่างภาพมืออาชีพที่ใช้ Z3 ถ่ายภาพนอกสถานที่ต่างๆดูครับ แล้วเปรียบเทียบกับ iPhone6 และ Samsung Note4 ลองดูละกันว่า่ ภาพจากใครให้รายละเอียดของภาพ หรือเก็บรายละเอียดของภาพได้ดีที่สุด หรือให้สีสัน สมจริง เป็นธรรมชาติมากที่สุด จริงๆภาพถ่ายมันขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน แต่ถ้าถามนักถ่ายภาพมืออาชีพ หรือคนทำหนัง ก็ย่อมอยากได้ภาพที่เก็บรายละเอียดได้ดีที่สุด สีสันสมจริงเป็นธรรมชาติ ไม่สีสันจัดจ้าน สีเกินจริง ผิดเพี้ยนไปจากเดิม
ส่วนเรื่องเสียง อ่านแล้วก็ตลก Walkman Sony ได้คะแนนน้อยสุด บอกว่า Samsung เบสดีสุด อันนี้น่าขำมากๆ เพราะจากการทดลองฟังดูแล้วทั้ง 3 รุ่น Sony Xperia Z3 ให้เสียง Hi-Res เสียงแน่นสุด เบสหนักสุด ทั้งๆที่ยังไม่ได้ต่อลำโพงหรือหูฟัง ลองเอาหูฟังยี่ห้ออื่นมาต่อ แล้วลองเอาหูฟัง Hi-Res Sony มาต่อดูไหม อย่าลืมว่า Sony มีอุปกรณ์เสริมที่สำคัญคือ หูฟัง H-Resolution ทำไมห้องอัด บันทึกเสียง ทำหนัง ตัดต่อหนัง สตูดิโอใหญ่ๆ จากอเมริกา และญี่ปุ่น ถึงเลือกใช้หูฟัง Sony ก็คิดเอาเอง ทำไมถึงเลือกใช้จอ Sony และกล้องถ่ายภาพ Sony ก็ลองคิดดู ถ้าเรื่องเสียงนี่ไม่มีทางที่ Sony จะได้ต่ำกว่า 2 ยี่ห้อนี้แน่ เพราะผมลองฟังมาทั้ง 3 รุ่นแล้ว Z3 กินขาด ไปอ่านรีวิวต่างประเทศดูได้ เหมือนรีวิวนี้จะเป็นการเอนเอียงไปทาง Samsung ซะมากกว่า การทดสอบต้องมีการใช้งานจริงด้วย ไม่ใช่ทดสอบแค่ทางเทคนิคจากโปรแกรมอย่างเดียว เพราะข้อมูลทางเทคนิคคนใช้ก็ไม่เห็นด้วยสายตาอยู่ดี เพราะมันไม่ต่างกันมากนัก มีจุดเด่น จุดด้อยต่างกันในแต่ละด้าน
อยากให้ คุณทวีพงษ์ ประทุมวงษ์ มาถ่ายภาพกับนักถ่ายภาพมืออาชีพที่ได้รางวัลจากต่างประเทศดูจริงๆว่า เวลาใช้ Z3 ถ่ายรูปออกมาแล้ว จะต่างกันมากน้อยอย่างไร เพราะต้องใช้เป็นถึงจะดึงประสิทธิภาพตามสเปคออกมาได้ดีที่สุด โดยรวมถึง ภาพถ่ายย้อนแสง ภาพถ่ายในที่ที่มีแสงน้อย ภาพถ่ายใต้น้ำ ( Z3 เท่านั้น)
เพิ่มเติมนะ ลองเทียบความคุ้มค่า สเปคทั้งหมด กับ ราคาที่วางจำหน่ายครั้งแรกหรือยัง อย่าลืมว่า iPhone6 ราคาสูงสุด รองลองมา Note4 และราคาต่ำที่สุดในมือถือ 3 รุ่นนี้ คือ Xperia Z3 นะ
ลองดู รีวิวจากเวปอื่นๆดูบ้างนะ จากความคิดเห็น โดยคนรีวิวที่เป็นแฟน iPhone มาตลอด จากการใช้งานจริง จากภาพถ่ายระหว่าง iPhone6 และ Xperia Z3 แล้วจะรู้ว่าเวปนี้ตัดสินเร็วไปไหม จริงๆแล้วไม่ต้องถึงนักถ่ายภาพมืออาชีพหรอก ให้คนใช้ที่ถนัดมือถือแต่ละรุ่นมาถ่ายภาพมุมเดียวกัน รูปวัตถุเหมือนกัน แค่นี้ก็รู้แล้วว่าภาพถ่ายไหนดีสุด เพราะในความเป็นจริงคนใช้งานจริงจะรู้ดีที่สุด
คุณทวีพงษ์ ประทุมวงษ์ ตอนทดสอบก็ใช้จอ Mac ถามว่าเป็นกลางไหม ขอตอบว่าไม่ครับ ถ้าเป็นกลางคุณไม่ควรใช้ยี่ห้อ Apple ซึ่งเอื้อต่อ iPhone มากกว่าครับ Mac คือจอที่ดีที่สุดไหม ขอตอบว่าไม่ครับ เพราะ Sony ก็มีจอ 4K พัฒนาจอด้วยเทคโนโลยีของตัวเองเหมือนกันครับ ทำไมไม่ใช้จออื่นๆครับ
http://www.freeware.in.th/review/17935 <<< รีวิวเวปนี้ดูง่าย ไม่ซับซ้อน เพราะคิดจากความรู้สึกคนใช้ และใช้งานจริง ภาพถ่ายดูง่าย ไม่ใช่เป็นการแคปภาพมาจากหน้าจอ หรือ มาตัดต่อใส่ตัวหนังสือให้เกะกะสายตา จะเป็นภาพถ่ายอย่างเดียว เหมือนที่เวปอื่นๆรีวิว หรือช่างภาพอาชีพรีวิว
ที่อยากบอกคือ อย่าตัดสินจากรีวิวอย่างเดียว เพราะถ้าใช้งานจริงมันต่างกัน ถ้าลองได้ใช้งานจริงทั้ง 3 รุ่น ก็จะรู้ได้เองว่าชอบรุ่นไหน แต่ในความเป็นจริงคงไม่มีโอกาสได้ลองทั้ง 3 รุ่น เพราะต้องตัดสินใจซื้อเพียงรุ่นเดียว เป็นไปได้ก็ลองยืมมือถือเพื่อนๆที่ใช้ 3 รุ่นนี้ดูจะเห็นได้ชัดกว่าแค่อ่านในรีวิว
ก่อนจะออกความเห็นซะเต็มที่แบบนี้ ผมว่าอ่านบทความให้ละเอียดก่อนจะดีกว่านะครับ
ีที่คุณทวีพงษ์ ประทุมวงษ์บอกนั้นเป็นเรื่องหน้าจอ ไม่ใช่กล้องถ่ายรูป และคุณทวีพงษ์ไม่ได้กดถ่ายรูปสักรูปเลยด้วยซ้ำ
แล้วเรื่องเสียง ที่คุณบอกว่า "Sony Xperia Z3 ให้เสียง Hi-Res เสียงแน่นสุด เบสหนักสุด ทั้งๆที่ยังไม่ได้ต่อลำโพงหรือหูฟัง" คือผมทดสอบกับการเสียบใช้กับหูฟังที่แถมมา และหูฟังคุณภาพดีระดับที่ทั่วโลกยอมรับ ไม่ใช่ทดสอบฟังกับลำโพงจากโทรศัพท์นะครับ แล้วที่บอกเบสแน่นทั้งๆที่ยังไม่ได้ต่อลำโพง คุณแน่ใจแล้วหรือว่าได้ฟังเทียบกับ iPhone 6 Plus (ไม่ใช่ Note 4)? เอาว่าเรื่องเสียงจากหูฟัง ผมทดสอบตามหลักเกณฑ์มาตาฐานสากล ซึ่ง Sony สู้ตัวอื่นไม่ได้แน่นอน แต่ถ้าคุณจะชอบ Sony ก็เป็นสิทธ์ชองคุณนะครับ ก็ซื้อ Sony มาใช้ก็ไม่มีใครว่าอะไรครับ