เจาะสเปคกล้องวงจรปิดภายในบ้านรุ่นใหม่ EZVIZ H6 และ EZVIZ E6 ที่มาในราคาสุดคุ้มเหมือนเดิม เพิ่มเติมคืออัปเกรดความละเอียดภาพเป็น 3K และพอร์ต USB Type-C ตามสมัยนิยม พร้อมฟีเจอร์เด็ด ๆ อย่างการจับภาพ 360 องศา ตรวจจับคนและสัตว์ และหมุนตามอัตโนมัติ มีลำโพงและไมโครโฟนในตัว พูดคุยผ่านกล้องได้แบบเรียลไทม์ เรียกได้ว่าครบเครื่องสุด ๆ

ดีไซน์ภายนอก

EZVIZ H6 มาพร้อมดีไซน์ทรงกลมที่ดูเรียบง่าย เลือกใช้สีขาวเป็นสีหลักของบอดี้ ข้อดีคือมันมีความเข้ากันได้กับการตกแต่งบ้านในหลาย ๆ แบบ คล้ายกับเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่ง เอาไปวางตรงไหนก็ไม่รู้สึกขัดหูขัดตา

เซนเซอร์กล้อง EZVIZ H6 สามารถหมุนย้อนกลับไปด้านหลังได้ ซึ่งเมื่อหมุนกลับไปแล้วจะพบกับช่อง microSD card และปุ่มรีเซตที่ซ่อนอยู่อย่างแนบเนียน และหากใช้งานในโหมด Privacy กล้องก็จะมาอยู่ในท่านี้เพื่อหยุดการบันทึกภาพชั่วคราว

ในขณะที่ EZVIZ E6 แม้จะเป็นดีไซน์ทรงกลมเหมือนกัน แต่ EZVIZ ออกแบบกล้องรุ่นนี้ให้มีความรู้สึกจริงและเป็นทางการมากกว่า รวมถึงเลือกใช้สีบอดี้เป็นสีดำตัดกับสีเงิน

ข้อแตกต่างอีกประการคือ EZVIZ E6 มีพลาสติกใสครอบที่เลนส์ด้านนอกอีกชั้นหนึ่ง ภาพรวมจึงค่อนข้างดูกลมเกลี้ยงเป็นเนื้อเดียวกัน หน้าตาโดยรวมจะดูเรียบร้อยกว่า EZVIZ H6 อยู่พอสมควร โดยเฉพาะเมื่อใช้งานในโหมด Privacy ดังภาพตัวอย่าง

การติดตั้งและการเชื่อมต่อ

EZVIZ H6 และ EZVIZ E6 เป็นกล้องรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนพอร์ต USB รับไฟเป็นแบบ Type-C แล้ว ตัวกล้องรองรับทั้ง Wi-Fi คลื่น 2.4GHz และ 5GHz รวมถึงมีพอร์ต RJ45 สำหรับต่อสาย Lan ที่บางค่ายไม่ใส่มา แต่กล้องสองรุ่นนี้ก็ยังมีมาให้ เป็นอีกทางเลือกหากต้องการความเสถียรของสัญญาณอินเทอร์เน็ต

สำหรับการเชื่อมต่อ EZVIZ H6 และ EZVIZ E6 ทำได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีเดียวกันคือสแกน QR code ผ่านแอป EZVIZ ที่มีให้ดาวน์โหลดทั้งบน Play Store และ App Store โดย QR code จะมีมาให้สองชุด ชุดแรกอยู่ที่ใบคู่มือ และอีกชุดอยู่ที่บริเวณฐานของตัวกล้อง เลือกสแกนตรงไหนก็ได้ ตามสะดวก

เมื่อระบบสแกนเจออุปกรณ์แล้ว ให้กรอกรหัส Wi-Fi เพื่อล็อกอิน (หรือสามารถข้ามขั้นตอนนี้ไปได้หากเชื่อมต่อผ่านสาย Lan) เพียงเท่านี้กล้องก็พร้อมใช้งานทันที เรียกได้ว่าติดตั้งง่ายสุด ๆ ใช้เวลาโดยรวมไม่ถึง 2 นาทีเท่านั้นเอง

การตั้งค่าบันทึกภาพ

ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะบันทึกวิดีโอไว้บน microSD card หรือบันทึกภาพไว้บนระบบคลาวด์ หรือใช้งานร่วมกันทั้งสองแบบ โดย microSD card จะรองรับความจุสูงสุดที่ 512GB สามารถดูย้อนหลังได้ประมาณ 27 – 30 วัน ที่ความละเอียดเต็มแมกซ์ 3K

  • 32GB บันทึกได้ประมาณ 1 วัน
  • 64GB บันทึกได้ประมาณ 3 วัน
  • 128GB บันทึกได้ประมาณ 6 – 7 วัน
  • 256GB บันทึกได้ประมาณ 13 – 15 วัน
  • 512GB บันทึกได้ประมาณ 27 – 30 วัน

ส่วนระบบคลาวด์ต้องใช้บริการ CloudPlay ของ EZVIZ เบื้องต้นทดลองใช้งานฟรี 7 วัน หลังล็อกอินเข้าใช้งานกล้องครั้งแรก หลังจากนั้นต้องเสียค่าบริการรายเดือนหรือรายปี ตามแพ็กเกจดังนี้

  • ดูย้อนหลัง 7 วัน รายเดือน : ราคา 129 บาท
  • ดูย้อนหลัง 7 วัน รายปี : ราคา 1,299 บาท
  • ดูย้อนหลัง 30 วัน รายเดือน : ราคา 229 บาท
  • ดูย้อนหลัง 30 วัน รายปี : ราคา 2,299 บาท

การบันทึกบน microSD card มีข้อดีในแง่ของค่าใช้จ่าย ซื้อครั้งเดียวแล้วจบ ใช้งานได้ยาว ๆ จนกว่าการ์ดจะพัง แต่หากใช้งานจนเต็มความจุแล้ว ต้องเลือกว่าจะดึงไฟล์ไปเก็บสำรองไว้ที่อื่น หรือจะปล่อยไฟล์เก่าทิ้งไป แล้วบันทึกวิดีโอใหม่ทับไปเลย

ส่วนระบบคลาวด์ CloudPlay ไม่ติดข้อจำกัดเรื่องพื้นที่เก็บข้อมูล ทาง EZVIZ เปิดให้เราบันทึกวิดีโอได้แบบไม่จำกัด ตราบที่แพ็กเกจยังไม่หมดอายุ และไม่เสี่ยงต่อเหตุการณ์ที่ microSD card จะใช้งานไม่ได้ เช่น ถูกถอดออก หรือชำรุดเสียหาย แต่ก็แลกมากับการที่ต้องจ่ายค่าบริการเรื่อย ๆ ทุกเดือนหรือทุกปี

จับภาพได้รอบทิศทาง 360 องศา ความละเอียด 3K รองรับ WDR

ทั้ง EZVIZ H6 และ EZVIZ E6 มากับเซนเซอร์ CMOS ขนาด 1/2.7 นิ้ว รองรับการบันทึกภาพความละเอียดสูงสุด 3K ที่ 25 เฟรมต่อวินาที รองรับฟีเจอร์ WDR สำหรับถ่ายในสภาพแสงไม่อำนวย เช่น กล้องตั้งอยู่ในจุดที่ย้อนแสง ระบบจะช่วยดึงช่วงไดนามิกของสีในส่วนที่ขาดหรือเกินเพื่อให้โทนภาพดูสมดุล ไม่สว่างไป ไม่มืดไป

กล้องสองรุ่นนี้มีโหมดกลางคืน รองรับการสลับโหมดอัตโนมัติด้วยเซนเซอร์ตรวจจับสภาพแสง โดย EZVIZ เคลมระยะการถ่ายที่คมชัดถึง 10 เมตร ต่อให้มีแสงเพียงน้อยนิดก็ตาม

ตัวกล้องสามารถหมุนในแนวราบได้ประมาณ 350 องศา เมื่อรวมกับเลนส์มุมกว้างทำให้สามารถเก็บภาพได้รอบตัว 360 องศา ทั้งยังก้มเงยได้ด้วย หากเอาไปวางบริเวณมุมห้องที่สูงสักเล็กน้อยก็สามารถถ่ายภาพได้แบบไม่มีจุดบอดเลย (หากไม่มีสิ่งกีดขวาง)

หันกล้องตามคนและสัตว์ พร้อมซูมโดยอัตโนมัติ

EZVIZ H6 และ EZVIZ E6 มาพร้อมระบบ AI หันกล้องตามคนและสัตว์อัตโนมัติ แถมยังซูมตามการเคลื่อนไหวที่อยู่ห่างออกไปได้เอง ฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับกรณีจุดติดตั้งกล้องให้มุมรับภาพที่จำกัด แต่ถ้ามุมรับภาพทั่วถึงดีอยู่แล้ว อาจเลือกปิดไม่ใช้งานก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมตามสถานการณ์ (ลำพังตัวเลนส์มีองศารับภาพกว้าง 100 องศา)

*ถอดเสียงออกจากวิดีโอตัวอย่าง เพื่อความเป็นส่วนตัว

จากที่ทดลองดูพบว่า AI ของ EZVIZ H6 และ EZVIZ E6 ทำงานได้แม่นยำ (จนแอบน่ากลัวในบางที) กล้องหันตามทุกฝีก้าวจนแทบจะสิงเป็นเงาเลยทีเดียว

พูดคุยผ่านกล้องแบบเรียลไทม์ โบกมือให้โทรออกได้

เนื่องจาก EZVIZ H6 และ EZVIZ E6 มีลำโพงและไมโครโฟนในตัวพร้อมสรรพ เราจึงสามารถพูดคุยผ่านกล้องได้แบบเรียลไทม์ โดยฝั่งมือถือจะมาครบทั้งภาพและเสียง ส่วนฝั่งกล้องจะได้ยินเสียง แต่ไม่มีภาพ เพราะไม่มีหน้าจอ

ทีเด็ดอีกอย่างคือ EZVIZ H6 และ EZVIZ E6 รองรับการตรวจจับมือ หากโบกมือผ่านหน้ากล้องจะมีสายโทรเข้าทางแอป EZVIZ เพื่อเข้าสู่โหมดพูดคุยทันที โดยเงื่อนไขคือ ต้องโบกมือต้องโบกมือด้วยท่าที่แขนยืนห่างจากลำตัว 180 ซึ่งอาจไม่ใช่ท่าทางที่ดูเป็นธรรมชาติมากนัก (แต่ก็สามารถใช้งานได้) และหน้าของคนโบก ต้องอยู่ในเฟรม เพื่อที่กล้องจะสามารถตรวจจับได้ว่าสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่คือคน ไม่เช่นนั้นฟีเจอร์จะไม่ทำงาน

ฟีเจอร์นี้ EZVIZ โปรโมตว่าเหมาะมากสำหรับผู้สูงอายุที่อาจไม่ชำนาญเรื่องเทคโนโลยี หากอยู่บ้านคนเดียวแล้วเหงา ก็สามารถโทรหาลูกหลานหรือคนในครอบครัวได้ตลอดเวลา

สเปค EZVIZ H6

  • เซนเซอร์ CMOS ขนาด 1/2.7 นิ้ว
  • เลนส์ 4 มม., รูรับแสง f/1.6
  • หมุน 353 องศา / ก้มเงย 133 องศา
  • มุมรับภาพ
    • แนวนอน 104 องศา
    • แนวตั้ง 87 องศา
    • แนวทแยง 53 องศา
  • ความสว่างขั้นต่ำ 0.51 ลักซ์
  • ระยะการถ่ายกลางคืน 10 ม.
  • ความละเอียดวิดีโอสูงสุด 2880 x 1620 พิกเซล
  • อัตราเฟรมสูงสุด 25 เฟรมต่อวินาที
  • บิตเรตสูงสุด 4 Mbps
  • รองรับ WDR
  • รองรับ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac
  • รองรับ RJ45
  • รองรับ microSD card สูงสุด 512GB
  • ฟีเจอร์เด่น
    • ตรวจจับมนุษย์
    • ตรวจจับสัตว์เลี้ยง
    • ตรวจจับการโบกมือ
    • ตรวจจับเสียงผิดปกติ
    • พูดคุยสองทิศทาง

สเปค EZVIZ E6

  • เซนเซอร์ CMOS ขนาด 1/2.7 นิ้ว
  • เลนส์ 4 มม., รูรับแสง f/2.0
  • หมุน 350 องศา / ก้มเงย 75 องศา
  • มุมรับภาพ
    • แนวนอน 103 องศา
    • แนวตั้ง 87 องศา
    • แนวทแยง 48 องศา
  • ความสว่างขั้นต่ำ 0.51 ลักซ์
  • ระยะการถ่ายกลางคืน 10 ม.
  • ความละเอียดวิดีโอสูงสุด 2880 x 1620 พิกเซล
  • อัตราเฟรมสูงสุด 25 เฟรมต่อวินาที
  • บิตเรตสูงสุด 5 Mbps
  • รองรับภาพ WDR
  • รองรับการบันทึกเสียง Hi-Fi
  • รองรับ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac
  • รองรับ RJ45
  • รองรับ microSD card สูงสุด 512GB
  • ฟีเจอร์เด่น
    • ตรวจจับมนุษย์
    • ตรวจจับสัตว์เลี้ยง
    • ตรวจจับการโบกมือ
    • ตรวจจับเสียงผิดปกติ
    • ตรวจจับยานพาหนะ
    • ตรวจจับเสียงสุนัขและแมว
    • พูดคุยสองทิศทาง

ราคาและการวางจำหน่าย

กล่าวโดยสรุป EZVIZ H6 และ EZVIZ E6 เป็นกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งง่าย ใช้งานไม่ยาก ดีไซน์ทันสมัย ฟีเจอร์หลักครบครัน และที่สำคัญค่าตัวไม่แพง มีติดบ้านไว้ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แถมยังอุ่นใจด้วย

แต่ทั้งนี้ มีข้อสังเกตอยู่บ้างคือ เสียงไมโครโฟนจาก EZVIZ E6 จะทำได้ดีกว่า EZVIZ H6 เล็กน้อย จากคุณสมบัติของไมโครโฟนที่รองรับการบันทึกเสียง Hi-Fi ถ้าต้องการได้ยินเสียงชัด ๆ หรือเน้นใช้งานฟีเจอร์สนทนาผ่านกล้องบ่อย ๆ รุ่น EZVIZ E6 ก็จะตอบโจทย์กว่า ส่วน EZVIZ H6 จะชดเชยด้วยองศาก้มเงยของกล้องที่ครอบคลุมกว่า

จุดเด่น EZVIZ H6

  • ราคาย่อมเยา
  • หมุนก้มเงยได้มาก

จุดเด่น EZVIZ E6

  • ดีไซน์พรีเมียม
  • เสียงไมโครโฟนคมชัด
  • มีโหมด ‘ตรวจจับยานพาหนะ’ และโหมด ‘ตรวจจับเสียงสุนัขและแมว’ เพิ่มเติม

หรือถ้าอยากอัปเกรดเป็นรุ่นที่มีแบตเตอรี่ในตัว ก็จะมีตัวเลือกในรุ่น EZVIZ CB1 และ EZVIZ CB2 สองรุ่นนี้รองรับวิดีโอความละเอียด Full HD สามารถใช้งานได้นานสุด 50 วันต่อการชาร์จครั้งเดียว ผ่านพอร์ต USB Type-C หมดปัญหาสำหรับบ้านที่ไฟตกหรือไฟดับบ่อย ๆ

ส่วนการใช้งานภายนอกอาคาร ต้องเป็น EZVIZ C8W Pro ซึ่งรุ่นฟีเจอร์จะจัดเต็มคล้าย ๆ EZVIZ H6 กับ EZVIZ E6 เลย แต่มีฟังก์ชันที่อัปเกรดขึ้นมาคือ คุณสมบัติกันน้ำ เผื่อเวลาฝนตก มีไฟสปอตไลท์ในตัว และระยะการถ่ายกลางคืนที่ไกลถึง 30 เมตร สมกับชื่อรุ่น ‘Pro’

ทาง EZVIZ เปิดตัวไลน์อัปสินค้ารุ่นล่าสุดประจำปี 2023 พร้อมอัปเกรดสเปคและฟังก์ชันใหม่ให้น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น มีทั้งกล้องวงจรปิดภายในอาคาร กล้องวงจรปิดภายนอกอาคาร เครื่องดูดฝุ่น

กล้องวงจรปิดภายในอาคาร

  • รุ่น H6 ราคา 1,790 บาท
  • รุ่น E6 ราคา 2,390 บาท

กล้องวงจรปิดภายในอาคาร พร้อมแบตเตอรี่ในตัว

  • รุ่น CB1 ราคา 1,490 บาท
  • รุ่น CB2 ราคา 2,290 บาท

กล้องวงจรปิดภายนอกอาคาร

  • รุ่น C8W Pro ราคา 2,450 บาท

สินค้าสมาร์ทโฮม

  • เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย RH2 ราคา 15,990 บาท
  • หุ่นยนต์ดูดฝุ่น RE5+ ราคา15,990 บาท (โดยประมาณ)

สามารถดูรายละเอียดสินค้าและช่องทางการซื้อได้ที่ www.ezviz.com/th