Samsung Galaxy Tab S3 แท็บเล็ตตัวท็อปของค่ายที่หลายๆคนรอคอย ด้วยสเปคและฟีเจอร์ต่างๆที่มาครบแบบสุดๆ อีกทั้งน้ำหนักเบา เครื่องบาง ปากกาแจ่ม ไม่ต้องชาร์จแบตให้ดูน่าเกลียดก็ใช้งานได้ รับสายโทรเข้าออกได้เหมือนโทรศัพท์ เรียกได้ว่าครบทุกอย่างที่หลายๆคนต้องการจากแท็บเล็ตเครื่องนึง ยกเว้นเรื่องราคาที่เปิดมาแรงที่สุดในตลาด Android สูงถึง 24,500 บาท ดังนั้นมันจะคุ้มค่าคุ้มราคาขนาดไหน วันนี้เราจะเอามาบอกกัน

สเปคของ GALAXY TAB S3

  • หน้าจอ : sAMOLED 9.7 นิ้ว ความละเอียด QXGA 2048 x 1536, รองรับการแสดงผลแบบ HDR
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 820 Quad-core 2.15GHz + 1.6GHz
  • RAM : 4GB
  • ความจุ : 32GB ใส่ MicroSD Card เพิ่มได้ถึง 256GB
  • กล้องหลัง – หน้า : 13MP – 5MP + flash
  • แบตเตอรี่ : 6000 mAh ดูวิดีโอต่อเนื่องได้ถึง 12 ชม. รองรับ Fast Charge
  • USB 3.1 (Type-C)
  • WiFi : 802.11 a/b/g/n/ac, 2×2 MIMO, Wi-Fi Direct, Bluetooth® 4.2
  • 4G LTE Cat.6 ความเร็วสูงสุด 300Mbps* ใส่ได้ซิมเดียว
  • สัดส่วนและน้ำหนัก: 237.3 x 169 x 6 มิลลิเมตร, 434 กรัม
  • ระบบ : Android 7.0 Nougat
  • เซนเซอร์ :Accelerometer, Hall Sensor, RGB Sensor, Finger print Sensor, Gyro Sensor, Geometric Sensor
  • GPS : GPS + GLONASS, BEIDOU, GALILEO

เป็นเรื่องที่หลายคนรอคอยมาตั้งแต่รุ่นแรกของ Galaxy Tab S ว่าอยากให้รองรับการใช้ปากกาด้วย เพราะช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ยังหาแท็บเล็ตที่มีปากกาเขียนดีๆใช้งานกันไม่ได้ ที่ Samsung ออกรุ่นอัพเดทมาแต่ละตัวก็ดูเหมือนไม่เต็มใจออกเอาซะเลย สเปคมาแบบกลางๆ ความละเอียดจอเห็นแล้วพาหงุดหงิดเป็นที่สุด พอ Galaxy Tab S3 ที่สเปคจัดเต็มออกมาพร้อมปากกา S Pen ก็ถึงกับเฮกันยกใหญ่ และหลังจากที่ได้ลองใช้มาสักพักนึงก็ขอมาเล่าประสบการณ์ที่ได้จากสเปคแต่งละจุดและคอมเม้นต์ส่วนต่างๆดังนี้นะ

CPU + RAM + Int.Mem แรงดี แต่ยังไม่สุด

ถ้าใครที่ติดตามข่าวเทคโนโลยีมาตลอดก็คงจะพอรู้ว่า Qualcomm Snapdragon 820 นี้เป็นตัวท็อปของปีที่แล้ว ประสิทธิภาพความแรงไว้ใจได้ ยังดีพอใช้งานในปีนี้อยู่ก็จริง แต่ถ้าราคาจะกดขึ้นไปแพงเกิน 2 หมื่นแล้วก็น่าจะให้ตัวท็อปของปีนี้ได้ด้วยเลยมากกว่า แต่ถ้าเปรียบเทียบกับรุ่นปีที่แล้ว Galaxy Tab S2 ก็จัดว่ารุ่นที่ 3 นี้พัฒนาขึ้นกว่าเดิมเยอะเป็นเท่าตัวเลยทีเดียวครับ

เปรียบเทียบ AnTuTu Score ของ Galaxy Tab S3 กับรุ่นอื่นๆ (ค่าที่วัดได้แต่ละเครื่องอาจจะต่างกันไป)

  • Galaxy Tab S2 : 51,562
  • Galaxy Tab S3 : 137,636
  • Galaxy S8 :164873

ส่วน RAM ให้มา 4GB ก็เหมือนจะเพียงพอ แต่ด้วยขนาดและความละเอียดหน้าจอ ที่น่าใช้งานแบบ Multitask ก็จะเป็นการดีกว่าที่จะได้แรมมาที่ 6GB ไปเลย โดยรวมจากการใช้งานก็ไม่เจออาการค้างหน่วงอะไร ใช้งานได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น สลับแอปไปมาได้ลื่นไหล ไม่ต้องโหลดใหม่บ่อยมากนัก

Galaxy Tab S3 มีหน่วยความจำมาให้ 32GB ซึ่งก็ไม่ถึงกับเหลือเฟือ เมื่อหักลบสิ่งต่างๆไปแล้วจะเหลือใช้จริงอยู่ราวๆ 20GB เศษๆ ลงแอปลงเกมไปเพลินๆก็อาจจะหมดได้ไม่ยาก แต่ก็มีข้อดีที่สามารถเติม microSD เก็บภาพ เก็บหนังต่างๆได้สบายๆ ไม่ต้องคอยลบออกบ่อยๆ ส่วนสเปคของหน่วยความจำเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังที่ Samsung เลือกใส่เพียง eMMC มาให้ในเครื่องระดับราคานี้

หน้าจอดีงาม ลำโพงคุณภาพแจ่ม

สิ่งที่คนบ่นใน Galaxy Tab A 8.0 with S Pen ที่สุดก็คือเรื่องหน้าจอที่ไม่ไหวจะใช้ ความละเอียดและคุณภาพไม่เหมาะแก่การทำงานจริงจังเอาซะเลย แต่พอมาบน Galaxy Tab S3 ที่ถูกวางสเปคให้เหมาะแก่การเสพย์ทั้งภาพและเสียง เรื่องหน้าจอเลยยัดมาให้ซะเต็ม SuperAMOLED ความละเอียด 2K แสดงผลเป็น HDR ซึ่งกำลังจะเป็นมาตรฐานของหน้าจอในอนาคตมาให้อีกด้วย รวมๆคือหน้าจอของ Galaxy Tab S3 นี่คือที่สุดของแท็บเล็ตตอนนี้ละ

ส่วนเรื่องเสียงที่มักจะเป็นจุดอ่อนของแท็บเล็ตของ Samsung ก็ถูกแก้ไขโดยการที่ยกเอาเจ้า Tab S3 นี้ไปให้ทาง AKG จูนเสียงให้ คราวนี้ไม่ต้องต่อลำโพงแยกก็ดูหนังฟังเพลงได้โอเคแล้ว และลำโพงที่มีมาให้ถึง 4 ตัวกับฟีเจอร์หมุนตามแนวตั้ง-นอนของเครื่องนี่ก็ทำงานดีเลย อยากให้ไปลองฟังกันด้วยตัวเองนะ

Galaxy Tab S3 Speaker Position

ตำแหน่งของลำโพง เมื่อวางแนวนอนจะออกซ้ายขวา สเตอริโอเสียงใสๆเลย

ปากกาจับถนัด ไม่ต้องชาร์จ แต่เสียบกับเครื่องไม่ได้แล้ว

มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของปากกา S Pen บน Galaxy Tab S3 นั่นก็คือขนาดที่ทำออกมาให้จับถนัดได้มากขึ้นกว่าเดิม เท่าๆกับปากกาดินสอที่ใช้กันในชีวิตจริงกันเลย แต่การที่มันขนาดใหญ่ขึ้นนี้ก็มีข้อเสียที่มันไม่สามารถเก็บโดยการเสียบเข้าเครื่องได้อีกต่อไป ต้องระวังหายกันให้ดี ที่ได้ใช้มาก็หวุดหวิดหายไปหลายรอบละ แนะนำว่าต้องมีซองใส่เจ้า Tab S3 พร้อมปากกาให้ดีนะ

สำหรับวัสดุของ S Pen นี่ก็ได้ฟีลสัมผัสของพื้นผิวที่สากๆนิดๆทำให้ไม่รู้สึกถึงความเป็นพลาสติกเท่าไหร่นัก และที่เด่นเหนือ iPad Pro ก็คือไม่ต้องมาคอยนั่งชาร์จให้วุ่นวาย คือเคยโดนกับตัวมาที่กำลังต้องการใช้แต่ดันแบตปากกาหมดซะงั้น เฟลมาก

ส่วนว่าปากกาดีขนาดไหน ขออ้างอิงจากศิลปินนักวาดต่างๆที่เค้าได้ไปลอง Galaxy Tab S3 มาแล้ว และเอามาแชร์บนหน้าเพจละกัน พอดียังไม่ค่อยมีโอกาสได้ลองใช้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่ ไว้ถ้ามีโอกาสได้เล่นอีกรอบจะเอามาบอกกันนะ

บางเบา ถือเล่นได้ยาว นอนเล่นได้สบาย

Galaxy Tab S3 ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของ Tab S Series เอาไว้ได้ ก็คือความบางและเบา มีบาลานซ์ของน้ำหนักที่ดี พกพาได้ไม่รู้สึกหนักและลำบากอะไร ถือเล่นยาวๆได้ไม่รู้สึกเมื่อยเท่าไหร่ น้ำหนักอาจจะหนักขึ้นกว่าตอน Tab S2 เล็กน้อย ลองถือเล่น ROV 3-4 เกมติดๆกันถึงกับต้องวางเครื่อง ไม่ใช่เพราะหนักจนถือเล่นต่อไม่ได้ แต่เพราะแพ้มันติดๆกัน T_T เจอลิงบ้า และแบทแมนตบตายตลอด

เปรียบเทียบขนาด Galaxy Tab S3 vs Tab S2 vs iPad Pro 9.7"

เรื่องอื่นๆที่น่ารู้ และปัญหาการใช้งานที่พบบน Galaxy Tab S3

  • GPS นำทางได้ดี แม่นยำ ไว้ใจได้
  • กล้องยังไม่โดดเด่น ตามประสาแท็บเล็ต ถ่ายสวยประมาณมือถือ Samsung ระดับ Galaxy A Series
  • แบต 6,000 mAh ไม่ได้อึดมากระดับใช้งานข้ามวันข้ามคืน ถ้าเล่นเยอะๆหน่อย ต้องชาร์จวันต่อวันอยู่ เล่นเกมกราฟิกหนักๆแบตมีไหลอยู่เหมือนกัน
  • ชาร์จแบตจนเต็มใช้เวลาราว 2-3 ชม. แม้ว่าจะเป็น Fast Charge ก็ตาม แต่ก็ไม่ถึงกับน่าเกลียดมาก เพราะแบตมีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนเป็นเท่าตัวนั่นเอง
  • รองรับซิมเดียว ถอดเปลี่ยนได้แบบ Hot Swap
  • จับสัญญาณ 4G ได้แค่ Single Band ไม่สามารถทำ Carrier Aggregation ได้ทั้งที่สเปครองรับ ความเร็ว 4G สูงสุดที่เคยทำได้ยังไม่เคยเกิน 50Mbps เลย
  • แอปที่รองรับแท็บเล็ตของ Android ยังไม่เด่นเท่า iPad ตัวอย่างง่ายๆเลยคือ Twitter บน iPad จะมีการแสดงผลที่ดีกว่ามาก ไม่ใช่เอาหน้าจอมือถือมาขยายใหญ่ขึ้นเท่านั้น และอีกหลายๆแอปก็ที่ยังไม่ปรับให้การแสดงผลรองรับ Android Tablet ด้วย
  • เท่าที่ทราบ Galaxy Book ยังไม่มีแผนเอาเข้ามานะ
  • น่าเสียดายที่ยังไม่มี Pogo Keyboard มาให้ลองเล่น แต่เท่าที่เคยได้ลองพิมพ์ตอนงาน MWC เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ก็จัดว่าพิมพ์สนุกดีเหมือนกัน เอามาใช้ทำงานได้เลย แต่น่าจะต้องรอลุ้นว่าจะมีสกรีนภาษาไทยออกมาให้รึเปล่านะครับ

 

สรุป Galaxy Tab S3 น่าซื้อมาใช้งาน สำหรับคนที่อยากได้แท็บเล็ตแบบครบเครื่อง และปากกาจดเขียน

โดยรวมแล้วเจ้า Tab S3 นี่น่าใช้พอสมควรเลย ถ้าไม่นับเรื่องแอปหลายๆตัวยังไม่รองรับการแสดงผลแท็บเลตเท่าไหร่ ไม่เจออาการค้างเอ๋ออะไร แต่ก็ต้องปาดเหงื่อเบาๆกับราคาที่มาแรงซะเหลือเกิน ตั้งเอาไว้สูงถึง 24,500 บาท แพงที่สุดในหมวดแท็บเล็ตของ Samsung เลยก็ว่าได้ ก็ต้องลุ้นว่าราคาจะลงในเร็วๆนี้หรือเปล่า แต่ถ้าเทียบกับ iPad Pro ก็อาจจะมองได้ว่าถูกกันไปเลย เพราะตัวถูกสุดเมื่อรวมกับปากกาแล้วก็กระโดดขึ้นไปสามหมื่นกว่าบาทแล้วครับ นี่ยังไม่นับ Keyboard กับเมมที่ถ้าซื้อเพิ่มก็กระโดดยาวไป 35,000 บาทได้เลยล่ะคร้าบบบบ

เปรียบเทียบราคา Galaxy Tab S3 vs iPad Pro 9.7″

Galaxy Tab S3 (WiFi + Cellular @ 9.7”, 32GB) + S Pen = 24,500 บาท

iPad Pro 9.7” (WiFi + Cellular @ 9.7”, 32 GB) + Apple Pencil = 31,800 (27,900+3,900) บาท

ดูเพิ่มเติมที่พี่พัดได้พรีวิว Galaxy Tab S3 ได้นะครับ

Play video

อยากรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Galaxy Tab S3 เชิญถามมาต่อได้นะครับ เดี๋ยวมาไล่ตอบให้