วางขายกันไปตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้หลายคนก็น่าจะได้ลองจับลองใช้กันไปแล้วด้วยจุดประสงค์ที่ต่างกันออกไป ซึ่งจุดเด่นที่หลายๆคนตัดสินใจเลือกใช้ Galaxy Tab S4 ก็คงไม่พ้นเรื่องการใช้ปากกา และความบันเทิงที่ลำโพงเสียงดี จอใหญ่สวยเต็มตา และแบตที่แสนอึด แต่เรื่องนึงที่หลายคนน่าจะอยากรู้คือถ้าเกิดว่าเอาเจ้า Tab S4 ไปใช้ทำงานแบบจริงจัง มันจะเวิร์ครึเปล่า วันนี้จะเอาประสบการณ์ที่ลองมาบอกเล่ากันครับ
โดยการทดสอบใช้ Galaxy Tab S4 ครั้งนี้เรียกว่าได้ใช้แบบเต็มๆ ไม่มี Notebook มาเป็นตัวสำรองเลย เนื่องจาก MacBook Pro ที่ซื้อมาได้ไม่ถึงปีบอร์ดเจ๊งไปแบบงงๆ (เหมือนต้องการให้ได้เข้าไปลองใช้บริการ Apple Store ยังไงอย่างงั้น ไว้จะมาเล่าประสบการณ์การเข้ารับบริการให้ฟังอีกทีนะ) เลยขอลองทำงานแบบฝากชีวิตไว้กับ Tablet ตัวนี้ ลองใช้ Samsung Dex แบบเต็มที่ดูว่าจะไปรอดได้ขนาดไหนครับ
ซึ่งงานนี้ก็คงไม่ได้รีวิวแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยครบทุกมุมขนาดนั้นนะครับแค่มาแชร์ประสบการณ์เท่าที่ได้ลองเท่าที่ได้ใช้งาน เน้นเรื่องการใช้คีย์บอร์ดเป็นหลักเท่านั้นครับ ซึ่งรีวิวการใช้งานอื่นๆนี้ลองไปดูที่พี่พัดรีวิวเอาไว้แล้วได้เลยครับ
Samsung Dex Mode บริหารพื้นที่หน้าจอ Tablet ได้ดีกว่า
ส่วนตัวรู้สึกว่า UI/UX และดีไซน์ต่างๆของ Android Tablet ทำออกมาไม่ค่อยน่าใช้เท่าไหร่ บริหารพื้นที่บนหน้าจอไม่ค่อยคุ้มค่านัก แต่เมื่อปรับมาเป็น UI/UX แบบ Samsung Dex แล้วมันถนัดมากกว่า ให้ความรู้สึกคล้าย Microsoft Windows ปนกับ Android ในหลายๆส่วน เปิดหลายแอปพร้อมกันได้ ซึ่งถ้าตัวหลายๆแอปที่ไม่ได้รองรับการใช้งาน Tablet ก็จะเปิดเป็นหน้าจอเล็กขนาดใกล้เคียงมือถือให้ คงความสวยงามดูดีได้ระดับนึง ส่วนการทำงานอื่นๆ ยังไงลองดูฟีเจอร์ต่างๆที่เคยรีวิวไปแล้วได้จากคลิปที่ทำด้วย Galaxy Note 9 นี้นะครับ ฟีเจอร์เหมือนกันนะ
Chrome เปิดไซต์เวอร์ชั่น Desktop ใช้งานได้คล้าย Notebook
การทำงานบน Desktop สำหรับคนที่ไม่ต้องใช้งานโปรแกรมเฉพาะ เช่น โปรแกรมด้านการคำนวน การแพทย์ หรือเขียนโปรแกรมต่างๆ ต้องบอกว่าแทบจะทุกอย่างสามารถหาใช้งานผ่าน Web Browser ได้หมด และเราสามารถเลี่ยงการเปิดหน้าเว็บเป็นจอสำหรับมือถือได้ด้วยการกดเลือกแสดงผล ไซต์เวอร์ชั่นเดสก์ท็อป ทำงานได้เทียบเท่าการใช้งานบนพีซีได้เลยทันที เท่าที่ลองมามีเพียงไม่กี่บริการที่เมื่อเลือกการแสดงผลโหมดนี้ จะไม่สามารถทำงานได้เหมือน PC โดยบริการดังกล่าวมักจะเป็นของ Google เองที่จะพยายามผลักดันให้มาใช้ตัวแอปมากกว่านั่นเอง
ทำงานเอกสารด้วย Google Docs / Sheets / Presentation ก็เพียงพอ
สำหรับคนที่ใช้งานด้านเอกสาร ต้องทำรายงานอะไรอยู่ตลอดเวลา น่าจะติดการใช้งาน Microsoft Office ทั้ง Word, Excel, และ PowerPoint กันพอสมควร แต่ส่วนตัวพยายามเลิกใช้งานทั้งสามตัวนี้มาได้สักพักแล้ว เพราะไม่อยากเสียค่ารายเดือนเพื่อใช้งาน Office 365 ที่ราว 2-300 บาท โดยไม่จำเป็น ซึ่งก็ยังสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไม่มีปัญหา มีความเด่นที่การทำงานร่วมกันจากหลายคนหลายอุปกรณ์ พร้อมกันได้แบบ real-time และสามารถส่งงานให้คนอื่นตรวจหรือแสดงความคิดเห็นได้เลยทันทีอีกต่างหาก ซึ่งในช่วงแรกที่ Galaxy Tab S4 วางจำหน่าย บริการ Google Docs จะยังไม่รองรับภาษาไทยดีนัก มีการตัดคำไทยประหลาดๆ แต่หลังจากวางขายไม่นานทาง Google ก็แก้ไขการตัดคำไทยให้เรียบร้อย ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบจนทดแทน Microsoft Word ได้เกือบ 100% เลยล่ะครับ ส่วน Google Sheets (บริการที่เทียบเท่า Excel) ก็สามารถทำงานได้ดี ฟีเจอร์และฟังก์ชั่นการทำงานในเซลล์เบื้องต้นมาให้ครบ แต่ถ้าใครเป็นผู้ใช้ระดับสูงของ Excel อีกหลายๆฟีเจอร์ Google Sheets ก็จะยังไม่มีให้นะครับ ส่วน Presentation อันนี้อาจจะยังเทียบ PowerPoint ไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็เพียงพอสำหรับการทำพรีเซนต์ทั่วไป เอาขึ้นหน้าจอใหญ่พร้อมสลับการแสดงผลหน้าจอเปิดปิดมุมมองคนพรีเซนต์และคนดูได้ครับ
มีบางคนบอกว่าสามารถใช้งานบน Galaxy Tab S4 ได้ฟรีไม่ต้องเสียค่าบริการ แต่ที่เจอคือเปิดไฟล์อ่านข้อมูลต่างๆได้ฟรีจริง แต่ถ้าต้องการสร้างหรือแก้ไข จะต้องสมัครใช้บริการก่อนเท่านั้น ซึ่งยังหาไม่เจอว่าทำอย่างไรถึงจะฟรีครับ ถ้าใครมีวิธีฝากมาบอกกันหน่อยละกันนะ อย่างไรก็ดี Microsoft Office ถ้าหาคนแชร์ได้ครบ 6 คน ไปสมัครใช้งานเป็นแบบ Family Package ก็คุ้มค่าดีเหมือนกันนะครับ เดือนละ 290 บาท ตกเฉลี่ยต่อคนไม่ถึงเดือนละ 50 บาทเท่านั้น ไม่ต่างอะไรกับบริการอื่นๆ ที่เสียเงินอย่างสตรีมดูหนังหรือเพลงเลยครับ ถ้าเราจ่ายให้กับสิ่งบันเทิงได้ ก็น่าจะจ่ายให้กับสิ่งที่ทำงานให้เราได้เหมือนกันเนอะ ^^
ใช้ S Pen ทำงาน สะดวกและคล่องตัวกว่า
ในช่วงหลังๆมาเราได้เห็นแอปที่ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับปากกาบน Android มากขึ้น เราสามารถโหลดเอกสาร PDF มากรอกข้อมูลและเซ็นลงบน Galaxy Tab S4 ได้แบบไม่ต้องปริ้นท์ออกมาให้เปลืองกระดาษ และจัดเก็บไว้เป็นหลักฐานได้อย่างสะดวก ไม่ต้องกังวลว่ามันจะหล่นหายไปที่ไหน หรือสำหรับคนที่ต้องทำการคอมเม้นท์งานเยอะๆ การจับภาพหน้าจอแล้ววาดเขียนลงไปทันทีก็เป็นอะไรที่ยังทำได้สะดวกกว่าด้วยปากกา ด้วยหัวที่แหลมเขียนได้แม่นยำกว่านั่นเอง ยังไม่นับรวมถึงเหล่านักวาดเขียนตกแต่งภาพที่วันนี้ก็มีแอปรองรับมากขึ้นเรื่อยๆ ทำงานแยกเลเยอร์ได้อย่างมืออาชีพพอสมควรเลยครับ
แนะนำแอปปากกาเพิ่มเติมสำหรับการใช้งานร่วมกับ Galaxy Tab S4
Adobe Draw : วาดเขียนภาพออกมาเป็น Vector
Adobe Fill & Sign : แอปกรอกเอกสารที่ทำงานได้ตอบโจทย์ที่สุดตัวนึง
Artflow : วาดเขียนตกแต่งภาพแบบมี Layer
Bamboo Paper : สมุดจดโน๊ตคล้ายๆ Samsung Note แต่ทำงานข้ามยี่ห้อได้และเขียนได้ลื่นมาก
ประสบการณ์การใช้งาน Galaxy Tab S4 อื่นๆ ที่อยากแชร์
- ทำงานจริงจังน่าต่อ 2 จอ ทำบนจอใหญ่เป็นหลัก ไม่งั้นต้องเพ่งให้ปวดตา
- เสียบต่อพ่วง USB Hub ไปชาร์จไปได้
- สามารถเสียบใช้งาน Mouse – Keyboard ภายนอกได้
- เรียกใช้งานแอปแอนดรอยด์ใน Dex Mode ได้เกือบทั้งหมด ที่เจอปัญหาส่วนมากจะเป็นพวกเกมส์
- เสียบต่อ Ext.HDD ได้แต่ต้องเสียบไฟเข้าไปด้วย ไม่งั้นไฟไม่พอให้ HDD ทำงานได้
- มี file manager สำหรับการต่อพ่วงอ่านข้อมูลจากอุปกรณ์อื่นได้
- ถ้าต้องการดึงไฟล์จากวง LAN ทำได้แต่ต้องลงแอปอื่น ที่มากับเครื่องไม่รองรับ
- รองรับการลากวางไฟล์
- แบตอึดมาก เอาไปใช้ต่างประเทศเสียบซิมปล่อยสัญญาณ นำทางทั่วไป เล่นเน็ตหาข้อมูล ดูหนัง ดูซีรีย์ ระหว่างเดินทาง ยาวได้ทั้งวัน
- มีหูฟังให้สามารถเสียบต่อได้ เหมาะสำหรับการใช้งานดูหนังยาวๆ ไม่ต้องกลัวแบต Bluetooth หมด
ใช้งาน Dex Mode ได้แม้ไม่ได้เสียบต่อจอนอก กดปรับได้จากใน Shortcut บน Notification ได้เลย
สามารถเลือกตั้งค่า Dex Mode เพิ่มเติมได้มากมาย โดยเข้าไปที่ “การตั้งค่า” > “คุณสมบัติขั้นสูง” > “Samsung Dex”
มี file manager ใช้งานได้เหมือน PC ลากวางก๊อปไฟล์ได้หมด จะต่อ Ext.HDD ก็ได้*
ข้อควรรู้ก่อนซื้อ Galaxy Tab S4 เพื่อมาทำงาน
- ไม่สามารถเก็บภาพใน Clipboard เพื่อวางในเอกสารได้
- Keyboard Cover ลำบากสำหรับคนพิมพ์สัมผัส ตำแหน่งเลย์เอาท์ไม่เหมือน Full Keyboard ช่วงตัว ง, ข, ช จะพิมพ์ยากมาก
- น้ำหนักเมื่อรวม Keyboard Cover แล้วกลายเป็นถือแล้วรู้สึกไม่สบายที่จะแบกไปมาเหมือนกัน (483+363.7= 846.7 กรัม)
- ไม่มีแอปสร้างสรรค์แบบครบถ้วนอย่าง Photoshop หรือ Illustrator ต้องหาแอปทดแทนและใช้งานรวมกันหลายตัว
Shortkey คีย์ลัดน่ารู้สำหรับการใช้งาน Galaxy Tab S4 + Keyboard Cover
- กลับไปหน้า Home : 🔍+ Enter
- ย้อนกลับ (Back) : 🔍+ Backspace
- สลับแอป : Alt + Tab
- ดูโนติ : 🔍+ N
- ดู Shortcut ทั้งหมด : 🔍+ /
- สลับคีย์บอร์ภาษาไทย : Shift + Space
- ล็อคหน้าจอ : 🔍+ L
- หน้ารวมแอป : 🔍
สรุป Galaxy Tab S4 + Keyboard Cover ใช้แทน PC Desktop ได้รึเปล่า
ต้องบอกว่าตลอด 1-2 สัปดาห์ ที่ได้ลองใช้ Galaxy Tab S4 แทน MacBook Pro ที่พังไป ประทับใจที่มันใช้ทดแทนกันได้ดีในระดับนึงเลย แต่ถามว่าจะเอามาใช้แทนเลยได้มั้ย ส่วนตัวจะติดทุกข้อที่เขียนใน “ข้อควรรู้ก่อนซื้อ Galaxy Tab S4 มาทำงาน” แต่ถ้าใครไม่ได้ใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวบ่อยๆ ไม่ได้มีโปรแกรมเฉพาะทางที่ต้องใช้งานบน Desktop ไม่ได้อยากเล่นเกมจริงจังที่มีเฉพาะใน PC หรือ Mac มันก็ใช้ทำงานได้โอเคเลยล่ะ แต่ก็แนะนำว่าควรหาสายมาต่อขึ้นจอใหญ่เพื่อไม่ให้เสียสายตานะ และสำหรับคนที่ชอบจด ขีดๆเขียนๆ ตัวนี้ก็จัดว่าเวิร์คไม่ใช่น้อย เอาไปใช้งานทั่วไปที่ไม่ใช่งานก็ดีที่แบตอึด ลำโพงเสียงดี หน้าจอสวยครบทุกความต้องการจาก Tablet ตัวนึง จะติงนิดหน่อยก็เรื่องราคาที่แอบแรงกว่าคู่แข่งไปหลายพันอยู่ ถ้าหาโปรมาซื้อในราคาที่ถูกลงได้ก็น่าจะดีขึ้นเยอะครับ
ใครมีอะไรจะแชร์หรืออยากสอบถามเพิ่มเติม มาพูดคุยกันได้ในคอมเมนต์เลยนะครับ
ยังไงผมว่ายังแทนโน๊ตบุ๊คไม่ได้ มันเหมาะกับงานฉาบฉวยงานแก้เล็กๆน้อยๆ ถ้าจะเน้นทำงานจริงๆ notebook โอเคกว่า
คงใช้งานพื้นฐานหรือใช้งานเฉพาะด้านได้เหมือนเดิมนั้นละ แต่งานแบบนั้นมือถือปกติก็ทำได้
มือถือทำได้ แต่หน้าจอมันก็ใหญ่ไม่เท่าครับ เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับคนที่ไม่อยากจะเพ่งตาลงในหน้าจอเล็กๆนะครับ
ถ้า Ubuntu มาเต็มตัว หลายๆอย่างอาจจะทดแทนได้มากกว่านี้ โดยเฉพาะคนที่ใช้ Linux ทำงานอยู่แล้ว
เทียบกับ Surface Go คิดว่ายังไงครับ?
ผมไม่ค่อยปลื้มการใช้งาน surface go เท่าไหร่นัก รู้สึกว่าทุกอย่างมันช้าไปหมด มันมีจุดเด่นที่ลงแอปของ windows ได้ก็จริง แต่ด้วยความแรงน้อยของมันนี่ ต่อให้ลงได้ก็ใช่ว่าเราจะทนใช้ได้ครับ และจากปสก. คือแบตไม่ค่อยจะอึดเลยครับ
ถ้าต้องเลือกระหว่างสองตัวนี้ ผมอาจจะตัดใจเอา Galaxy Tab S4 มากกว่า เพราะอย่างน้อยมันก็ยังทำงานด้าน entertainment ได้ดี ไม่ได้เอามาแล้ววางทิ้งเอาไว้เฉยๆแน่ๆ
ผมใช้ Surface 3 แล้วค่อนข้าง OK แต่คิดว่าไม่ได้ทำงานกับ Media เท่าไหร่ครับ ส่วนใหญ่แค่ Browse Web กับเปิดเอกสาร Office
ที่ใช้บ่อยมากๆ คือจด Note ใน OneNote ซึ่งค่อนข้าง happy ครับ
ตัว Surface Go ตอนออกมาแรกๆ อยากได้ แต่พอไปดูตัวจริงก็สองจิตสองใจนิดหน่อย เพราะจอเล็กกว่า Surface 3 อย่างรู้สึกได้
ปัญหาของgoogle doc และ google sheet คือเมื่อปริ้นออกมาแล้วการจัดหน้าจะไม่เหมือนกับสิ่งที่เห็นในแท็บเล็ตหรือมือถือหรือแม้แต่การพิมพ์จากเว็บบราวเซอร์ มันเป็นเรื่องเล็กๆแต่สำคัญมาก ถ้าเรื่องนี้ยังจัดการไม่ได้ ยังไงก็ไม่มีทางมาแทน microsoft office ได้แน่นอน
แต่ก่อนก็ชอบใช้ google doc กับ google sheet พิมพ์งาน แต่สิ่งที่เห็นกับสิ่งที่พิมพ์ออกมามันไม่เหมือนกันสักทีกลับกลายเป็นว่าแทนที่จะทำให้การใช้ชีวิตของเรามันรวดเร็วและง่ายขึ้น กลับใช้เวลาในการแก้และหาคำตอบอยู่นานวัน ปัจจุบันแทบจะเลิกใช้ไปแล้ว กลับมาตายรังที่ word และ excel พิมพ์จากคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คอยู่ดี เพราะเห็นบนจอยังไงพิมพ์ออกมาก็อย่างนั้น
ทำไมอันนี้ผมไม่รู้สึกหว่า คือมันไม่เหมือนนี่คือช่องไฟ การเว้นบรรทัดไม่เท่าหรือยังไงอ่ะครับ?
แล้วถ้าไปเทียบกับค่าย Huawei ละครับ ทางนั้นก็มีปากกาแล้วเหมือนกัน
อันนั้นยังไม่ได้ลองยาวๆเหมือนกัน แต่เห็นว่าปากกาก็ดีอยู่ ฟีเจอร์ต่างๆที่มีมาให้อาจจะน้อยกว่าทาง Galaxy Tab อยู่นิดหน่อย ถ้าไม่ได้กะจะเอามาใช้ปากกาเป็นหลัก ไม่ได้อยากได้ฟีเจอร์เฉพาะบางตัว แค่จะชอบวาดเขียนอันนี้ส่วนตัวคิดว่าไม่ต่าง เพราะต้องพึ่งพาแอปใน store เหมือนกันครับ
อีกด้านนึงคือ ถ้าไม่ได้เน้นเรื่องปากกา สองตัวนี้ "น่าจะ" กินกันไม่ขาดนะครับ แต่ที่แน่ๆคือ Huawei ราคาถูกกว่าหลายพัน
ผมว่าปากกาของ huawei ออกจะดีเลย์มากกว่าของ samsung น่ะครับ อันนี้จากที่ลองเล่นดูครับ ไม่รู้เป็นที่ app หรือเป็นที่ปากกา
ปากกา Huawei สู้ไม่ได้เลยครับ ลากเส้นไวๆไม่ค่อยสมูท แล้วก็ต้องออกแรงกดมากกว่า S-Pen ถึงจะมีเส้นออกมา แล้วน้ำหนักเส้นก็ไม่ค่อยเที่ยงตรง ซอยเส้นรัวๆ จะเห็นได้ชัดเลยว่า ขนาดเส้นมันออกมาไม่เท่ากันเลย ต่างกับ S-Pen มากที่ควบคุมน้ำหนักเส้นได้ตามมือ
ผมเป็นนักศึกษาที่ใช้ M5pro อยู่ ก่อนหน้านี้ใช้ TabA+S pen ตัวแรกอ่ะครับ
ไม่มีเคสคีย์บอร์ดนะครับ ผมใช้คีย์บอร์ดแยกของlogitechตลอด เทียบกับเพื่อนดูแล้ว คิดว่าการพกคีย์บอร์ดแยกเบาๆจะตอบโจทย์เรื่องน้ำหนักได้กว่า เพราะมันเบากว่าคีย์บอร์ดโคฟเวอร์พอควรเลยครับ แถมไม่เพิ่มน้ำหนักเวลาจะเอาเครื่องมาถือดูหนังอีก
สิ่งที่ต่างกันชัดเจนเลยคือปากกาครับ ผมคิดว่าM pen มันตอบสนองช้าอยู่พอควรเลย ส่วนเรื่องการใช้เพื่อพิมพ์งาน-ทำสไลด์พรีเซนต์จัดว่าดีทั้งคู่เลยครับ ในmodeที่ทำก๊อปวินฯใช้ทำงานได้ดีจริงๆ ทั่วๆที่มันก็แอพเดียวกันหมดนี่แหละ
และผมแทบไม่ใช้คอมมาเกือบสามปีแล้วครับ
ยังทำแทนไม่ได้ครับ ถ้าไม่ใช่ ระบบ Windows เหมือนกัน เอาแอนดรอย์ มาเปรียบเทียบกับ Windows ยังไงก็สู้ Windows ไม่ได้อยู่ดีครับ เรื่องความคล่องตัว แอนดรอย์ มีแค่แอฟ ขนาดแค่ไม่กี่ MB จะเอาไปเทียบกับโปรแกรม และ OS ทางระบบ Windows ยังไงก็ไม่ไหวหรอกครับ
ถ้ามองว่าต้องแทนแบบทุกด้าน ยังไงก็ไม่มีทางได้จริงๆครับ อย่างที่พยายามบอกว่าถ้ามีความต้องการเฉพาะทาง หรือฟีเจอร์หลักๆที่เกินงานเอกสาร ท่องเว็บ ความบันเทิงต่างๆ อันนี้อาจจะต้องมองข้ามละครับ
Tablet ที่เป็น Android หรือ Ipad ก็ตามเสียอย่างเดียว เปิด Powerpoint ที่มีการใส่หน้าซ้อนกันหรือ effect เยอะๆมันไม่สมบูรณ์ครับน่าสนใจตรงแบตอึด แต่ว่าอึดเท่า iPad มั้ยน๊า
เทียบกับ iPad ตัวไหนดี 🤔
กลัวเรื่องเดียว แอนดรอยมันช้านี่สิ จะทำงานได้ดีเท่า windows notebook รื้อ
ผมไม่ชอบ windows ก็จริงนะ แต่เรื่องการใช้งานเต็มที่นี่ ยังไง windows ก็เร็วกว่า แอนดรอย
จริงๆเร็วกว่า macbook ด้วยซ้ำ. แต่ไม่เท่และไม่มีสไตล์แบบ macbook
เรื่องความเร็ว vs windows นี่ขึ้นกับว่าเทียบกับรุ่นไหนเลยครับ ถ้าชนกับ surface go นี่ผมว่าอาจจะดู๋ดี๋นะ ส่วนเทียบกับ macbook นี่ผมว่าถ้าสเปคชนสเปค mac ชนะนะครับ
ถ้า android อืดแล้ว ผมว่า windows นี่ตัวอืดกว่า android อีก ซึ่งมันก็พอเข้าใจในเรื่องระบบที่ต่างกันนะ ความใหญ่ของ OS มันไม่เท่ากันอะ
ไม่จิ้มมาก นิ้ว ล็อค
benchmark
อยากบอกว่าดูเบนมาร์คไม่ว่าจะ windows ไหนๆ กะแมค os , osx
วินโดส์ชนะทุกครั้งไปครับ
ส่วนแอนดรอยยังไงก็ช้าครับ พี่แกเป็นจาวาจะเร็วกว่าคนอื่นก็ยาก ผมก็เขียนจาวามาตั้งแต่ 2014 แต่เรียนจาวามาตั้งแต่ 1.1 ด้วย ปี 1999 มั้ง
ผมเขียนโปรแกรมมาตั้งแต 1998 มีหยุดเขียนบ้าง5 ปีเพราะท้อ
ปัจจุบันก็ยังใช้ macbook pro เขียน angular 6
ถ้าเอาเรื่อง Benchmark คงยอมครับ 555
สมัยเล่นกล้องจริงจัง เส้นแบ่งคลาสกล้องของผมมีเส้นเดียวเลยนะ
คือกล้องที่พกซองข้างเอวได้ กับกล้องที่ต้องใส่กระเป๋ากล้องต่างหาก
พวก Mirrorless กับ DSLR ผมมีทั้งสองแบบ และไม่เคยรู้สึกว่า Mirrorless มันพกพาสะดวกกว่า DSLR
มาถึงพวกอุปกรณ์พกพาอื่นๆ ผมก็ใช้มาตรฐานเดียวกันนี้เหมือนเดิม
คือพกติดตัวได้ กับต้องพกใส่กระเป๋าต่างหาก ผมเลยไม่เคยคิดว่าแทบเล็ตมันพกพาสะดวกกว่าโน๊ตบุ๊ค
และอรรถประโยชน์มันก็มีแค่ความจอใหญ่กว่ามือถือ มีแค่นั้นจริงๆ
แล้วถ้าคิดราคากับสิ่งที่ได้รับ เอาเงินสองหมื่นไปซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นเบาๆมาใช้ได้หลายตัว
เงินสองหมื่นซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นเบาๆนี่ตัวไหนเหรอครับ???
เคยพยายามหาแล้ว เจอแต่ราคาโดดๆทั้งนั้นเลย T T
อย่างที่ตอบไปหนะครับ กล้องบางคนบอกว่ากล้อง Mirrorless เบากว่ากล้อง DSLR เยอะเลย
แต่สำหรับผม ผมรู้สึกไม่ต่างกัน เพราะมันทำให้ชีวิตต้องแบกกระเป๋ากล้องเพิ่ม 1 ใบเหมือนกัน
แทบเล็ต 850 กรัม หรือโน๊ตบุ๊ค 1.5 กิโล สุดท้ายก็พกแนบตัวไม่ได้ ต้องใส่กระเป๋าต่างหากทั้งคู่
แล้วประโยชน์ในการทำงาน ณ ปัจจุบันนี้โน๊ตบุ๊คมันก็เหนือกว่าแบบง่ายๆ
ไม่ต้องพยายามอะไรมากอยู่ดี พวกการลงโปรแกรมสีเทาๆอะไรนั่นก็คงไม่ต้องพูดถึง
เยอะเลยครับnotebook เบาๆไม่เกินสองหมื่น advice กับ jib มีให้เพียบ
อย่าหาว่าผมยุ่งเลยนะครับ คำถามคือ รุ่นไหนที่เบาๆ แล้วราคาสองหมื่นที่คุณว่า ที่ตอบมามันไม่ใช่ที่ทางคุณกิมถามน่ะ คือก่อนนี้จะคุยอะไรกันมาผมไม่รู้นะ แต่คำถามคือรุ่นไหน ไม่ใช่แบกยังไง
Acer Swift 3 เป็นต้น
ชอบแอนดรอยตรงใช้เมาส์ภายนอกได้ ตอนใช้ iPad พยายามพิมพ์ตอบแก้ไขข้อความ นี่แอบหงุดหงิดที่พิมพ์ ๆ กับแป้นคีย์บอร์ดแล้วต้องสลับนิ้วไปจิ้มจอ แล้วตำแหน่งก็ไม่ค่อยจะตรง จะทำไฮไลต์แล้วตัดข้อความก็จิ้ม ๆ เลื่อน ๆ แอบหงุดหงิด แต่กับแอนดรอยสะดวกตรงใช้เมาส์ได้นี่แหละ
ตอนนี้คิดไว้ว่าถ้ามือถือพังจะใช้รุ่นธรรมดาไม่แพง แล้วหา tablet ซีรี่ย์ Tab S มาใช้เสริมน่าจะสะดวกกับการทำงานมากกว่า
ผมพยายามมองหาโน้ตบุ้คบางๆที่แบตทนขนาดพวก ipad มานานมากแล้ว ซึ่งก็ไม่เคยมีตัวไหนทะลุ 10 ชม.ได้สักที ยกเว้น ultrabook เสปคพอถูไถ เปิดเว็บได้ พิมพ์ word ได้แค่นั้น
ส่วนตัวใช้ ipad ร่วมกับ office365 ก็พอทำงานแบบฉาบฉวยได้อยู่ แต่การใช้พวก adobe ร่วมกับไฟล์ raw ใน ios นี่เป็นอะไรที่ลำบากที่สุดแล้ว ซึ่ง Android น่าจะทำงานได้ดีกว่าในจุดนี้
แต่ก็กลับมาที่ประเด็นเดิม คือถ้าให้ขายโน้ตบุ้คไปซื้อ tab s4 ผมว่าคงไม่มีใครทำกัน แต่ถ้าให้ซื้อเพิ่มก็ถือว่าทำงานนอกบ้านได้สะดวกขึ้น แค่นั้นเอง 5555
ถ้าใช้ virtual keyboard ของ samsung เหมือนจะกดเปลี่ยนภาษาจากปุ่ม Lang ด้านล่างครั้งเดียวได้เลยนะครับ
แต่ถ้าลง app อื่น เช่น gadget door จะกดปุ่ม grave เปลี่ยนได้
ใช้ auto cad ได้ไหมครับ
ลง Nox ได้ไหม ฮ่าๆ
Office 365 Edit ได้ฟรีสำหรับอุปกรณ์ที่มีหน้าจอต่ำกว่า 10" ครับ
https://products.office.com/en-us/office-resources
น่าสนใจครับ เพราะมองหา tablet ที่ทำงานแทน notebook มานานมาก
อยากได้แบบ ต่อเนตได้ เขียนหน้าจอได้ ถ่ายรูปได้ ส่ง file ได้ สั่งพิมพ์ได้ โดนหน้าไม่เพี้ยน เชื่อมต่อ วง lan ได้
เคยใช้ tab a มาแล้ว ยังไม่ตอบโจทย์ ตัวนี้น่าสนใจครับ