ในปัจจุบันนี้นอกจาก Android TV หรือ Android Box ที่จะมาเปลี่ยน TV ของเราให้กลายเป็น Smart TV แล้ว ก็ยังคงมี Chromecast ที่จะช่วยให้ทีวีของเราสามารถ Stream หนังจากอินเตอร์เน็ตได้โดยตรง หรือจะส่งตรงจากเครื่องเราก็ได้ ซึ่งล่าสุดนี้ทาง Google ได้เปิดตัว Chromecast รุ่นใหม่ไปไม่นานในราคาที่เท่าเดิม

      เรื่องของเรื่องคือไปงานของนักพัฒนาที่ Google มา ซึ่งในงานก็มี Chromecast เป็นของรางวัลด้วย แล้วเราก็ดันได้ติดมือกลับมา เพราะงั้นเพื่อไม่ให้เสียเปล่าจึงหยิบมานั่งรีวิวเล่นๆอีกตามเคยนั่นแหละ 😀 (แต่ถึงไม่ได้ก็ว่าจะไปซื้อมาลองอยู่ดี)

 

เริ่มจากแกะกล่องก่อนเลย

      ตัวกล่องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ถูกคาดด้วยกระดาษอีกทีหนึ่ง ซึ่งมีรายละเอียดของ Chromecast อยู่ทุกด้าน

 

      แกะกล่องครั้งแรกจะต้องดึงเทปที่ติดอยู่ด้านข้างออกก่อน 

 

      เมื่อเปิดออกมาจะเป็นแบบนี้ ตัวกล่องสีขาวๆจะติดอยู่กับกระดาษที่คาดทับในตอนแรก โดยด้านในก็จะเห็นวิธีการใช้งานเบื้องต้น

 

      บนกล่องมีโลโก้ Chrome

 

        เมื่อเปิดข้างในก็จะเห็น Chromecast นอนรออยู่แบบนี้

 

      อุปกรณ์ภายในกล่องจะมีแค่ Chromecast, สาย USB และอะแดปเตอร์ 5V 1A 

 

รูปร่างหน้าตา 

       ที่เห็นเป็นห่วงๆนี่ไม่ใช่สายคล้องนะครับ แต่เป็นสาย HDMI ที่ติดมากับตัว Chromecast เลย คราวนี้ไม่ต้องต่อสายพ่วงเพิ่มแบบเก่าแล้ว

 

      โดยสาย HDMI จะมีด้านหนึ่งที่เป็นแม่เหล็ก ทำให้สามารถเก็บสายด้วยการแปะติดกับตัวเครื่องได้เลย

 

        จะมีช่องเสียบ Micro USB สำหรับจ่ายไฟเลี้ยง ปุ่มรีเซ็ต และรูไฟแสดงสถานะ

 

        เทียบกับ Chromecast ตัวเก่าจะเห็นว่าตัวใหม่มีขนาดสั้นกว่า (ถ้าไม่นับตรงสาย HDMI) แต่ก็อ้วนกว่าเพราะเป็นทรงกลม 

 

      อะแดปเตอร์เป็น 5V 1A แล้ว ถ้าจำไม่ผิดของเก่าเป็น 5V 500mA เอาไปชาร์จมือถือแล้วช้าเหลือเกิน ฮา

 

 

สเปคเบื้องต้น

    • CPU : Marvell Armada 1500 Mini Plus 88DE3006, Dual-core, ARM Cortex-A7
    • WiFI : 802.11 b/g/n/ac รองรับทั้งความถี่ 2.4Ghz และ 5Ghz
    • HDMI : รองรับ CEC
    • Ethernet : รองรับโดยใช้ Ethernet Adapter for Chromecast (ซื้อเพิ่ม)
    • ขนาด (ไม่รวมสาย HDMI) : 51.9 x 51.9 x 13.49 mm
    • น้ำหนัก : 39.1g

 

 

เริ่มต้นใช้งาน 

      ถ้าใครเคยใช้รุ่นเก่ามาก่อน บอกเลยว่า “เหมือนเดิมเป๊ะ” เสียบไฟเสียบจอแล้วรอตั้งค่าผ่านมือถือด้วยแอพที่ชื่อว่า Chromecast

 

      ที่ชอบคือเปิดใช้งานครั้งแรกปุ๊ป จะแสดงวีดีโอแนะนำวิธีการใช้งานทันที ระหว่างนั้นก็จะทำการอัพเดทตัวเองไปด้วย

 

      ก็อย่างที่บอกมันเหมือนกับรุ่นเก่าเป๊ะๆ การใช้งานก็เหมือนเดิมเป๊ะๆเช่นกัน จึงไม่ขออธิบายอะไรมากนัก ส่วนแอพก็สามารถเช็คได้จากในแอพ Chromecast อีกที จะมีรายชื่อแอพที่รองรับกับ Chromecast ให้ดาวน์โหลด

 

      และมีฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Fast Play ที่จะช่วยสตรีมเนื้อหาให้ล่วงหน้าก่อนที่เราจะกดเข้ามาดูเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมานั่งรอ ซึ่งฟีเจอร์นี้จะเตรียมดาวน์โหลดเนื้อหารอไว้ในเวลาที่เราเลือกเมนูต่างๆในแอพบนมือถือหรือแทบเล็ตนั่นเอง เรียกได้ว่าสะดวกมาก (เพราะใช้เนตบ้านอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องเปลืองดาต้าอินเตอร์เน็ต)

 

      ซึ่งหลักๆเลยก็จะเน้นเป็นวีดีโอ การดูออนไลน์มากกว่า (ก็มันเกิดมาเพื่อการนี้) 

 

      การทำ Screen Cast ทำได้ดีขึ้นเพราะว่ารองรับ WiFi ความถี่ 5Ghz แล้ว จึงทำให้สามารถสตรีมได้ดีขึ้น (แต่ถ้า WiFI เน่าก็จบเห่นะ) ดีเลย์เล็กน้อยแต่ไม่น่าเกลียด

 

      จะเล่น Bombsquad ก็ดี เอาแทบเลตไป Cast Screen แล้ววางไว้ จากนั้นก็ใช้จอยมาควบคุมอีกที

 

      จริงๆเกมของ Chromecast ก็มีนะ แต่ก็ต้องลงในมือถือหรือแทบเล็ตเป็นหลัก อย่างเช่นเกม Fitflap ที่จะให้เราวางมือถือไว้หน้าทีวีเพื่อจับการเคลื่อนไหวของเรา (คล้ายๆ Kinect น่ะแหละ) แล้วให้เราขยับแขนขึ้นลงทำท่าบินเพื่อเล่นเกมนั่นเอง

 

      หรือเกมอย่าง Monopoly ก็มีนะ เล่นกันผ่าน WiFi ภายในบ้าน

 

มีรุ่นเก่าอยู่แล้ว จะเปลี่ยนมาใช้ตัวนี้ดีมั้ย?

      โดยส่วนตัวผมว่าไม่คุ้มซักเท่าไร เพราะรุ่นใหม่กับรุ่นเก่าก็ทำงานได้เหมือนๆกัน ถ้าคุณไม่มีปัญหาเรื่องความแรงของสัญญาณ WiFi ก็คงไม่จำเป็นนัก แต่ถ้าอยากซื้อใหม่เพื่อให้รับสัญญาณได้ดีกว่าก็ไม่มีปัญหา เพราะราคาก็เท่าเดิมเลย $35

 

แล้วถ้าเทียบกับ Android TV ล่ะ?

      Chromecast เรียกได้ว่าเป็นแค่ส่วนหนึ่งของ Android TV ก็ว่าได้ แต่เกิดมาเพื่อเป็นแค่ตัวรับคำสั่งจากอุปกรณ์อื่นๆเท่านั้น ไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงานได้ด้วยตัวเองอย่าง Android TV ดังนั้นถ้าคุณอยากจะเปลี่ยนทีวีที่บ้านให้ฉลาดมากขึ้น แต่ก็แค่เปิดดูหนังฟังเพลงบนอินเตอร์เน็ตเท่านั้นไม่ได้ทำอะไรมากนัก ผมว่าตัวนี้ก็เหมาะดี

      แต่ถ้าคุณต้องการให้มันตั้งไว้ที่หน้าทีวีแล้วสั่งงานได้ตลอดเวลา หรืออยากจะมีไว้เล่นเกมและทำอื่นๆด้วย ผมก็แนะนำ Android TV มากกว่า เพราะมีฟีเจอร์ Google Cast อยู่ในนั้นและตัวมันเองสามารถทำอะไรได้อีกหลากหลายกว่า แต่ก็ต้องเพิ่มราคาอีกเท่าตัวนิดๆล่ะนะ

 

สรุป 

      ถ้ายังไม่มี Chromecast และอยากจะซื้อมาลองใช้ก็โอเคนะ เพราะราคาไม่แพง แต่อาจจะหาซื้อยากในไทย ต้องรอร้านหิ้วเข้ามาขาย แต่ก็อย่าลืมว่ามันทำหน้าที่ได้แค่ Cast เนื้อหาจากมือถือเท่านั้น หรือ Stream วีดีโอผ่านอินเตอร์เน็ต ดังนั้นก็จะเหมาะแค่ดูหนัง ฟังเพลง ใช้พรีเซนต์ ซะมากกว่า แต่ถ้าเน้นเล่นเกมด้วยก็แนะนำ Android TV ไปเลยครับ