เวลามองหาสมาร์ทโฟนราคาประหยัด สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก็คือความคุ้มค่าของสเปคกับเงินที่จ่ายไป รวมถึงความครบครับในเรื่องของฟีเจอร์และการใช้งาน Huawei Y6 ก็เป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นนึงที่พอได้เห็นสเปคเทียบกับราคาแล้วสอบผ่านข้อแรกอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งหน้าจอ 5 นิ้วความละเอียด HD RAM 2GB และกล้อง 8 ล้านพิกเซลในราคา 4,990 บาท แต่จะสอบผ่านข้อสองหรือไม่ ลองมาติดตามกันในรีวิว Huawei Y6 กันครับ
สเปค Huawei Y6
- การแสดงผล หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (1280×720) HD IPS
- หน่วยประมวลผล Qualcomm 1.1GHz Quad-Core
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.1
- หน่วยความจำ
- RAM : 2 กิกะไบต์
- ROM : 8 กิกะไบต์
- เครือข่าย 3G 850/2100 MHz
- จีพีเอส GPS/AGPS/Glonass
- การเชื่อมต่อ HSPA+WCDMAGPRSEDGE(only DL)
- เซนเซอร์ G-sensor (ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว)
- กล้องหลัง : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล LED แฟลช
- กล้องหน้า : ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- สี ดำ, ขาว
- ราคาเปิดตัว 4,990 บาท
ตัวเครื่อง
แม้ Huawei Y6 จะเป็นสมาร์ทโฟนในกลุ่มผู้เริ่มต้นใช้งานและราคาไม่ถึง 5,000 บาท (4,990 บาท ขาดอีก 10 บาท) แต่งานประกอบนั้นถือว่าทำได้แน่นหนาดี ตัวเครื่องจับแล้วดูแข็งแรง มีการเก็บรายละเอียดทั้งในเรื่องของการลบความคม เรียกว่าจับลูบไปตรงไหนก็ไม่เจอ แม้แต่ช่อง micro USB ก็ลบเหลี่ยมมาให้
ขอบสีเงินที่เห็นด้านข้างนั้นไม่ใช่โลหะนะครับ แต่เป็นพลาสติกทำสีซึ่งขึ้นรูปมาเนื่อแน่นดี สีขาวจะเป็นกรอบสี Silver ส่วนสีดำเป็นกรอบเป็น Metallic Black ปุ่มพาวเวอร์ และปุ่มปรับเสียง อยู่ที่ด้านขวา
ช่องหูฟัง 3.5 มม นั้นอยู่ด้านบน ส่วนด้านล่างนั้นมีการเจาะรูทำช่องลำโพงและไมโครโฟนแยกกันซ้ายขวา มีตรงกลางเป็นช่องเสียบ Micro USB
ด้านหน้าและฝาหลังมีการทำลายจุดไว้ด้านในแล้วเคลือบเงาเพิ่มความันวาวของผิวให้ดูสวยงาม แต่พอเป็นการเคลือบมัน glossy แบบนี้ก็จะเป็นรอยนิ้วมือง่ายหน่อยครับ
ด้านหน้าของตัวเครื่องมีไฟ LED แจ้งเตือนเล็กๆ ทางซ้าย ซึ่งในด้านตรงข้ามกันจะเป็นกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ส่วนด้านล่างตัวเครื่องมีแค่โลโก้ Huawei เพราะปุ่มควบคุมการใช้งานของ Huawei Y6 นั้นเป็นแบบ On screen อยู่บนหน้าจอ
อุปกรณ์ที่ Huawei จัดมาให้ในกล่อง Huawei Y6 นั้นเรียกว่าครบจบในกล่องกันเลย นอกจากหม้อแปลง, สาย Micro USB, หูฟัง, ฟิล์มกันรอย
หม้อแปลงจ่ายไฟ 5 โวลท์ 1 แอมป์
หูฟังสมอลทอล์คที่แถมมาในกล่อง
นอกจากนั้นยังมีเคสแถมมาให้ด้วย เครื่องสีขาวจะได้เคสขาวอมฟ้าอ่อนๆ ส่วนสีดำก็จะได้สีดำ ผิวของเคสนั้นเป็นซิลิโคนแข็ง จับแล้วหนึบไม่ลื่นมือครับ
เมื่อแกะฝาหลังออกมาแล้ว (ฝาหลังเป็นโพลีคาร์บอเนตอ่อน บิดงอได้ ตอนแกะก็ไม่ต้องกลัวมันหัก)
ภายในมีแบตเตอรี่ขนาด 2200 มิลลิแอมป์สามารถถอดออกมาได้
การจะใส่ซิมหรือ Micro SD เพิ่มนั้นต้องถอดแบตออกมาก่อน เพราะช่องมันปิดขวางกันพอดี โดยขนาดซิมที่ใช้นั้นเป็นไมโครซิมทั้ง 2 ช่องครับ
ประกบฝาหลังกลับเข้ามา กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED แฟลชหนึ่งดวง ส่วนที่เห็นเป็นรูนั่นไมค์ตัดเสียงรบกวนครับ
Emotion UI 3.1
Huawei Y6 มาพร้อมกับ Android 5.1 Lollipop ที่มี Emotion UI 3.1 เป็นหน้าจอการใช้งานหลัก ซึ่งทาง Huawei พัฒนาขึ้นมาเอง โดย Emotion UI 3.1 นั้นจัดมาครบทั้ง App ต่างๆ มี Themes และ Icon ให้เลือกเปลี่ยนหรือโหลดเพิ่ม รวมทั้ง Widget และ Wallpaper ซึ่งถือว่ารวมๆ แล้วถือว่าทำได้ดี ดูสวยงาม และทำงานได้ลื่นไหลไม่สะดุด เรามาว่ากันเป็นส่วนๆ ไปดีกว่า
Launcher และ Theme
Launcher ของ Emotion UI 3.1 นั้นจะตัด App Drawer ของ Android ทิ้งไป และให้ App ทุกตัวที่ติดตั้งในเครื่องออกมาเรียงแถวกันบนหน้าจอ Homescreen ทั้งหมด แล้วเราก็สามารถทำการจัดหมวดหมู่ให้มันโดยการแยกตามหน้า หรือสร้าง Folder ขึ้นมาด้วยการจับแอพชนกันครับ
บนหน้า Homescreen นั้นก็มีลูกเล่น gesture ให้เราเรียกใช้งานได้ เช่น การลากนิ้วจากบนลงล่างจะเป็นการดึงแถบค้นหา universal search ลงมา ซึ่งสามารถค้นหาทุกสิ่งอย่างในเครื่องได้ ไม่ว่าจะเป็น แอพ, รายชื่อ , ข้อความ
ในหน้า Recent apps จะมีการโชว์ RAM ที่เราใช้งาน โดยจาก RAM 2GB ของระบบนั้นเหลือให้เราใช้งานราวๆ 1.2-1.3GB
เราสามารถสั่งปิดแอพได้ด้วยการสไลด์แอพขึ้นด้านบน นั้นทิ้งขึ้นไปข้างบน หรือจะปัดนิ้วจากด้านล่างขึ้นเพื่อปิดแอพ ทั้งหมดก็ได้ครับ นอกจากนี้ ยังสามารถกดปุ่ม Recent App ค้างไว้เพื่อย้อนกลับไป App ที่เปิดใช้งานล่าสุดได้
สำหรับ Theme นั้นมีทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน สามารถเลือกสลับใช้งานได้ไม่ว่าจะเป็น icon, wallpaper หรือ lock screen
Notification Center
Huawei Y6 มีระบบ Notification Center ให้เราสามารถจัดการระบบแจ้งเตือนจาก App ต่างๆได้เอง โดยสามารถกำหนดว่าจะให้ App แจ้งเตือนได้หรือไม่ และแจ้งเตือนไปส่วนไหนได้บ้าง ทั้ง Status bar / Banners ที่จะห้อยลงมาจากด้านบนหน้าจอ / Lock screen คือการแจ้งเตือนบนหน้า Lock screen
ในส่วนของ Notification bar เมื่อเราลากลงมาแล้ว ก็ยังสามารถ slide สลับไปที่แท็บ shortcut เพื่อไปเปิดปิดใช้งานส่วนต่างๆ ของเครื่องเช่น wifi, bluetooth หรือ internet ได้
Motion Control ฟีเจอร์นี่ช่วยให้เราสามารถเปิดหน้าจอได้ด้วยการเคาะจอ 2 ครั้ง หรือวาดสัญลักษณ์บนหน้าจอเพื่อเปิดใช้งาน App ได้ทันที นอกจากนั้นยังสามารถคว่ำเครื่องเพื่อปิดเสียงเรียกเข้าได้
Navigation bar เราสามารถปรับเปลี่ยนปุ่ม Softkeys ที่อยู่ด้านล่างหน้าจอได้ด้วยการจัดเรียงลำดับใหม่ตามแบบที่เราถนัดใช้งาน
One-hand layout สำหรับคนมือเล็กหรือในบางครั้งไม่สะดวกในการใช่งานสามารถเปิด One-hand UI เพื่อใช้งานมือเดียวได้ถนัดมากขึ้น โดยเปิดใช้งานได้ง่ายแค่ลากนิ้วผ่าน navigation bar ด้านล่าง
สำหรับการจับภาพหน้าจอของ Huawei Y6 นั้นสามารถทำได้ด้วยการกดปุ่ม power + vol down
หรือจะใช้คำสั่งจากบนแผง shortcut ก็ได้เช่นกัน
Simple Mode
เป็นโหมดใช้งานง่ายเหมาะสำหรับใครที่ซื้อไปให้ผู้ใหญ่ใช้งาน หรือมีแอพที่ใช้งานบ่อยๆ ไม่มากนัก
Phone Manager
ศูนย์รวมการจัดการขยะ, เคลียร์ RAM, ระบบประหยัดพลังงาน, การตรวจผิด App ผิดปกติ, การจัดการสิทธิ์ของ App ภายในเครื่อง สามารถใช้แอพนี้ได้เลย ไม่ต้องลงแอพอื่นๆ เพิ่มเติม
หน่วยความจำภายใน
Huawei Y6 มีหน่วยความจำภายใน ROM มาให้ 8GB ซึ่งเปิดเครื่องมาก็เหลือพื้นทีสำหรับใช้งานลงแอพลงเกมราวๆ 3.5GB ครับ
ระบบ 2 SIM
การจัดการระบบ 2 SIM นั้นอยู่ในเมนู Sim card management ซึ่งเราสามารถเลิกเปิดปิด SIM ที่ไม่ใช้งานได้ผ่านหน้านี้ โดยไม่ต้องแกะฝาหลังเพื่อถอดซิมออก
กล้องถ่ายรูป
ถึงแม้ Huawei Y6 จะเป็นรุ่นราคาประหยัดก็จริง แต่ก็มีโหมดกล้องมาให้ใช้งานหลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นน Mode Beauty ที่ปรับระดับความสวยใสวิ้งได้ โหมดถ่ายภาพ HDR , Panorama, หรือถ่ายก่อนโฟกัสทีหลัง
มีโหมดแต่งภาพเช่นการใส่ลายน้ำ แปะสติกเกอร์หรือข้อความลงในภาพ
นอกจากนั้นเรายังสามาราถถ่ายภาพได้ทันทีแม้ไม่ได้เปิดหน้าจอ เพียงกดปุ่มลดเสียง 2 ครั้งติดกัน กล้องก็จะทำงานและถ่ายภาพเหตุการณ์ ณ ตอนนั้นทันที
เรามาลองดูตัวอย่างภาพถ่ายจาก Huawei Y6 กันดีกว่าครับ
ส่วนนี่เป็นภาพตัวอย่างจากกล้องหน้า ซึ่ง Huawei จะมีกิมมิคเวลากดถ่ายภาพเซลฟี่จะมีหน้าจอเล็กๆ ขึ้นมาที่มุมขวาบนให้เรามองไปที่ตำแหน่งนั้นเพื่อมองกล้องนั่นเอง
ที่กล้องหน้าเราก็สามารถเปิดโหมดถ่ายภาพแบบต่างๆ ได้ อย่างโหมดลายน้ำ หรือโหมด Selfie Panorama และก็มี Beauty Mode แต่งสวยได้ 0-10 ระดับตามใจชอบ
ประสิทธิภาพ
การทดสอบวัดคะแนน benchmark ของสมาร์ทโฟนนั้นก็เป็นวิธีที่ง่ายในการดูความสามารถโดยรวมครับ และนี่คือคะแนนที่ Huawei Y6 ได้การทดสอบผ่านแอพ Antutu ซึ่งก็บอกไว้ก่อนอย่างที่เคยบอกในหลายๆ ครั้งว่าผลคะแนนไม่อาจเทียบได้กับประสบการณ์ในการใช้งานจริง
โดยรวมแล้วการใช้งาน Emotion UI 3.1 บน Huawei Y6 นั้นก็ลื่นไหลดี พอเริ่มชินแล้วก็จะเริ่มใช้งานได้เร็วและคล่องขึ้น เท่าที่ได้ใช้งานมา 3-4 วันก็ทำงานได้ไหลลื่น การใช้งานทั่วไปไม่ว่าจะเป็นการใช้โทรศัพท์ก็เสียงดังฟังชัด เล่นเน็ตเล่นโซเชียลได้ครบ ดูหนังหรือฟังเพลงครบหมด ลองเล่นเกมอย่าง clash royale ก็ไม่เจอปัญหาอะไร
หรือจะเป็นเกม 3 มิติแอ็คชั่นระเบิดตู้มต้ามก็เล่นได้ แต่เกมไหนกราฟิคหนักๆ ก็อาจจะโหลดนานหน่อย เพราะ CPU มันไม่ได้แรงอย่างพวกรุ่นท็อป
สำหรับความอึดของ Huawei Y6 กับแบตเตอรี่ 2200 mAh แบบการใช้งานปกติหนึ่งวันเต็มๆ ถือว่าทำได้ดีครับ ช่วงหัวค่ำในบางวันแบตยังเหลือ 20-30% เลยก็มี เรียกว่าหนึ่งวันเอาอยู่แน่นอน
บทสรุป
Huawei Y6 ถือเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่า 5,000 บาทที่น่าสนใจเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดในช่วงราคาใกล้กันแล้วก็มีจุดเด่นในเรืองหน้าจอ HD ขนาด 5 นิ้ว , RAM 2GB งานประกอบและวัสดุก็ถือว่าสอบผ่าน และจากการใช้งานมาก็ยังไม่เจออาการเครื่องค้างแบบกดไปไหนไม่ได้ จะมีก็แค่ในบางครั้งที่เปิดแอพเยอะจน RAM เกือบเต็มถึงจะเจออาการอืดๆ บ้าง แต่ก็เป็นแค่พักเดียวเท่านั้นครับ ถ้าเน้นเล่นแค่โซเชียลและเล่นเกมเบาๆ Huawei Y6 นั้นทำได้สบายๆ ในราคา 4,990 บาท
แถวๆ 5000 นี่ก็แข่งดุเดือดมากๆ
รอม8GB จบข่าว…
ในช่วง 5000 มีตัวไหนอีกบ้างครับ แนะนำที ขอบคุณครับ
ขอตำแนะนำด้วยคนจะซื้อให้พนักงาน
http://www.lazada.co.th/meizum2note-16-gb-white-2168470.html
มี Meizu M2 4G 16GB ราคา 4,990
ว่าจะสั่งละ แต่ตอนนั้นใช้โค๊ตลาซาด้าลดไม่ได้ เลยไปสั่งตัวนี้แทนเพิ่มงบอีกหน่อยใช้โค๊ตลดได้ด้วย
http://www.lazada.co.th/infinix-zero-3-4g-lte-16gb-champagne-gold-free-original-jelly-case-4941185.html
คุ้มค่าสุดๆ RAM 3GB เสียดายมีแค่ ROM16GB ที่นำเข้ามา กล้องหลังแจ่มมากมาย ทั้งไวและชัด ตัวเครื่องบางเบา CPU X10 แบตอยู่ได้ครบวัน
ข้อเสียคือยังไม่มีเคสและฟิล์มขาย(แต่แถมเคสใสมา) มีรอมเพียง16GB ที่นำมาจำหน่ายซึ่งจริงๆมี32ด้วย และเอาเข้ามาสีทองสีเดียวสีเทาไม่ได้เอาเข้ามา
นอกจาก Huawei Y6 แล้วก็มี Wiko Pulp FAB 4G, Galaxy J2 , vivo Y31, Zenfone Laser / Go, Lenovo P1m
http://droidsans.com/compare-smartphone-price-range-4000-6000-baht-in-year-2015
Alcatel Onetouch Flash 2
RAM 2 GB
จอสวย
กล้องหน้าชัดกล้องหลังแจ่ม
ที่สำคัญ..
แบต 3,000 ครับ อยู่ได้เต็มวันสบาย ๆ
ขอเสียเห็นเขาบอกว่าแค่ GPS ไม่ได้จับเร็วและแม่นเท่าพวกตัวท็อป ๆ ครับ
หรือถ้าโชคร้ายหน่อยก็เจอเครื่องทัชเพี้ยน แต่เคลมได้ครับ
ถ้าจะเอาตัวนี้ ไป Zenfone 2 Laser ดีกว่า เพราะตัวนี้ไม่รองรับ 4G และแบตน้อยกว่า
Huawei มีความพิเศษเฉพาะตัว (ไม่รู้ว่าค่ายอื่นมีไหม)
หากใช้รุ่นที่ไม่ท็อบหรือเป็นเรือธง
คุณจะโดนลอยแพ Firmware
Firmware ที่ไหม่สุดของคุณก็คือวันที่ซื้อ
แต่เท่าที่เคยใช้มารุ่นนึง (Y511) Firmware ของเค้าไม่เคยมีปัญหานะ
(ไม่รู้ว่าใช้รุ่นต่ำไปรึป่าวนะ เขิน!)
ยังสู้ A7000 ปีที่แล้วไม่ได้เลย
แล้วจะสู้ Zenfone Go ได้หรอ ขายราคานี้
IQ II Android One ของปีที่แล้ว กินขาดเลยนะเนี่ย