ใครกำลังมองหามือถือเครื่องแรง ๆ จอใหญ่คมชัด รีเฟรชเรทลื่น ๆ แบตเตอรี่อึดพร้อมระบบชาร์จไว แถมราคาเป็นมิตรสุด ๆ ก็ขอให้ลองมาดู Infinix HOT 30 กันหน่อย เพราะมือถือรุ่นนี้มากับคุณสมบัติทั้งหมดที่บอกมาเลยล่ะ แถมค่าตัวยังเบาหวิว ๆ แค่ 4,799 บาทเท่านั้นเอง ส่วนการใช้งานจริงจะดีแค่ไหน เราก็เอามารีวิวให้ดูกันเห็น ๆ ไปเลย

ดีไซน์สวยหรูดูดี

Infinix HOT 30 มีดีไซน์แบบขอบเหลี่ยม มุมเครื่องโค้งมน ฝาหลังมีพื้นผิวแบบมันวาว มีลายเส้นสะท้อนแสงตามมุมตกกระทบ ซึ่งแน่นอนว่าฝาหลังแบบนี้เป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก ๆ จับนิดจับหน่อยก็เปื้อนแล้ว…แต่ยังไงก็ใส่เคสเอาได้

บริเวณกล้องหลังไม่มีโมดูลแต่เป็นกล้องเพียว ๆ ยื่นออกมาจากตัวเครื่องเยอะอยู่เหมือนกัน (เวลาใส่เคสจะได้ระนาบเสมอกันพอดี)

ขอบเครื่องด้านซ้ายมีช่องใส่ถาดซิม, มุมขวามีปุ่มปรับเสียง กับปุ่ม Power ที่เป็นเซนเซอร์สแกนนิ้วมือด้วย, ส่วนด้านล่างมีรูหูฟัง 3.5 มม. พอร์ต USB-C และลำโพงหลัก (ลำโพงอีกตัวใช้ร่วมกับลำโพงสนทนา)

จอใหญ่ คมชัด ไหลลื่น

หน้าจอขนาดใหญ่เต็มตา 6.78 นิ้ว ใช้ดีไซน์แบบเจาะรูสำหรับวางกล้องเซลฟี่ ความละเอียด FHD+ และมีรีเฟรชเรท 90Hz เพิ่มความลื่นไหล (ปรับได้ 60Hz/90Hz/Auto) ความสว่างของจอถ้าเร่งสุดก็ใช้งานกลางแดดได้ไม่มีปัญหา มองเห็นได้ชัดเจนไม่ต้องเพ่งมาก (จะเป็นลมแดดเอาซะก่อน…)

แต่น่าเสียดายที่อุตส่าห์ให้จอมาใหญ่ ๆ แบบนี้ แถมยังความละเอียด FHD+ แต่กลับไม่รองรับแอปดูหนังยอดฮิตอย่าง Netflix ซะนี่…ใครจะเอามาเสพหนังเสพซีรีส์ต้องไปดูของค่ายอื่นเอานะ เพราะมีครบเลยทั้ง HBO Go, Disney Plus, Amazon Prime Video ฯลฯ

ลำโพงคู่

มือถือรุ่นนี้ให้ลำโพงสเตอรีโอมาด้วยทำให้เวลาดูหนัง เล่นเกมได้อารมณ์กว่า เพราะแยกเสียงซ้าย-ขวาได้แบบชัดเจน แต่คุณภาพเสียงยังถือว่างั้น ๆ ไม่ได้โดดเด่นด้านไหนเป็นพิเศษ…อ้อ มีรูหูฟัง 3.5 มม. ให้มาด้วยนะ

สเปคเล่นเกมได้สบายแฮ

สเปค INFINIX HOT 30

  • จอ IPS ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 90Hz
  • CPU : Helio G88
  • RAM : 8GB มีโหมด MemFusion เพิ่มแรมได้อีก 8GB
  • ความจุ : 128GB  รองรับ microSD Card 1TB
  • กล้องหลัง 2 ตัว
    – กล้องหลัก 50MP
    – AI Lens
  • กล้องหน้า : 8MP
  • การเชื่อมต่อ : 4G , Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac | 2.0GHz, NFC, BT, USB-C
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่, DTS, มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • เซนเซอร์ : FINGERPINT (ข้างเครื่อง), G-SENSOR, E-COMPASS, GYROSCOPE, LIGHT SENSOR, PROXIMITY SENSOR
  • แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 33W
  • ระบบ Android 13
  • ขนาด / น้ำหนัก : 168.66 x 76.61 x 8.4 มม. / 196 กรัม

Play video

แม้จะเป็นมือถือราคาประหยัดไม่ถึง 5,000 บาท แต่ Infinix HOT 30 สามารถใช้งานทั่วไปได้แบบไม่มีติดขัด นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ MemFusion ที่จะยืมความจุในตัวเครื่องมาเติม RAM ได้สูงสุด 8GB (รวม 16GB) และมีฟีเจอร์ XArena ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องในการเล่นเกม ซึ่งเราต้องเข้าไปเปิดเกมจากโหมดนี้นะครับ มันถึงจะเป็น Game Mode ให้

ต้องเข้าเกมผ่าน XArena ถึงจะเป็น Game Mode

และด้วยการที่ทางค่ายเคลมว่ารุ่นนี้เป็นมือถือเกมมิ่ง ก็แน่นอนว่าต้องเอามาทดสอบเล่นเกมที่มีกราฟิก 3D ฮิต ๆ กันซะหน่อยว่าไหวรึเปล่า เริ่มจากเกม Freefire ก็สามารถเล่นได้แบบลื่นปรื๊ดดด

ต่อด้วย ROV ปรับเฟรมเรทสูงได้ และ PUBG ก็สามารถเล่นได้สบาย ๆ ด้วยการตั้งค่าแบบ Default สุดท้ายกับเกมกินสเปค Genshin Impact ตั้งค่า Default เฟรมเรท 30fps ก็เล่นได้แบบไม่มีปัญหา อาจจะมีสะอึกบ้างเวลาเจอศัตรูเข้ามาเยอะ ๆ แต่ก็ไม่ได้แย่จนเล่นแล้วหงุดหงิด

ปรับ 30fps ก็พอนะ…ถ้ามากกว่านั้นจะกระตุกจนรู้สึกได้

กล้องหลัง 50MP ถ่ายวิดีโอ 2K

Infinix HOT 30 มีกล้องหลัง 2 ตัว คือกล้องหลักความละเอียด 50MP และกล้องจับความลึก เวลาถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยก็ทำออกมาได้ในระดับโอเคเลยสำหรับมือถือระดับนี้ ส่วนการถ่ายในที่มืดก็มีโหมด Super Night ให้ใช้ด้วย

 

การถ่ายวิดีโอทำได้ที่ความละเอียดสูงสุด 2K 30fps แต่เนื่องจากไม่มีระบบกันสั่นทั้ง OIS และ EIS เวลาเดินถ่ายก็จะสั่นแบบเห็นได้ชัดเลย

Play video

Play video

วิดีโอเซลฟี่ถ่ายได้สูงสุดที่ 2K 30fps เหมือนกัน และยังมีโหมดวิดีโอหน้าชัดหลังเบลอด้วย แต่จะจำกัดอยู่ที่ 720p

Play video

Play video

หากใครต้องการทำคลิปสั้น ๆ เกร๋ ๆ เค้าก็มีโหมด Film มาให้เลือกเล่นกันได้ โดยโหมดนี้จะมีประเภทคลิปแบบต่าง ๆ จัดไว้ให้ ซึ่งจะมีการปรับฟิลเตอร์ และตัดต่อให้อัตโนมัติ ตามประเภทที่เราเลือกไว้

แบตอึด ชาร์จไว

Infinix HOT 30 ให้แบตเตอรี่มา 5000 mAh ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานใน 1 วันได้สบาย ๆ แม้ว่าจะเปิดรีเฟรชเรท 90Hz ไว้ตลอด แต่ด้วยตัวชิปที่ไม่ได้มีความแรงระดับไฮเอนด์ทำให้มันไม่กินพลังงานมากนั่นเอง ลองทดสอบใช้งานต่อเนื่องด้วยการดูคลิป YouTube ความละเอียด FHD เชื่อมต่อผ่าน WiFi เปิดความสว่างหน้าจอและเสียงลำโพงประมาณ 60% ดูยาว ๆ เป็นเวลา 6 ชม. ก็ยังเหลือแบตเตอรี่อีกตั้ง 45% เลยนะ

ส่วนระบบชาร์จไว 33W ก็ชาร์จแบตเตอรี่ได้ไวพอประมาณเลย โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 5 – 100% ได้ในเวลาไม่ถึง 1 ชม. นอกจากนี้ยังแถมหัวชาร์จให้มาในกล่องอีกต่างหาก ไม่ต้องไปหาซื้อเอง

สรุป

ข้อดี

  • ดีไซน์ตัวเครื่องดูดี
  • จอใหญ่ FHD+ รีเฟรชเรท 90Hz
  • จอสู้แดดได้ ใช้กลางแจ้งยังเห็นชัดอยู่
  • ติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้เลย
  • มีเคสแถมในกล่อง
  • เล่นเกมในปัจจุบันได้ทุกเกม (ตั้งค่า Default)
  • RAM เยอะ ความจุเยอะ ใส่ microSD Card ได้อีก
  • ลำโพงคู่
  • มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่อึด
  • ชาร์จ 33W แถมหัวชาร์จมาในกล่องด้วย คุ้ม!
  • กล้องถ่ายโอเคในสภาพแสงปกติ
  • ถ่ายวิดีโอ 2K ได้
  • ราคาเบา ๆ แค่ 4,799 บาท

ข้อสังเกต

  • ฝาหลังเป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก
  • ไม่รองรับ Netflix
  • ลำโพงคู่แต่เสียงธรรมดา เสียงไม่ดังเท่าไหร่
  • Bloatware เพียบ
  • กล้องไม่มีกันสั่นทั้ง OIS และ EIS
  • อาจไม่ได้อัปเดต Android ข้ามเวอร์ชั่น (ได้แต่ Security Patch)

Infinix HOT 30 นับว่าเป็นมือถือราคาประหยัดที่บอกเลยว่าคุ้มค่ามาก ๆ กับค่าตัวไม่ถึง 5,000 บาท สายเกมน่าจะถูกใจกับหน้าจอขนาดใหญ่ ความละเอียด FHD+ ลำโพงคู่ และสเปคที่เล่นเกมในปัจจุบันได้สบาย (ถึงจะปรับกราฟิกสูงไม่ได้แต่ความลื่นไหลก็ไม่ได้แย่เลย) ส่วนเรื่องกล้องก็อยู่ในระดับพอใช้ แต่ก็ไม่ขี้เหร่ จะมีข้อเสียก็คือมือถือค่ายนี้มักจะไม่ได้รับการอัปเดต Android แบบข้ามเวอร์ชั่นนั่นแหละ ที่จะเป็นปัญหาสำหรับคนอยากใช้มือถือไปอีกยาว ๆ