Infinix เอาใจสาย Vlog กันสุด ๆ ด้วยมือถือรุ่นใหม่ Infinix ZERO 20 ที่มากับกล้องหน้าสุดเทพไม่เหมือนใคร ทั้งความละเอียดสูงแถมมีระบบกันสั่น OIS เนียน ๆ นิ่ง ๆ ให้ถ่ายวิดีโอเซลฟี่กันได้แบบจัดเต็ม สเปคส่วนอื่นก็ไม่ใช่เล่น ๆ เลย ทั้งกล้องหลัง 108MP, จอ AMOLED สีสันสวยสด, ชิปแรงพอสำหรับเล่นเกม 3D ได้สบาย ฯลฯ ราคาก็น่ารักน่าชังแค่ 8,999 บาทเท่านั้นเอง…ถ้าอยากรู้ว่ามันน่าใช้แค่ไหน มีอะไรดีบ้าง ก็มาดูรีวิวเต็ม ๆ กันได้เลยจ้า

กล้องหน้าจัดเต็มไม่มีใครเทียบ

Infinix ZERO 20 เรียกว่าเป็นมือถือที่มาเจาะตลาด Vlogger โดยเฉพาะเลย ด้วยกล้องหน้าที่อัดสเปคมาแบบแน่นสุด ๆ แบบที่ไม่มีมือถือรุ่นไหนเคยให้มาก่อน ทั้งความละเอียด 60MP มีระบบออโต้โฟกัส และยังมีระบบกันสั่น OIS ที่ช่วยให้ถ่ายวิดีโอเซลฟี่ได้แบบเนียน ๆ นิ่ง ๆ ไม่เวียนหัว ทดสอบถ่ายวิดีโอเซลฟี่ที่ความละเอียด 720p 30fps / 1080p 30fps / 1080 60fps / 2K 30fps ออกมาก็นิ่งพอตัวเลย

Play video

Play video

Play video

Play video

มีระบบกันสั่นแบบ Ultra Steady ที่จะช่วยให้วิดีโอเซลฟี่นิ่งแบบสุด ๆ แต่จะจำกัดความละเอียดเอาไว้แค่ 720p เท่านั้น

Play video

สำหรับการถ่ายภาพนิ่งก็เด็ดดวงไม่แพ้กันเพราะมีทั้งระบบออโต้โฟกัส, โหมด Beauty ให้เลือกปรับได้ทั้งความสว่างของใบหน้า, ความเนียนของผิว, ขนาดใบหน้า, ขนาดดวงตา หรือจะปรับด้วยระบบ AI ก็ได้ นอกจากนี้ยังมีโหมดถ่ายแบบ Portrait ที่เบลอหลังได้ค่อนข้างเนียนเลย

 

มีโหมด Super Night สำหรับถ่ายเซลฟี่ตอนกลางคืนให้ออกมาหน้าตาสว่างสดใสด้วยนะ

กล้องหลัง 108MP

กล้องหลังของ Infinix ZERO 20 ก็จัดเต็มเหมือนกันด้วยกล้องหลัก 108MP + กล้อง Ultraiwide 13MP + กล้องจับความลึก 2MP โดยการถ่ายภาพปกติจะใช้ระบบ Pixel Binning รวมหลาย ๆ เม็ดพิกเซลให้กลายเป็นเม็ดใหญ่เพื่อการเก็บรายละเอียดและเก็บแสงให้ดีขึ้น ขนาดของภาพก็จะออกมาอยู่ที่ 12MP แต่ก็สามารถปรับให้ถ่ายออกมาเต็ม 108MP ได้เหมือนกัน (ไฟล์ภาพนึงขนาดราว ๆ 12MB) ส่วนการถ่ายภาพในที่แสงน้อยด้วยโหมด Super Night ก็ทำได้ในระดับดีเลยล่ะ แต่มือต้องนิ่งนิดนึงเพราะไม่มีกันสั่นมาให้ (ให้มาแต่กล้องหน้า)

การถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหลังแม้จะไม่มีระบบกันสั่น OIS มาให้ แต่ก็มีระบบ Ultra Steady ให้เปิดเพื่อเพิ่มความนิ่ง โดยสามารถใช้โหมดนี้ได้ในความละเอียดระดับ 1080p 30fps กับ 720p 30fps เท่านั้นครับ

Play video

ส่วนการถ่ายแบบ 2K 30fps จะไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ เวลาเดินลงเท้าจะเห็นชัดเลยว่ากล้องสั่นตาม

Play video

หน้าจอ AMOLED สีสดสวย

หน้าจอมีขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 90Hz ใช้พาเนลแบบ AMOLED ที่ให้ความสว่างสดใสมากกว่า สามารถใช้งานกลางแจ้งได้ค่อนข้างโอเคเลย

นอกจากนี้ยังใช้ดู Netflix แบบ HD ก็ยังได้ด้วยนะ

ลำโพงสเตอรีโอ

จัดเต็มความบันเทิงหน้าจอสวยสดงดงามไปแล้ว ระบบเสียงก็ยังให้ลำโพงสเตอรีโอมาอีกต่างหาก โดยมากับระบบ DTS Sound ให้เลือกปรับได้ว่าจะให้เหมาะกับ เพลง วิดีโอ เกม หรือปรับอัตโนมัติก็ได้ ยังสามารถเข้าไปปรับเสียงเพิ่มเติมได้อีกว่าจะให้เสียงออกมาแบบไหน ทั้ง Wide ให้เสียงแบบกระจาย, In-front จำลองเสียงให้เหมือนลำโพงจ่อมาที่ด้านหน้า และ Traditional แถมยังปรัพวก Bass Vocal Treble เพิ่มเติมได้อีกต่างหาก

อ้อ! มือถือรุ่นนี้ให้รูหูฟัง 3.5 มม. มาด้วยนะเออ

ตัวเครื่องทนทานด้วยเฟรมโลหะ

แม้ว่าจะเป็นมือถือราคาย่อมเยา แต่งานประกอบไม่ใช่เล่น ๆ นะ เพราะ Infinix ZERO 20 มีเฟรมเครื่องที่ใช้วัสดุเป็นโลหะแข็งแรงทนทานแต่เคลือบสีเงินแวววาวก็เลยติดรอยนิ้วมือง่ายมาก ๆ (เวลาใช้ใส่เคสอยู่แล้วเลยไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่)

ส่วนฝาหลังเป็นโพลีคาร์บอเนตเคลือบผิวแบบด้านไม่เป็นรอยนิ้วมือ

สเปคแรงพอตัว เล่นเกมได้หมด

สเปค INFINIX ZERO 20

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2400) รีเฟรชเรท 90Hz
  • CPU : MediaTek Helio G99
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 256GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    • กล้องหลัก : 108MP, PDAF
    • กล้อง Ultrawide : 13MP
    • กล้องจับความลึก : 2MP
  • กล้องหน้า : 60MP, AF, OIS
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth, พอร์ต Type-C 2.0
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ, DTS Sound, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบด้วย XOS 12
  • แบตเตอรี่ 4,500 mAh รองรับชาร์จไว 45W

สเปคของ Infinix ZERO 20 เรียกว่าใช้งานได้แบบครอบคลุมทุกอย่างในปัจจุบันแล้วด้วยชิป Helio G99 และ RAM 8GB + MemFusion ได้สูงสุด 5GB รวมเป็น 13GB

จะเล่นเกมกราฟิก 3D โหด ๆ อย่าง Genshin Impact ก็บ่ยั่น โดยระบบจะตั้งค่า Default เอาไว้ที่ระดับ Low ก็เล่นได้สบาย ๆ แล้ว (มีสะอึกบ้างบางจังหวะที่ศัตรูมาเยอะ ๆ)

ปรับเฟรมเรท 60fps ก็ยังไหวนะ

ส่วนเกมอื่น ๆ ไม่มีปัญหา ทั้ง ROV, PUBG, Nikke เล่นได้หมดทุกเกมจ้า

ROV

PUBG

NIKKE Goddess of Victory

ความจุจุก ๆ  256GB

หายห่วงเรื่องความจุในตัวเครื่องไปได้ยาว ๆ เพราะ Infinix ZERO 20 ให้มาแบบสะใจถึง 256GB และถ้าไม่พอใจจะเติมอีกก็ไม่ว่ากัน เพราะมีช่องใส่ microSD card แยกมาด้วย

แบตเตอรี่ใหญ่ + ชาร์จไว

Infinix ZERO 20 มีแบตเตอรี่ขนาด 4500 mAh ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้ใหญ่เท่ารุ่นอื่น ๆ ในราคาเดียวกันที่เดี๋ยวนี้แทบจะมาตรฐานที่ 5000 mAh กันเกือบหมดแล้ว แต่ก็ยังสามารถใช้งานทั่วไปได้สบาย ๆ ทั้งวัน ลองทดสอบแบบจัดหนักด้วยการเปิด YouTube ผ่าน WiFi ความสว่างจอ 60% ระดับเสียง 60% นาน 6 ชม. แบตเตอรี่ก็ยังคงเหลืออยู่ถึง 53% เลยทีเดียว นั่งดูหนังดูซีรีส์กันได้แบบไม่ต้องกลัวแบตหมด

จะชาร์จกลับก็ว่องไวด้วยระบบชาร์จ 45W ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 5 – 100% ได้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมงเท่านั้น

สรุป

ข้อดี

  • หน้าจอ AMOLED สีสดสู้แดด
  • รีเฟรชเรท 90Hz
  • ดู Netflix แบบ HD ได้
  • สเปคเล่นเกมในปัจจุบันได้ลื่น ๆ (ขึ้นกับการตั้งค่า)
  • ความจุสูง 256GB แถมเพิ่ม microSD ได้อีก
  • กล้องหน้าคุณภาพดี
  • กล้องหน้ามี AF / OIS ถ่ายวิดีโอเซลฟี่ได้สมูทมาก
  • กล้องหลังคุณภาพดีสำหรับมือถือราคาระดับนี้
  • กล้องหลังไม่มีกันสั่น OIS แต่มีโหมด Ultra Steady ที่ใช้งานได้จริง
  • ลำโพงสเตอรีโอ DTS Sound
  • มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • ชาร์จไว 45W
  • ราคาเป็นมิตรสุด ๆ

ข้อสังเกต

  • กล้องหลังถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 2K 30fps
  • เป็นไปได้สูงที่จะไม่ได้อัปเดต Android 13

Play video

ยังคงคอนเซปท์ของความคุ้มค่าคุ้มราคาเอาไว้ได้เหมือนเดิมสำหรับ Infinix ZERO 20 ซึ่งคราวนี้น่าจะถูกใจสาย Vlog กันแน่นอนเลย เพราะกล้องหน้าเรียกว่าจัดเต็มสุด ๆ ส่วนกล้องหลังและการใช้งานส่วนอื่น ๆ ก็เรียกว่ารองรับได้หมดในปัจจุบัน ด้วยราคาค่าตัวแค่ 8,999 บาท ต้องบอกเลยว่ามือถือรุ่นนี้น่าสนมาก ๆ ครับ