รีวิววันนี้ขอนำเสนอเจ้า Lenovo VIBE X3 มือถือราคาหมื่นกลางๆตระกูล VIBE มาพร้อมกับลำโพงเสียงคู่หน้าระบบ Hi-fi Dolby Atmos ที่ออกมาเอาใจผู้ใช้ที่ต้องการความบันเทิงจากการดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมก็เอาอยู่ แถมมาพร้อมกล้อง 21 ล้านพิกเซล , หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว และฟีเจอร์เด่นๆ คือ การแสกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจอีกบ้างลองมาอ่านไปพร้อมๆกันเลยนะคะเพราะสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นเอง อิอิ

 

Lenovo VIBE X3

ก่อนจะพูดถึงเรื่องสเปคขอพูดถึงเรื่อง Unbox ของที่มาในกล่องกันก่อนนะคะ จะประกอบด้วย ตัวเครื่อง , คู่มือการใช้งาน , เคสใส , ฟิล์มใส , หูฟัง , สาย USB , Adapter และ sim tool ค่ะ

 

Spec 

  • OS: Android 5.1.1
  • หน้าจอ: ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1080p
  • CPU: Qualcomm Snapdragon 808 hexa-core พร้อมหน่วยประมวลผล SensorHub
  • RAM: 3GB
  • ROM: 32GB รองรับ microSD up to 128 GB (uses SIM 2 slot)
  • กล้องหลัง: 21MP Sony IMX230 พร้อมระบบโฟกัส PDAF และ Dual-LED flash Geo-tagging, touch focus, face detection, panorama, HDR
  • กล้องหน้า: 8MP
  • แบตเตอรี่: 3,600mAh
  • รองรับ 2 ซิม / รองรับ 4G
  • ระบบสแกนลายนิ้วมือ
  • ลำโพงสเตอริโอคู่ด้านหน้า Hi-fi Dolby Atmos 
  • ชิปเสียง ESS ES9018 และ Wolfson8281
  • QuickCharge 2.0
  • ไมค์ตัดเสียงรบกวน 3 ตัว
  • ขนาด: 154 x 76.5 x 9.3 มิลลิเมตร
  • ราคาเปิดตัว 15,990 บาท

 

รูปทรง วัสดุ ดีไซน์

        Lenovo VIBEX3 นี้มาพร้อมกับดีไซน์ที่เป็นต้นแบบของ Lenovo K4 Note ขอบโค้งมน ตัวเครื่องทำจากวัสดุโพลีคาร์บอเนต แต่ขอบและแกนกลางเป็นโลหะ ทำให้ดูพรีเมี่ยมกว่านั่นเอง หน้าจอเป็นกระจก Corning Gorilla Glass 3 ขนาด 5.5 นิ้ว Full HD ขนาดใหญ่แต่ก็ไม่ใหญ่เกินมือถือ สะดวกในการใช้สำหรับคนที่เคยมีปัญหากับการมองไม่เห็น หรือ จิ้มแป้นไม่ตรง ยิ่งมาคู่กับลำโพงสเตอริโอระบบ Dolby Atmos ยิ่งทำให้เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกม ดูหนัง หรือ เปิดคลิปในยูทูป เสียงมา ภาพก็ใหญ่ใช้ได้สะใจในระดับหนึ่งเลยค่ะ

        พอมองหน้ากันก็ต้องเห็นสเตอริโอลำโพงคู่หน้า ที่ทำมารองรับกับพลังเสียงสเตอริโอ และซ่อนไมโครโฟนไว้ทั้งที่ลำโพงด้านบนและด้านล่างอย่างละตัว มีกล้องหน้า และ ไฟ LED แจ้งเตือนสถานะ

        จะเห็นได้ว่าด้านหลังเป็นดีไซน์แบบโค้งนูนขึ้นตรงกลาง เพราะฉะนั้นด้านขอบจะบางกว่าตัวเครื่อง ประกอบด้วยกล้องหลัง ตัวแสกนลายนิ้วมือ และ ไมโครโฟนอีกหนึ่งตัวซ่อนอยู่

        ขอบโลหะบาง 9.3 mm มีปุ่ม Power และปุ่มเพิ่ม/ลดระดับเสียง ส่วนขอบอีกด้านจะมีช่องใส่ซิม ที่สามารถใส่ได้สองซิม (nanoSIM) แบบ Hybrid ซึ่ง SIM2 ต้องแชร์กับ SD Card Slot

        ด้านบนมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 mm และ ช่องอินฟาเรดเอาไว้เชื่อมต่อกับโทรทัศน์เป็นรีโมตได้ ส่วนด้านใต้มีแค่เพียงช่อง Port USB เท่านั้นค่ะ

 

ระบบปฏิบัติการ

          Lenovo VIBEX3 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop ที่มาพร้อมกับ VIBEUI ที่เป็น UI ของ Lenovo เองเช่นเคย 

 

        สำหรับใครที่ชินกับการไม่ใช้ App Drawer สามารถเปลี่ยนได้ใน Homescreen Setting โดยการทัชหน้าจอค้างไว้ เลือก Preference แล้วเปลี่ยนตัวใช้งานตามค่าเริ่มต้นจาก Android เป็น VIBE UI เท่านี้ App Drawer ก็จะหายไป แล้วไอค่อนต่างๆก็จะมากองอยู่หน้า Home ให้เราเรียบร้อย

 

ประสิทธิภาพในการใช้งาน

          หน่วยประมวลผลของ Lenovo VIBE X3 คือ Qualcomm MSM8992 Snapdragon 808 Quad-core 1.2 GHz Cortex-A53 & Dual-core 1.8 GHz Cortex-A57 ซึ่งในเรื่องของการใช้งาน หรือ เล่นเกม ลื่นไหลดีค่ะ ไม่ค่อยมีเรื่องกระตุก สะดุดให้กวนใจ 

ผลคะแนนจาก Antutu ได้ 66876 คะแนน

 

สำหรับหน่วยความจำเริ่มต้นที่มากับตัวเครื่องจาก 32 GB จะเหลือพื้อนที่ให้ใช้ 22.78 GB ค่ะ

 

FEATURE 

Fingerprint scan (เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ)

          ฟีเจอร์หลักๆที่มากับตัวเครื่องเลยคือ Fingerprint Scan ที่อยู่ด้านหลังตรงใต้กล้องถ่ายรูป พอได้ลองใช้แล้วก็รู้สึกว่าแสกนได้ไว ทันใจ ไม่ค่อยมีปัญหาติดขัดอะไร ซึ่งเก็บลายนิ้วมือได้สูงสุด 2 ID แต่ว่าการบันทึกแต่ละ ID นั้น สามารถเก็บได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ(ตอนบันทึกต้องทัช 10 ครั้ง ไม่จำเป็นต้องเป็นนิ้วเดิม) หมายความว่าคุณอาจจะเอานิ้วอื่นๆ นิ้วคนละข้าง หรือนิ้วของคนอื่นมาบันทึกก็ได้ และก็แน่นอนว่าถ้ายิ่งมากนิ้ว ความแม่นยำก็จะลดลงตามด้วยเช่นกัน ไม่แน่ใจว่าเค้าตั้งใจให้มาเป็นแบบนี้หรืออย่างไร

 

ฟีเจอร์ที่มากับเครื่อง

ฟีเจอร์ที่มากับเครื่องนั้นเราสามารถเข้าไปดูได้ที่ ตั้งค่า > คุณลักษณะ แล้วก็  จะเจอกับฟีเจอร์หลักๆทั้งหมดที่มากับตัวเครื่อง ดังนี้ 

• จับภาพด่วน

• เพิ่มความสว่างหน้าจอ

• ฉากแบบสมาร์ท

• สัมผัสกว้าง

• พลิกเพื่อปิดหน้าจอ

• การถ่ายภาพโดยใช้ลายนิ้วมือ

• สลับโหมด VR

 

 

  • Quick snap (จับภาพด่วน)

เป็นฟีเจอร์ที่มีมาตั้งแต่รุ่นก่อนๆ คือการที่เราสามารถกดปุ่มเพิ่ม หรือ ลดระดับเสียงสองครั้ง เพื่อถ่ายภาพ ในขณะที่หน้าจอดับอยู่ ข้อดีคือจะช่วยให้เราถ่ายภาพได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านการปลดล็อคหน้าจอ แต่ข้อเสียก็คือมันไม่โฟกัส และ เบลอค่ะ 

 

 

  • Knock to light (เพิ่มความสว่างหน้าจอ)

คือการที่เวลาหน้าจอดับ ให้เราเคาะเบาเบาที่หน้าจอสองทีหน้าจอก็จะสว่างขึ้นไม่ต้องไปปลดล็อคหรือกดปุ่มอื่นให้วุ่นวาย สะดวกในการดูการแจ้งเตือนต่างๆ หรือ ดูเวลา สำหรับเรื่องความเร็วนั้นก็ไม่ได้ถึงกับแตะปุ๊บติดปั๊บ อาจจะต้องรอสักอึดใจนึง

 

  • พลิกเพื่อปิดหน้าจอ

 การคว่ำหน้าจอแล้วมือถือจะล็อคหน้าจอเองโดยอัตโนมัติ

 

 

 

  • ถ่ายภาพโดยใช้ลายนิ้วมือ

แน่นอนว่าเมื่อมีฟีจเจอร์แสกนลายนิ้วมือด้านหลังมาให้แล้ว นอกจากจะมีไว้เพื่อปลดล็อคแล้ว ยังสามารถเอาใช้แทนปุ่มแคปเจอร์ได้ด้วยยย ทัชโฟกัสเสร็จก็แตะเบาเบาที่ช่องรับเซนเซอร์ด้านหลัง ก็เป็นอันเสร็จ ใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยค่ะ

 

 

  • สลับโหมด VR

หากใครที่ซื้อมาพร้อมกับแว่น Ant VR ของ Lenovo มาหล่ะก็ เค้ามีการทำให้หน้าจอของเรารองรับโหมด VR เพียงแค่กดปุ่ม Power ค้างไว้ แล้วเลือกตัวเลือกโหมด VR เท่านั้นหน้าจอของเราก็จะแบ่งเป็นสองฝั่งรองรับโหมด VR แล้วว

 

 

 

          

  • Smart Scene

        คือการตั้งเวลาในการแจ้งเตือน หรือ ตั้งเวลาโหมดสลีฟ ของโทรศัพท์เรา ให้เป็นไปตามช่วงเวลาของวัน เช่น ตอนทำงานให้มันปิดเสียงเปิดสั่น หรือ ปิดทั้งสั่นทั้งเสียง ก็แค่สร้างลิสต์ขึ้นมาใหม่เท่านั้นเอง เอาไว้ใช้ได้สำหรับตอนขึ้นเครื่อง หรือ ตอนดูหนังตั้งเวลาล่วงหน้ายังได้เล้ยย อารมณ์เดียวกับมือถือสมัยก่อนที่มีโหมดเงียบ โหมดทำงาน โหมดประชุมแบบนั้นเลย

 

  • Wide Touch

        ปุ่มลัดในการเข้าถึงแอพลลิเคชั่นหรือตัวช่วยต่างๆที่เราใช้บ่อยๆ สามารถเข้าไปตั้งค่ากำหนดได้เอง และ กำหนดการทัชได้สามแบบว่าจะให้ทัชแบบไหน แล้วไปทางไหน เป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ 

 

CAMERA

        ในเรื่องของกล้องเจ้า Lenovo VIBE X3 นี้มาพร้อมกับความละเอียด 21 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ของ Sony IMX230 พร้อมระบบโฟกัส PDAF และ Dual-LED flash Geo-tagging, touch focus, face detection, panorama และ HDR 
        จากที่ได้ลองใช้ปัญหาที่พบหลักๆก็เหมือนกับรุ่นเดิมคือการที่กล้องไม่มี OIS นั่นก็คือมันไม่กันสั่นนั่นเอง หลายๆครั้งค่อนข้างเป็นปัญหาว่ารูปที่เราถ่ายมันอาจจะไม่ได้อยู่นิ่ง หรือว่า อยู่ในโมเม้นท์ที่ไม่อยากจะถือให้มันนิ่งได้นานๆ ภาพมันก็ไหว เบลอ ไม่ชัดสิคะ น่าเสียดายจริงๆ เราสามารถเข้าไปตั้งค่าเพิ่มเติมได้ โดยมีตัวเลือกหลักๆประมาณนี้ค่ะ แต่จุดเด่นอีกอย่างคือการที่เราสามารถใช้ฟีเจอร์ Fingerprint เพื่อถ่ายรูปได้อย่างที่ได้บอกไปข้างต้น เพียงแค่เอานิ้วไปแตะเบาเบาที่เซนเซอร์ก็ถ่ายรูปได้แล้ว ค่อนข้างสะดวกเวลาถ่ายเซฟล์ฟี่มากๆ เพราะไม่ต้องใช้หลายมือกดให้วุ่นวาย พันกัน

ตัวเลือกการตั้งค่าของกล้อง

        ในเรื่องของโหมดกล้องมีโหมดให้เลือกอยู่ 8 โหมด และเหมือนเดิมสำหรับ Lenovo VIBE ที่จะมี เซนเซอร์ตรวจจับวัดแสงของวัตุที่เราถ่ายแบบอัตโนมัติว่าควรจะถ่ายด้วยโหมดไหน เช่น โหมดSmart โหมดกลางคืน หรือ โหมดอาหารเป็นต้น 

  • โหมดโปร
  • โหมดพาโนราม่า
  • โหมดอาร์ทตอนกลางคืน
  • โหมด HDR
  • โหมดมาโคร หน้าชัดหลังเบลอ
  • โหทดเซลฟ์ฟี่แบบพาโนราม่า
  • โหมดถ่ายวีดีโอแบบ Fast Motion
  • โหมดถ่ายวีดีโอแบบ Slow Motion

 

  • โหมดโปร

        ในโหมดโปรเราจะสามารถตั้งค่า WB (White Balance) , Auto Foscus , Shutter Speed , ISO และ  ค่าการชดเชยแสง

ภาพโหมดปกติ                                                             ภาพโหมดโปร

ภาพโหมดปกติ                                                             ภาพโหมดโปร

           โหมดปกติสีของภาพจะออกแดงชมพูนิดหน่อย แต่สำหรับโหมดโปรจะออกไปทางขาวมากกว่าลองสังเกตุได้จากพื้นที่สีขาวแล้วเทียบกันดูนะคะ และจากการถ่ายโหมดโปรที่ไม่ได้ปรับการตั้งค่าอะไรเลยทั้งสองรูปที่ออกมาค่อนข้างสว่างกว่ารูปจริงค่ะ

  •  โหมดพาโนราม่า

        โหมดการถ่ายภาพแบบพาโนราม่า หรือ การถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง เราจะสามารถถ่ายได้แค่แนวตั้งเท่านั้นค่ะ เคยลองถ่ายแนวนอนแล้วมันไม่ยอมนอนให้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด หรือ เค้าตั้งใจให้ออกมาเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่ K4 Note ก็ถ่ายได้ทั้งสองแนวน้า

 

  • โหมด HDR

        โหมดถ่ายภาพย้อนแสง HDR เมื่อเรากดเข้าไปเรามันจะเลือกโหมด Automobile ให้โดยอัติโนมัติ ซึ่งถ้าเราไม่เปลี่ยนเนี่ยมันจะกลายเป็นแบบภาพที่สอง ที่แสงมันเป็นแบบนี้เพราะเค้าบอกว่าเอาไว้ถ่ายรถทำให้สีดูสวย ชัดเจน เพราะฉะนั้นก่อนถ่ายเราต้องเช็คให้เรียบร้อยให้ถูกกับจุดประสงค์ที่เราจะถ่าย อันนี้เลยเลือกเปรียบเทียบมาให้สามแบบ คือ

โหมด Auto(สามารถโฟกัสให้เป็น HDR อัตโนมัติได้) > โหมด HDR Automobile > โหมด HDR Portrait

 

  • โหมดมาโคร (เบลอพื้นหลัง)

        ใช้สำหรับถ่ายรูปโฟกัสวัตถุที่อยู่ใกล้ หรือต้องการโฟกัสที่จุดใดจุดหนึ่งเป็นพิเศษ เมื่อถ่ายสำเร็จแล้วเราจะสามารถปรับระดับความเบลอของของภาพได้ตามความความพอใจของเราเลยค่ะ

 

  • โหมดเซลฟ์ฟี่แบบพาโนราม่า

        โหมดเซลฟ์ฟี่แบบพาโนรามา ให้เราตั้งกล้องแล้วหน้าจอจะขึ้นให้เราเอียงไปทางซ้าย และขวา ให้เราเอียงไปให้ตรงกับกรอบที่มันขึ้นมา แล้วก็จะได้รูปเซฟล์ฟี่แบบพาโนรามามาแล้วค่ะ แต่ว่าถ้าเอียงไม่ตรงมัน หรือ อยู่ไม่นิ่ง รูปจะออกมาพิการนั่นเอง ฮ่าๆ เพราะฉะนั้นเวลาถ่ายต้องอยู่นิ่งสักนิดนะคะ ความกว้างของภาพเราสามารถกำหนดกดหยุดได้เองตามความเหมาะสมเลยค่ะ และสามารถถ่ายได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน

ตัวอย่างการถ่ายภาพเซฟล์ฟี่พาโนรามาแบบพลั้ง..พลาด (ถ่ายแนวนอน)

ภาพถ่ายเซลฟ์ฟี่พาโนรามาแนวตั้ง (นิ้วขาดด้วย หุหุ)

  • กล้องหน้า

กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ชัดในระดับที่ถูกใจชาวเซลฟ์ฟี่แน่นอน และแน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับโหมดบิวตี้ที่มีให้เลือกปรับ 7 ระดับ แต่เมื่อลองใช้จะพบว่ายิ่งปรับระดับที่มากขึ้นนอกจากจะหน้าเนียนขึ้นแล้วตาก็ยังโตขึ้นอีกด้วย ส่วนตัวคิดว่าถ้าปรับในระดับที่ไม่มากเกินไปก็ยังถือว่าไม่หลอกตามากเท่าไหร่นะคะ

ปรับโหมดบิวตี้ระดับ 0 > ระดับ 4 > ระดับ 7

 

 ตัวอย่างภาพจาก LENOVO VIBE X3 ในโหมด Auto

         สรุปโดยรวมแล้ว จากที่ลองถ่ายภาพและลองเปรียบเทียบจากวัตถุจริงและรูปที่ได้นั้นพบว่ากล้องของเจ้า VIBE X3 นั้นออกจะติดสีแดงไปสักนิด และ เพิ่มมีการเพิ่มแสงให้ภาพสว่างกว่ารูปจริงนิดหน่อย เมื่อลองเทียบจากกล้องของอีกรุ่นที่โฟกัสจุดเดียวกันทั้งคู่ ในที่นี้ขอเอาเจ้า Samsung Galaxy S7 มาถ่ายนะคะเพราะถ่ายออกมามีความใกล้เคียงกับวัตถุจริงในระดับนึง จะได้เห็นความแตกต่างค่ะ 

 

 

 

GAME / VIDEO

          ถ้าใครที่ชอบเล่นเกม ชอบฟังเพลง รวมถึงชอบดูหนังหล่ะก็รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ เพราะว่าลำโพงเสียงคู่หน้าของ VIBE X3 ให้พลังเสียงที่สะใจและมีมิติมากกว่า K4 Note ในเรื่องของภาพก็ไหลลื่นดีไม่มีกระตุก โดยทดลองเล่นสองเกม คือ Clash Royale และ Asphalt ไม่มีกระตุก ลื่นไหลเป็นปกติดีค่ะ ซึ่งถ้าใครคิดว่าพลังเสียงยังไม่สะใจ ก็ยังสามารถไปปรับเสียงได้ที่โหมดของ Dolby โดยเฉพาะเลยค่ะ

 

ANT VR

          อุปกรณ์เสริมที่มากับ Lenovo VIBE X3 คือเจ้าแว่น ANT VR เรียกว่าเค้าตั้งใจทำมาคู่กันเลยก็ว่าได้ เพราะมีโหมด VR มารองรับกับเจ้าแว่นนี้โดยเฉพาะ นอกจากจะสามารถเอาไว้เล่นเกม VR ดูวีดีโอแบบ VR ยังสามารถทำวีดีโอธรรมดาๆให้เป็น VR แยกช่องซ้ายขวา ดูกันได้แบบเต็มจอเหมือนกับอยู่ในโรงหนังได้ง่ายๆ เพียงแค่เลือกสลับเป็นโหมด VR แค่นี้ก็ทำให้สามารถดูวีดีโอธรรมดาๆให้ไม่ธรรมดาได้แล้วว

 

BATTERY

          แบตเตอร์รี่ความจุ 3,600 mAh อยู่ได้เต็มวันสบายๆค่ะ เวลาชาร์จจะมีเวลาขึ้นมาให้ดูด้วยว่ากี่ชั่วโมงมันถึงจะเต็ม แต่เหมือนว่าลองสังเกตุหลายๆครั้ง เวลาที่ขึ้นว่าอีกกี่ชั่วโมง อีกกี่นาทีจะเต็มนั้นน่าจะขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราด้วย อาจจะมีการแจ้งเตือนจากบางแอพ ในบางเวลาแทรกเข้ามาเลยทำให้เวลาคลาดเคลื่อน และถ้าใครอยากประหยัดแบตเค้าก็มีโหมดให้ปิดการแจ้งเตือนของแอพต่างๆให้ด้วยนะคะ
         สำหรับแบตความจุเท่านี้อยู่ได้เป็นวันสบายๆค่ะ ส่วนเวลาในการชาร์จถ้าชาร์จไปเล่นไปให้เต็มที่ 3 ชั่วโมงค่ะ จากที่ลองชาร์จมาไม่น่าเกินไปกว่านี้ ส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงก็ชาร์จเต็มค่ะ

 

ปัญหาที่พบ

  • ในตอนแรกจะมีเรื่องของการแจ้งเตือนของแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ไม่ค่อยแจ้งเตือน บางครั้งเป็นทุกแอพเลย บางครั้งเป็นแค่บางแอพ แต่ถ้าช่วงที่ไม่ได้เล่นมือถือหรือวางทิ้งไว้เนี่ยมันไม่เด้งแน่ๆ เราต้องเข้าไปเช็คเอง นี่คือปัญหาใหญ่ๆเลยที่เจอ เพราะมันทำให้เราพลาดอะไรที่สำคัญๆไปได้เลย วิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้น ย้ำว่าเบื้องต้นเท่านั้น คือการที่เราปล่อยให้โนติค้างไว้ที่ status bar สักอันสองอัน แล้วครั้งต่อๆไปมันจะมีการแจ้งเตือนค่ะ ไม่รับรองนะคะว่าจะได้ผลทุกครั้ง แต่อาจจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง โดยหลังจากที่อัพเดทซอต์ฟแวร์ไปแล้วพบว่าปัญหานี้ดีขึ้นค่ะ แต่ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่บางครั้งถ้าเราไม่ได้ใช้หน้าจอนานๆ แต่คาดว่าถ้ามีการอัพเดทซอต์ฟแวร์ครั้งต่อไปน่าจะดีขึ้นค่ะ
  • ปัญหาหลังจากที่กดใช้ Quick Snap พอถ่ายรูปเสร็จแล้ว ถ้าเราไม่กด Back เผลอไปกดล็อคหน้าจออีกครั้ง Fingerprint Scan จะใช้ไม่ได้ไปสักช่วงนึงเลยค่ะ วิธีแก้นอกจากรีสตาร์ทแล้วก็ยังไม่พบวิธีอื่น ถ้าใครเคยเป็นแล้วหาย หรือใครไม่เป็นก็บอกกันได้นะคะ

 

 สรุป

ข้อดี

  • การใช้งานทั่วไปลื่นไหนดี
  • วัสดุและงานประกอบถือว่าดีงาม
  • ลำโพงสเตอริโอคู่หน้าระบบเสียง Hi-fi Dolby Atmos 
  • มีโหมด VR ให้โดยเฉพาะ
  • มี Fingerprint scan

ข้อด้อย

  • ยังคงมี bug อยู่เรื่อยๆ ต้องรออัพเดทซอต์ฟแวร์ เช่น การไม่แจ้งเตือน และ โหมด Quick snap
  • ในพาโนราม่านั้นใช้งานได้เฉพาะกล้องแนวตั้ง

         Lenovo VIBE X3 น่าจะเป็นมือถือที่เหมาะและตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการความบันเทิงจำพวกดูหนัง ฟังเพลง หรือ เล่นเกม ด้วยลำโพงคู่หน้าที่เค้าภูมิใจนำเสนอมาอยู่แล้ว และ ยิ่งถ้าใช้คู่กับแว่น ANT VR ยิ่งตอบโจทย์ความบันเทิงได้มากขึ้น ดูภาพได้เต็มตาเสมือนจริง รวมถึงตัวกล้องเองก็มีฟีเจอร์ให้เลือกถึง 7 โหมด และ ฟีเจอร์ที่สะดวกสำหรับถ่ายภาพอย่างการถ่ายภาพโดย Fingerprint เพราะฉะนั้นถ้าใครที่กำลังตามหาสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ เสียงดี ราคาหมื่นกลางๆอยู่หล่ะก็ VIBE X3 ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยหล่ะค่ะ