Moto G ตระกูลสุดคุ้มของค่ายที่หลายคนรอคอยตอนนี้มันกลับมาอีกครั้งนึงแล้วเป็นรุ่นที่ 5 นั่นก็คือ Moto G5 Plus ที่กำลังจะเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยอีกไม่กี่วันนี้แล้ว การมาครั้งนี้ถือว่ามีการอัพเกรดพอสมควรทั้งประสิทธิภาพ หน้าตา และวัสดุ โดยเฉพาะเรื่องกล้อง แต่จะโดดเด่นและดีงามกว่าเดิมเท่าไหร่ มาทดสอบไปพร้อมๆ กันใน รีวิว Moto G5 Plus

แกะกล่องลองไล่สเปค

ได้เครื่องมาแล้วก็ต้องเริ่มแกะกล่องเช็คสินค้ากันก่อน ว่าภายในมีอะไรแถมมาให้บ้าง ซึ่ง Moto G5 Plus นั้นก็แถมมาให้ครบ ทั้งชุดหูฟังสมอลทอล์ค สายชาร์จ micro USB และหม้อแปลงที่รองรับระบบ TurboCharge ด้วย

หม้อแปลง TurboCharge ของ Moto G5 Plus นั้นจ่ายไฟอยู่ที่ 5V/1.6A , 9V/1.6A และ 12V/1.2A

ส่วนหูฟัง Smalltalk นั้นก็เป็นแบบธรรมดา มาพร้อมปุ่มกดรับสาย

สเปค Moto G5 Plus

  • OS Android 7.0 Nougat
  • หน้าจอ 5.2 นิ้ว Full HD (424ppi), กระจก Gorilla Glass 3
  • ขนาด 150.2 x 74 x 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 155 กรัม
  • CPU Snapdragon 625 octa-core 2.0 GHz Cortex-A53
  • GPU  Adreno 506
  • SIM Dual SIM (Nano-SIM, dual stand-by)
  • ความจุ  32 GB  (รองรับ MicroSD สูงสุด 256 GB)
  • RAM 4 GB
  • กล้องหลัง  12 MP ล้านพิกเซล, f/1.7, autofocus, dual-LED 1080p@30fps, HDR, 4K
  • กล้องหน้า  5 ล้านพิกเซล f/2.2, Auto-HDR
  • สแกนลายนิ้วมือ รองรับ
  • WLAN Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, WiFi Direct, hotspot
  • Bluetooth v4.2, A2DP, LE
  • GPS มี พร้อม A-GPS, GLONASS, BDS
  • NFC มี
  • FM radio
  • USB microUSB v2.0, USB Host
  • แบตเตอรี่ 3,000mAh (พร้อมระบบ TurboPower charging)
  • สีที่วางจำหน่าย เทา Lunar gray,  ทอง Fine Gold
  • ราคาเปิดตัว 9,990 บาท

วัสดุดีไซน์และงานประกอบ

จากด้านหน้าอาจจะเห็นความแตกต่างของรุ่นนี้จากรุ่นก่อนๆ อยู่พอสมควร ส่วนตัวผมมองว่า Moto G5 Plus นั้นมีรูปทรงโค้งมนกว่าเดิมหน่อยๆ แถมสีทองทั้งตัวแบบนี้ทำให้ดูละม้ายคล้าย Moto M อยู่หน่อยๆ

ตัวเครื่อง วัสดุ และงานประกอบ ยังคงไว้ใจ Moto ได้เสมอ G5 Plus มีการใช้อลูมิเนียมด้วย เวลาจับถือในมือรู้สึกถึงความแข็งแรงทนทาน ตำแหน่งของปุ่ม power ที่อยู่ด้านขวานั้นกำลังดี และปุ่มปรับเสียงก็อยู่ถัดขึ้นไปในระยะพอเหมาะ

พอร์ทการเชื่อมต่อและชาร์จแบตยังคงใช้เป็น micro USB อยู่ในรุ่นนี้ ช่องหูฟัง 3.5 มม. ก็ยังมีให้ใช้งาน ที่สังเกตุเห็นได้ชัดจากจุดนี้คือปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่มีรูปทรงเปลี่ยนไป (แถมยังมีฟีเจอร์เพิ่มขึ้นด้วย)

เมื่อทุกพอร์ทการเชื่อมต่อไปรวมกันอยู่ที่ด้านล่างแล้ว ด้านบนจีงเหลือแค่ช่องสำหรับถาดซิมเท่านั้น

เมื่อใช้เข็มจิ้มลงไปแล้วลากเอาถาดซิมติดออกมาก็จะเจอกับช่อง microSD ก่อนเลย โดยสามารถใส่ได้สูงสุด 256GB ถ้ามองไปที่มุมซ้ายล่างของภาพจะเห็นกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมเลนส์ไวด์เก็บภาพเซลฟี่ได้กว้าง

และถ้าพลิกมาด้านหลังก็จะเป็นช่องสำหรับ nano SIM โดยสามารถใช้งานได้ 2 ซิม + 1 micro SD เพราะว่าเป็นถาดแบบ Triple slot

ด้านหลังเห็นตอนแรกนึกว่าเป็นตระกูล Moto Z เพราะช่องเลนส์กลมๆ ดีไซน์มาแบบเดียวกันเลย ส่วนกล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซลหลายคนอาจจะงงว่าทำไมความละเอียดลด แต่เซนเซอร์ตัวนี้เทพกว่าเดิมนะครับ เพราะมาพร้อมกับระบบ Dual Pixel Autofocus แถมยังมีรูรับแสง f/1.7 แถมรองรับการถ่ายวิดีฺโอ 4K ด้วย

ระบบและการใช้งาน

ขนาดตัวเครื่องของ Moto G5 Plus กับหน้าจอ Full HD ขนาด 5.2 นิ้วนั้นถือว่ากำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป รายละเอียดและความคมชัดของหน้าจอ IPS นั้นถือว่าสวยงาม แต่เรื่องของสีสันนั้นสารถเข้าไปปรับแต่งได้อีก ซึ่งถ้าอยากให้มันสดขึ้นก็เข้าไปตั้งค่าให้เป็น Vibrant Mode ได้

ที่หน้า Launcher จะเห็นว่าไม่มี App drawer แล้ว เนื่องจากมีการเปลี่ยนจากปุ่มให้กดมาเป็นการสไลด์จากด้านล่างของหน้าจอแทน ซึ่งเริ่มต้นรุ่นแรกใน Pixel และคาดว่าใน Android 7 หลายๆ รุ่นต่อจากนี้ก็น่าจะใช้วิธีเดียวกันครับ เว้นแต่จะมีระบบหน้าโฮมที่แตกต่างหรือมี OS ของตัวเองครอบทับอีกทีหนึ่ง

แต่ส่วนของแถบแจ้งเตือนด้านบนและสวิชเปิดปิดฟังก์ชั่นต่างๆ ยังคงเหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่ ยังคงแตะเพื่อเปิดหรือปิด และแตะค้างเพื่อเข้าสู่การตั้งค่าเพิ่มเติมในฟังก์ชั่นนั้นๆ

มาถึงปุ่มสแกนลายนิ้วมือกับความสามารถใหม่กันบ้าง แต่จะเรียกปุ่มเลยก็อาจจะไม่ถูก เพราะมันกดลงไปไม่ได้ เป็นแค่เซนเซอร์สแกนลายนิ้สมือให้สัมผัสเท่านั้น ซึ่งถ้าหากเราอยากใช้มันในการทำหน้าที่อื่นๆ ด้วยละก็ ก็สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ Moto Actions รวมถึงการเอา Navigatuion bar ที่เป็นปุ่มบนหน้าจอออกด้วยก็ได้

โดยหากเราต้องการที่จะเอาแถบ Navigation bar ออกไป ก็ให้ไปเปิดใช้ One button navigation ควบคุมทุกอย่างในปุ่มเดียว โดยมีชุดคำสั่งง่ายๆ ตามนี้

  • แตะเพื่อปลดล็อคหน้าจอหรือแทนปุ่มโฮม
  • สไลด์นิ้วจากตัวสแกนไปทางซ้ายแทนปุ่มย้อนกลับ
  • สไลด์นิ้วจากตัวสแกนไปทางขวาเพื่อดูรายการแอพที่เปิดทั้งหมด
  • แตะค้างเพื่อปิดหน้าจอ
  • แตะค้างนานอีกนิดเพื่อเปิด Google Now

เมื่อเปิดใช้งานแล้วแน่นอนว่าแถบ Navigtion bar จะหายไปโดยอัตโนมัติ ก็ต้องมาใช้เซนเซอร์สแกนนิ้วในการสั่งงานแทน ถ้าคุ้นแล้วก็จะสะดวกมากครับ แต่ก็ต้องใช้เวลาให้เคยชินนิดหน่อย ส่วนตัวผมคิดว่าท่าปุ่ม back หรือย้อนกลับมันแอบยากไปนิด ยังไม่ค่อยถนัด และจะดีมากถ้าสามารถเลือกสลับ gesture กับคำสั่งได้เอง แต่มันยังทำไม้ได้

ประสิทธิภาพและการเล่นเกม

เรื่องของการประมวลผลและการเล่นเกมอันนี้ถือว่าสอบผ่านสบายๆ ชิป Snapdragon 625 นั้นถือว่าครบเครื่องอยู่พอตัว ถึงแม้อาจจะไม่ได้แรงมาก แต่เป็นส่วนผสมที่ดีของชิประดับกลางคือ ประหยัดแบต ประมวลผลผ่าน งานกราฟิคก็ลื่น คะแนน Antutu ได้มาราวๆ 60,000+

เกม CSR Racing 2

  

เกม Coverfire

  

จุดเด่นและฟีเจอร์พิเศษ

แบ่งหน้าจอ Multiwindows ง่ายมากๆ เพราะเอาการแบ่งหน้าจอมารวมอยู่กับหน้าแอพที่เปิดล่าสุดไป ทำให้เมื่อเข้าหน้านี้ปุ้บ สามารถลากแอพอีกตัวขึ้นไปแถบจอด้านบนเพื่อเปิด 2 แอปพร้อมกันได้ทันที

Moto Actions ยังมี gesture ต่างๆ ที่แฟนๆ Moto น่าจะคุ้นเคยอยู่แล่ว แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้

  • สับมือถือ เพื่อเปิดใช้งาน LED Flash เป็นไฟฉาย
  • พลิกข้อมือไปมาเพื่อเปิดกล้อง
  • สไลด์นิ้วจากมุมล่างจอเข้าไปด้านในเพื่อย่อเป็นจอเล็ก

Moto Active Display แสงการแจ้งเตือนบนหน้าจอทุกเมื่อ แค่หยิบเครื่อจอก็ติด พร้อมเช็คการแจ้งเตือนต่างๆ ง่าย แค่สไลด์ดู

แบตเตอรี่และการนำทาง

Moto G5 Plus ถือเป็นอีกรุ่นที่ทำแบตออกมาได้น่าประทับใจ บางยี่ห้อบางรุ่นแบต 3000 mAh บางทีใช้งานไม่ถึงวันก็ไปแล้ว แต่สำหรับรุ่นนี้ สามารถใช้งานได้หนึงวันเต็มๆ สบายๆ ถ้าใช้งานไม่เยอะนี่ทะลุไปวันครึ่งได้ไม่ยาก

ส่วนการเปิดหน้าจอแบบต่อเนื่องหรือ screen on time นั้นทำได้ราวๆ 6 ชั่วโมง

การจับสัญญาณ GPS รวดเร็วทันใจมาก อยู่ในรถที่ผมใช้ประจำ รวมทั้งที่โล่งนั้นแค่เปิดมาแป้บเดียวก็สามารถจับดาวเทียมได้ 18 ดวง จนความแม่นยำอยู่ในระดับ 5 เมตร

  

แต่หากอยู่ในอาคารสัญญาณก็จะตกลงมาเกือบครึ่งเลยเหมือนกัน

กล้องและกล้องวิดีโอ

กล้องหลังของ Moto G5 Plus นั้นหลายๆ คนสงสัยทำไมความละเอียดมันลดลงเป็น 12 ล้านพิกเซล อันนี้อธิบายไม่ยาก เพราะเราได้เห็นมือถือเรือธงหลายๆ ค่ายตอนนี้ยอมลดความละเอียดลงมา เพื่อขยายขนาดของ pixel บนตัวเซนเซอร์ให้ใหญ่ขึ้น จะได้รับแสงได้มากขึ้นนั่นเอง ซึ่ง Moto G5 Plus ก็มาในหลักการเดียวกัน พร้อมกับใส่ Dual Pixel Autofocus เพื่อจะได้จับโฟกัสได้เร็วขึ้น และเลนส์ f/1.7 เพื่อจะไดัรับแสงให้ดีขึ้นด้วย ซึ่งผลที่ได้ก็ถือว่าน่าประทับใจ และนับเป็นกล้องหลังรุ่นนึงที่ทำได้ดีในช่วงราคาไม่เกินหมื่น

หลายๆ คนตอนที่ใช้ไปแรกๆ อาจจะไม่คุ้น เพราะภาพบนหน้าจอหรือ view finder ตอนเล็งกล้องบางทีสึกับความละเอียดมันอาจจะแปลกๆ ดูตุ่นๆ ไปนิด หรือไม่ค่อยคม แต่ขอให้กดชัดเตอร์ไปเลย รอดูภาพจริงที่ถ่ายและผ่านการประมวลผลออกมาเรียบร้อยดีกว่า

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง

นอกจากจะรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ได้แล้ว ยังมีโหมดถ่ายวิดีโอแบบสโลโมชั่นด้วยนะ ลองไปดูตัวอย่างกันได้ ส่วนระบบกันสั่นก็ค่อนข้างเทพเลยเหมือนกัน (กันสั่นวิดีโอจะใช้งานได้ประสิทธิภาพสูงสุดในโหมด Full HD เหมือนกับทุกรุ่นนั่นแหละ)

ตัวอย่างคลิปวิดีโอจาก Moto G5 Plus จะมีแยกเป็น 3 คลิปด้วยกันนะครับ รายละเอียดก็ตามชื่อไฟล์เลย มีทั้ง Full HD และก็ 4K

Play video

Play video

Play video

กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลก็จริงแต่จากที่ได้ลองก็มีความคมใสใช้ได้ โหมดบิวตี้ก็พอมีให้เลือกปรับได้นิดหน่อย เกลี่ยเนียนได้ ไม่เว่อร์จนเกินไป แต่อาจจะต้องรอให้มันตรวจจับใบหน้าแล้วใส่ฟิลเตอร์นิดนึง อ้อ มีสกรีนแฟลช ใช้ไฟจากหน้าจอเป็นแฟลชได้ด้วยนะ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า

บทสรุป

Moto G5 Plus นั้นยังคงความเป็นมือถือที่มีความเป็น Android สูง เรียกว่าถูกปรับแต่งจาก Google มาน้อยที่สุดเหมือนเดิม เลยทำให้ความลื่นไหลและความสนุกในการใช้งานนั้นอยู่ครบ จากที่ลองใช้งานมายังไม่เจอปัญหา เปิด GPS นำทางเป็น Google Maps ก็จับสัญญาณแม่น เอามาทำ Facebook Live ยาวเป็นชั่วโมง สลับกล้องหน้าหลังไปมาก็สบายๆ ไม่ร้อนไม่ดับ เสียงเรียกเข้าก็ดัง เสียงสนทนาก็ชัดเจน งานประกอบและวัสดุโอเคมากกับราคานี้ กล้อง Dual Pixel Autofocus ก็สลับหาจับโฟกัสได้เร็วแม้แต่สภาพแสงน้อย อาจจะไม่เร็วขนาดเรือธงบางรุ่น แต่ก็มีความแม่นยำใช้ได้

การใช้งาน 2 ซิมก็สามารถสแตนบายด์เป็น 3G ซิมรองได้ นั่นก็คือสามารถใช้งาน 2 ซิมได้แบบ 4G/3G + 3G/2G สบายๆ กับราคาเปิดตัว 9,990 บาท อันนี้ถือว่าคุ้มแล้ว แต่ในใจก็แอบอยากให้ลดราคาลงมาอีกนิดคือถ้าลงมาเท่ารุ่นก่อนนะน่าจะขายดีขึ้นเพียบแน่

ส่วนวันวางจำหน่ายนั้น Moto G5 Plus จะเริ่มวางขายในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ครับ โดยจะวางขายผ่าน True Shop, Jaymart และ TG One หรือ สามารถซื้อผ่านออนไลน์ได้ที่ Motorola Shop บน Lazada