เริ่มวางขายมาได้ซักพักแล้วสำหรับ Moto G6 Plus มือถือซีรีส์ G รุ่นท็อปจาก Motorola ที่เปิดตัวมาในราคาหนึ่งหมื่นทอน 10 บาท เท่านั้น แต่ได้สมาร์ทโฟนที่มีสเปคโดยรวมถือว่าใช้งานได้สบายๆ ไม่ว่าจะเล่นเกม 3D หนักๆ หรือจะเป็นกล้องหลังคู่ 12MP + 5MP ที่สามารถถ่ายภาพออกมาแบบใช้ได้เลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นสภาวะแสงมากหรือแสงน้อย รวมถึงแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้วันนึงสบายๆ แบบไม่ต้องลุ้นว่าจะหมดก่อนถึงบ้าน

เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าเจ้า Moto G6 Plus ที่มีค่าตัวไม่ถึงหมื่นบาทเนี่ย มีสเปคเป็นยังไงบ้าง

  • หน้าจอ Max Vision 18:9 IPS ขนาด 5.9 นิ้ว ความละเอียด Full HD+
  • CPU : Snapdragon 630
  • GPU : Adreno 508
  • RAM : 4GB
  • ความจุ : 64GB รองรับ MicroSD สูงสุด 128GB
  • กล้องหลังคู่ 12 MP (f/1.7) + 5 MP (f/2.2)
  • กล้องหน้า  16 MP (f/2.2), แฟลช LED
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot, NFC, BT 5.0
  • เซ็นเซอร์ :  Fingerprint (ด้านหน้า), accelerometer, gyro, proximity, compass
  • ระบบเสียง Dolby Audio
  • รูหูฟัง 3.5 มม.
  • วิทยุ FM
  • แบตเตอรี่ : 3,200 mAh
  • ระบบ Android 8.0 Oreo

 

แกะกล่อง

ภายในกล่อง Moto G6 Plus ก็จะมีของให้มาครบๆ พร้อมใช้แบบไม่ต้องไปหาซื้ออะไรเพิ่มเลยล่ะ ซึ่งมีทั้ง หูฟัง หม้อแปลง สายชาร์จ ฟิล์มกันรอย และเคสซิลิโคนใส

 

วัสดุและดีไซน์ตัวเครื่อง

Moto G6 Plus มีตัวเครื่องเป็นโลหะและมีฝาหลังเป็นกระจกโค้งแบบ 3D Glass ขอบจอด้านล่าง-บน ที่บางลงจากรุ่นที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด เซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือยังคงวางไว้ที่ขอบจอล่างเหมือนเดิม แต่มีขนาดที่เล็กลง และเปลี่ยนจากรุปร่างวงรีเป็นแถบมนๆ แทน

ด้านหลังเครื่องอย่างที่บอกไปแล้วว่าเป็นกระจกโค้งแบบ 3D Glass ส่วนบนเป็นกล้องคู่แนวนอนอยู่บนแท่นกลมที่ยื่นออกมา ทำให้ต้องหาเคสใส่เอา ถ้ากลัวว่าขอบกล้องจะไปถูกับพื้นโต๊ะแล้วเป็นรอย เลื่อนต่ำลงมานิดนึงก็จะมีโลโก้ Moto อยู่ตรงกลาง

ส่วนถาดใส่ SIM ของ Moto G6 Plus คราวนี้แยกเป็นช่องใส่ SIM 2 ช่อง และช่องใส่ MicroSD Card 1 ช่อง ทำให้ไม่ต้องเลือกว่าจะใส่ SIM อีกเบอร์ หรือจะใส่ MicroSD Card เพื่อเพิ่มความจุดี

 

Software และ UI

แฟนๆ Moto น่าจะรู้กันอยู่แล้วว่าแบรนด์จะใช้ UI ที่แทบจะเป็น Stock Android มาเลยล่ะ เพราะแทบจะไม่มี Bloatware อะไรมาให้เกะกะพื้นที่เครื่อง รวมถึงการใช้งานต่างๆ ลื่นไหลไม่มีอาการหน่วงให้เห็น เพราะมันไม่มีลูกเล่นอะไรเยอะแยะเหมือน UI ของมือถือแบรนด์อื่นๆ ส่วน Moto G6 Plus นี้มาพร้อมกับระบบ Android 8.0 ตั้งแต่ออกจากกล่องแล้วด้วย

 

ประสิทธิภาพตัวเครื่องและการเล่นเกม

มาถึงส่วนของประสิทธิภาพเครื่องกันบ้าง โดยเราทำการวัดผลด้วยแอพพลิเคชั่น Antutu อีกเช่นเคย ซึ่ง Moto G6 Plus ก็ทำคะแนนออกมาได้ตามนี้เลย

ทีนี้มาถึงส่วนที่ถือเป็นจุดสำคัญสำหรับบางคนในการเลือกซื้อมือถือมาใช้งานกันบ้างล่ะ นั่นก็คือประสิทธิภาพที่ได้จากการเล่นเกมต่างๆ นั่นเอง แน่นอนว่าชิป Snapdragon 630 ที่ให้มา สามารถใช้เล่นเกมพวกแคชวลที่มีกราฟฟิคแบบ 2D ได้สบายๆ แบบไม่มีอาการหน่วงให้เห็นอยู่แล้ว แต่สำหรับการเล่นเกม 3D ที่มีกราฟฟิคโหดๆ ก็พบว่า Moto G6 Plus ยังสามารถโชว์ผลงานได้ดีอยู่ ซึ่งจากการทดลองเล่นเกมภาพงามๆ อย่าง Shadowgun Legends พบว่ามันสามารถปรับกราฟฟิคขึ้นไปได้ถึงระดับสูงสุด ก็ยังสามารถเล่นได้อยู่ แต่เฟรมเรตจะตกจนสังเกตได้ว่ามันไม่ลื่น แนะนำให้ปรับไว้แค่ Medium ก็พอ

อีกหนึ่งเกมกราฟฟิคงามงดอย่าง Titanfall : Assault ก็สามารถเล่นได้แบบลื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไรเลย

มาถึงเกมยอดฮิตอย่าง ROV ก็สามารถปรับกราฟฟิคขึ้นไปสุดได้ แต่ไม่สามารถปรับเฟรมเรทสูงได้ ส่วนประสิทธิภาพระหว่างการเล่นเกมเฟรมเรทก็จะอยู่ที่ 29-30 fps ถ้าช่วงนัวๆ กันก็จะอยู่ที่ 25 – 27 fps ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าแย่ เล่นได้แบบสบายๆ ไม่มีปัญหาเช่นกัน

 

กล้องหลัง

มาถึงช่วงที่หลายๆ คนน่าจะสนใจ อย่างเรื่องกล้องหลังกันบ้าง โดย Moto G6 Plus จะใช้กล้องหลังคู่ความละเอียด 12MP + 5MP ซึ่งกล้องหลัก 12MP นั้น มีรูรับแสงกว้างถึง f/1.7 ทำให้มันสามารถเก็บภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีเลยล่ะ แถมยังมาพร้อมระบบ Dual Pixel Autofocus เพื่อการจับโฟกัสได้รวดเร็วขึ้น ส่วนกล้องอีกตัวที่มีความละเอียด 5MP จะเอาไว้สำหรับการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ

สำหรับแอปกล้องถ่ายรูปของ Moto G6 Plus จะดูเรียบๆ ไม่ได้มีฟีเจอร์อะไรให้เลือกมากมายนัก เพราะมันเป็นแอปกล้องของ Android นั่นเอง โดยจะมีโหมดให้เลือกแค่ 3 โหมดเท่านั้นคือ ถ่ายภาพนิ่ง, วิดีโอ และ Portrait Mode

ในโหมดถ่ายภาพปกติจะมีให้เลือกทั้งการถ่ายภาพแบบ Auto และ Manual ซึ่งโหมด Manual จะสามารถตั้งค่า WB, Shutter Speed, ISO ได้เอง

ส่วนลูกเล่นแปลกๆ ที่ให้มาในโหมดภาพถ่ายปกติ ก็จะมีทั้งโหมด Cutout ที่สามารถตัดขอบวัตถุเพื่อเอาพื้นหลังออก แล้วแทนที่ด้วยภาพพื้นหลังที่ต้องการ

โหมด Spot Color สำหรับเลือกโชว์แค่สีที่ต้องการให้ปรากฎในเฟรม

ในภาพคือเลือกให้โชว์เฉพาะสีส้ม

และโหมด Text Scanner สำหรับถ่ายภาพของเอกสาร แล้วมันจะดึงเอาเฉพาะตัวหนังสือออกมาเป็นไฟล์ PDF ให้เลย

Text Scanner รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ

นอกจากนี้ในโหมดการถ่ายภาพปกติยังมีฟีเจอร์ Google Lens ติดมาให้เลยด้วย ซึ่งหลายๆ คนน่าจะเคยรู้จักกันมาแล้วว่าเจ้า Google Lens นี้ มีความสามารถอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็น Landmark Recognition เมื่อถ่ายรูปสถานที่ท่องเที่ยวแล้วจะมีข้อมูลต่างๆ รวมถึงตำแหน่งโชว์ขึ้นมาบน Google Maps, Barcode Recognition ถ่ายรูปบาร์โค้ดของสินค้า แล้วจะมีข้อมูลต่างๆ รวมถึงราคาขึ้นมาให้ดู, Text Recognition ถ่ายตัวอักษรเพื่อแปลเป็นภาษาต่างๆ ได้, Object Recognition ถ่ายสัตว์ ดอกไม้ ต้นไม้ สิ่งของ ฯลฯ และโชว์ข้อมูลว่าภาพที่ถ่ายมามันคืออะไร  

Landmark Recognition ส่องไปที่ภาพสถานที่ก็สามารถหาข้อมูลได้

สำหรับกล้อง Moto G6 Plus นั้น ถือว่ามีคุณภาพที่ใช้ได้เลยล่ะ เพราะมีการโฟกัสที่แม่นยำและรวดเร็วแม้ในสภาวะแสงน้อย แถมสีสันที่ได้ก็สดใสเป็นธรรมชาติ และภาพก็ยังคมอีกด้วย ส่วนโหมดการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอก็ถือว่าทำได้ดีเช่นกัน ถ้านายแบบนางแบบไม่มีผม, แขน, ขา, นิ้ว ยื่นออกมามากนัก เพราะภาพที่ได้ออกมา ฉากหลังดูเบลอเป็นธรรมชาติดี

ภาพถ่ายสภาพแสงปกติ

ภาพถ่ายแสงน้อย

Portrait Mode

กล้องหน้า

กล้องหน้าความละเอียดระดับ 16MP ก็ถ่ายภาพออกมาได้คมชัดใช้ได้ทั้งแสงปกติหรือแสงน้อยเลยล่ะ ส่วนลูกเล่นอื่นๆ ก็พอมีมาให้บ้างอย่างโหมด Beauty และ Face Filter ซึ่งก็คือโหมดสติ๊กเกอร์ที่มีให้เลือกเล่นได้ 8 แบบ และไม่มีให้โหลดเพิ่ม (สติ๊กเกอร์แบบใหม่ๆ น่าจะต้องรอจากการอัพเดทแอปกล้องเอา)

โหมดบิวตี้

โหมด Face Filter

ฟีเจอร์อื่นๆ

สำหรับฟีเจอร์อื่นๆ ของ Moto G6 Plus นั้น อย่างแรกคือระบบเสียง Dolby Audio ที่จะช่วยให้เสียงที่ได้จากหูฟังมีความแน่นและมีมิติมากขึ้น (ไม่ได้ช่วยเรื่องความดังของเสียงนะ) จะชัดมากเวลาเปิดฟีเจอร์นี้ตอนดูหนัง แต่สำหรับการเล่นเกมหรือฟังเพลงก็สามารถเลือกตั้งค่าได้เองเช่นกัน

การแบ่งหน้าจอก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการกดที่ปุ่ม Recent Apps ค้างไว้ในขณะที่กำลังใช้งานแอปใดแอปนึงอยู่ เมื่อกดแล้วมันก็จะแบ่งครึ่งหน้าจอให้ แล้วเราก็ค่อยเลือกแอปที่ต้องการเปิดที่ครึ่งจอล่างอีกทีนึง

Moto Key เป็นฟีเจอร์สำหรับใช้เซ็นเซอร์สแกนนิ้วของ Moto G6 Plus เป็นรหัสผ่านในการเข้าเว็บไซท์ต่างๆ ที่รองรับ แทนการพิมพ์รหัสจริงๆ หรือจะเป็นการปลดล็อคคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows 10 ก็ได้

Moto Actions สำหรับฟีเจอร์นี้ ใครที่เคยใช้มือถือของ Moto มาก่อนน่าจะคุ้นเคยดี  เพราะเป็นฟีเจอร์ที่ให้เราใช้ท่าทางในการสั่งงานต่างๆ ไม่ว่าจะใช้ 3 นิ้ว จิ้มหน้าจอเพื่อจับภาพ, เขย่าเครื่อง 2 ครั้งเพื่อเปิดไฟฉาย, หมุนข้อมือ 2 ครั้ง เพื่อเปิดกล้อง ฯลฯ

แบตเตอรี่

Moto G6 Plus ให้แบตเตอรี่มา 3300 mAh ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็สามารถใช้งานปกติได้ทั้งวัน อย่างเล่นเกมบ้าง ดู YouTube บ้าง เข้าเว็บบ้าง ฯลฯ แบบไม่ต้องชาร์จระหว่างวัน และจากการทดลองเปิดวิดีโอใน YouTube ความละเอียด 1080p, ความสว่างหน้าจอประมาณ 80%, เปิดเสียงออกลำโพงมือถือระดับ 75%, เชื่อมต่อผ่าน WiFi ก็พบว่าสามารถดูต่อเนื่องได้ 7 ชั่วโมง 11 นาที จากแบตเตอรี่ 100% จนเครื่องปิดไปเองเพราะแบตเตอรี่หมด

 

สรุป

เรียกได้ว่า Moto G6 Plus เป็นมือถือที่มีสเปคต่างๆ ครบครันสำหรับการใช้งานทั่วไปจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม 3D ที่เรียกว่าเล่นได้ทุกเกมในตอนนี้แบบลื่นๆ (แต่ต้องไม่ปรับ High นะ), แบตเตอรี่ที่ใช้งานปกติได้เต็มวันตั้งแต่ออกจากบ้านและไม่ต้องกลัวว่าจะหมดก่อนถึงบ้าน ตามด้วยกล้องหลังคู่ที่ถ่ายภาพออกมาได้เข้าขั้นดีเกินราคาเลยทีเดียว ทำให้ Moto G6 Plus เป็นมือถือที่ราคาไม่ถึงหมื่นแต่มีสเปคโดยรวมอยู่ในระดับที่มีความน่าสนใจมากตัวนึงเลยทีเดียว