Samsung ได้วางขาย Galaxy A22 5G สมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้นสเปคสุดคุ้มไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในราคา 8,299 บาท (ถ้าซื้อพ่วงแพ็คเกจกับ AIS จะเหลือเพียงแค่ 1,289 บาทเท่านั้น) ซึ่งวันนี้ทีมงาน DroidSans ก็จะมานรีวิวให้ได้รับชมกัน กับประสบการณ์ใช้งานที่ส่วนตัวได้ลองถือเจ้าเครื่องนี้เป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์เต็ม ๆ ว่ามือถือ 5G ที่ว่าสุดคุ้มรุ่นนี้ มันคุ้มค่ากับราคาค่าตัวหรือเปล่า

แกะกล่อง

เริ่มจากการแกะกล่องเช็คของแถมกันก่อนเลยดีกว่า โดยภายในกล่อง นอกจากจะมีตัวเครื่อง Galaxy A22 5G แล้ว ทาง Samsung ยังได้ใส่อะแดปเตอร์ Fast Charge กำลังไฟ 15W มาให้, สายชาร์จแบบ USB-A to USB-C, หูฟัง 3.5 มม., เข็มจิ้มซิม และคู่มือการใช้งานต่าง ๆ ขาดแต่เคสที่ไม่มีแถมมาให้

หน้าจอแสดงผล

Samsung เลือกใส่หน้าจอแบบ PLS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว มาให้ Galaxy A22 5G และที่เซอร์ไพรส์สุด ๆ ก็คือได้หน้าจอความละเอียด Full HD+ และรีเฟรชเรท 90Hz แล้ว หลังจากเมื่อตอน A21s ใส่มาให้แค่ HD+ และ 60Hz เท่านั้น ซึ่งการใช้งานโดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดี เป็นที่น่าพอใจ คือเลื่อนไถจอ 90Hz มันฟินกว่า 60Hz จริง ๆ

โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะปรับ High 90Hz ไว้ตลอดเพื่อประสบการณ์ที่ลื่นไหลสมูท ๆ หรือแบบ Standard 60Hz ไม่เน้นลื่น เน้นใช้งานยาว ๆ ประหยัดแบตลงมาอีกหน่อย

หน้าจอของ Galaxy A22 5G เป็นแบบ Infinity-V Display มีติ่งตรงกลางสำหรับวางกล้องเซลฟี่ความละเอียด 8MP

หน้าจอ Galaxy A22 5G สามารถนำไปใช้งานกลางแจ้งได้แบบสบาย ๆ หน้าจอสู้แสงแดดประเทศไทยตอนกลางวันได้อยู่นา

การใช้งานทั่วไป

รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11 ตั้งแต่แกะกล่อง ครอบทับด้วย One UI Core 3.1 ของทาง Samsung ซึ่งด้วยความที่เป็นเวอร์ชั่น Core ทำให้อาจจะมีฟีเจอร์บางอย่างที่ถูกตัดออกไปบ้าง เพื่อลดการกินทรัพยากรตัวเครื่อง แต่ถึงอย่างนั้น ฟีเจอร์ที่ส่วนมากมักจะใช้ในชีวิตประจำวันก็ยังอยู่ครบ ๆ ทั้งการแบ่งจอ, Pop up view หรือ Game Launcher ก็ยังมี แต่ความสามารถหายไปบ้าง

ในส่วนของการเชื่อมต่อ Samsung Galaxy A22 5G รองรับการใช้งาน 5G ทั้งบนคลื่นความถี่ 700MHz และ 2600MHz ซึ่งนั่นแปลว่า หากใครมีซิม 5G อยู่ ไม่ว่าจะของค่ายไหน และอยู่ในพื้นที่ให้บริการสัญญาณ ก็สามารถนำซิมมาใส่ ใช้งาน 5G ได้ทันที ขณะที่ WiFi ก็จะรองรับทั้ง 2.4G และ 5G เลย

อีกหนึ่งจุดที่น่าประทับใจก็คือ RAM แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB ที่ Samsung จับใส่มาในราคานี้ (คือบางค่ายราคาพอๆ กันให้ RAM 4GB ก็มี) ที่ช่วยให้เราสามารถเปิดแอปต่าง ๆ ทิ้งเอาไว้ได้หลายแอป ซึ่งจากที่ใช้งานมา ไม่ค่อยเจอระบบแอบปิดแอปซักเท่าไหร่ แรมเก็บอยู่ แต่ถ้าเปิดเอาไว้เยอะเกินแบบ 10 แอปขึ้นไป อันนี้ระบบก็มีปิดทิ้งบ้างอะไรบ้าง

การรับชม Netflix บน Galaxy A22 5G สามารถดูได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD

ชิปเซ็ตประมวลผล

ชิปเซ็ตที่ใช้ขับเคลื่อน Galaxy A22 5G รอบนี้ใช้เป็น Dimensity 700 จาก MediaTek ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตร ถือว่าอัปเกรดขึ้นจาก Exynos 850 (8nm) จากรุ่นเดิมพอสมควร ซึ่งประสิทธิภาพความแรงถือว่าเหลือ ๆ ใช้งานทั่วไป แชท หรือโซเชียลต่าง ๆ ได้แบบไม่มีปัญหา ไม่ค่อยเจอกับอาการหน่วงหรือกระตุกเลย

การเล่นเกมบน Galaxy A22 5G ก็ค่อนข้างใช้ได้ ปรับกราฟิกได้เกือบสุดทุกเกม เล่นลื่น ๆ อาจจะมีกระตุกบ้างบางครั้งเวลาบวกกันเยอะ ๆ แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นอุปสรรคต่อการเล่นอะไรนะ

ยกเว้นแต่เจ้า Genshin Impact นี่แหละ เกมกินสเปคของแท้ ถ้าอยากเล่นลื่น ๆ บน Galaxy A22 5G อันนี้ต้องปรับกราฟิกลงไป “ต่ำสุด” เลย ถึงจะเล่นได้แบบลื่น ๆ โดยสามารถปรับขึ้นไปเป็น “ต่ำ” ได้ แต่ก็มีกระตุกบ้างในบางครั้ง แนะนำให้ปรับต่ำสุดจะเล่นสนุกกว่า

และเมื่อนำเจ้า Galaxy A22 5G ไปทดสอบความแรงหน่วยความจำกับแอป AndroBench ก็ได้ความว่า สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังใช้งาน ROM แบบ eMMC 5.1 อยู่ ตรงนี้แอบหงุดหงิดเล็ก ๆ เพราะมือถือปี 2021 อย่างน้อย ๆ ควรเป็นมาตรฐาน UFS ได้แล้ว

ซึ่งการเปิดแอปก็ทำได้ตามสเปคเลย ถ้าใครเคยใช้มือถือที่มากับ UFS 2.1 ขึ้นไป จะสัมผัสได้ทันทีเลยว่า Galaxy A22 5G ใช้เวลาเปิดแอปค่อนข้างช้า

กล้องถ่ายภาพ

แม้ว่าจะใส่กล้องหลังมาให้แค่ 3 ตัว แต่ก็เป็นเลนส์ 3 ระยะที่จัดเต็มทั้งหมด ไล่ตั้งแต่เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 48MP, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 5MP และกล้องจับความลึก Depth Sensor ความละเอียด 2MP ซึ่งจากที่ลองถ่ายภาพมา ถือว่ากล้องของ Galaxy A22 5G ประมวลผลภาพออกมาได้ดีพอสมควร ดีกว่าที่คิดเอาไว้

ภาพตัวอย่าง Galaxy A22 5G 

ภาพตัวอย่าง Night Mode 

ภาพตัวอย่างกล้องหน้า

แบตเตอรี่

Galaxy A22 5G อัดแบตมาให้จัดเต็ม 5000 mAh จากที่ใช้งานทั่วไปมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ ไม่มีวันไหนเลยที่ต้องชาร์จแบตระหว่างวัน (ไม่ค่อยเล่นเกม) แถมส่วนมากยังลากยาวไปได้ถึงวันที่สองอีกด้วย แต่ถ้าใครเป็นสายเล่นเกมหนัก ๆ ดูหนังเยอะ ๆ อันนี้วันนึงอาจจะกระอักกระอ่วมนิดหน่อย เพราะส่วนตัวลองเอาไปดู Netflix ประมาณ 2 ชั่วโมงมา พบว่าแบตหายไปประมาณ 20% ได้เลย แถมเครื่องแอบอุ่นอีก

โดย Galaxy A22 5G รองรับระบบชาร์จไว Fast Charge 15W (มีหัวชาร์จแถมในกล่อง) ของ Samsung ผ่านพอร์ต USB-C ซึ่งตรงนี้ด้วยความที่แบตขนาดใหญ่ ทำให้การชาร์จแบต 100% อาจจะต้องใช้เวลาซักพัก เกือบ ๆ สองชั่วโมงเลยกว่าจะเต็ม

สรุปการใช้งาน

หลังจากได้ลองใช้งานเจ้า Samsung Galaxy A22 5G มาเป็นเวลาสัปดาห์นึงเต็ม ๆ ก็ต้องบอกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้สามารถนำไปใช้งานในชีวิตประจำวันได้แบบสบาย ๆ เหลือ ๆ แถมยังมากับดีไซน์ที่ค่อนข้างทันสมัยขึ้น งานประกอบต่าง ๆ แน่นหนา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งมือถือ 5G ในราคาต่ำหมื่นที่น่าสนใจมาก ๆ RAM + ROM ให้มาเหลือเฟือกับราคาที่เปิดมาเพียง 8,299 บาท (วางขายเฉพาะบน AIS เท่านั้น) ซึ่งหากเราซื้อติดแพ็คเกจ ก็จะได้ลดเหลือเพียงเครื่องละ 1,289 บาทครับ

Play video