พอดีได้ลองใช้ Galaxy Note 3 ตอนไปเที่ยวญี่ปุ่น เลยได้ทดสอบเรียกว่าแทบจะทุกฟีเจอร์ จริงๆไม่ค่อยอยากจะเรียกรีวิวเท่าไหร่ แต่เป็นการเอามาเขียนแชร์สิ่งที่เจอให้คนที่กำลังเล็งๆอยู่ได้ทราบกันเพื่อประกอบการตัดสินใจ และจนถึงตอนนี้ก็ไม่ใช่ผมคนเดียวแล้วที่ได้ลองใช้ มีคนอีกเพียบที่ก็จับมาร่วมเดือนไม่ต่างกัน ฉะนั้นแต่ละข้อที่ผมเขียนไปใครอยากเสริมหรือแย้งอะไร ขอเชิญได้เลยนะครับ 🙂
เรื่องราวที่เอามาแชร์นี้จะขอเน้นไปที่การใช้งานจริงเป็นหลัก ไม่ขอเน้นไปที่สเปคอะไรมากมาย โดยจะเจาะเป็นหัวข้อๆตามนี้นะครับ
- ประสิทธิภาพการใช้งานทั่วไป
- ขนาด หน้าจอ สีสัน และความคมชัด
- การใช้งานโทรศัพท์
- กล้อง และการถ่ายภาพ
- การเล่นเกม อ่านเว็บ โซเชียล แชท ฯลฯ
- ทดสอบเล่น Features ต่างๆ
- ความยาวนานในการใช้งาน Battery
- การพัฒนา UI/UX จาก Note 2
- ภาพรวม
แนะนำสำหรับคนที่ไม่อยากอ่านเยอะ ขอให้อ่านข้อ 6 และภาพรวมพร้อมบทสรุปครับ
1. ประสิทธิภาพการใช้งานทั่วไป
CPU/GPU/RAM/Android:
Samsung Exynos 5420 Octa-Core (Qual-core 1.9GHz Cortex-A15 & Quad-core 1.3GHz Cortex-A7) / Mali T628 MP6 / 3GB LPDDR3 / Android 4.3
รุ่นที่ได้มาทดสอบเป็น Galaxy Note 3 เวอร์ชั่น Exynos ตัวเดียวกับที่วางขาย ในที่นี้ไม่ขอยุ่งเรื่องปัญหาชิพเซทที่เป็นที่ถกเถียงกันระหว่าง Exynos และ Snapdragon ว่าอะไรดีกว่ากัน เพราะคิดว่าตัวแปรสำคัญที่ทำให้เครื่องไหนๆดีไม่ดี อยู่ที่ซอฟท์แวร์มากกว่าฮาร์ดแวร์
ข้อดี
– เสปคจัดเต็ม ให้แรมมาสูงถึง 3GB และเป็น Android 4.3 ตัวแรกๆของตลาด
– การใช้งานทั่วไปเร็วดีสมกับเป็นรุ่นท็อป แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างอะไรกันมากในระดับการใช้งานทั่วไปเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ
ข้อสังเกต
– ใช้งานหนักๆมาเป็นระยะเวลาหนึ่งก็พบปัญหาค้าง หน่วง จนบ้างครั้งต้องรีสตาร์ทหรือถอดแบตเลยทีเดียว ซึ่งเพื่อนๆในบอร์ดก็เจอเหมือนกัน (https://droidsans.com/node/142801)
– แรม 3GB ที่มีใน Note 3 อาจจะไม่ได้เยอะอย่างที่คิด เมื่อตัวระบบเองก็กินแรมไปมากกว่า 1.8GB แล้ว ทำให้เหลือพื้นที่จริงไม่มากเท่าไหร่
2. ตัวเครื่อง ขนาดหน้าจอ สีสัน และความคมชัด
Size/Type/Resolution/material
5.7” / SuperAMOLED / FHD (1080×1920) ~386ppi / วัสดุเครื่องพลาสติกและหนังสังเคราะห์
ตัวเครื่องนี้ต้องเรียกว่าเป็น Hilight นึงของ Galaxy Note 3 เลยทีเดียวเพราะมีความเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างชัด ด้วยขนาดหน้าจอที่เพิ่มขึ้นจาก Galaxy Note 2 (5.5” → 5.7”) แต่ว่าเครื่องแทบจะเท่าเดิม รวมถึงฝาหลังที่เป็นวัสดุ Faux Leather ซึ่งหลายๆคนชอบสัมผัสที่ได้มาก เพราะเหมือนหนังจริงๆพอสมควร แต่เครื่องที่ผมได้มันเป็นสีดำ เลยไม่รู้ว่าสีขาวมันจะดำง่ายขนาดไหน
ข้อดี
– ชอบวัสดุเคสด้านหลังที่ดูให้สัมผัสเหมือนหนัง หนืดมือดี ไม่ร่วงหล่นง่าย
– หน้าจอใหญ่ ขอบบาง ดูหนัง ถ่ายถาพอะไรเห็นรายละเอียดเยอะดี
– ขอบโครเมียมสามารถเปลี่ยนแยกชิ้นได้ ไม่ลำบากกระเป๋าตังค์ ถ้าทำเครื่องตกแล้วอยากเปลี่ยนอะไหล่ โดยแบ่งเป็นส่วนบนล่าง ซึ่งมีการซ่อนรอยต่อระหว่างชิ้นได้เนียนมากจนดูไม่ออกเลย เห็นว่ามีคนเอาไปเปลี่ยนแล้วบอกว่าเปลี่ยนแยกชิ้นไม่ได้ แต่บางคนก็บอกว่าได้…สรุปคือท่าทางจะแล้วแต่ศูนย์แล้วแต่ช่าง -__-” (ไปดูราคาอะไหล่ Galaxy Note 3)
ข้อสังเกต
– ความความที่เครื่องใหญ่ขอบบาง ทำให้มือไปโดนหน้าจอโดยไม่ตั้งใจ
– หน้าจอ AMOLED จะให้สีสันที่สดใสมากจนทำให้หลายๆครั้งที่เราแชร์ภาพออกไปหรือว่าส่งให้คนอื่นจะรู้สึกว่าคุณภาพลดลงไปเยอะมาก
3. การใช้งานโทรศัพท์ และการรับสัญญาน
SIM/Support Network/Bluetooth/WiFi
microSIM / 3G: 850/900/1900/2100MHz / 4G ไม่รองรับ / Bluetooth v4.0 / 802.11 a/b/g/n/ac
ด้วยความที่ชิพเซท Exynos ที่วางขายในไทยนี้เป็นรุ่นที่ไม่รองรับ 4G จึงทำให้เป็นที่ถกเถียงกันไม่น้อย แต่ยังดีว่า 3G รองรับเป็น Quadband ไม่แยกค่ายเหมือนแต่ก่อน ไม่งั้นคงได้เห็นมหาดราม่าแน่นอน
เรื่องการคุยโทรศัพท์ทั่วไปไม่มีปัญหาอะไร มีไมค์ตัดเสียงรบกวนช่วยให้คุยรู้เรื่องในสภาพเสียงเอะอะได้ซึ่งก็มีในรุ่นท็อปของทุกยี่ห้ออยู่แล้ว สัญญานโทรศัพท์รับได้ดี ไม่มีปัญหาหลุดจาก network ให้เห็น
Bluetooth v4.0 ประหยัดพลังงานดี ตามคำโฆษณา เปิดเอาไว้ทั้งวันก็ไม่ได้รู้สึกว่ากินแบตแต่อย่างไร
WiFi ของ Note 3 ก็เป็นเรื่องที่โดนบ่นเยอะที่สุดเรื่องนึง ซึ่งก็เจอปัญหานี้เองกับตัวเช่นกัน โดยแบ่งเป็นสองส่วนคือ 1. สัญญานอ่อนกว่าชาวบ้าน เมื่อวางเทียบกัน ของแบรนด์อื่นจับได้ดีกว่าเล็กน้อย 2. สัญญานอ่อนแล้วหลุด ทำให้ประสบปัญหาใช้งานไม่สะดวก ซึ่งปัญหาที่สองนี้เมื่ออัพเดทเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว และไปปิด Auto Network Switch ก็จะอาการดีขึ้นเยอะครับ (ลองเข้าไปอ่านเพิ่มเติมในบอร์ดได้ มีเพื่อนๆมาถามกันเยอะเหมือนกันครับ https://droidsans.com/node/142389)
4. กล้องและการถ่ายภาพ
หลัง13MP + Autofocus + Flash, หน้า 2MP
ภาพของกล้องจาก Galaxy Note 3 หลังจากที่ได้ลองยึดเป็นกล้องเดียวที่ใช้ทั้งทริป ก็จัดว่าพอใจอยู่ ทำได้ดี-ไม่ดีในสภาพแสงต่างๆ โดยผมขอสรุปเป็นสองกรุ๊ปใหญ่ๆตามนี้ละกัน
ถ่ายสวย – สภาพแสงกลางวันเจอแดด ภาพมาโคร พานอราม่า ภาพกลางคืน
ดูภาพตัวอย่างเพิ่มเติมที่
– Panorama ของดีที่ถูกลืมในกล้อง Note 3
– ขอแชร์ภาพถ่ายจาก Galaxy Note 3 ครับ 🙂
ถ่ายได้ไม่ประทับใจ แสงสลัวๆ ท้องฟ้ามีเมฆมาก แสงธรรมชาติในร่ม
สองภาพนี้ถ่ายในทีเดียวกัน แต่ภาพซ้ายถ่ายแบบ Auto ไม่ปรับแต่ง จะได้สีที่เพี้ยน แต่ด้านขวาจะปรับ EV- เพื่อให้ WB มันออกมาถูกต้องมากขึ้นครับ
ตัวอย่างภาพเพิ่มเติม
– ปัญหาของภาพถ่ายจาก Galaxy Note 3
และที่สำคัญคือต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าภาพที่เปิดในหน้าจอ SuperAMOLED ของ Galaxy Note 3 จะสีสันคมชัดสดใสกว่าจออื่นๆ เรียกว่าถ้าเอาไปเปิดบนจอ LCD บนหน้าจอคอม หรืออัพแชร์ไปเปิดบนจออื่นแล้ว สีจะดรอปลงทันตาเห็น จากสวยๆอาจจะเป็นบ้านๆดาดๆได้ครับ
ซึ่งถ้าดูภาพแล้วถูกใจอยากรู้เทคนิค เดี๋ยวผมมาเขียนเทคนิคการถ่ายภาพด้วยมือถือให้ได้อ่านอีกทีครับ
การถ่ายวิดีโอ
ชิพเซท Exynos สามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 1080p ที่ 30fps และ 60fps และถ่ายภาพ Slow motion ที่ 720p@120fps แต่ไม่สามารถถ่ายที่ความละเอียด 4K ได้ตามที่หลายๆคนน่าจะทราบดีอยู่แล้ว ซึ่งบอกตรงๆว่าผมเฉยๆวิดีโอ 4K มากๆเพราะว่าแค่ 1080p มันก็สูบพื้นที่หน่วยความจำได้โคตรน่ากลัวแล้ว และวิดีโอ 4K ก็มีอุปกรณ์รองรับไม่ได้เยอะนักในตอนนี้ รวมถึงราคาก็แพงมโหฬารด้วย
สำหรับการถ่ายวิดีโอด้วย Galaxy Note 3 จัดอยู่ในระดับน่าพอใจ มีระบบกันสั่นที่ทำให้ภาพไม่ส่ายไปมาจนน่าปวดหัวเกินไป แต่ว่ามีข้อสังเกตที่เมื่อไหร่ที่เรากดบันทึกภาพเมื่อไหร่ มันจะทำการซูมภาพเข้าไปอัตโนมัติ ต้องกะเกณฑ์ระยะดีๆก่อนถ่ายด้วย ไม่งั้นจะต้องมาเดินเข้าๆออกๆเพื่อให้ได้ภาพที่พอดีครับ
ทดสอบอัดวิดีโอในที่เสียงรบกวนเยอะ
เปรียบเทียบภาพถ่าย Slow Motion 1080p@120fps
5. การเล่นเกม อ่านเว็บ โซเชียล แชท นำทาง ฯลฯ
Internal Memory/GPS
32GB + microSD up to 64GB / A-GPS + GLONASS
การเล่นเกมบน Galaxy Note 3 ยังไม่เจอปัญหาอะไร พอดีไม่ค่อยได้เล่นเกมแนวฮาร์ดคอร์ต้องการกราฟฟิคแรงๆอะไรขนาดนั้น แต่สังเกตว่ายังไม่มีใครบ่นโวยวายอะไรนะ ส่วนตัวจะชอบที่จอใหญ่ เล่นเกมสนุกและสบายตาดี ไม่ต้องเพ่งมากครับ
อ่านเว็บบน Galaxy Note 3 ด้วย Chrome ก็แสดงผลได้ถูกต้องและอ่านง่ายดี ส่วนที่ชอบก็คือมันแก้ไขปัญหาสระลอยและตัดคำไทยสมบูรณ์แล้วใน Chrome รวมถึงทั้งหน้าจอใหญ่ ทำให้อ่านสบายตาขึ้นเยอะเลย
ส่วนเรื่องการเล่น Facebook Twitter Line อะไรพวกนี้ก็เล่นได้ปกติดี ถ่ายรูปแชร์ออกไปก็สะดวก และที่ประทับใจที่สุดคือตัวคีย์บอร์ดที่มากับ Galaxy Note 3 ซึ่งพัฒนาขึ้นกว่าเดิมมาก ไว้จะอธิบายความเจ๋งให้อีกทีครับ
ส่วนเรื่อง GPS ต้องบอกว่าประทับใจกับ Galaxy Note 3 มากๆ จับได้แม่นยำดี และได้ตำแหน่งที่ค่อนข้างละเอียดด้วย ที่ตกใจสุดคือสามารถจับสัญญานได้แม้กระทั่งตอนอยู่บนเครื่องบิน รู้หมดเลยว่ากำลังบินอยู่ตรงไหน ความเร็วเท่าไหร่ ระดับความสูงกี่เมตร ชอบๆๆ
6. ทดลองเล่นฟีเจอร์ต่างๆ
จุดเด่นของซีรีย์ส Galaxy Note ไม่ใช่แค่เรื่องของสเปคที่ยัดใส่ให้มาเต็มที่ในทุกๆครั้งที่มันเปิดตัว แต่เป็นปากกา S Pen และฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น เพราะปัจจุบันการใช้งานทั่วไป รุ่นท็อปแต่ละแบรนด์ก็ทำออกมาได้ดีพอๆกันหมดแล้ว ส่วนที่สร้างความแตกต่างและต้องพิจารณาในแต่ละแบรนด์จริงๆคือฟีเจอร์เสริมเหล่านี้นั่นเอง และสำหรับคนที่ไม่เคยใช้ หรือไม่คุ้นชิน การใช้งานปากกากับ SmartPhone อาจจะต้องพยายามปรับตัว ใช้ความสามารถปากกาให้เต็มที่ ถึงจะดึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของ Galaxy Note 3 ออกมาได้อย่างเต็มที่ครับ
Galaxy Note 3 ทำฟีเจอร์ต่างๆที่เกี่ยวกับปากกา S Pen ให้ออกมาใช้งานได้ง่ายขึ้น กระตุ้นให้อยากใช้งานกว่า Note I และ Note 2 พอสมควร รวมถึง S Note และ Multi Windows ที่พัฒนาเพิ่มเติมจนน่าใช้กว่าเดิมเยอะ แต่ว่าจะขอแชร์ประสบการณ์ใช้งานฟีเจอร์ต่างๆนี้ในอีก Blog นึงแทน เพราะมันจะค่อนข้างยาว และน่าจะต้องอัดวิดีโอประกอบให้เห็นภาพด้วย https://droidsans.com/review-galaxy-note3-features
ขอสรุปสั้นๆเกี่ยวกับฟีเจอร์ของ Galaxy Note 3 ว่าถ้าใช้งานเป็น ดึงปากกามาใช้บ่อย จดโน็ตประจำ ชอบทำงานหลายหน้าต่างแล้วล่ะก็ Galaxy Note 3 จะทำให้คุณฟินมากกว่าการใช้งานโทรศัพท์รุ่นอื่นๆเลยล่ะ
7. ความยาวนานของการใช้งาน
แบตเตอรี่ 3,200mAh
ซีรีย์ส Galaxy Note เป็นซีรีย์สที่สร้างชื่อมาตั้งแต่แรกเริ่มว่าเป็นรุ่นที่ทำแบตออกมาได้ทนทาน ใช้งานได้ในหนึ่งวันครบสบายๆ (ในกรณีที่เครื่องไม่มีปัญหาอะไรนะ) ซึ่ง Galaxy Note 3 ก็ยังคงทำออกมาได้ดีเกินมาตรฐาน Android ทั่วไปอยู่ ทดลองใช้งานแบบไม่ได้บีบมันมากก็หนึ่งวัน 14-15 ชม. ผ่านไปได้แบบไม่ต้องห่วง
แต่เคยอัดแบบเต็มๆในทริปญี่ปุ่น ทั้งเปิดจอค้างไว้เกือบตลอด เปิดGPS นำทาง และเล่นเน็ต 3G ไปด้วย เพื่อหาข้อมูลและกันหลงทาง แบตทั้งก้อน 3200mAh หมดใน 5 ชม. และเล่นแบบนี้ตั้งแต่เช้ายันราวๆ 4 ทุ่ม Battery Pack 9000mAh ทั้งก้อนก็หมดตามไปด้วย โดยตัวที่กินแบตมากที่สุดก็หน้าจอ SuperAMOLED ตามเดิม
เท่าที่มีข้อมูลเปรียบเทียบออกมา Galaxy Note 3 ก็ยังทำได้ไม่ดีกว่า Galaxy Note 2 หรือว่า iPhone อยู่ดี เพราะด้วยหน้าจอและชิ้นส่วนบางตัวที่ก็กินไฟเยอะนั่นเอง
กล่าวคือผมไม่ได้ประทับใจอะไรกับแบตของ Galaxy Note 3 เท่าไหร่ ถือว่าดีตามมาตรฐานครับ
8. การพัฒนา UI/UX จาก Galaxy Note 2
สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้งานฟีเจอร์ตามข้อ 6 และปากกา S Pen น่าจะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดมากนัก UI/UX แทบจะไม่ต่างจากเดิมเลย จะมีก็คือเรื่องฟีเจอร์การถ่ายภาพที่ Galaxy Note 3 ได้รับจาก Galaxy S4 มาแล้ว และถ้า Samsung ไม่กั๊ก Galaxy Note 2 ก็น่าจะได้อัพเดทตามออกมาด้วย
ส่วนถ้าอยากอ่านเปรียบเทียบ Galaxy Note 2 vs Note 3 แนะนำไปดู Blog เก่าที่เคยเขียนเอาไว้แล้ว ซึ่งก็มีรายละเอียดครบอยู่ ถ้าให้ผมสรุปส่วนที่เปลี่ยนไปหลักๆก็คือเรื่องของวัสดุและงานประกอบของ Galaxy Note 3 ที่น่าจับน่าใช้กว่า Galaxy Note 2 ครับ
9. ภาพรวม
Galaxy Note 3 เป็นโทรศัพท์ที่มาพร้อมกับ Spec จัดเต็มสมกับเป็นรุ่นท็อปจากทาง Samsung แต่ปัญหาเรื่องการใช้ชิพเซท Exynos ก็ยังเป็นเรื่องที่ค้างคาใจหลายๆคนอยู่ แต่เท่าที่ใช้งานมา Exynos ก็ไม่ได้แย่อะไร 4G ที่หลายๆคนร้องหา ความครอบคลุมของสัญญานและความเสถียรก็จัดอยู่ในระดับไม่น่าสนใจ และปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับ Galaxy Note 3 คิดว่า Exynos ไม่ได้เป็นต้นเหตุเพียงอย่างเดียว คุณภาพซอฟท์แวร์ที่เหมือนจะยังไม่สมบูรณ์ 100% มากกว่าที่เป็นต้นเหตุ เพราะเครื่องทดสอบที่ได้มาผมก็เจออาการค้างและรีสตาร์ทอยู่เรื่อยๆ และปัญหาหยุบหยิบหลายๆอย่าง ซึ่งตรงนี้ทางเราได้รวบรวมปัญหาแจ้งในฟอรั่มแล้ว ลองเข้าไปดูกันได้ (https://droidsans.com/galaxy-note-3-problems) แต่เชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะเป็นแค่ระดับ Software ซึ่ง Samsung ก็มักจะมีตัวแก้ปล่อยตามออกมาให้เสมอ ฉะนั้นก็น่าจะเบาใจได้ในระดับนึงครับ
สรุป
จุดเด่น
- จอใหญ่ 5.7” แต่ขนาดไม่เทอะทะจนจับถือลำบากเกินไปนัก
- วัสดุ Faux Leather ที่ทำมาคล้ายหนัง ได้สัมผัสดี
- S Pen และ S Note ที่ทำงานได้ดี เหมาะกับคนชอบใช้ปากกา
- ซอฟท์แวร์เฉพาะทางที่มีแถมมาให้ในเครื่อง
ข้อควรพิจารณา
Software ณ วันนี้ (22 ตุลาคม 56) ยังคงพบปัญหายิบย่อยอยู่มาก
Galaxy Note 3 อาจจะไม่ใช่มือถือที่เพอร์เฟค แต่ก็จัดว่าเป็นมือถือที่น่าซื้อไปใช้อยู่ โดยเฉพาะคนที่ชอบหน้าจอใหญ่ๆ และใช้ปากกาขีดเขียน ซึ่งถ้าดึงความสามารถมันออกมาได้ครบ มันก็คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่ถ้าคิดว่าซื้อไปแล้วกะว่าจะไม่ใช่งานปากกาเลย ราคา 23,500 บาทก็อาจจะดูไม่คุ้มค่าเท่าใดนักครับ
ยังไงรออ่านตอน 2 ที่จะมาพูดถึงฟีเจอร์ต่างๆของ Galaxy Note 3 นะครับ ผมว่าน่าจะเห็นประโยชน์และความน่าสนใจของ Galaxy Note 3 มากขึ้นเยอะเลย
คำถามที่ได้ยินบ่อย และเห็นคนพยายามเชียร์เครื่องนอกกันเยอะ ผมยังคิดว่า Exynos ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ผมกลับมองว่าการประกันที่ได้รับเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า เพราะเห็นเพื่อนๆในบอร์ดเจอปัญหาซื้อมาแล้วเครื่องเน่าและต้องรอส่งไปซ่อมถึง 3 เดือนแล้วก็ถอดใจล่ะครับ -*- แต่ยังไงมันก็เงินของคุณ เลือกตัดสินใจตามที่ต้องการครับ 🙂
[updated 10/11/12]
รีวิวฟีเจอร์ Galaxy Note 3 ใช้ได้จริงหรือไม่เราไปดูกัน
Samsung ประเทศไทยเตรียมเอา Galaxy Note 3 รุ่น 4G LTE Snapdragon เข้ามาขายแล้ว
รวมลิงก์ที่เกี่ยวข้องกับ Samsung Galaxy Note 3
ราคาอะไหล่ Note 3
Galaxy Note 3 เครื่องนอกซื้อมาแล้วดับ เปิดไม่ติด
เปรียบเทียบ Galaxy Note 2 vs Note 3
วิธีแก้ปัญหา wifi Galaxy Note 3 ติดๆดับๆ
รวบรวมปัญหาของ Galaxy Note 3
ข้อควรพิจารณา ควรนำรุ่น SD800 มาจำหน่าย =w=
ขอบคุณครับ รีวิวดีมาก
กำลังจะได้มาลอง แต่ปัญหาเยอะจัง ><"
เห็นด้วยครับเพื่อให้มีทางเลือกมากขึ้น ตัวนี้ก็หวังว่าจะแก้ที่ซอฟแวร์ น่าจะหาย จับนิดจับหน่อย 40+ องศาเลย ค่อนข้างขี้โมโหบ่อยๆ ปล่อยนิ่งๆถึงจะลง 30-34 องศา ไม่รู้ซื้อที่ทับกระดาษรึที่อุ่นกาแฟมา ตอนนี้กลับไปเอา Note2 ติดตัวประจำกายไม่ค่อยงองแง จับยังไงก้ไม่ถึง 40 องศา โอมๆๆๆๆๆ…….ขอให้แก้ที่ซอฟแวร์แล้วหายทีเถอะครับ
ขออย่าให้เป็นที่ฮารด์แวร์เลย ไม่นึกว่า pre-order จะมีออฟชั่นแบบนี้.
การปรับ EV (Exposure value) น่าจะเกี่ยวกับภาพ Over หรือ Under นะครับ
ไม่เกี่ยวกับ WB
ไม่ได้เขียนผิดหรือเข้าใจผิดครับ ปรับ EVลงแล้ว WB มันตรงขึ้นจริงๆ ^^
อยู่ที่ระบบวัดแสงครับ เครื่องวัดแสงในที่มืด สลัวๆ ระบบก็เลยไปเพิ่มแสงให้เข้ามามากกว่าปกติ ภาพเลยออกมาจืดๆ ซีดๆ ครับ ปรับลด EV ลงก็ช่วยให้สีดีขึ้นได้ระดับนึง ^^
ตามความคิดผมนะครับ WB มันเกี่ยวกับอุณภูมิของภาพ เมื่อเราปรับภาพให้มืดลง กล้องมันก็ต้อง ดึง อุณหภูมิของภาพลงด้วย
ถ้าเราดัน +EV กล้องก็ต้องปรับอุณหภูมิของภาพขึ้นด้วย
ซึ้งแม้แต่กล้องโปร ตัวละเป็นหมื่น หรือ แสน ยังไม่มีตัวใหนปรับแล้วออกมาสมบูรณ์เลย
"ขอบคุณพระเจ้าที่ประทาน Lightroom มาให้ 55"
G2 ใช้มาเกือบเดือนละ แบตอึด เครื่องไม่ค้าง ไม่เคยปิดเครื่องเลย ชอบสุดๆละ ^__^
ปล.มันเกี่ยวอะไรกับ Note3 หว่า *^▁^*
ผมล่ะอึดอัดใจอย่างเดียว Spen
เขียนคำสั่ง back < แบบ note2 กะ 10.1 ไม่ได้
ต้องปากกาไม่จิ้มปุ่ม back เท่านั้น
กดปุ่ม back มันร่นเวลาไปได้ครึ่งนึงเลยนะครับ ;p
ตัวผมเองก็สงสัยในระบบวัดแสงของ ss จริงๆครับ แม้กระทั่งเลือกโหมด spot แล้วจิ้มที่จอ
ก็ยังไม่สามารถวัดแสงเฉพาะจุดที่เราต้องการได้เลยซักที
สงสัยซัมซุงไม่ได้ใส่วัดแสงตามจุดโฟกัสมาให้น่ะครับ
คงมีแต่วัดแสงเฉลี่ย กับจุดตรงกลาง
ขอแย้ง2เรื่องครับ จากใจคนที่มี snapและ exynos เท่าที่ลองใช้งานมาผมว่าsnapผมแทบไม่ค้างเลยแต่ exynosเป็นบ่อขกว่ามาก และอีกเรืรองคือ4gที่ไม่ครอบคลุม ตอนนี้ถ้าคนที่ลองใช้ 4g จริงจริงจะรุ้ว่าเขาขยายไปหลายจุดแล้วครับ ตามจึดใหญ่ใหญ่และจุดสนใจหลายจุดมาถึงแล้ว ไม่ใช่แค่แถบะารากอนเหมือนก่อน จุดนี้ถ้าผมแนะนำให้คนซื้อผมก็ยังแนะนำ snapอยุ่ดี ส่วนแระเด็นเรื่อง4kผมเห็นด้วยครับ ยังไม่จำเป็นเท่าไหร่
เห็นด้วยเรื่อง 4G ครับ สำหรับคนที่จะซื้อมาใช้อย่างน้อย 2ปี เรื่องนี้มีผลต่อการตัดสินใจแน่นอน
เพราะถึงตอนนั้นพื้นที่ให้บริการ 4G น่าจะครอบคลุมเพียงพอต่อการใช้งานได้อย่างแน่นอน
และน่าจะมีให้เลือกใช้หลายค่ายด้วย มือถือราคาระดับ 2 หมื่นกว่าแล้วไม่น่ามองข้ามตรงนี้ไป
ไม่ รู้ SS THAI มีแผนอะไรแน่
ราคาพอกัน ใช้ 4G ได้ด้วย แม้ว่ามีแล้วไม่ได้ใช้ เด็กอนุบาลยังเลือกเป็นเลย
=========================================
เหมือน รถ 2 คั้นราคาเท่ากัน
คันหนึ่งขับได้ 200 Km/h
อีกคันขับได้ 200 Km/h และ 450 Km/h
แม้ว่า ถนนประเทศไทย ไม่สามารถขับได้ เลยใน 2 ปีนี้
เป็นคุณจะเลือกอันไหน อย่าไปถามเด็กอนุบาลนะ
ถึงแรงไม่เท่าแต่กินน้ำมันน้อยกว่าก็ดีนะ
ถึงตอนนั้น ก็มีรถใหม่ วิ่งได้ 450 ราคาถูกกว่า สวยกว่า กินน้ำมันน้อยกว่า
ทำอะไรได้เยอะกว่า บุกน้ำลุยไฟได้
แล้วไอ้ 2 ปีที่ว่าอาจจะไม่ใช้ 2 อาจเป็น 4 ปี
แต่อย่างว่าแหละครับ คนเราก็อยากเลือกสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดให้ตัวเอง
สุดท้ายผมยังอยู่ที่ โน๊ต2 อยู่เลย ซื้อตอนลดเหลือ 19900 แล้ว 5555
ส่วนของผมก็มีคนบ่น Snap และชม Exynos เหมือนกันนะคับ นั่นคือเหตุที่ผมบอกว่ามันเป็นเหมือนกันทั้งสองชิพเซทนั่นแหละ แหะๆ
ส่วน 4G นี่ผมลองแล้วไม่ประทับใจเลยจริงๆ ทั้งกินแบตและไม่ครอบคลุมอะคับ ส่วนว่าจะเมื่อไหร่ที่ทำเสร็จ ยังไงก็มีเป็นปี ซึ่งยังไม่อยากให้เอามาเป็นประเด็นมาก
เอา Snap เข้ามาเถอะ ซัมซุงไทย
โดยส่วนตัวผมไม่ได้ซีเรียสเรื่องชิปเท่าไหร่นะครับ ผมใช้เครื่องศูนย์มาเคยค้างแค่รอบเดียวเอง แต่เรื่องแอพรองรับนี่มีปัญหานิดหน่อย ตรงบางเกมเหมือนยังไม่รองรับสักทีเดียว โดยเฉพาะ Asphalt 8 ที่เหมือนยังมีบั๊กเพราะมันปรับกราฟิกถึงระดับสูงสุดไม่ได้ นอกนั้นโดยรวมโอเคมากเลยครับ S-pen นี่วาดรูปสนุกจริงๆ ^^"
*ซ้ำครับ ขออภัย
ขอบคุณรีวิวดีๆครับ ^^
ได้เครื่องมาใช้สักพักนึงแล้ว ก็ไม่ได้ใช้งานหนักมาก ไม่เจอค้างและรีสตาร์ท ที่ผิดคาดคือแบต ใช้งานตามปกติของผมนี่แบตใช้ได้พอๆกะ Optimus Gเลย ซึ่งก่อนได้มาคาดหวังว่ามันจะอึดกว่านี้ เลือกรุ่นนี้แทนG2เพราะถ่ายวิดีโอสโลว์ได้กับเพิ่มเมมได้ จอชอบของLGมากกว่า
Appที่จับgpsชื่ออะไรอะครับ
GPS Test ครับ
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.chartcross.gpstest&hl=th
รู้สึกเห็นด้วยกันรีวิวค่ะ หวังว่าปรับซอฟแวร์แล้วจะสมบูรณ์ขึ้น
ใช้อยู่เหมือนกันครับ แต่ก็ไม่ได้เครียดเรื่อง cpu เพราะใช้งานจริงๆ
ค้างก็รีสตาร์ดแปปเดียว นานๆมากๆ ถึงจะเป็นที ไม่เปนบ่อย
ตรงชิพนี่แล้วแต่คนนะ ถ้าคนไม่ได้ใช้มันก็ไม่ได้จำเป็นจะต้องแคร์อะไร แต่โดยส่วนตัวจะยังไงก็แล้วแต่ ถ้าจ่ายเงินพอๆกัน แล้วอันแล้วได้ฟีเจอร์ที่มีมากกว่า ผมก็เลือกอันที่มีมากกว่า(และเหมือนจะมีปัญหาน้อยกว่า)
เช่น 4Gเนี่ย ตอนนี้อาจจะยังไม่ใช้แล้วถามวาในอนาคตคุณไม่คิดจะใช้เลยเหรอ แล้วถ้าเกิดปีหน้าเขาขยายเสาจนครอบคลุมทั้งกรุงเทพและค่าบริการถูกลง ตอนนั้นถ้าผมอยากใช้นี่ต้องซื้อมือถือใหม่อย่างเดียวเลยใช่มั้ยเนี่ย
แล้วก็เรื่อง 4K นี่ตอนแรกผมก็มองว่าไม่จำเป็น แต่พอมาลองนึกย้อนดูไปเมื่อ 2-3ปีที่แล้ว สมัยที่มือถือส่วนใหญ่ถ่ายวิดีโอได้ไม่ความละเอียดเกิน VGA พอลองเอาคลิปเก่าๆพวกนั้นมาเปิดดู ณ ปัจจุบันก็รู้สึกว่าภาพมันไม่ค่อยชัดเลย ลองคิดเล่นๆว่าถ้าย้อนกลับไปตอนนั้นแล้วมีมือถือที่ถ่าย Full HD ได้ก็คงดี ถ้าตอนนั้นถ่ายแบบ Full HD ป่านนี้เราคงได้ดูคลิปนี้แบบชัดๆแล้ว
4K อาจจะยังไม่สำคัญในตอนนี้แต่ถ้าใช้ถ่าย ณ ตั้งแต่ตอนนี้ ผมว่ามีประโยชน์กว่าในอนาคตแน่นอน
เห็นด้วยว่าซื้อแล้วก็ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดครับ เรื่องนี้ผมไม่เถียงเลย 🙂
แต่เรื่อง 4G ผมว่ากว่ามันจะพร้อมใช้งานจริงได้ Note 3 จะไม่รอดถึงวันนั้นนะ :p
กว่า 4 G จะใช้งานได้ครึ่งประเทศ Note 5 คงวางขายไปแล้วละครับ ^^
– เรื่อง Chipset โนคอมเมนท์ เพราะยังไม่มีโอกาสจับเครื่องนอก
– กว่า 4G ใช้ได้สมบูณ์เอาแค่ในกรุงเทพ Note 3 ตกรุ่นไปแล้วแน่ๆครับ
– ส่วน 4K บนมือถือนี่ยังไงก็ไกลความจำเป็น เพราะขีดจำกัดมันไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยี แต่มันอยู่ที่สายตามนุษย์มากกว่า และถ้าจะถ่าย Video 4K เพื่อไปใช้งาน Memory ที่ Note 3 รองรับก็ยังเล็กเกินไป (มากๆ) อีกนั่นแหละ
แต่อย่างว่า เราชอบคำว่า มี ย่อมดีกว่า ไม่มี ไม่ว่ามันจะจำเป็นหรือไม่ก็ตาม
ภาพชุด ถ่ายสวย คนถ่ายวรยุทธ์สูงมากกว่า ภาพสวยมาก
ผมก็อยากได้ S800 เหมือนกันครับ แต่ทำไงได้เขาไม่เอาเข้ามาขาย ผมเลยเอาแบบมีประกันไว้ก่อนดีกว่า อุ่นใจ
รีวิวตรงดี สังเกตุปัญหา Sumsung ทุกรุ่นไม่ว่าอัดสเปคแรงแค่ไหน ก็ ค้าง รวน ทุกรุ่นไม่ว่า 2 4 8 core
รุ่น 4 core 4412 ที่ใส่ใน Note2 และ Note8 ไม่เห็นมีปัญหาที่ว่านิครับ
ผมใช้ Note8 อยู่ ค้าง หรือ รวน ยังไม่เห็นเลยนะครับ
Review นี้ SR หรือ CR ครับ ?
ไม่แน่ในความหมายของ SR กับ CR
ขออธิบายตามนี้ว่ามันคือเครื่องที่ยืมทางซัมซุงมาใช้ทดสอบ แต่ไม่มีการรับเงิน หรือข้อตกลง หรือการแทรกแซงจากบุคคลใด เขียนจากประสบการณ์ใช้งานจริงทั้งหมดครับ
SR = Sponsor Review <ยืมเขามา
CR = Customer Review <ควักเอง
Sponsor Review >> มันฟังดูมากกว่าแค่ยืมมานะครับ ไม่อยากใช้คำนี้เลยแฮะ -*-
อยากซื้อมาใช้จัง
อีกเรื่อง
Gear เกิดอาการนาฬิกาตายบ่อยมาก
ไม่ทราบเป็นที่ รูปแบบนาฬิกาหรือเปล่า
เพราะผมใช้แบบ watch styler อยู่
เป็นรีวิวที่ดีมากๆเลยครับ
ผมไปลองเล่นเครื่องโชว์แล้วได้ข้อสังเกตุตามที่ว่าเป๊ะเลย
ทั้งแรม ทั้งอาการที่ไม่เสถียรบางอย่าง
ถือว่าเป็นรีวิวที่ไขความสงสัยตรงนั้นได้เลยว่าจริงมั๊ย
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
Note 10.1 วางขายวันนี้ใช่ไม๊คับ อยากดูรีวิวเร็วๆจังคับ สนใจมากๆ อิอิ
มีเรื่องน่าสนใจให้เพื่อนๆทดลองดูนะครับ สำหรับผู้ที่มีความพร้อมครับ
1.ถอด micro sd ที่ใส่เพิ่มออก แล้วใช้งานโน๊ต…..ผล?
– ความร้อนของเครื่องขณะใช้งาน
– อาการหน่วง
– อาการอื่นข้างเคียง?
2.ใส่ micro sd เข้าไปใหม่ให้กับโน๊ต
– class ต่างชนิดกัน
– ต่างยี่ห้อกันเพื่อดูผลกระทบและเข้ากันได้โน๊ต
– micro sd ขนาดต่างๆ 4, 8, 16 และ 32
คำถาม?
1.ความแตกต่างที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง ก่อนและหลัง
2.ยี่ห้อต่างกันกับผลที่ได้
3.ขนาดของความจุและ class มีผลอย่างไร?
คำถามสุดท้าย จะเลือกใช้แบบไหนดีหรืออัพเกรดซอฟแวร์/ฮาร์ดแวร์ เป็นทางออกสุดท้ายที่รอคอย
ขอสอบถามเรื่องการใช้ gps บนเครื่องบินครับ
โทรศัพท์ที่มี GPS สามารถใช้ได้ทุกตัวหรือเปล่า เพราะโทรศัพท์ผมจับสัญญาณตอนอยู่บนเครื่องไม่ได้เลย TT
ถ้าได้เฉพาะบางเครื่องแล้วจุดไหนใน spec ของโทรศัพท์ที่บอกว่าสามารถใช้งานบนเครื่องได้อะครับ
GPS บนเครื่องบิน ของผมก็จับได้นะครับ Asus P535 เป็น GPS รุ่นแรกๆบนโทรศัพท์เลยครับ (ซึ่งจับสัญญาณช้าเอาเรื่องอยู่)
แต่จุดที่สำคัญของผมคือ ต้องจับสัญาณ GPS ให้ได้ก่อนที่เครื่องจะขึ้นครับ ไม่งั้นถ้าเคลื่อนที่แล้วจะจับสัญญาณยากครับ ถึงจับไม่ได้เลยครับ
"ถ้าเคลื่อนที่แล้วจะจับสัญญาณยากครับ ถึงจับไม่ได้เลยครับ"
ยืนยันอีกเสียงครับว่าต้องจับให้ได้ก่อนเดินทาง
ส่วนมือถือที่ GPS แม่น+เร้วที่สุด จากที่เคยลองมาผมว่า iPhone +IOS 4 นะครับ
Samsung Indexing Service หรือป่าวครับที่ทำให้อืด ถ้ามีไฟล์ pdf ในการ์ดเยอะๆ process นี้มันจะสูบ cpu มากมายเลยทีเดียว มัวแต่ index ไฟล์ pdf ปัจจุบันผม freeze indexing service ไปละ เครื่องกลับมาเร็วเหมือนเดิม (Note 2 4.3 with Note 3 features mod)
http://forum.xda-developers.com/showthread.php?t=2461958 นี่เลยครับที่ฝรั่งเขาถกเถียงกันอยู่ ก็แนะนำให้ freeze ไม่ก็ลบไฟล์ pdf หรือซ่อนไฟล์ pdf ไว้ในโฟลเดอร์ .nomedia
อีก2ปี ค่อยซื้อnote5 มาใช้ก็แล้วกันครับ ถึงตอนนั้นอาจจะไปถึง5G แล้วมั้งครับ
ใช้ note 3 snap อยู่ครับ ยังใช้ดีไม่มีปัญหานะครับ ไม่เคยแฮงค์ ไม่ร้อนเท่าไหร่ แบตใช้หนักๆ เริ่ม 7โมงเช้า เที่ยงคืนเหลือประมาณ 40% แต่ก็ต้องชาร์ต เพื่อความชัวร์
ส่วนตัวใช้ค่าย Apple มาตั้งแต่ 3GS ซึ่งสิ่งที่โดดเด่นจนปัจจุบันคงเป็นIOS ที่ใช้งานได้สะดวก การupdate ทำได้เอง และต่อมาได้เปลี่ยนเป็น4S เนื่องจากเหตุผลทางด้านSpec. ที่แรงกว่าความจุมี่ได้ถึง64GB แต่เนื่องจากปัจจุบัน Application ของ Smart phone ดูจะเหมาะเจาะกับขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า4 inch แะส่วนแบ่งทางการตลาดของค่ายอื่นจึงเริ่มมีมากขึ้นโดยเฉพาะค่ายSS และส่วนตัวชอบnote 3มากที่ดูภายนอกแล้วคุ้มค่ากับเงิน2หมื่นนิดๆ แต่ติดทางด้านตัวประมวลผลของรุ่นที่นำเข้ามาขายในไทยไม่รองรับกับ4G
ดิฉันเริ่มใช้ 2G จากorange และมาเป็น 3G จาก true ตลอดระรยะเวลา 13ปี ที่ผ่านมาทำให้แน่ใจว่า มันไม่ใช่แค่ฝัน เครือข่าย4G จะมีใช้งานในไทยแน่ๆ ถ้าไม่คิดว่าค่ายอื่นๆจะเสียรายได้เนื่แงจากยังไม่มีการประมูลเครือข่าย4G จากทางกสทช จึงนำแต่ Smart phone ที่รองรับแค่3G เข้ามา น่าจะเป็นการทำให้ผู้บริโภคเสียโอกาส และถ้า4G ได้ใช้จริงคงต้องซื้อใหม่. อาจจะต้องมี note 3 คนละ2 เครื่อง หรือถ้าต้องการเล่นก่อนก็ซื้อเครื่องหิ้วเพราะถ้าอยากได้จริงๆมันก็คงมีหนทาง
หวังใจว่า truemove คงเห็นถึงโอกาสนะคะคนไทยอย่างดิฉันเป็นคนหนึ่งที่เติบโตทางด้านวิวัฒนาการในการสื่อสารมาพร้อมๆกับคุณอยากให้ true มอบความหลากหลายให้ลูกค้าที่จะนำสินค้าที่หลากหลายมาให้ลูกค้าเลือก ส่วนหนึ่งก็เพื่อเป็นการแสดงถึงความแข็งแกร่งทางด้านการพัฒนาเครือข่ายของtruemove เอง
รีวิวดีค่ะ แต่ขอแชร์ประการณ์ใช้จริงอีกคนนะคะ
เราใช้เครื่องศูนย์ทรู ซื้อมาตั้งแต่ลอตแรก ใช้เครื่องแรกมีปัญหา แฮงค์ 5-6 ครั้งภายใน 3 วัน (ไม่ได้เล่นเกมส์ใช้งานธรรมดามาก เปิดเฟช เล่นไลน์ ถ่ายรูป แต่งภาพค่ะ) จึงไปเปลี่ยนเครื่องใหม่ใช้สิทธิ์เปลี่ยนเครื่องภายใน 7 วัน
มาถึงเครื่องที่สองใช้มารวมถึงวันนี้ประมาณเดือนกว่าพบเจอปัญหามากมาย เอาที่หลักๆก่อนนะคะ
1. เครื่องกินแรมมาก ขนาดเราใช้โปรแกรม Clean Master ร่วมกับ Auto killer อะไรสักอย่างช่วยกัน แต่ปรากฎว่า ไม่เกิน 1-2 ชม เราต้องมานั่งลบแรมออกด้วยมือ เพราะเคยปล่อยให้มัน auto เอง แล้วเครื่องแฮงค์ต้องถอดแบตหลายครั้ง เบื่อมาก
2.ฟังก์ชั่นกล้องหายไป …อันนี้ตลกมาก หลังจากการอัฟเฟิมแวร์ใหม่ครั้งที่ 2 อยู่ดีๆ ตัวตั้งค่าในกล้องก็หายไปจากจอ พร้อมโหมดถ่ายรูปก็หายไปเหลือแต่โหมดหลักๆ สามอัน เท่านั้น มันคืออะไรเนี่ย!!
3. การโพสรูปจาก instagram อันนี้งงมาก และไม่เข้าใจว่าทำไมใช้ note3 แล้วถึงได้คุณภาพเครื่องที่เหมือนเครื่องก๊อปจีน เวลาจะโพสภาพที่ถ่ายมาแล้วลงอินสตาแกรม ปรากฎว่าภาพตะแคงข้าง หรือกลับหัวค่ะ !!!! บ้ามากๆ คือวิธีที่จะโพสแล้วไม่กลับคือต้องถ่ายจากตัวโปรแกรม หรือใช้รูปที่เป็นขนาดพอดีกับโปรแกรมเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสเท่านั้น ถ้าเราถ่ายจากกล้องธรรมดาที่ใช้ความละเอียดมากๆ มันจะกลายเป็นตะแคงค่ะ -"-
4. ล่าสุดค่ะ อยู่ดีๆเครื่องเกิดปัญหา ลอคสกรีนอัตโนมัติเองตลอดเวลา มันจะปิดตัวเองและเข้าหน้าลอคสกรีนภายใน 20-30 วินาทีเองอัีตโนมัติ ทำเอาเล่นอะไรไม่ได้เลยต้องเอาเข้าศูนย์
5. เมื่อวานเอาเข้าศูนย์ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ศูนย์บอกว่าจะล้างเครื่องให้ใหม่ แต่ข้อมูลจะหายไปนะ เราก็….อืมม งั้นขอเก็บแต่ Snote หรือ scrapbook ได้มั้ยคะ เพราะเพิ่งจบและหาข้อมูลไว้ ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่ได้ครับ ….(โอ้โห คือถ้่าเครื่องเสียนี่ข้อมูลพวก S โน่นนี่จะหายหมดเลยเหรอเนี่ย อะไรกันฟระ) หลังจากนั้นเราก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะยังไงก็ต้องซ่่อมไม่งั้นก็ใช้มือถือไม่ได้ก็เลยต้องยอม ปรากฎว่าเจอแจคพอตอีก เครื่องไม่สามารถลงเฟิร์มแวร์ใหม่ได้ จนท ลงสามสี่รอบแล้วก็ไม่ได้ !!! สรุปคือต้องส่งซ่อมที่ศูนย์ใหญ่สถานเดียว …เฟลมากค่ะ ณ จุดๆนี้….
"ขอบโครเมียมสามารถเปลี่ยนแยกชิ้นได้ ไม่ลำบากกระเป๋าตังค์ ถ้าทำเครื่องตกแล้วอยากเปลี่ยนอะไหล่ โดยแบ่งเป็นส่วนบนล่าง ซึ่งมีการซ่อนรอยต่อระหว่างชิ้นได้เนียนมากจนดูไม่ออกเลย"
ลบข้อความนี้ออกดีกว่ามั้ยครับ ผมว่าทุกคนเข้าใจว่าขอบโคเมี่ยมทั้งหมดเปลี่ยนแยกได้ราคาไม่แพง
แต่ที่จริงคือ ต้องเปลี่ยนทั้งหมด 2 ชิ้น ชิ้นแรก ขอบโคเมี่ยมด้านหลัง 800 แล้วก็ขอบจอ รวมจอ(ติดกัน) 4500 ถ้าทำเครื่องตกยังไงก็โดนทั้งสองส่วน อย่างเครื่องผม ถ้าเปลี่ยนทั้งสองอย่างคงไม่สบายกระเป๋านะครับ -_-"
ที่รู้สึกแย่คือ ไปเถียงศูนย์มา หน้าแตกเลย เพราะอ่านจากตรงนี้ มั่นใจมากว่าตัวเองอ่านมาไม่ผิด มั่นใจด้วยว่าคนเขียนไม่น่าพลาดเพราะทำงานกัน Samsung thai
ทั้งหมดก็เท่านี้ครับ แค่อยากแชร์ประสบการณ์จากการอ่านรีวิวของเวปครับ ขอบคุณมากๆเลย
ต้องขออภัยส่วนนี้ด้วยนะคับ มีคนในบอร์ดเนี่ยแหละ ไปเปลี่ยนแยกชิ้นได้ครับ เลยเข้าใจว่าได้หมดอะ -__-"