หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวนซีรีส์ WF ของ Sony เดินทางมาถึงเจเนเอเรชันที่ 5 แล้ว คือ WF-1000XM5 ที่ถึงแม้จะโดนแซวมาทุกปีว่าชื่อยาว จำยาก แต่ Sony ก็ยังคงใช้ชื่อเดิมโดยเปลี่ยนแค่เลขรุ่น — การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ WF-1000XM5 อยู่ตรงบอดี้ที่มีขนาดเล็กลง 25% น้ำหนักเบาลง 20% ในขณะที่ประสิทธิภาพการตัดเสียงไม่ได้ตกลงตามไปด้วย ซ้ำยังเฉียบขาดกว่าเดิมในระดับที่ Sony เคลมว่า ‘ดีที่สุดในวงการ’ เลยทีเดียว
วัสดุ ผิวสัมผัส และการออกแบบ
WF-1000XM5 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำและสีเงิน (ที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็เป็นสีเบจ) เป็นคู่สีที่ Sony หยิบมาใช้งานอยู่บ่อยครั้ง วัสดุของเคสทำมาจากพลาสติกรีไซเคิลที่ให้ผิวสัมผัสแบบด้าน มีเท็กซ์เจอร์หยาบละเอียดพอให้ไม่ลื่นมือ ทางด้านบรรจุภัณฑ์เองก็ทำมาจากกระดาษรีไซเคิลเช่นเดียวกัน ตามแนวทางรักษ์โลกของ Sony
ทั้งเคสชาร์จและหูฟังมีขนาดเล็กลงกว่าเดิมมาก
เคสชาร์จ WF-1000XM5 มีหน้าตัดเรียบทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านล่าง ทำให้สามารถวางเคสเรียบไปกับพื้นโต๊ะได้ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน แตกต่างจากหูฟังบางรุ่นในตลาดที่ใช้ดีไซน์แบบโค้งมน ซึ่งบางทีอาจไม่สะดวกนัก ส่วนในแง่ของการชาร์จ WF-1000XM5 สามารถเลือกได้ระหว่างชาร์จผ่านพอร์ต USB Type-C และชาร์จไร้สาย
พอร์ตชาร์จและปุ่มเชื่อมต่อจะอยู่บริเวณด้านหลังเคส
ในส่วนของหูฟัง WF-1000XM5 ทาง Sony เลือกใช้ดีไซน์แบบ ‘เมล็ดถั่ว’ ไม่มีก้านหรือติ่งห้อยลงมาจากบอดี้หูฟัง ทำให้ภาพรวมดูกะทัดรัด คล่องตัว ไม่เกะกะ ในขณะที่ผิวสัมผัสมีจุดแตกต่างกับเคสเล็กน้อย โดยมีทั้งส่วนที่เป็นพลาสติกผิวด้านและพลาสติกผิวมันตัดกันอย่างลงตัว
การสวมใส่
ตามที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่า จุดเด่นของ WF-1000XM5 คือ ขนาดเล็กลง 25% และน้ำหนักเบาลง 20% ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างมากสำหรับหูฟังในซีรีส์นี้ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าจุดอ่อนในรุ่นก่อน ๆ คือ ขนาดที่เทอะทะ และน้ำหนักที่มากเกินไป จนสวมใส่ไม่สบายเอาเสียเลย เรียกได้ว่า Sony แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดในครั้งนี้
จุดด้อยเรื่อง ‘หนัก’ และ ‘ใหญ่’ ถูกแก้ไขแล้ว
จากน้ำหนักที่ลดลง 20% ทำให้ WF-1000XM5 แต่ละข้างมีน้ำหนักเหลือเพียง 5.9 กรัม อาจยังไม่อยู่ในระดับที่เบาจนน่าตกใจอะไร แต่ไม่ถือว่าเป็นปัญหาต่อการใช้งาน ไม่เกิดแรงดึงรั้งที่หูก็ถือว่าสอบผ่านแล้ว
ความพิเศษอีกประการหนึ่งของ WF-1000XM5 คือ มันมากับจุกอินเอียร์ที่ใช้วัสดุเป็นโฟมโพลียูรีเทน (แทนที่จะเป็นยางหรือซิลิโคน) ซึ่งมีความนุ่มกว่ากันมาก ทำให้เมื่อรวมกับเรื่องน้ำหนักที่เบาลง ก็ยิ่งสวมใส่สบายขึ้นอีก และความยืดหยุ่นของโฟมโพลียูรีเทนยังมีคุณสมบัติเป็น passive noise-cancellation (PNC) ช่วยซีลเสียงรบกวนด่านหน้า ก่อนจะถึงกระบวนการ active noise-cancellation (ANC) ภายในด้วย
จุกโฟมโพลียูรีเทน มีความนุ่มมากกว่าจุกซิลิโคน
ส่วนในแง่ของความแน่นหนึบนั้นหายห่วง ทดสอบโดยการเดิน วิ่ง กระโดด สะบัดหัวแรง ๆ หรือแม้แต่ซ้อนมอเตอร์ไซค์ฝ่าถนนอันเรียบเนียนของประเทศไทย ก็ยังไม่เจอว่ามันจะหลุดแต่อย่างใด
คุณภาพเสียง
ในรุ่น WF-1000XM4 ได้รับเสียงชื่นชมเรื่องคุณภาพเสียงเป็นอย่างดีอยู่แล้ว พอมาเป็น WF-1000XM5 ที่ได้รับอัปเกรดไดรเวอร์เป็นขนาด 8.4 มม. พร้อมหน่วยประมวลผล Integrated Processor V2 และ HD Noise Canceling Processor QN2e ตัวใหม่ จึงดูคาดหวังได้มากกว่าเดิม
ไดรเวอร์ใหม่ ชิปเซตใหม่ ยกระดับคุณภาพเสียง
สิ่งที่สังเกตได้ทันทีคือ WF-1000XM5 ให้เสียงแหลมที่มีรายละเอียดมากกว่า WF-1000XM4 อย่างชัดเจน และคาแรกเตอร์ของหูฟังยังให้ความรู้สึก ‘อบอุ่น’ และ ‘สว่าง’ ตามสไตล์ Sony เมื่อฟังแล้วไม่รู้สึกถึงความทึบหรืออึมครึม
WF-1000XM5 ปรับจูนเสียงกลางและเสียงเบสมาให้มีความเป็นกลางสูง ส่วนเสียงแหลมแม้จะพัฒนาขึ้น แต่ไม่ใช่ย่านเสียงที่ Sony เน้นเป็นพิเศษ ข้อดีของแนวเสียงลักษณะนี้คือ สามารถเข้าได้กับเพลงหลากหลายแนว และฟังเพลงต่อเนื่องได้นานโดยไม่ล้าหู แต่หากไม่ถูกใจก็สามารถปรับ Equalizer เองได้ มีพรีเซ็ตให้เลือก 8 แบบ พร้อมตัวเลือกคัสตอมเพิ่มอีก 3 แบบ
Equalizer ปรับแยกส่วนกับ Clear Bass ได้
การเชื่อมต่อ
WF-1000XM5 รองรับกับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.3 สามารถเชื่อมต่อผ่านฟังก์ชัน Bluetooth ง่าย ๆ แบบปกติได้เลย แต่หากต้องการเข้าถึงการตั้งค่าในเชิงลึกและฟีเจอร์ทั้งหมด จำเป็นต้องทำผ่านแอป Headphones Connect ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดบน Play Store และ App Store
เชื่อมต่อง่ายผ่าน Bluetooth 5.3 รองรับเพลง Hi-Res ด้วย LDAC
รูปแบบรหัสเสียง WF-1000XM5 รองรับสูงสุดถึง LDAC สำหรับเพลง Hi-Res ที่มีค่า sample rate สูงกว่า 44.1kHz และ sample size สูงกว่า 16-bit แต่ถ้าเป็นเพลงทั่ว ๆ การปิดฟังก์ชัน LDAC ไป อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพื่อจะได้ไม่สิ้นเปลืองแบตโดยเปล่าประโยชน์
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
WF-1000XM5 มาพร้อมฟีเจอร์ที่มีประโยชน์แล้วใช้งานได้จริงหลายอย่าง ยกตัวอย่างพอสังเขป ดังนี้
- Adaptive Sound Control : สลับระหว่างโหมด ANC และ Ambient หรือปิดใช้งานทุกโหมดโดยอัตโนมัติตามอิริยาบถของผู้สวมใส่ ได้แก่ อยู่กับที่ เดิน วิ่ง และอยู่บนยานพาหนะ
- Speak-to-Chat : หากผู้สวมใส่กำลังพูด หูฟังจะหยุดเล่นเพลงและเปิดฟังก์ชัน Ambient เพื่อให้พูดคุยกับคนรอบข้างได้สะดวก เมื่อไม่มีการพูดเมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่ง หูฟังจะเล่นเพลงเดิมต่อและเข้าสู่โหมดปกติโดยอัตโนมัติ
- DSEE Extreme : ใช้ AI อัปสเกลคุณภาพเสียงของไฟล์ระดับ Lossy (เช่น MP3 และ AAC) ให้ใกล้เคียง Lossless (เช่น FLAC และ ALAC)
- Head Gesture : รับสายหรือปฏิเสธสายได้ง่าย ๆ เพียงแค่พยักหน้าหรือส่ายหน้า 1 ครั้ง ไม่จำเป็นต้องสัมผัสกับหูฟังหรือสมาร์ทโฟน
นอกเหนือจากที่กล่าวมา WF-1000XM5 ยังผ่านมาตรฐาน IPX4 ทนทานต่อน้ำกระเซ็น เหงื่อ และฝน ในช่วงเวลาหนึ่งได้ และมีเซนเซอร์วัดระยะที่ด้านใน หากถอดหูฟังออก เพลงจะหยุดเล่นโดยอัตโนมัติ
ตั้งค่าเสียงและฟีเจอร์ได้จากแอป Headphones Connect
แบตเตอรี่และการใช้งาน
ตามข้อมูลจาก Sony ระบุว่า WF-1000XM5 ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 12 ชั่วโมง กรณีปิดฟีเจอร์ ANC และใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 8 ชั่วโมง หากเปิดฟีเจอร์ ANC แต่หากมีการสนทนาร่วมด้วย (เช่น คุยโทรศัพท์หรือวิดีโอคอล) จะกินแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นอีก
จากการทดสอบใช้งานต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง อยู่หลายครั้ง โดยเน้นที่ไฟล์เพลงคุณภาพ Lossless เป็นหลัก และปล่อยให้หูฟังสลับระหว่างโหมด ANC และ Ambient อัตโนมัติด้วยฟีเจอร์ Adaptive Sound Control พบว่าแบตเตอรี่ลดลง 5 – 8% ต่อชั่วโมง ซึ่งคำนวณออกมาแล้วใช้ได้นานกว่าค่าเฉลี่ยที่ Sony เคลมไว้เสียอีก
แบตเพียงพอต่อการใช้งาน 1 วันสบาย ๆ
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- หูฟัง
- เคสชาร์จ
- จุกหูฟัง 4 ขนาด (SS, S, M, L)
- สายชาร์จ USB Type-C
- คู่มือการใช้งาน
นอกเหนือจากหูฟังและเคสชาร์จแล้ว Sony ยังให้จุกหูฟังมาเปลี่ยน รวม 4 คู่ 4 ขนาด และสาย USB Type-C แบบสั้นอีก 1 เส้น สำหรับชาร์จแบต อุปกรณ์มีมาให้แบบพอใช้งาน ตามมาตรฐานทั่วไป
บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ปลอดพลาดสิก
สเปค Sony WF-1000XM5
- น้ำหนักหูฟัง : 5.9 กรัม (รวมจุกเอียร์บัด)
- น้ำหนักเคสชาร์จ : 39 กรัม (ไม่รวมหูฟัง)
- ไดรเวอร์ : ไดนามิก 8.4 มม.
- ช่วงความถี่ : 20Hz – 40kHz
- ไมโครโฟน : 6 ตัว
- ระบบตัดเสียงรบกวน : ANC
- ฟังเพลงต่อเนื่อง :
– สูงสุด 8 ชม. (เปิด ANC)
– สูงสุด 12 ชม. (ปิด ANC) - สนทนาต่อเนื่อง :
– สูงสุด 6 ชม. (เปิด ANC)
– สูงสุด 7 ชม. (ปิด ANC) - ระยะเวลาชาร์จ : 1.5 – 2 ชม.
– รองรับชาร์จไร้สาย - พอร์ต : USB Type-C
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.3
- รูปแบบที่รองรับ : BC, AAC, LDAC, LC3
- ความทนทาน : ทนน้ำ IPX4
- สี : ดำ, เงิน
ราคาและการวางจำหน่าย
ตอนนี้ WF-1000XM5 วางขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ค่าตัวอยู่ที่ 10,990 บาท เท่ากันทั้งสีดำและสีเงิน ทาง Sony จัดโปรโมชันแถมลำโพงไร้สาย SRS-XB13 เพิ่มอีก 1 ตัว หากลงทะเบียนใน My Sony ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2023
ดูข้อมูลเพิ่มเติม : Sony
Comment