เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยสำหรับ vivo V5 สมาร์ทโฟนเซลฟี่ตัวแม่ ที่จะเข้ามาเพิ่มสีสันให้กับตลาดสมาร์ทโฟนในไทยช่วงท้ายปีแบบนี้ โดยทาง vivo เองก็ดูจะหวังให้เป็นรุ่นที่จะมาเจาะฐานกลุ่มผู้ใช้งานที่ชื่นชอบด้านการถ่ายภาพเซลฟี่โดยเฉพาะ จากจุดเด่นกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 20 MP และยังใส่นิยาม “Perfect selfie” มาด้วย ซึ่งดูแล้วรุ่นนี้คงจะไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และยิ่งหากใครชอบการถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยแล้วก็ยิ่งไม่ควรพลาด ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปชมรายละเอียดต่างๆ กันเลยครับ
ขึ้นไปเหนือหน้าจอกันบ้าง ตรงจุดนี้จะมีลำโพงเสียงสนทนา, เซ็นเซอร์วัดแสง-พักหน้าจอ, ไฟแฟลช LED (Moonlight) และเลนส์กล้องหน้าที่เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
ด้านล่างตัวเครื่องมีรูเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต MicroUSB และลำโพงเสียงของตัวเครื่อง
- หน้าจอแสดงผล IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD
- CPU MediaTek 6750 Octa-core Processor 1.5GHz
- GPU MaliT860
- RAM 4GB
- ROM 32GB
- MicroSD Card 128GB
- กล้องถ่ายรูปความละเอียด 13 MP (PDAF)
- กล้องหน้าความละเอียด 20 MP (F2.0, Sony Sensor,selfie flash)
- Funtouch OS Base on Android OS 6.0 Marshmallow
- Fingerprint
- HiFi Audio + AKM4376
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (MicroSIM + MicroSD Card/NanoSIM)
- รองรับเครือข่าย 3G : 850/900/2100MHz
- รองรับเครือข่าย 4G LTE : 2100,1800,850MHz
- MicroUSB 2.0, OTG, FM Radio
- แบตเตอรี่ขนาดความจุ 3000 mAh
vivo V5 ใช้ระบบ UI ของ vivo เองชื่อว่า Funtouch OS เป็นการพัฒนาขึ้นมาครอบ Android OS 6.0 Marshmallow ครับ UI บางส่วนยังคงมาในรูปแบบของ Android OS ที่คุ้นเคย และหากใครเคยใช้งาน vivo มาก่อน คงจะคุ้นชินแน่นอน เพราะรูปแบบการใช้งานและการแสดงผลยังคงเหมือนเดิม ซึ่ง UI ของ Funtouch OS จะไม่มีหน้ารวมแอพพลิเคชั่นให้ใช้งาน ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างจะรวมอยู่บนหน้าจอหลักทั้งหมด
สำหรับแถบการแจ้งเตือนกับแถบเครื่องมือลัดของ vivo V5 อาจจะอยู่ผิดแปลกที่ ไปจากสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นอื่นอยู่นิดๆ เพราะแถบการแจ้งเตือนต่างๆ จะอยู่ด้านบนเหมือนเดิม แต่แถบเครื่องมือลัดต่างๆ รวมถึง Multi-Tasking แอพฯ จะถูกจับให้มาอยู่ที่แถบเมนูการใช้งานด้านล่างแทน ซึ่งเรียกใช้งานด้วยการปัดนิ้วขึ้นจากขอบหน้าจอด้านล่าง
One-Hand Mode
เป็นโหมดการใช้งานมือเดียว ที่ตัวซอฟท์แวร์จะทำการลดขนาดการแสดงผลของหน้าจอหลักลงมา ให้มีขนาดทีจะสามารถใช้งานด้วยมือเดียวได้ และยังสามารถเลือกปรับขนาดเองตามความต้องการได้ด้วยเช่นกัน
โหมดนี้เป็นโหมดการจับภาพหน้าจอในรูปแบบพิเศษ ที่ผู้ใช้งานอย่างเราสามารถเลือกรูปแบบการแคปภาพหน้าจอได้เพิ่มเติมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกแคปภาพเฉพาะโซนที่ต้องการจะจับภาพ หรือจะเป็นการจับภาพในรูปแบบหัวใจ ก็ทำได้เช่นกัน
เป็นฟีเจอร์เรียกใช้งานแอพฯ พวกเครื่องมือแบบไม่ต้องเปิดหน้าจอ ซึ่งวิธีการใช้งานกดแค่ปุ่มลดเสียง (-) ค้างไว้ ก็จะสามารถเรียกเปิดแอพฯ ที่ตั้งค่าไว้ หรือเปิดไฟฉายได้ทันที ตรงนี้ผมว่าโอเคนะจากที่ลองใช้งาน เพราะบางทีเข้าบ้านมืดๆ มือหนึ่งถือของ ก็เปิดไฟฉายได้เลย ไม่ต้องพยายามปลดล็อคหน้าจอให้ยุ่งยาก
ฟังก์ชั่นเสริมที่มักจะถูกใส่เข้ามาบนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์หลายๆ รุ่น และ vivo V5 เองก็มีเช่นกัน เป้าหมายก็น่าจะเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ ที่ไม่จำเป็นต้องกดปุ่มใดๆ บนตัวเครื่อง เพื่อปลุกหน้าจอให้ตื่นจากโหมด Sleep ในการเข้าใช้งาน ซึ่งภายในโหมดนี้ มีให้เลือกตั้งค่าการใช้งานเยอะพอสมควร
โดยมีรายละเอียด ดังนี้ครับ
SmartWake : สั่งการตัวเครื่องให้เข้าเมนูการใช้งานทันที โดยตัวเครื่องยัง Sleep อยู่ ด้วยการวาดตัวอักษรที่กำหนด
ใช้งานโดยไม่สัมผัส : เป็นปลุกหน้าจอ ด้วยการแตะสองครั้ง
เปิด/ปิด หน้าจอแบบอัจฉริยะ : ฟังก์ชั่นสำหรับการเปิด/ปิด หน้าจอให้สว่าง
การโทรอัจฉริยะ : เป็นโหมดการตั้งค่าเกี่ยวกับการโทรให้สะดวกขึ้น
เขย่าเพื่อเปิดไฟฉาย : ตามชื่อโหมดเลย เป็นการเขย่าตัวเครื่องเพื่อเรียกใช้งานไฟฉาย (ไฟแฟลช)
วิธีการซูมโดยการเอียงโทรศัพท์ : โหมดนี้จะเป็นการแตะที่หน้าจอค้าง แล้วใช้การเอียงเครื่องเพื่อซูมเข้าหรือออก
การเตือนอัจฉริยะ : เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หากมีการแจ้งเตือนค้างอยู่ ตัวเครื่องจะทำการสั่นเตือนให้ทราบ
โหมดถนอมสายตา ที่จะทำการตัดแสงสีฟ้าของหน้าจอออกไป ทำให้หน้าจอจะออกโทนสีเหลืองอ่อน สามารถอ่านข้อความ เอกสาร หรือ E-Book ต่างๆ ได้ดีขึ้นครับ แถมตอนกลางคืนยังใช้ช่วยให้หน้าจอไม่สว่างจ้าจนไปรบกวนคนรอบข้างด้วย โหมดนี้ของ vivo เมื่อเปิดหน้าจอจะไม่เหลืองจ๋าเลยนะครับ จะเหลืองหน่อยๆ เท่านั้น
หน่วยความจำภาย (ROM) ในเริ่มต้น
vivo V5 มีหน่วยความจำภายในมาตั้งแต่เริ่มทั้งหมด 32GB โดยเมื่อเปิดเครื่องใช้งานเป็นครั้งแรกเราจะมีหน่วยความจำภายในให้ใช้งานจริงๆ ทั้งหมด 23.35GB ครับ โดยส่วนที่หายไปก็จะเสียให้กับ OS และอื่นๆ
ระบบเสียง HiFi
เรื่องของเสียง vivo ก็ถือว่าทำได้ดีมาโดยตลอด ซึ่ง V5 เองก็ใส่ชิพเสียงแยก AKM4376 ที่มีค่า Ratio เสียงอยู่ที่ 115dB มาให้ในตัว และมีโหมดการใช้งาน HiFi ให้สามารถเลือกเปิดใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นเพลงต่างๆ ได้ด้วย แต่ฟังก์ชั่นนี้จะใช้งานได้เฉพาะตอนเสียบหูฟังเท่านั้น ส่วนเสียงที่ได้ จาการลองใช้กับหูฟังตัวเครื่องที่ติดมา จะเน้นแค่ดังและมีพลังอย่างเดียว ในขณะที่รายละเอียดของเสียงจัดอยู่ในระดับทั่วไป คิดว่าถ้าได้หูฟังดีๆ มาใช้งานด้วยน่าจะดีกว่านี้พอสมควร
เป็นโหมดการใช้งานสองหน้าจอพร้อมกัน ซึ่งรูปแบบการใช้งานอาจแตกต่างไปจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นหน่อย โดยฟังก์ชั่น Smart Split 2.0 ของ vivo จะทำงานในลักษณะแจ้งเตือนด้วยไอคอนป็อปอัพ ซึ่งเมื่อมีการแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นที่เปิดใช้งานไว้ จึงจะมีไอคอนป็อปอัพเด้งแจ้งเตือนขึ้นมา โดยตอนนั้นเราจะสามารถเลือกเปิดใช้งานในรูปแบบ 2 หน้าจอได้ทันที สำหรับแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานแจ้งเตือนผ่านฟังก์ชั่นนี้ได้ตอนนี้ จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 แอพฯ เท่านั้น (ในอนาคตอาจมีอัพเดทเพิ่มเติม) คือ ข้อความ, Facebook, LINE, WhatsApp
น่าจะกลายเป็นฟังก์ชั่นด้านความปลอดภัยพื้นฐานของสมาร์ทโฟนไปแล้ว สำหรับการสแกนลายนิ้วมือ เพื่อยืนยันตัวตนในการเข้าใช้งานตัวเครื่อง โดย vivo V5 นอกจากจะสแกนลายนิ้วมือเพื่อยืนยันตัวตนแบบพื้นฐานการใช้งานได้ แล้วยังสามารถเลือกประยุกต์ใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ หรือฟังก์ชั่นพื้นฐานบนตัวเครื่องได้ เช่น การกดชัตเตอร์กล้องถ่ายรูป, การเปลี่ยนรูปภาพ เป็นต้น
ภายในโหมดเราสามารถเลือกปรับค่าการถ่ายภาพได้ด้วยกันทั้งหมด 5 ค่า คือ
EV : ปรับได้ +2, +1, 0, -1, -2
ISO : ปรับได้ 100 – 1600
Speed Shutter : 16 ถึง 1/5000
WhiteBalance
การโฟกัสภาพ
โหมดกล้องหน้า
ภาพถ่ายตัวอย่าง
ภาพตัวอย่าง Selfie
จุดเด่น
- กล้องหน้าความละเอียดสูง 20 MP
- ระบบสแกนลายนิ้วมือทำงานไว
- ระบบเสียง HiFi
- รองรับการใช้งาน 2 หน้าจอผ่าน Smart Split 2.0
จุดสังเกตุ
- กล้องหน้ายังปรับแสงอัตโนมัติได้ไม่นิ่ง
- แบตเตอรี่ 3000 mAh เมื่อใช้งานจริงดูจะไม่ค่อยถึกเท่าไร บางวันอยู่ได้ถึงช่วงเย็นเท่านั้น
- หน้าจอความละเอียด HD
- ตัว OS มีรวนในบางครั้ง
สรุปส่งท้าย vivo V5
หลังจากที่ลองเล่นเจ้า vivo V5 มาได้ 1 อาทิตย์ ภาพรวมก็ถือว่าทำได้ดีในระดับราคาประมาณนี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการออกแบบ งานประกอบ ทำได้แน่นหนา การประมวลผลการทำงานต่างๆ ทำได้ดี มีระบบสแกนลายนิ้วมือที่ตอบสนองไว ด้านเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ vivo ในรุ่นนี้ก็ยังคงทำออกมาได้ดี เสียงที่ให้ผ่านระบบ HiFi ดังกังวาล รายละเอียดของเสียงยังอยู่ครบ ด้านกล้องถ่ายรูปถ่ายได้สวย ภาพคมอยู่สำหรับกล้องหลัง
ส่วนกล้องหน้าหายห่วง มีลูกเล่นให้ปรับแต่งแถมช่วยให้การเซลฟี่ง่ายและสะดวก ใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่ราคาสมเหตุสมผล ดีไซน์ดูดี เน้นเซลฟี่เป็นชีวิตและชอบฟังเพลง รับรองครับว่า vivo V5 เป็นสมาร์ทโฟนหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างแน่นอนกับ ราคาวางจำหน่าย 8,990 บาท และมีด้วยกัน 2 สีคือสีชมพู และสีทอง
Oppo Vivo
เน้นเซลฟี่
จอ HD
แอนดรอยด์ไม่ต้องอัพ
ขายดิบขายดี มาถูกทางแล้ว สองยี่ห้อนี้
สองแบรนด์นี้่เค้าพี่น้องกันครับ 555 แปลกใจที่ vivo หันมาเน้น selfie ตีกับ oppo ซะงั้น O_O
แหม คนพี่ทำมือถือขายน่ารักมุ๊งมิ๊ง คนน้องขอสูตรมาทำมือถือขายสวยฟรุ้งฟริ้ง
จะซื้อของคนพี่ หรือคนน้อง แม่ก็รอนับเงินสบายครับ
แข่งกันเองไม่เป็นไรหรอกครับ เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน – -.
ราคานี้ไป Nubia ดีกว่ามั้ง ตัว 652 อ่ะ
[size=20]เห็นขายแล้วน่ะ > www.lazada.co.th/vivo-v5
โค้ดลดน่าจะมีน่ะวันนี้ลองดู โค้ดลด โปรบัตรเครดิด [/size]
"
ถ้าไม่เน้นถ่ายรูป ใช้เล่นเกมส์ ทำแผนที่ก็ Nubia ได้ครับ
แต่ถ้าจะเอาถ่ายรูปดูหนังฟังเพลงเป็นหลัก
ไป Vivo เถอะครับ Nubia กล้องยังธรรมดาครับ