ตั้งแต่ Genshin Impact เปิดให้บริการ เราก็มักจะเห็นเกมประเภทนี้ออกมาท้าชน อย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถเอาชนะแชมป์เดิม No.1 ในตลาดเกมแนวนี้ได้ และล่าสุดได้ก็มีเกมใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวกันไปสด ๆ ร้อน ๆ อย่าง Wuthering Waves จากทีมผู้พัฒนา Kuro Games เข้ามาท้าชนเจ้าตลาดแล้ว วันนี้ทีมงานจะมาเล่าความรู้สึกหลังจากที่เล่นเกมนี้ไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์กัน บอกเลยว่าโคตรมัน ไม่ใช่เกมที่ทำมาฉาบฉวย เน้นขายตัวละคร ขายกาชา แล้วปิดหนีไปแบบเกมอื่นที่ผ่านมาแน่นอน
Wuthering Waves เป็นเกมแนว Open-World Action RPG จาก Kuro Games ที่หลังจากเปิดให้บริการไปในวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยตัวเกมหลัก ๆ แล้ว จะเน้นไปที่การให้อิสระผู้เล่นในการออกสำรวจโลกแบบเปิด ซึ่งเราจะได้มารับบทเป็น Rover ผู้ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลและได้มาพบกับโลกใบใหม่อันแสนกว้างใหญ่นี้
เกมเพลย์แอคชันรวดเร็วเร้าใจสุด ๆ
ต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งในจุดเด่นของ Wuthering Waves เลยก็ว่าได้ การต่อสู้ภายในเกมที่ทำออกมาได้ลื่นไหล หลากหลาย มีมิติ เช่น จังหวะการใช้สกิล จังหวะการสลับตัว หรือการหลบการโจมตีของศัตรู ทำให้เกมนี้มีความแตกต่างจากเกมอย่าง Genshin Impact อย่างชัดเจน เพราะ Genshin Impact ไม่ได้เน้นการกดปุ่มให้ตรงจังหวะขนาดนั้น แต่เน้นไปที่การต่อคอมโบต่อสกิลของตัวละครในทีมมากกว่า เรียกได้ว่าสกิล ๆ ตี ๆ ไปเถอะยังไงก็ผ่าน
แต่ Wuthering Waves จะให้น้ำหนักกับเรื่องปัดป้อง (Parry) และการหลบหลีกมากกว่า (Dodge) ซึ่งตัวเกมก็ออกแบบมาให้ผู้เล่นใช้กลไกเหล่านี้ในการผ่านคอนเทนต์ยาก ๆ อย่างการสู้บอสด้วย เช่น ถ้าเราหลบหลีกและสวนกลับถูกจังหวะ จะทำให้หลอดพลังป้องกันของศัตรูลดลงอย่างมาก เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นที่มีเลเวลตัวละครน้อยเอาชนะศัตรูที่มีเลเวลสูงกว่ามาก ๆ ได้ แต่ก็ต้องแลกมากับการใช้ฝีมือการเล่นมากหน่อย
ทำให้ Wuthering Waves มีเกมเพลย์การต่อสู้ที่ยากกว่า Genshin Impact อยู่ระดับหนึ่ง มือใหม่ หรือคนที่ยังเล่นเกมนี้ไม่ชินต้องฝึกเล่น และใช้ทักษะการเล่นที่มากกว่า เรียกได้ว่าไม่ใช่เกมแนว Casual ที่เล่นสบาย ๆ เสมอไป
โลกกว้าง สำรวจสนุก สิ่งอำนวยความสะดวกมี แต่รู้สึกขาด ๆ เกิน ๆ
อีกหนึ่งสิ่งที่คนเล่นเกมแนวนี้ต้องเจอคือการสำรวจโลก เพื่อหาสมบัติ เปิดแผนที่ และหาทรัพยากรมาพัฒนาตัวละครของเรา Wuthering Waves ทำเรื่องของการเคลื่อนที่ในฉากออกมาได้โอเคเลย มีหลายระบบที่ช่วยอำนวยความสะดวกผู้เล่น เช่น การวิ่งไต่กำแพง แทนที่การปีนเพียงอย่างเดียว หรือการโหนสลิงช่วยให้ขึ้นที่สูงได้ง่าย ก็สามารถทำได้ตั้งแต่เริ่มต้นด้วย
สิ่งที่รู้สึกให้ชวนงงมากที่สุดในการสำรวจโลกคือวัตถุ หรือ Object ในฉาก เช่น กล่องสมบัติ ไอเทม หรือบทท้าทายจำกัดเวลาต่าง ๆ บางครั้งดูยาก มองแล้วไม่เข้าใจตั้งแต่ทีแรก ทำให้เราอาจจะข้ามไม่สำรวจจุดนี้ไป ซึ่งดีไซน์ตรงนี้ Genshin Impact ทำออกมาได้เข้าใจง่ายกว่า
กราฟิกสวยสมเป็นเกมปี 2024
ด้านกราฟิก Wuthering Waves ทำองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างออกมาได้สวยงามตามมาตรฐานเกมที่ออกในปี 2024 เหมือนเกมอื่น ๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้
ตัวละครกราฟิกสไตล์อนิเมะ ทำออกมาได้สวยงามดี สัดส่วนหน้าตาตัวละครจะออกไปทางสมจริงกว่าเกมอื่นที่ตัวละครใช้สไตล์ภาพแนวอนิเมะแบบนี้ แต่การสร้างเอกลักษณ์ของตัวละครแต่ละคนอาจจะยังไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ มีตัวละครที่หน้าตาคล้าย ๆ กัน ทรงเดียวกันมากเกินไป จนอาจทำให้ผู้เล่นสับสนในการจดจำตัวละครเหล่านั้นได้
สภาพแวดล้อมมาในธีมโลกที่ล่มสลาย แฟนตาซี + ไซไฟ ทำให้สีสันที่ใช้จะออกไปทางหม่น ๆ ไม่สดใสสักเท่าไหร่ ตามสไตล์โลกที่เคยเจอกับภัยพิบัติจนเกือบจะล่มสลายมาแล้ว ต้นไม้ ภูเขาปั้นมาได้มีรายละเอียดเข้ากับธีม ไม่มีอะไรที่ดูแล้วรู้สึกแปลกมากนัก ตรงนี้คิดว่าถ้าเล่นไปไกลกว่านี้ออกสำรวจจนครบทุกพื้นที่แล้ว อาจจะมีอะไรที่มากกว่านี้ก็ได้
เอฟเฟคตอนกดสกิลบอกเลยว่าจัดจ้าน อลังการ มีเอกลักษณ์ ทำออกมากระตุ้นผู้เล่นให้ตื่นตัวตลอดเวลา เข้ากับเกมเพลย์ที่เน้นความเร็วดี เรื่องน่าหงุดหงิดใจมีเพียงเรื่องเดียว เรื่องมุมกล้อง บางครั้งอาจจะทำออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทำให้เวลาโดนอัดมุม จะเล่นยากขึ้นพอสมควร
งานพากย์คุณภาพอนิเมะญี่ปุ่น
สิ่งหนึ่งที่เกมนี้ทำได้ดีมากเลยคือ เสียงพากย์ภาษาญี่ปุ่นที่ทำออกมาได้มีคุณภาพสูงให้ความรู้สึกเหมือนดูอนิเมะดัง ๆ เลย ส่วนหนึ่งเพราะ ได้คัดเลือกนักพากย์ที่ฝากผลงานการพากย์อนิเมะ หรือพากย์เกมดัง ๆ ไว้หลายเกม มีผลงานที่น่าจดจำเยอะว่าง่าย ๆ ไม่ได้ใช้นักพากย์หน้าใหม่ที่มีผลงานไม่เยอะ ทำให้แต่ละตัวละครมีเอกลักษณ์ที่ต่างกัน
ส่วน NPC ในเนื้อเรื่องก็มีการใส่เสียงพากย์เข้ามาด้วย บอกเลยว่าช่วยให้ตัวเกมมีชีวิตชีวาขึ้นพอสมควรเลย แม้ว่าส่วนมากจะใช้นักพากย์หน้าใหม่ผลงานน้อยยังไม่เป็นที่รู้จัก แต่คุณภาพงานพากย์ที่ได้ก็อยู่ในระดับเดียวกับตัวละครหลักที่เล่นได้ ไม่ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด แค่สำหรับคนที่เล่นเกม หรือดูอนิเมะมานาน ๆ จะไม่ค่อยคุ้นเสียงแค่นั้น
เนื้อเรื่องทำมาดี แต่…ไม่รู้สึกอิน
เริ่มเกมมาเราจะถูกหญิงสาวคนหนึ่งส่งมายังโลกสักแห่งในจักรวาลนี้ ซึ่งเมื่อเราตื่นขึ้นมาจะพบว่าจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ ทำให้ไม่รู้เหมือนกันว่าถูกส่งมาเพื่ออะไร แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราเลยต้องออกเดินทางกับสหาย และเพื่อน ๆ ที่เจอระหว่างทางเพื่อตามหาความจริงเหล่านั้น
ในฉากคัทซีนที่ตัวละครคุยกันสิ่งที่รู้สึกได้เลยคือการเคลื่อนไหวของตัวละครไม่ค่อยสมูท สีหน้า แววตา ท่าทาง มีการขยับที่ไม่ช้าเกินไป ก็เร็วเกินไป ไม่เป็นธรรมชาติ ส่วนหนึ่งคิดว่ามาจากการกดข้ามบทพูดตอนนั้นได้ทำให้ตัวละครแสดงท่าทางไม่ทันตามที่เรากดด้วย
ตัวเกมไม่รองรับภาษาไทย ทำให้จุดนี้กลายเป็นอุปสรรคที่สำคัญ เป็นกำแพงภาษาในการเข้าถึงเนื้อเรื่องของเกมนี้ หลายคนเลยไม่รู้สึก “อิน” กับเนื้อเรื่องเกมนี้สักเท่าไหร่ หรือไม่รู้สึกสนใจภูมิหลังของตัวละครนี้ ทำให้เนื้อเรื่องไม่ดึงดูดให้เล่นเกมนี้ได้นานนัก
แต่สำหรับสาย Skip กดข้ามเนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้สนใจมากนัก และกลับกันรู้สึกชอบเกมนี้มากกว่าเกมอื่นที่เป็นแนวเดียวกันสะอีก เพราะตัวเกมมีปุ่ม Skip เนื้อเรื่องส่วนที่ไม่จำเป็นได้ ซึ่งส่วนมากจะข้ามได้เกือบทุกฉาก
กาชา เกมนี้น่าเติมหรือไม่
ต้องบอกก่อนว่าเกมฟรีเหล่านี้ ขับเคลื่อนได้ด้วยพลังของการเติมเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดกาชา เกมนี้ถ้าเราอยากได้ตัวละคร หรืออาวุธ 5 ดาว ก็ต้องเปิดกาชาเพื่อสุ่มหาเท่านั้น แต่เกมนี้ก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น เพราะระบบการันตี 5 ดาวอยู่
หมายความว่าเมื่อเราใช้ตั๋วที่เราไว้เปิดกาชาไปถึงเกณฑ์ที่ตัวเกมกำหนดไว้ เราจะได้ตัว 5 ดาว แน่นอน ไม่ได้เปิดแล้วใช้ดวงลุ้นเอาแบบไร้จุดหมายแบบเกมอื่น โดยจะการันตี 5 ดาว 1 ตัวทุก ๆ การใช้ตั๋ว 80 ใบ ซึ่งก็อยู่ระดับที่ไม่ได้สูงมากเกินไป ยังพอรับได้
และสำหรับสายฟรี เกมนี้ไม่จำเป็นต้องเติมเงินก็สามารถสะสมหาแต้มมาเปิดกาชาได้ จากการสำรวจ เล่นเนื้อเรื่อง หรือการทำกิจกรรมแทนได้เช่นกัน ซึ่ง Wuthering Waves เป็นเกมแนว Open-World มีพื้นที่ให้เราออกสำรวจมากมาย ทำให้แต้มที่เราได้มากตาม ขอแค่เราขยันเล่นก็พอ
ความเกลือที่ไม่ต่างจากเกมอื่น
นอกจากต้องอัปเลเวลตัวละคร และตีบวกอาวุธแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคืออุปกรณ์สวมใส่ ซึ่งเกมนี้ใช้ระบบ Echo หรือเศษซากที่หลงเหลืออยู่หลังจากที่เราปราบมอนสเตอร์ได้ เมื่อเราใช้น้ำเต้าดูดกลืน Echo มาเราจะสามารถใช้พลังของสิ่งนั้นได้ด้วย
โดยเมื่อเราปราบบอส หรือมอนสเตอร์ได้แล้ว ระบบจะสุ่มคุณสมบัติของ Echo มาให้เรา ซึ่งคล้ายกับระบบอาร์ติแฟคของ Genshin Impact หรือหมายความว่าระบบสุ่มค่าพลังก็จะตามาด้วยนั่นเอง ทำให้เวลาที่เราไปตีบอส แล้วเอาชนะมาได้ Echo ที่ดรอปอยู่ก็ใช่ว่าจะมีค่าพลังที่ตรงกับที่เราต้องการใช้ ทำให้การต้องฟาร์มของวนไป ติดลูปเหมือนเกมอื่นนั่นเอง
บอกเลยว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่ในเกมแนวนี้ เพราะเหมือนกับว่าเราต้องออกไปจับโปเกม่อนเพื่อให้มาเป็นพวกพ้องในการต่อสู้เลย ซึ่งจะต่างกับเกมอื่นที่เป็นอุปกรณ์สวมใส่ธรรมดาไม่ได้มีความสามารถพิเศษให้เราได้กดใช้บ่อย ๆ แบบนี้
เล่นบนพีซี บนมือถือ บนจอย ให้ประสบการณ์ต่างกันหรือไม่
ต้องขอออกตัวก่อนว่าตามปกติแล้วมักจะเล่นเกมนี้ด้วย คีย์บอร์ด และเมาส์เป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้เล่นบนหน้าจอสัมผัส หรือบนจอยมากมายนัก ซึ่งการควบคุมบนคีย์บอร์ด และเมาส์ทำได้ดีตามมาตรฐานอยู่แล้ว ปุ่มที่มีให้กดวางอยู่ในตำแหน่งที่กดง่าย แต่ด้วยเกมเพลย์ที่เร็วต้องอาศัยความเคยชินถึงจะกดได้คล่องด้วย
แต่สำหรับการหันเมาส์เร็ว ๆ ถ้าใครเป็น Motion Sickness อาจจะมีอาการเวียนหัวได้ โดยสามารถเข้าไปปรับตั้งค่าให้มุมกล้องมีความใกล้เคียงกับเกมอื่นในการตั้งค่าภายหลังได้
ส่วนถ้าสลับมาเล่นด้วยจอย บอกเลยว่ารู้สึกถนัดมาก เพราะด้วยเกมเพลย์ที่เน้นการรัวคอมโบให้ได้มากที่สุดในเวลาที่สั้นที่สุด การได้รัวปุ่มบนจอยก็เป็นอะไรที่สะใจ แบบเกมแนวสามก๊กมุโซเลย
ส่วนการเล่นบนหน้าจอสัมผัสของโทรศัพท์ หรือแท็บเล็ต ส่วนตัวไม่ค่อยถนัดการเล่นแบบนี้เท่าไหร่ เพราะปุ่มบนหน้าจอมีเยอะ และเกมเพลย์ที่เร็วทำให้กดผิดกดถูกอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะกับแท็บเล็ตที่หน้าจอใหญ่ ปุ่มบางปุ่มอยู่ห่างเกินไป ทำให้กดยากกว่าบนมือถือที่มีหน้าจอขนาดเล็กกว่า
สรุป Wuthering Waves น่าเล่นหรือไม่
หลังจากที่ลองเล่น Wuthering Waves มาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ก็รู้สึกว่าเป็นเกมที่เล่นแล้วสนุกดี ภาพสวย ตัวละครน่ารัก โลกกว้างมีอะไรให้สำรวจเยอะ ใครที่ชื่นชอบเกมแนวนี้อยู่แล้ว บอกเลยว่าควรมาลองเล่นดูสักครั้ง
จุดเด่นที่สุดคงจะเป็นเรื่องของระบบการต่อสู้ที่มีความลื่นไหล หลากหลาย มีมิติมากกว่าเกมแนวเดียวกัน คล้ายระบบที่อยู่ในเกม AAA หลายเกม เพราะต้องคำนึงถึงเรื่องของการหลบการโจมตี และสวนกลับไปให้ถูกจังหวะด้วย ไม่ใช่เดินหน้ารัวคอมโบแบบไม่สนโลกใส่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ทำให้ผู้เล่นสายแคชชวลอาจจะเล่นเกมนี้ได้ลำบากหน่อยในช่วงแรก แต่สำหรับคนที่เล่นเกมแนว Souls Like เช่น Dark Souls หรือ ELDEN RING มา อาจจะรู้สึกเฉย ๆ ก็ได้เหมือนกัน เพราะใช้วิธีเล่นคล้าย ๆ กัน แต่ความยากก็ไม่ได้อยู้ในระดับเดียวกับเกมเหล่านั้น
ด้านกราฟิกทำออกมาได้ดีมีคุณภาพ ตามมาตรฐานของเกมที่ออกในปี 2024 การปั้นโมเดลตัวละครทำออกมาได้สวยสมเป็นเกมที่มีสไลต์ภาพแบบอนิเมะ แต่การออกแบบตัวละครบางตัว ดันมีหน้าตาและทรงผมใกล้เคียงกันเกินไปหน่อย ทำให้ยังรู้สึกว่าตัวละครหลายตัวไม่ค่อยมีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำเท่าไหร่
ส่วนปัญหาที่เจอจะเป็นเรื่องบั๊กในเกมที่เจอประปราย เล่นแล้วเหมือนเกมที่ทำมาแล้วยังไม่สมบูรณ์ ทำให้มีการอัปเดตแก้บั๊กค่อนข้างถี่ เรียกได้ว่าเข้าเกมทุกครั้งเจออัปเดตทุกครั้ง และตัวเกมไม่รองรับภาษาไทย ทำให้เป็นเหมือนกำแพงภาษาที่กั้นผู้เล่นบางส่วนไม่ให้เสพเนื้อเรื่องได้อย่างเต็มที่
ข้อดี
- เกมเพลย์การต่อสู้สนุก
- ภาพสวย
- ระบบช่วยเหลือผู้เล่นเยอะ
- ใช้พื้นที่การติดตั้งน้อย ประมาณ 10 GB
- สายฟรีก็เก่งได้แบบไม่ต้องเติมเงิน
ข้อสังเกต
- บั๊กในเกมที่เห็นได้ประปราย
- ไม่มีภาษาไทย
- ภาพรวมมีความคล้ายกับ Genshin Impact เกินไป
ขอบคุณสำหรับการรีวิวอัดแน่นจัดเต็มครับ