REVIEW | รีวิว Xiaomi TV A Pro 55 (2025) ทีวี 4K จอใหญ่ มี Google TV ในตัว คุ้มมั้ยกับค่าตัว 13,990 บาท

Xiaomi ได้เปิดตัวสมาร์ททีวีรุ่นใหม่ในไทยอย่าง Xiaomi TV A Pro 55 (2025) ทีวี 4K ที่มาพร้อมกับราคาเริ่มต้น 13,990 บาท ซึ่งถือว่าน่าสนใจมาก ๆ กับสเปคที่ให้มา ทั้งพาเนลแบบ Quantum Dot และรองรับ Google TV ในตัว ซึ่งทาง Xiaomi ประเทศไทย ก็ได้ส่งมาให้เราลองใช้งาน มาดูกันดีกว่าว่าทีวีรุ่นใหม่นี้จะมีอะไรที่น่าสนใจ แล้วการเชื่อมต่อใช้งานจริงจะเป็นยังไงบ้าง

ชมดีไซน์ Xiaomi TV A Pro 55 (2025)

Xiaomi TV A Pro 55 (2025) มากับดีไซน์แบบ Unibody ดูเป็นชิ้นเดียวกันทั้งตัวทีวี ออกแบบหน้าจอมาในรูปแบบขอบบาง Bezel-less ดูได้เต็มตา ด้านล่างมาพร้อมกับขอบเงินเล่นลวดลาย และมีแถมไฟ LED สำหรับแสดงสถานะเปิด / ปิดทีวี โดยตัวทีวีจะใช้ขาตั้งคู่แบบแบบพลาสติกทั่วไป หรือจะถอดออกมาเพื่อติดกับผนังห้องก็ทำได้เช่นกัน

ภาพรวมดีไซน์ถือว่าค่อนข้างดูดีมาก ๆ แต่อาจจะมีเรื่องของการเก็บงานประกอบ ที่เวลาสัมผัสไปที่ด้านหลังแล้วจะมีความรู้สึกสาก ๆ มือนิดหน่อย รวมถึงยังมีช่องว่างระหว่างตัวพาเนล กับตัวจอชั้นนอก ซึ่งถ้าไม่ได้สังเกตก็ไม่ได้มองเห็นได้ชัดถึงขนาดนั้น

รีโมตทำอะไรได้บ้าง?

ตัวทีวีรุ่นนี้ไม่มีปุ่มใด ๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างจะใช้การสั่งการจากรีโมท 360 Bluetooth Remote ทั้งหมด และแน่นอนว่าเมื่อรีโมตใช้ระบบเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ไม่ใช่ Infrared จึงมีข้อดีตรงที่สามารถกดจากที่ไหนของห้องก็ได้ ไม่จำเป็นต้องจ่อรีโมตไปที่ตัวทีวี แค่ยืนอยู่บริเวณที่สัญญาณรับส่งถึงกันก็พอ

ส่วนปุ่มต่าง ๆ บนรีโมต ก็มีปุ่มพื้นฐาน เช่น เลขช่อง หรือสลับเป็นโหมด Output แบบครบ ๆ รวมถึงมีปุ่มลัดสำหรับเปิดแอปสตรีมมิ่งเพื่อชมหนังหรือซีรีส์ที่ชอบ ได้แบบด่วน ๆ ทั้ง Netflix, Prime Video และ Youtube

นอกจากนี้ ตัวรีโมตยังมาพร้อมกับไมโครโฟน พร้อมปุ่ม Google Assistant สำหรับใช้งานสั่งการผ่านเสียงด้วยรีโมตคอนโทรล เพียงแค่กดปุ่มค้างไว้ พูดผ่านรีโมตก็ใช้สั่งการได้ทันที

รองรับการเชื่อมต่ออะไร มีพอร์ตไหนมาให้บ้าง?

ด้านหลังตัวเครื่องมากับพอร์ตทั้งหมด 8 พอร์ต ประกอบไปด้วย

พอร์ต Optical
พอร์ต AV IN
HDMI 3 ช่อง (รองรับ eARC 1 ช่อง)
USB 2.0 1 ช่อง
พอร์ต LAN สำหรับเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ช่องเชื่อมต่อเสาสัญญาณ Digital TV (DVB-T2/C,DVB-S25)

ส่วนการเชื่อมต่อแบบไร้สายนั้น รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 และรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ทั้งแบบ 2.4GHz และ 5GHz ซึ่งถ้าหากกลัวไม่เสถียรพอ ก็มีพอร์ตให้เชื่อมต่อกับสาย LAN ด้วย

ระบบภาพเป็นอย่างไร

Xiaomi TV A Pro 55 (2025) มากับจอขนาดใหญ่ 55 นิ้ว ตามชื่อรุ่น ใช้พาเนล VA ความละเอียดคมชัดระดับ 4K UHD (3,840 × 2,160 พิกเซล) มีเทคโนโลยี Quantum Dot เข้ามาช่วยแสดงผลในเรื่องของสีสันให้ลึกถึง 1.07 พันล้านสี (8-bit + FRC) โดยทางแบรนด์เคลมว่าครอบคลุมมาตรฐานสี DCI-P3 92 – 94% รองรับการแสดงผลคอนเทนต์ HDR10 สามารถเข้าไปปรับโหมดภาพได้หลากหลาย

โหมดมาตรฐาน Standard
โหมดสีสด Vivid
โหมดภาพยนต์ Movie
โหมดเกม Game (ไม่รองรับเมื่อรับชมคอนเทนต์ HDR)
โหมดกีฬา Sport (ไม่รองรับเมื่อรับชมคอนเทนต์ HDR)

ตัวทีวีรองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 60Hz มีโหมด Motion Estimation และ Motion Compensation (MEMC) คอยช่วยแทรกเฟรมให้ภาพดูมีความลื่นไหลสบายตา ดูกีฬาได้สนุกขึ้น สามารถเลือกปิด หรือเลือกเปิด หรือตั้งค่าระดับความลื่นไหลได้เองตั้งแต่ 0 – 10

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่พาเนล VA สีสันอาจจะไม่สวยสดสู้พาเนลระดับบน ๆ ได้ รวมถึงเมื่อนั่งในมุมมองที่เอียงนิดหน่อย สีสันก็อาจจะมีความดรอปไปเล็กน้อย และด้วยความที่พาเนลใช้เทคโนโลยีเปล่งแสงแบบ Edge Lit เมื่อแสดงผลสีเข้ม ๆ อย่างสีเทา จะเห็นเป็นกรอบแสงลอดค่อนข้างชัดเจน

มีโหมดเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ

สำหรับการเล่นเกมนั้น Xiaomi TV A Pro 55 (2025) มาพร้อมกับระบบ Game Mode ที่เข้ามาช่วยปรับตั้งค่าต่าง ๆ ให้เหมาะกับการเล่นเกมโดยเฉพาะ เช่น ปรับภาพเป็น Game Mode เพื่อลดค่า Input Lag ปรับตั้งค่าความสว่างและสีสัน รวมถึงสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์ Dark Scene Boost เพื่อเร่งสีดำให้ดำสนิทยิ่งขึ้นได้ด้วย

ระบบเสียงเป็นอย่างไร

ตัวทีวีในรุ่น 55 นิ้ว จะรองรับการถอดรหัสเสียงนั้น Dolby Audio และ DTS:X มาพร้อมกับลำโพงคู่สเตอริโอ 10W 2 ตัว ที่คุณภาพเสียงอาจจะมีความมัว ๆ อยู่บ้าง แต่ในรุ่นนี้ก็นำระบบจำลองเสียง DTS Virtual X มาช่วยเสริมคุณภาพเสียงขึ้นมาอีกนิดหน่อย โดยสามารถเปิดตั้งค่าได้ 3 โหมด

DTS Bass Enahancement : ช่วยบูสท์เสียงเบส
DTS Surround Virtualizer : จำลองเสียงรอบทิศทางแบบ 360 องศา
DTS Dialog Clarity: ช่วยเร่งเสียงพูดให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากระบบ DTS Virtual X แล้ว ตัวระบบยังมีพรีเซ็ตปรับรูปแบบเสียงให้เข้ากับการชมคอนเทนต์ถึง 4 แบบ หรือจะเลือกปรับแต่งเองตามความต้องการก็ได้ เช่น

โหมดเสียงมาตรฐาน Standard
โหมดเสียงสำหรับภาพยนต์ Movie
โหมดเสียงสำหรับข่าว News
โหมดเสียงสำหรับเกม Game

Google TV ทำอะไรได้บ้าง?

Xiaomi TV A Pro 55 (2025) มากับชิปเซตประมวลผล MediaTek Quad A55 พร้อมความจุ 2GB + 8GB ติดตั้งมากับระบบ Android TV OS เวอร์ชั่น 11 ครอบทับด้วย Google TV with Chromecast ที่สามารถดาวน์โหลดแอปเพิ่มเติมได้จาก Google Play กว่า 10,000 แอป ครอบคลุมทุกแอปสตรีมมิงสุดฮิตในไทย ไม่ว่าจะเป็น

Netflix
Disney+ Hotstar
HBO GO
Apple TV+
MONO MAX
WeTV
AIS Play
trueID
Amazon Prime Video

ด้านการตอบสนองของตัวระบบ Smart TV ถือว่าเหมาะสมกับราคา แต่หากเปิดชมวิดีโอในโหมด 4K@60FPS HDR ตัวซอฟต์แวร์จะมีจังหวะการกระตุก สั่งการไม่ลื่นไหลเป็นพัก ๆ แต่สำหรับการใช้งานฟังก์ชั่นพื้นฐานนั้น ถือว่าตอบสนองได้ดีตามมาตรฐานของสมาร์ททีวีในระดับราคานี้เลย

นอกจากนี้ เรายังสามารถแชร์หน้าจอมือถือ Android หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ผ่านโพรโตคอล ทั้ง Google Chromecast และ Miracast สามารถเชื่อมต่อกับระบบ Google Home เพื่อใช้เปิดรีโมตเปิดปิดเสียง ควบคุมทีวี สั่งแคสต์ภาพจากมือถือขึ้นจอ หรือเรียกใช้ Google Assistant ก็ได้

ส่วนฝั่งของ iOS นั้น ตัวทีวีไม่มีระบบ Apple AirPlay ในตัว จึงไม่สามารถส่งภาพจาก iPhone, iPad หรือ MacBook ขึ้นไปใช้งานบนจอแบบไร้สายได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังใช้สาย USB-C to HDMI ส่งภาพขึ้นจอได้อยู่นะ

สรุปการใช้งาน Xiaomi TV A Pro 55 (2025)

หากดูจากช่วงราคาของ Xiaomi TV A Pro 55 (2025) แล้ว ถือว่าเป็นหนึ่งในรุ่นที่ควรนำเป็นพิจารณาเป็นอันดับต้น ๆ จากสเปคที่ให้มาค่อนข้างเพียงพอต่อการใช้งาน ได้ทั้งจอใหญ่ 55 นิ้ว คมชัดระดับ 4K ได้เทคโนโลยีภาพแบบ Quantum Dot แถมยังมีระบบ Google TV มาในตัวด้วย

แต่จุดที่ยังไม่ประทับใจ คือเรื่องของไฟ Backlight ที่ค่อนข้างเห็นชัดตามขอบทั้ง 4 มุมของตัวจอเมื่อแสดงผลสีเทา รวมถึงการตอบสนองของระบบ OS ที่ยังมีความช้าหรืออาการกระตุกให้เห็นบ้างเป็นจังหวะ และระบบ MEMC แทรกเฟรม ที่เมื่อเปิดระดับสูง ๆ แล้วอาจจะยังไม่เนียนตาเท่าที่ควร แต่ในราคา 13,990 บาท นี้ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการทีวีจอใหญ่ ฟีเจอร์ครบ ในราคาสบายกระเป๋าแล้ว

ราคา และการวางจำหน่าย

Xiaomi TV A Pro Series (2025) มีให้เลือก 2 ขนาดจอ ทั้งรุ่นจอ 55 นิ้ว ที่เรานำมารีวิวกันในวันนี้ และรุ่น 43 นิ้ว โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป ที่ Xiaomi Store, ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ และช่องทางออนไลน์ และมาในราคาโปรโมชั่นลดพิเศษ ดังนี้