รีวิว Xperia XZ2 ดีงามตามสไตล์ Sony เล่นเกมลื่นเว่อร์เกินกว่าทุกตัว

วางจำหน่ายกันเรียบร้อยแล้วนะครับ กับ Xperia XZ2 หลายๆคนที่สนใจก็น่าจะโดนโปรแจก PS4 กระชากเงินในกระเป๋ากันไปบ้างแล้วแน่ๆ แต่ถ้าใครรอรีวิวอยากรู้ว่าการใช้งานจริงเป็นอย่างไรอยู่ วันนี้หลังจากทดสอบลองใช้งานมาร่วมสามสัปดาห์ จะขอเอาประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังว่า  Xperia XZ2 นี้มันดีงามขนาดไหน มีอะไรสู้คู่แข่งที่แสนจะดุจากจีนและเกาหลีได้บ้างครับ

มาทวนสเปคของ Xperia XZ2 กันอีกสักรอบ

สเปค Sony Xperia XZ2

• จอ 5.7 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ความละเอียด Full-HD+ LCD HDR ครอบด้วย Gorilla Glass 5 ทั้งหน้าและหลังเครื่อง
• CPU Snapdragon 845
• GPU Adreno 630
• หน่วยความจำ RAM 4GB + ROM 64GB, รองรับ Micro SD Card สูงสุด 400GB
• กล้องหลัง 19 MP, f/2.0, รองรับกันสั่น 5 แกน + Super Slow motion ที่ความละเอียด Full-HD และถ่ายวิดีโอ 4K HDR
• กล้องหน้า 5 MP, รองรับกันสั่น 5 แกน
• แบตเตอรี่ขนาด 3,180 mAh, รองรับ Wireless Charge
• Bluetooth 5.0, NFC
• USB-C 3.1 (5Gbps), พร้อมหัวแปลง USB-C เป็นช่อง 3.5 ม.ม.
• กันน้ำกันฝุ่น IP65/68
• สัดส่วนเครื่อง 153 x 72 x 6 ม.ม. (บางสุด) / 11.1 ม.ม. (หนาสุด)
• น้ำหนัก 198 กรัม
• Android Oreo 8.0
• มีด้วยกัน 4 สีคือ ดำ, เงิน, เขียวเข้ม, ชมพู
• ราคา 25,990 บาท

จะเห็นได้ว่าโดยรวมแล้วสเปคของ XZ2ไม่ได้มีความโดดเด่นอะไรเหนือคู่แข่งมากนัก แต่แน่นอนว่าใครที่สนใจ Xperia คงไม่ได้ดูแค่สเปค ไม่งั้นคงไม่มองตั้งแต่แรกละ (ฮา) ถ้าคุณยังสนใจ Xperia อยู่ก็ตามผมมาเลยครับ

วัสดุและการดีไซน์ พรีเมียมกว่าที่คาด ต่างไปกว่าที่คิด

Xperia XZ2 นับเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์ของ Xperia ในรอบหลายปี หลังจากที่ยึดกับ Loop Surface มาตั้งแต่ Xperia X Compact ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เหล่าสาวกที่เห็นมีความคิดเห็นที่ต่างกันออกไปทั้งชอบและไม่ชอบ โดยฝั่งที่ชอบก็ชื่นชมในเรื่องความสมดุลของการออกแบบ และการเลือกใช้สีที่ยังคงนำเฉดสวยๆมาใช้ได้ต่างจากแบรนด์อื่นตลอด ส่วนคนที่ไม่ชอบก็บอกว่ามันเหมือนกับ HTC บ้าง ขาดความเป็นเอกลักษณ์บ้าง คิดถึงความเหลี่ยมของ Loop Surface และปุ่มแสกนลายนิ้วมือด้านข้าง ต่างความเห็นกันไป

แต่ส่วนตัวแล้วครั้งแรกที่มองก็มีความคิดบางอย่างเหมือนคนที่ไม่ชอบ โดยเฉพาะเรื่องเอกลักษณ์ แต่เอาจริงๆ ดีไซน์ของ Ambience Flow (ชื่อเค้าเท่ห์เสมอ) นี่มีจุดเด่นเรื่องกระจกโค้งหลังเต่าเอาซะมากๆ ไม่มีใครทำโค้งแบบนี้เลย การจัดเรียงกล้องตรงกลางแม้ว่าอาจจะดูคล้าย HTC ในสายตาบางคน แต่ใช้จริงมันก็ดูทีเดียวรู้นะว่านี่คือ Xperia XZ2 ไม่ใช่ HTC และถ้าได้ลองไปจับของจริงก็จะมีความรู้สึกคล้ายๆกันว่า เฮ้ย มันมันก็เข้ามือที่ได้เห็นในภาพเยอะเลยแถมการจับถือดีมากนะ พูดแบบนี้อาจจะยังไม่เชื่อกัน ยังไงลองไปหาลองเล่นกันได้ตามช้อปของโซนี่เอาเองละกัน

ด้านหลังมันจะมีความโค้งหน่อยๆทำให้จับเข้ามือดี แต่ในทางกลับกันก็ทำให้ความมั่นคงเวลาวางลงก็น้อยตามไปด้วย

ข้อเสียอย่างนึงที่ไม่ค่อยขอบของ XZ2 คือน้ำหนักที่เยอะกว่าคนอื่นมาก ถือแล้วรู้สึกได้ทันทีว่าหนักมือ และความที่มันโค้งหลังเต่าสวยงามก็แลกมากับความน่ารำคาญที่เวลาวางเครื่องไว้แล้วจะโคลงๆซ้ายขวานั่นเอง

มันก็จะต่ำๆหน่อย

สำหรับคนที่ใช้งานเป็นครั้งแรกๆจะบ่นเหมือนกันถึงตำแหน่งของแสกนลายนิ้วมือที่อยู่ต่ำ จนแตะผิดไปโดนกล้องตลอดเวลา รวมถึงผมเองก็ด้วย แต่เมื่อใช้งานไปได้สักพักก็จะเริ่มชินไปเอง และพบว่าตำแหน่งนี้มันพอดี แตะง่ายกว่าสูงๆซะอีก

เซนเซอร์ต่างๆด้านหลังทั้ง RGB, Focus, ไฟแฟลช

หน้าจอและการแสดงผล

ด้านหน้าแม้ว่าจะไม่ได้เป็นแบบ Infinity Display ไร้ขอบเหมือนชาวบ้าน แต่ก็บางลงกว่ารุ่นก่อนมากอยู่ มีความสมดุลบนล่าง และมีเพิ่มฟีเจอร์อย่าง Lift up to Display ให้สามารถปลุกหน้าจอโดยที่ไม่ต้องกดปุ่ม power มาให้ด้วย

ถ้ามีโนติมาก็จะสามารถรู้ได้เลย และแตะสองครั้งเพื่อปลดล็อคได้ทันที

ว่าถึงหน้าจอแล้วก็พูดถึงซะหน่อยละกันว่าหน้าจอของ XZ2 นี้เป็น จออัตราส่วน 18:9 ขนาด 5.7” หลังจากที่ปล่อยให้แบรนด์อื่นทำสัดส่วนนี้นำหน้าสร้างความนิยมไปก่อนเสียปีกว่าๆ โดยออกมาพร้อมกับความละเอียด Full-HD+ ที่มองด้วยตาเปล่าหาพิกเซลไม่เจอ สวยงามตามท้องเรื่อง และแม้ว่าจะเป็นจอ LCD แต่ว่าช่วงสีที่แสดงได้ยังน่าพอใจด้วยเทคโนโลยี HDR และ X-Reality ที่ขนจัดเต็มมาจากทีวีของโซนี่นั่นเอง

2 ซิม ไฮบริด รับ 4G ได้พร้อมกัน ความสามารถมาอื่นๆมาเต็ม

มาถึงด้านบนของเครื่องเป็นที่เสียบซิม ซึ่งเป็นแบบ Hybrid เลือกได้ว่าจะใส่ ช่องที่สองเป็นซิมหรือเมม microSD ก็ได้ การเปลี่ยนยังคงให้ผู้ใช้สามารถดึงซิมออกมาได้โดยไม่ต้องจิ้ม สะดวกแก่การเปลี่ยนซิมไปมาสลับกับ microSD แต่ก็ไม่เข้าใจว่าไหนๆจะทำมาให้เปลี่ยนง่ายๆแล้ว ทำไมถึงไม่ทำให้เปลี่ยนแบบ Hotswap ดึงออกมาเปลี่ยนโดยไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่องด้วยไปเลย คือรู้สึกดีที่ไม่ต้องจิ้ม แต่ก็รำคาญที่ต้องรีสตาร์ทมากๆด้วยเช่นกัน

Hybrid Slot : 4G Standby ได้ทั้ง 2 ซิมพร้อมกัน

ถ้าเกิดว่าคุณเลือกใช้ช่อง 2 ใส่ซิมแล้ว ฟีเจอร์ที่คุณน่าจะชอบคือ ซิมที่สองก็รองรับ 4G ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากในยุคที่เครือข่ายให้ความสำคัญกับการขยายคลื่น 4G มากกว่า โดยฟีเจอร์นี้มาพร้อมกับ Snapdragon 845 นั่นเอง รวมถึง VoLTE VoWiFi ก็มาอย่างครบครัน แต่อย่างไรก็ดี ระหว่างที่ผมทดสอบอยู่นั้น ทางเครือข่ายยังไม่เปิดให้ใช้งาน VoLTE VoWiFi นะครับ แต่ทางโซนี่ประเทศไทยยืนยันว่าได้แน่ๆ ยังไงตรวจสอบอีกครั้งก่อนซื้อนะ เพราะถ้าไม่ได้จะเป็นเรื่องที่หงุดหงิดมากระหว่างเล่นเกม ซึ่งจะบอกต่อไปข้างล่างครับ

เล่นเกมลื่นกว่าใคร เนียนเทียบขั้น iPhone

ในบรรดามือถือเรือธงของแอนดรอยด์ไม่ว่าจะเป็น Galaxy S9 หรือ Huawei P20 ต่างก็มีปัญหากับการเล่นเกม โดยเฉพาะที่ได้รับความนิยมในเมืองไทยอย่าง ROV หรือ PUBG จะเจอเรื่องเฟรมเรตตกหรือเกมเด้งให้หงุดหงิดใจอยู่ แต่เมื่อได้มาลองใช้ Xperia XZ2 แล้วต้องบอกว่าประทับใจในความเนียนมากๆ ROV เปิดสุดก็ไม่มีปัญหา High Framerate เล่นได้ลื่นๆเฟรมเรตนิ่งๆ 60 fps ตลอด มีสะดุ้งลงไปราวๆ 50 ชั่วเสี้ยววินาทีตอนบวก 5v5 บ้าง ซึ่งไม่มีผลต่อการเล่นเกมแต่อย่างใด ซึ่งก็น่าจะเพราะชิปเซตที่ใช้เป็น Snapdragon 845 ไม่ใช่ตัวที่พัฒนาขึ้นมาเองอย่าง Exynos หรือ Kirin และเฟิร์มแวร์ก็มีการปรับแต่งค่อนข้างน้อย จึงทำให้เล่นออกมาได้เทียบชั้น iPhone เลยทีเดียวครับ

เปิดสุด บวกกันเต็มๆ ก็ Frame Rate ไม่ตก

ปัญหาที่พบของการเล่นเกม

ด้วยความที่ Xperia XZ2 ระหว่างที่ทดสอบจะยังไม่รองรับ VoLTE – VoWiFi ทำให้เวลาที่คนโทรเข้าตอนเล่นเกม การเขื่อมต่อจะถูกตัดลงไปเป็น 3G ส่งผลทำให้เกมเกิดการหลุด หน่วง ค้าง ขึ้นมาได้ เหล่าเกมที่ต้องรับส่งข้อมูลตลอดเวลาอย่าง ROV PUBG จะได้รับผลกระทบค่อนข้างมากทีเดียวครับ ซึ่งปัญหานี่แก้ได้เพียงทางเครือข่ายต่างๆ เปิดการรองรับ Sony Xperia เท่านั้น และเห็นว่าคุยเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ก็น่าจะแก้ไขได้เร็วๆนี้ครับ

เสียงลำโพงดังขึ้น เครื่องสั่นเมื่อเบสหนัก

Xperia XZ2 เป็นตัวที่ถูกพัฒนาให้ลำโพงมีเสียงที่ดังขึ้นถึง 30% จากตัวเดิม แต่เนื่องจากตัวเดิมเสียงค่อนข้างจะเบาถ้าเทียบในหมู่ตัวลำโพงสเตอริโอด้วยกัน ทำให้เสียงที่เพิ่มขึ้นมา 30% นั้นก็ไม่ได้ดังแบบสุดๆ อยู่ในระดับเดียวกับ iPhone X หรือ Huawei P20 ได้ แต่ก็ไม่ถึงกับ Galaxy S9 แต่บน XZ2 จะมีจุดเด่นกว่าชาวบ้านคือ Dynamic Vibration System ที่จะทำให้เวลาที่เราเปิดเพลง หรือหนังที่มีเบสออกมาหนักๆ เครื่องจะสั่นเหมือนมีเบสออกมาด้วย อารมณ์เดียวกับจอย Dual Shock แต่บน XZ2 จะเนียนกว่า ให้ความรู้สึกดีกว่าที่คิด แนะนำว่าถ้าใส่หูฟังและลอง DVS จะยิ่งได้อรรถรสมากครับ

สำหรับการฟังเพลงบน XZ2 เหล่าคนหูดีๆก็หาไฟล์ Hi-res มาเปิดกันได้ Sony เค้าขึ้นชื่อเรื่องการรองรับเพลง Hi-res มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว มีโอกาสได้ลองฟัง Xperia XZ2 ต่อเข้าลำโพงดีๆ เสียงก็ถือว่าใสกิ๊งไม่เบา สมราคาไฟล์ Hi-res ที่เอามาเปิดอยู่ครับ

หูฟัง 3.5มม. ถูกตัดออกไปเรียบร้อยใน Xperia รุ่นหลังๆ รวมถึง XZ2 ดังนั้นเตรียมหาหูฟัง Bluetooth ตัวใหม่ดีๆกันได้เลยถ้าคิดจะซื้อ แต่ถ้ายังติดใจกับหูฟังมีสายของตัวที่ใช้อยู่เป็นประจำ เค้าก็มีแถมตัวแปลงมาให้ในกล่องด้วยเลย ซึ่งน่าสนใจว่าทางทีม Sound Engineer ของ Sony บอกว่าตัวแปลงของ XZ2 นี้ไม่มี DAC เหมือนกับของ iPhone โดยตัว DAC จะอยู่ในเครื่องอยู่แล้ว และส่งสัญญาณ Analog มายังพอร์ท Type-C เพื่อส่งเข้าตัวแปลงเป็น Analog ได้เลย เพื่อความคมชัดของเสียงที่สุดครับ

และคนที่อยากรู้เรื่องเสียงสนทนาว่าดังชัดเจนดีมั้ย ตัว Xperia XZ2 มันก็มีระบบ Noise Cancellation ไมค์สองตัว สนทนาได้ชัดเจนดีอยู่ครับ ไม่มีปัญหาอะไรนะ

แบตอึดอยู่พ้นวันสบายๆ

Xperia XZ2 เป็นตัวที่สื่อนอกหลายๆเจ้ายกให้ว่าเป็นตัวที่แบตอึดมาก แม้ว่าจะมีความจุน้อยกว่าคนอื่นก็ตาม ซึ่งจากการใช้งานด้วยตัวเองก็พบว่ามันอึดดีนะ แต่ไม่ถึงกับสุดยอดเล่นได้ข้ามวันข้ามคืน ยังต้องชาร์จแบตวันต่อวันอยู่ ใช้งานทั่วไปความยาวนานสูสีกับ Huawei P20 Pro คือวันนึงสบายๆไม่ต้องลุ้น แต่ถ้าจะให้ถึงสองวันก็ต้องใช้น้อยๆหน่อย ซึ่งการประหยัดแบตนี้ได้อานิสงค์มาจาก Hardware ที่กินพลังงานน้อย ทั้ง CPU GPU หน้าจอที่ประหยัดพลังงาน และตัว Software ที่ Android OS มันเองที่ทำมาให้ประหยัดพลังงานขึ้นเยอะ มีการปรับเข้าสู่โหมดจำศีล เมื่อไม่ได้ใช้งานนานๆ ก็แทบจะไม่กินแบตเลย แต่ฟีเจอร์ก็มีข้อเสียตามมานิดนึงที่เมื่อเข้าสู่โหมดจำศีลเมื่อไหร่ ข้อความใหม่ๆเข้าก็จะไม่มีแจ้งเตือนเข้ามาด้วย เมื่อไหร่ที่ยกเครื่องขึ้นมาถึงจะเห็นว่ามีข้อความยิงเข้ามารัวๆเลยล่ะ

อย่างที่บอกว่าการประหยัดพลังงานต่างๆนั้นมาจากหลายปัจจัย แต่ถ้าเล่นเกมเปิดสุดทุกอย่างแล้ว มันก็ไม่ได้ประหยัดขนาดนั้น ด้วยความที่ให้ความจุมาไม่มาก เล่น ROV PUBG ก็หายไปเป็น 10% ได้อยู่เหมือนกันครับ

• ROV เปิดสุด HFR 27 นาที 12%

อ้อ เจ้า Xperia XZ2 มาพร้อมกับ Fast Wireless Charge ในตัวด้วยนะครับ

กล้องดี แต่เหนื่อยถ้าเทียบกับคู่แข่ง ไฟล์ RAW ยังไม่เปิดให้ใช้งาน

มาถึงเรื่องการถ่ายภาพที่เป็นปัจจัยหลักของหลายๆคนที่เลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่องนึง ซึ่ง Sony ทำออกมาได้ดีขึ้นเยอะแล้วตั้งแต่การมาของ Xperia XZ Premium และบน XZ2 ก็ดีขึ้นอีก รวมๆแล้วถ่ายออกมาก็สามารถทำให้คนเห็นชอบได้ไม่ยาก แต่ด้วยความก้าวไกลของกล้องมือถือในปัจจุบัน คู่แข่งของ Sony ได้ตั้งมาตรฐานเอาไว้สูงมากจนต้องบอกตรงๆว่า วันนี้ Xperia XZ2 ค่อนข้างเหนื่อยในสมรภูมินี้ มาดูตัวอย่างภาพกันสักหน่อยก่อน

ภาพแบบเต็มความละเอียดก็  

ภาพที่ซูมโดยที่ไม่มี Optical Zoom มาช่วย ทำมาได้โอเคในระดับนึง

สองภาพนี้จะเป็นอาการของ W/B วืด คือสภาพแสงเดียวกัน แต่อยู่ดีๆก็ปรับส้ม ปรับขาว สลับไปมาไม่นิ่งเท่าไหร่

ปัญหาการใช้งานกล้องเท่าที่เจอมา

• WB ไม่นิ่งเท่าไหร่ มีเพี้ยนบ้างในหลายๆครั้ง
• โฟกัสยังไม่ไวมาก
• แฟลชมีดวงเดียว และไม่สว่างนัก
• โหมดถ่ายโบเก้ไม่สมจริง
• มีแต่ Digital Zoom
• ไฟล์ RAW ยังไม่เปิดให้ใช้งาน (สักที)
• บันทึกภาพและโหลดมาดูนาน
• โหมด Manual ตั้ง Shutter Speed ได้สูงสุดแค่ 1 วินาที
• โหมด Manual ไม่สามารถเลือกอุณหภูมิสีได้เอง

จะมีที่เจ๋งกว่าชาวบ้านเค้าจริงๆ ก็คือโหมด Manual ที่ให้ดัน ISO ขึ้นไปถึง 12800 ได้ด้วยตัวเราเอง โดยค่ายอื่นทำได้สูงสุดก็แค่ ISO6400 เท่านั้น และส่วนตัวที่ชอบการภาพจาก Xperia ก็คือไม่ปรับแต่งสีให้เว่อร์เกินจริง พยายามให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด แต่บางทีพยายามมากไปจน W/B เพี้ยนไปเลยก็มี (ฮา)

การกลบ Noise ที่ไม่ได้เยอะเกินไปนัก ยังเห็นเม็ดๆบางๆแต่พอสวย ซึ่งค่ายอื่นจะพยายามเกลี่ยซ่อนเกินไปจนภาพดูตันๆไปหน่อย ตรงนี้ก็คงแล้วแต่ความชอบคนนะ

ปุ่มชัตเตอร์ยินดีที่มี แต่เอาเข้าจริงกลับไม่ค่อยได้ใช้ เพราะจังหวะกดสั่นชัตเตอร์กลับเป็นตัวทำให้เครื่องสั่น

สรุปเรื่องกล้อง รวมๆมันถ่ายภาพนิ่งออกมาได้ดีเลยนะ ถ้าเน้นกดถ่ายไปเรื่อยและไม่เข้าเงื่อนไขปัญหาต่างๆข้าง ต้น ต้องพยายามทำความเข้าใจตัวกล้องมันหน่อย เพื่อดึงประสิทธิภาพ Xperia XZ2 ออกมาให้เต็มที่ได้

การถ่ายวิดีโอ กันสั่นดี 4K HDR เก็บสีสันสวยงาม

แม้ว่าการถ่ายภาพจะยังไม่ใช่เรื่องที่ Sony Xperia ทำมานำคนสักเท่าไหร่ แต่เรื่องการถ่ายวิดีโอขอสู้สุดใจขาดดิ้น เข็นเอาเทคโนโลยีใหม่ๆยัดใส่เข้ามาให้สุดเกินคนอื่นตลอด ซึ่งในรุ่นนี้ก็มี 4K HDR ที่จะช่วยเก็บสีแสงให้มีช่วงสีที่กว้างขึ้น ภาพโดยรวมสดใสขึ้นกว่าเดิม มีกันสั่น SteadyShot ให้ใช้จนถึง 4K แต่ถ้าจะเอาแบบนิ่งมากๆ (Intelligent active) จะจำกัดอยู่เพียง 1080p @30fps เท่านั้น

[รอคลิปแป๊บนึงครับ]

โดยรวมการถ่ายคลิปวิดีโอของ Sony ไม่ได้แพ้ใคร แต่ข้อเสียของค่ายนี้ก็คือปิดการตั้งค่า ไม่สามารถเลือกได้เองว่าต้องการจะปรับแต่งแสง หรือโฟกัสตรงไหน เมื่อกดถ่ายแล้วคือจบ ในมุมมองของคนที่ถ่ายไม่ได้จริงจังมันก็โอเค พึ่งพาความฉลาดของเครื่องแบบเต็มๆ แต่ในบางจังหวะที่มันเหวอ โฟกัสพลาดก็เป็นอะไรที่หงุดหงิดไม่น้อยเหมือนกันครับ

SuperSlow 960fps @ 1080p ถ่ายภาพสโลว์ได้ความละเอียดชัดขึ้นกว่าคนอื่น แม้ว่าทาง Samsung และ Huawei จะทำ SuperSlow ตาม Sony มาได้ แต่ก็ได้เพียง 720p เท่านั้น อย่างไรก็ดีจะมีข้อจำกัดที่ระยะเวลาในการถ่ายจะสั้นลงกว่าเดิมนั่นเองครับ ไปดูเปรียบเทียบกันเลยดีกว่า

Play video

3D Creator ถ่ายภาพให้ออกมาเป็น 3D

เป็นฟีเจอร์ที่ไม่ค่อยจะรู้จักกันเท่าไหร่ แต่ถ้าถ่ายอัพขึ้นเฟสเมื่อใดก็จะสร้างความฮือฮาได้ทุกครั้งไป การใช้งานก็ถือว่าไม่ยากอะไร แพนกล้องหมุนๆไปตามวัตถุที่ถ่ายก็เรียบร้อย แต่มีข้อจำกัดพอสมควร โดยปัจจุบันสามารถถ่ายหน้าของเรา อาหารเป็นจานๆ หรือวัตถุต่างๆที่ขนาดไม่ใหญ่มากได้ แต่ต้องมีโครงสร้างไม่ซับซ้อน ถ้าเจอกลมๆ หรือโปร่งใสนี่จบเลยทันที เชื่อว่าถ้าแบรนด์ดังๆอย่าง Apple Samsung หรือ Huawei เอาไปพัฒนาและทำต่อบ้างมันจะต้องปังแบบสุดๆไปเลยอีกเช่นกัน

Play video

เรื่องอื่นๆ น่ารู้ก่อนซื้อ Xperia XZ2

• ไม่มีแอป-ฟีเจอร์เสริมใช้ประจำ เช่น recorder , long screen capture ต้องไปโหลดเพิ่มเอาเองจาก Play Store ซึ่งใช้งานจริงก็ไม่ดีเท่าที่ทำใส่ติดกับเครื่องมาให้
• GPS แม่นยำไว้ใจได้
• Light Sensor ยังปรับไม่ค่อยได้ดั่งใจเท่าไหร่
• ไม่ทู่ซี้พยายามใส่ face unlock มาให้
• แบ่งหน้าจอใช้ครั้งแรกอาจจะงงหน่อยว่าทำยังไง เพราะยังใช้ UI แบบเดียวกับ Pixel

สรุป Xperia XZ2 มือถือน่าซื้อ สำหรับชาวอารยธรรม

Xperia XZ2 ในมุมของคนที่ไม่ได้ชอบ Sony เป็นทุนเดิม ไม่ได้มีการตลาดเทพ จุดเด่นที่โดดขึ้นมาชัดเจน กล้องยังตามหลังคนอื่นอยู่ มันจะไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเค้าเลยแน่ๆ แต่สำหรับคนที่ชอบอะไรล้ำๆอย่าง 3D Creator ชอบถ่ายวิดีโอเป็น 4K HDR กับดีไซน์ที่แตกต่าง ก็ต้องบอกว่ามันเริ่มน่าสนใจ ประกอบกับว่าการใช้งานโดยรวมไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่น แถมเล่นเกมดีกว่าเสียด้วยซ้ำไปแล้ว ก็ต้องบอกว่ามันน่าสนใจไม่น้อย ซึ่งถ้าเป็นชาวอารยธรรมที่หวังหน้าจอดีๆ เอามาฟังเพลงแจ่มๆ XZ2 ยังเป็นคำตอบที่น่าสนอยู่ครับ