หนึ่งในเกมกาชาที่มาแรงที่สุดในช่วงนี้คงจะหนีไม่พ้น Zenless Zone Zero หรือ ZZZ เกมแอคชั่น RPG แฟนตาซี Sci-Fi ที่ได้เปิดให้เล่นไม่มานานนี้ โดยตัวเกมหลัก ๆ แล้ว จะเน้นไปที่การออกแบบตัวละครให้เอกลักษณ์เป็นของตัวเองต่างกับเกมอื่น ๆ ในค่าย และเกมเพลย์ที่โคตรมัน รวดเร็ว รุนแรง ถูกใจคอเกมแอคชั่น วันนี้ทีมงานจะมาเล่าความรู้สึกหลังจากที่เล่นเกมนี้ไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ บอกเลยว่าสนุกมาก ตัวละครแจ่ม ๆ เยอะ สายกาชาไม่ควรพลาดเกมนี้ด้วยประการทั้งปวง

เนื้อเรื่องสนุก น่าติดตาม แต่ก็กดข้ามได้

Zenless Zone Zero เป็นเกมที่พูดถึงเรื่องราวในโลกแฟนตาซี ยุคอนาคตที่ล่มสลายจากภัยพิบัติ แต่ก็ยังรอดมาได้ และเริ่มฟื้นฟูให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม โดยภัยพิบัติที่ว่าตัวเกมจะเรียกว่า Hollow หรือช่องว่างมิติขนาดยักษ์ที่สุ่มเกิดขึ้นบนโลก เมื่อเกิดขึ้นจะทำการแปรเปลี่ยนภูมิทัศน์ในบริเวณนนั้น รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตบางประเภทให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดจากการโดนกัดกร่อนด้วย Ether จนสิ่งเหล่านั้นกลายเป็นสิ่งมีชีวิตใหม่ที่มีชื่อว่า Ethereal

แต่ถึงกระนั้นภายในมิติ Hollow นี้ ก็เป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญอย่างแร่ Ether ที่สามารถนำไปแปรรูปเป็นอย่างอื่นได้ ทำให้มีผู้ที่เข้าไปแสวงโชคตามหาทรัพยากรเหล่านั้น เพื่อนำออกมาขายในโลกปกติ รวมไปถึงหน่วงงานด้านความปลอดภัยที่คอยช่วยเหลือผู้คนที่ประสบภัยจากภัยพิบัตินี้ด้วย เพราะใน Hollow นั้นมันอันตรายมีสัตว์ประหลาดที่พร้อมจะขย้ำเราตลอดเวลา และอันตรายจากการโดนสสาร Ether กัดกร่อนด้วย

จนเรื่องนี้กลายเป็นเหมือนความปกติแบบใหม่ของโลกนี้ไปแล้ว ตัวเราจะได้รับบทเป็นผู้นำทางหรือ Proxy ที่คอยช่วยเหลือผู้ที่เข้าไปในมิติ Hollow หรือช่วยเหลือ Agent ที่เข้าไปทำภารกิจผ่านหุ่นยนต์ช่วยเหลือที่มีชื่อว่า Bangboo ที่เป็นเหมือนตัวแทนของเราในการเข้าไปใน Hollow เนื่องจากในมิตินี้สภาพแวดล้อมเดิมจะบิดเบี้ยวไปอย่างมาก ทำให้มีสภาพเหมือนเขาวงกดขนาดยักษ์ ถ้าหลงเข้าไปแล้วจะกลับออกมายาก เลยต้องมีผู้นำทางอย่าง Proxy ที่มีแผนที่พากลับออกมาโลกภายนอก

เรื่องราวจะเล่าผ่านฉากที่ให้กลิ่นอายความเป็น Comic คล้ายกับการอ่านหนังสือการ์ตูน ผมสมกับ CG แบบเกม JRPG ต้นตำรับ บอกเลยว่าทำออกมาได้น่าสนใจ เล่าเรื่องได้แบบลื่นไหล บทสนทนาที่ใช้มีสำนวนภาษาอ่านเข้าใจง่าย มีมุกตลกที่ชวนติดตาม อ่านแล้วอินทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ซึ่งทั้งหมดสอดประสานกับเสียงพากย์ที่มีให้เลือกได้ถึง 4 ภาษา ทั้งอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ได้อย่างลงตัว โดยส่วนตัวแล้วใช้เสียงพากย์ภาษาญี่ปุ่นแล้วชอบเสียง Belle ตัวเอกผู้หญิงมาก ทำมาได้ดีจริง ๆ

แต่สำหรับใครที่ไม่สายเนื้อเรื่องตัวเกมก็มีปุ่ม Skip ให้เราได้ข้ามเนื้อเรื่องด้วย และไม่ต้องกลัวจะไม่รู้เรื่องเพราะตัวเกมจะสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นในฉากนั้นคร่าว ๆ ให้เราด้วย หรือใครจะมาตามเก็บฉบับเต็มอีกรอบก็เข้าไปดูได้ที่ชั้นวิดีโอในห้องทำงานได้ด้วย

เกมเพลย์ โคตรมันส์ รวดเร็วรุนแรงถึงใจ

ด้านเกมเพลย์หลัก ๆ แล้วตัวเกมมีให้เราเล่น 3 รูปแบบเดียวกัน คือฉากต่อสู้ ฉากการสำรวจใน Hollow และฉากชีวิตประจำวันในเมือง โดยทั้ง 3 แบบจะมีเกมเพลย์ที่ต่างกันอย่างชัดเจน

ฉากต่อสู้แอคชั่นดุดัน เร้าใจ

ในฉากนี้จะเป็นการส่ง Agent เข้าไปสำรวจในมิติ Hollow เป็นการต่อสู้ในด่านปิดคล้ายกับการลงดันเจี้ยนในเกมอื่น ๆ หลัก ๆ แล้วสิ่งที่ต้องทำคือ ต่อสู้กับศัตรูที่ถาโถมเข้ามา และเดินสำรวจหาเก็บของในฉาก เช่น HP ค่าพลังงานสกิล แต่ในส่วนนี้อาจจะไม่ได้ทำบ่อยหรือทำเป็นหลักเท่ากับการต่อสู้

Zenless Zone Zero เป็นเกมแนวแอคชั่น Hack and Slash ผสม RPG เต็มรูปแบบ ที่มีจุดเด่นด้านการต่อสู้ที่ลื่นไหลรวดเร็วกว่าเกมอื่นในค่ายเดียวกันมาก แถมเล่นไม่ยากหลัก ๆ ใช้ปุ่มเพียงไม่กี่ปุ่มก็เล่นได้แล้ว มีการโจมตีต่อคอมโบระหว่างตัวละคร และ Quick Time Event ที่ได้จากการทำให้ศัตรูสตั้น หรือล้มลง เปิดโอกาสให้เรากระหน่ำคอมโบใส่ได้รุนแรงขึ้นกว่าปกติ

และนอกจากการกระหน่ำโจมตีแล้วตัวเกมยังให้ความสำคัญในเรื่องของการปัดป้อง (Parry) และการหลบหลีก (Dodge) ที่เราต้องกดปุ่มให้ถูกจังหวะด้วย คล้ายกับเกมที่เปิดตัวมาไม่นานนี้อย่าง Wuthering Waves หรือแบบเกม Souls Like เพื่อให้เกิดคอมโบประสานที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบของเกม RPG อย่างการอัปเกรดตัวละคร การจัดทีม และการชนะทาง แพ้ทางชนะทางของศัตรูที่เราเจอด้วย

โดยผู้เล่นจะสามารถจัดทีม Agent ได้สูงสุด 3 คน รวมทั้ง Bangboo ตัวละครผู้ช่วยคล้าย ๆ สัตว์เลี้ยงในเกมอื่นอีก 1 ตัว ซึ่งการจัดทีมจะมีเงื่อนไขความเข้ากันได้ของแต่ละตัวละคร เช่น ใช้ธาตุเดียวกัน หรือเป็นสมาชิกในสังกัดเดียวกัน เมื่อผ่านเงื่อนไขข้างต้นตัวละครจะได้บัฟพิเศษ ทำให้การเล่นมีคความหลากหลายมากขึ้น บอกเลยจัดทีมต่อคอมโบดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

ฉากสำรวจในมิติ Hollow ผ่าน H.D.D

อีกหนึ่งเกมเพลย์ที่เป็นจุดเด่นของ Zenless Zone Zero ก็คือการสำรวจดันเจี้ยน แต่เกมนี้ไม่ได้ให้เราเดินสำรวจอย่างอิสระแบบเกมอื่น ๆ ที่เราเคยเล่น เพราะเกมนี้เลือกที่จะนำเสนอผ่านระบบ H.D.D (Hollow Deep Dive) หรือเรียกง่าย ๆ ว่าระบบทีวี เพราะช่องเดินมันมีรูปร่างเป็นจอทีวี เราเลยขอเรียกแบบนี้แล้วกัน ที่มีการเล่นคล้ายกับบอร์ดเกม

โดยเราจะได้บังคับ Bangboo ที่ทำหน้าที่แทนตัวเอกในการเข้ามาสำรวจมิติ Hollow นี้ ไปตามเส้นทางต่าง ๆ ในดันเจี้ยน ระหว่างทางจะเจอปริศนาที่ต้องแก้เป็นระยะ ซึ่งมีทั้งเงิน การฟื้นฟูเลือด การต่อสู้ กับดัก และ ฯลฯ ตามแต่ละฉากที่เราเข้าไปสำรวจ ได้อารมณ์แบบแฮกเกอร์ที่พยายามเจาะระบบดี

แต่หลายคนอาจจะไม่ชอบระบบทีวี เนื่องจากภาพโปรโมทส่วนใหญ่เน้นฉากแอคชันต่อสู้เร้าใจ ไม่ได้เผยให้เห็นเกมเพลย์ส่วนนี้เท่าไหร่นัก ทำให้บางคนที่ตั้งใจมาหวดมอนแบบจัง ๆ เซ็งได้ หรือเกมเพลย์ส่วนนี้บางฉากกินเวลานานเกินไป แถม Skip ไม่ได้ด้วย หรือบางคนไม่ชอบเกมเพลย์แนวไขปริศนาอยากสู้อย่างเดียว และบางคนอาจจะมีอาการ Motion Sickness ระหว่างเล่นโหมดนี้ เพราะในฉากมีแสงสว่างจ้าเป็นระยะจากการเดินสำรวจ และการเข้าฉากต่อสู้

โลกไม่กว้าง แต่มีอะไรให้ทำเยอะไปหมด

เกมเพลย์อื่น ๆ นอกจากการต่อสู้แล้วยังมีเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวันด้วย โดยเป็นการเปิดโอกาสให้เราเดินสำรวจในเมืองได้ ถึงจะบอกว่าเป็นเหมืองแต่ฉากแต่ละฉากก็ไม่ได้กว้างเท่าไหร่แบบ Honkai : Star Rail และฉากแต่ละฉากก็ไม่ได้เชื่อมต่อถึงกัน (Open-World) แบบ Genshin Impact โดยหลัก ๆ ในเกมเพลย์ส่วนนี้ก็คือการสำรวจ และตามหาเควสต์รองที่ซ่อนอยู่ เช่น ไปเล่นเกมในร้านตู้เกม ไปเล่นกับแมวข้างถนน ชิมกาแฟ และ ฯลฯ

ทำให้คนที่อาจจะไม่ชอบเสียเวลาไปกับการสำรวจฉากที่กว้างแบบ Genshin Impact ถูกใจสิ่งนี้ แต่ในทางกลับกันสำหรับคนที่ชอบสำรวจ ชอบออกนอกเส้นทางก็อาจจะรู้สึกอึดอัดบ้าง

นอกจากนี้ตัวเกมยังมีระบบเวลา หมายความว่าในหนึ่งวันสิ่งที่เราทำได้นั้นมีขีดจำกัด ทำให้เราที่ตั้งใจมาลงดันเจี้ยนฟาร์มของรัว 10 รอบแบบต่อเนื่องไม่ได้ เมื่อครบวันเราต้องหยุดทำกิจกรรมนั้นแล้วกลับไปนอน เพื่อรีเซ็ตวันใหม่ ซึ่งระบบนี้สำหรับใครที่เคยเล่น Persona 5 มาบ้างแล้วน่าจะคุ้นเคยกันดี

กราฟิกสวย มีเฟรมเรทแบบไร้ขีดจำกัดที่เราถามหา

ส่วนกราฟิกบอกเลยว่าทำออกมาได้น่าสนใจมาก เพราะสไตล์ภาพที่ใช้หลัก ๆ แล้วเป็นแนวอนิเมะ ในโลก Sci-Fi ผสมแฟนตาซี (Urban Fantasy) ที่ให้กลิ่นอายความเป็น Cyberpunk นิด ๆ จับคู่กับสไลต์การแต่งตัวแนว Street สุดแนวให้กลิ่นอายแบบเดียวกับโลกยุคปัจจุบันที่เรารู้จักเข้าถึงง่าย

กราฟิกบอกเลยว่าทำออกมาได้สมกับเป็นเกมสมัยใหม่ ตัวโมเดลจะมีความคล้ายกับเกมก่อนหน้าในค่าย Genshin Impact และ Honkai : Star Rail แต่มีลายเส้นสไตล์ภาพ การลงสีที่ต่างกันเพื่อให้ตัวเกมมีเอกลักษณ์ ตัวละครทุกตัวมีรายละเอียด และจุดเด่นเฉพาะตัว จำหน้าได้ง่าย ไม่เว้นแม้แต่ NPC ที่เกมนี้ลงทุนใส่รายละเอียด ต่างกับเกมอื่น ๆ ที่ผ่านมาของค่ายที่หน้าตา NPC แทบจะเหมือนกันหมด เปลี่ยนแค่เสื้อผ้า และทรงผม

การเคลื่อนไหวของตัวละครก็ทำออกมาได้ลื่นไหล เป็นธรรมชาติ ท่าโจมตีในฉากแอคชั่นก็ไม่ได้ทำออกมามั่ว ๆ ใช้ท่าเดิมซ้ำ ๆ แม้ว่าเกมนี้ตัวละครจะกระโดดไม่ได้ก็ตาม การแสดงสีหน้าทำออกมาได้ดีมาก ด้านสภาพแวดล้อมก็ทำออกมาได้น่าประทับใจมีการลงรายละเอียดในหลาย ๆ จุด ส่วนหนึ่งเพราะตัวเกมไม่ได้เป็นแบบ Open World ทำให้สามารถทุ่มทรัพยากรไปกับการเก็บรายละเอียดได้มากกว่า

นอกจากนี้ตัวเกมสามารถเปิดให้แสดงผลแบบเฟรมเรทไม่จำกัดได้แล้ว ต้องบอกก่อนว่าเกมก่อนหน้าอย่าง Genshin Impact บนพีซีสามารถแสดงผลได้สูงสุดแค่ 60 FPS เท่านั้น ทำให้หลายคนที่ใช้การ์ดจอรุ่นใหม่ ๆ ที่มีความแรงเหลือเฟือสำหรับเกมนี้อยากให้ตัวเกมแสดงผลมากกว่า 60 FPS เพื่อให้เล่นได้ลื่นและใช้พลังการประมวลผลได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เกมนี้ทำได้แล้ว

บอกเลยว่าเฟรมเรทวิ่งไปได้ไกลสุดที่การ์ดจอจะไหวเลย ทำงาน 100% แน่นอน แต่ส่วนตัวเจอบั๊กเรื่องเสียงบางอย่าง หลังจากปรับการตั้งค่าแบบนี้ (ภาพยังลื่นปกตินะ)

ทำให้ตัวเกมค่อนข้างกินกราฟิกพอสมควร สำหรับฝั่งพีซีอาจจะไม่ได้รู้สึกว่ามากมายอะไรเพราะตัวเกมต้องการแค่ GTX 1660 ก็สามารถปรับสุดได้แล้ว ส่วนฝั่งมือถือบอกเลยว่ามือถือที่มีอายุเกิน 3 ปีหลายเครื่องอาจจะเล่นไม่ได้ นอกจากนี้ตัวเกมยังมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว และใช้สีสันฉูดฉาด ทำให้ใครที่มีอาการ Motion Sickness อาจจะไม่เหมาะที่จะเล่นเกมนี้นาน ๆ เท่าไหร่ และมุมกล้องของเกมนี้ที่ยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ในบางจังหวะ เช่น ตอนที่เราโดยอัดติดมุม

ระบบกาชาที่ไม่พลาดที่จะตามมาด้วย

หนึ่งในระบบที่ขึ้นชื่อของเกมค่ายนี้ก็คือ ระบบกาชา ที่แทบจะยกมาจากเกมรุ่นพี่อย่าง Honkai : Star Rail ทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะปริมาณแต้มที่ใช้ในการเปิดกาชา หรือระบบการันตีที่ 90 ตั๋ว หมายความว่าเมื่อเราใช้ตั๋วที่เราไว้เปิดกาชาไปถึงเกณฑ์ที่ตัวเกมกำหนดไว้ เราจะได้ตัว 5 ดาว แน่นอน ไม่ได้เปิดแล้วใช้ดวงลุ้นเอาแบบไร้จุดหมายแบบเกมอื่น

แต่สิ่งที่เกมนี้เพิ่มเข้ามาคือตู้กาชา Bangboo หรือผู้ช่วยในการสำรวจของเรา ที่ใช้แต้มในการเปิดหาจากการดรอปเมื่อเราเล่นไปเรื่อย ๆ เท่านั้น เติมเงินไม่ได้ แถมสามารถเลือกตัว Bangboo ระดับ 5 ดาวที่เราต้องการได้ด้วย และไม่ลืมที่จะใส่ระบบการันตีเข้ามาเหมือนตู้ตัวละคร และตู้อาวุธ ไม่มีการเปิดหาแบบไร้จุดหมายแน่นอน

และสำหรับสายฟรี เกมนี้ไม่จำเป็นต้องเติมเงินก็สามารถสะสมหาแต้มมาเปิดกาชาได้ จากการสำรวจ เล่นเนื้อเรื่อง หรือการทำกิจกรรมแทนได้เช่นกัน และไม่ต้องห่วงว่าจะเก็บแต้มมาเปิดไม่พอเพราะตัวเกมมีอะไรให้ทำเยอะมาก ทำให้แต้มที่เราได้มากตาม ขอแค่เราขยันเล่นก็พอ

เล่นบนพีซี บนมือถือ บนจอย ให้ประสบการณ์ต่างกันหรือไม่

ต้องบอกก่อนว่าด้วยความที่เป็นเกมแอคชั่น เน้นการต่อคอมโบ การหลบหลีกแล้วสวนกลับที่รวดเร็วทำให้การเล่นบนจอยของเกมนี้ทำออกมาได้สนุกมาก เข้ามือ กดสนุก เหมือนเกมต่อสู้ดี ๆ เกมหนึ่ง ส่วนการเล่นบนคีย์บอร์ดก็ได้เปรียบกว่าการเล่นบนจอยตรงที่เราสามารถขยับมุมกล้องได้อิสระกว่า และเข้าถึงเมนูต่าง ๆ ในเกมได้เร็วกว่า แต่ก็แลกมากับอายุการใช้งานของเมาส์เราที่อาจจะเสื่อมเร็วกว่าที่ควรจะเป็น เกมนี้มันคลิกรัวเหลือเกิน

ส่วนการเล่นบนโทรศัพท์พบว่าทำออกมาได้โอเคเลย ในฉากต่อสู้แม้ว่าจะมีการเคลื่อนไหวที่เร็ว แต่ตัวเกมก็วางปุ่มออกมาให้กดง่าย ส่วนที่ขัดใจมีอย่างเดียว คือเวลาที่เราจะคุยกับ NPC จะต้องกดคำสั่งผ่านปุ่มโจมตีเท่านั้น ไม่ได้ลอยขึ้นมาเป็นบอลลูนกดง่าย ๆ แบบ Genshin Impact ซึ่งทำให้บางทีกดโดนบ้างไม่โดนบ้าง

สรุป Zenless Zone Zero น่าเล่นหรือไม่

ประสบการณ์หลังจากที่ลองเล่นเกมนี้มาประมาณ 1 สัปดาห์ พบว่าเป็นเกมที่เล่นสนุกเกมหนึ่งเลย เกมเพลย์ลื่นไหล และไม่ได้ยากจนเกินไป แต่ถ้าเล่นไม่ระวังเกมก็อาจจะยากระดับ Elden Ring ได้ ตัวเกมให้ความสำคัญกับการหลบหลีก การปัดป้องมาก เรียกได้ว่าเป็นเกมเพลย์หลักเลยก็ว่าได้ ซึ่งผู้เล่นต้องกดปุ่มให้ตรงจังหวะ แต่ตัวเกมจะมีการบอกก่อนล่วงหน้าเล็กน้อยผ่านเสียง และแสงกะพริบจากหน้าจอ ไม่ได้ให้เราคิดเองทั้งหมด

ด้านกราฟิกทำออกมาได้สวยตามมาตรฐานของเกมจากค่าย Hoyoverse การปั้นโมเดลตัวละครทำออกมาได้สวยมีรายละเอียดสมเป็นเกม AAA ที่มีสไลต์ภาพแบบอนิเมะ ทุกตัวละครมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง คือทุกอย่างในเกมนี้มันดูเท่ไปหมด

การเล่าเรื่องที่ทำออกมาได้น่าสนใจเพราะเป็นการเล่าผ่านฉาก Comic ผสมกับ CG พร้อมเสียงพากย์แบบ Full Voice ช่วยเพื่อความดึงดูดให้เนื้อเรื่องน่าติดตามเหมือนการอ่านมังงะ หรือดูอนิเมะดี ๆ สักเรื่อง หรือถ้าใครที่เป็นสาย Skip ก็มีปุ่มให้กดข้ามได้

ส่วนข้อสังเกตของเรื่องนี้คงเป็นเรื่องของเกมเพลย์บางส่วนที่บางคนไม่ชอบ อย่างระบบทีวีที่เป็นเกมเพลย์แนวไขปริศนา ซึ่งบางทีกินเวลาในการเล่นค่อนข้างนาน สำหรับคนที่คาดหวังว่าเข้ามาแล้วจะได้ตีมอนโหด ๆ หวดคอมโบมัน ๆ อาจจ้องสะดุดกับเรื่องนี้ได้ และตัวเกมกินสเปคบนมือถือค่อนข้างมากทำให้สมาร์ทโฟนหลายเครื่องเล่นเกมนี้ไม่ได้ ต่างกับฝั่งพีซีที่ไม่ได้กินอะไรมากมายนัก

ใครที่กำลังหาเกมแอคชั่นดี ๆ เล่นอยู่ก็น่าจะลองเล่น Zenless Zone Zero ดูสักครั้งก็ไม่เสียหาย เป็นเกมที่เข้าถึงง่าย เข้าถึงได้ทุกคน ตั้งแต่ผู้เล่นสายแคชชวลที่เข้ามาเล่นชิว ๆ ขำ ๆ ไปจนถึงผู้เล่นสายฮาร์ดคอร์เกมมิ่งก็เล่นได้ และในอนาคตก็เชื่อว่าตัวเกมจะมีอะไรออกมาให้เราเล่นอย่างต่อเนื่องไม่ต่างกับเกมรุ่นพี่ค่ายเดียวกันอย่างแน่นอน

ข้อดี

  • เกมเพลย์การต่อสู้สนุก
  • ภาพสวย มีสไตล์เป็นของตัวเอง
  • ตัวละครแจ่ม ถูกใจสายอนิเมะ
  • ระบบไม่ซับซ้อน เข้าถึงง่าย
  • มีปุ่ม Skip เนื้อเรื่อง
  • มีภาษาไทย
  • สายฟรีก็เก่งได้แบบไม่ต้องเติมเงิน

ข้อสังเกต

  • เกมเพลย์ H.D.D ซับซ้อน และใช้เวลาในการเล่นมากเกินไป
  • ไม่ได้มีระบบการเล่นแบบแอคชั่นเพียงอย่างเดียว
  • กินสเปคเครื่องโทรศัพท์
  • ใช้พื้นที่การติดตั้งเยอะ
  • สีสันฉูดฉาด และมีการกะพริบในฉากทีวีค่อนข้างบ่อย อาจทำให้ปวดตาเมื่อเล่นนาน ๆ ได้
  • เล่นต่อเนื่องไม่ได้ เพราะถูกจำกัดด้วยระบบพลังงาน ที่ให้มาน้อย เมื่อเทียบกับเกมอื่น