ผู้ที่เคยใช้งานบริการเรียกรถยนต์ของ Uber น่าจะทราบกันดีว่า Uber เป็นบริการที่ใช้งานเชื่อมต่อกับ Google Maps ในการเรียกรถและนำทาง หรืออาจจะบอกได้ว่าแอปของ Uber นั้นมีอยู่ได้ก็เพราะบริการแผนที่ของกูเกิล ล่าสุดมีข่าวลือออกมาว่าทาง Uber นั้นเตรียมที่จะพัฒนาระบบแผนที่ออกมาใช้งานเองแล้วโดยไม่ต้องพึ่งพาทางกูเกิล และมีเป้าหมายที่จะทำให้ได้แผนที่ที่มีความละเอียดมากยิ่งขึ้น
ตามข่าวลือที่ออกมานั้นระบุว่า Uber จะลงทุนกับการทำแผนที่ในครั้งนี้มากถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17,000 ล้านบาท) โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างแผนที่ที่ลงรายละเอียดเกี่ยวกับถนนได้มากยิ่งขึ้น และวางแผนที่จะนำมาใช้กับระบบรถยนต์ไร้คนขับในอนาคตอีกด้วย
CEO ของ Uber คุณ Travis Kalanick
อีกหนึ่งข่าวที่แม้จะยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่มีความเป็นไปได้สูงก็คือทาง Uber China ที่เป็นตัวแทนของ Uber ที่ให้บริการเรียกใช้รถยนต์ในประเทศจีนนั้นจะควบรวมกิจการกับบริษัทคู่แข่งในจีนคือ Didi Chuxing ที่เรียกได้ว่าเป็นผู้นำในตลาดนี้ของประเทศจีน โดยภายหลังการควบรวมนั้นจะทำให้มูลค่าของ Didi สูงขึ้นไปอยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.2 ล้านล้านบาท) เพิ่มจากเดิม 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และทาง Didi จะลงทุนใน Uber เป็นมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
Didi Chuxing นั้นเป็นเป็นการเรียกรถยนต์ที่ได้รับการลงทุนมาจากทั้ง Alibaba, Tencent และ Apple และทาง Didi เองก็เป็นหุ้นส่วนกับทาง Lyft ที่เป็นคู่แข่งของ Uber ในสหรัฐอเมริกา และทาง Baidu ก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนใน Uber อีกเช่นกัน เรียกได้ว่าทั้งธุรกิจนี้มีจีนและอเมริกาก็มีส่วนร่วมกันอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
อย่างไรก็ตาม คาดว่านี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีของทาง Uber ที่ก่อนหน้านี้ทำธุรกิจในประเทศจีนแล้วยังขาดทุนต่อเนื่อง การควบรวมธุรกิจในครั้งนี้น่าจะเป็นการเบิกทางให้ Uber พร้อมที่เข้าตลาดหุ้นและเปิด IPO ให้ผู้คนได้ร่วมลงทุนด้วยครับ
ถ้ามีศักยภาพก็ควรทำนะ ทำธุรกิจที่ต้องพึ่งพาคนอื่นมันไม่อน่นอนเกิดวันนึง google เรียกเก็บค่าใช้งาน api สำหรับผู้ประกอบการ วันนั้น uber คงต้องจ่ายค่า license มากกว่า 500 ล้านดอลแน่
ถ้าได้ตลาดในจีนมาเสริมเงินก่อน น่าจะดี แล้วค่อยขยับไปที่อื่นต่อ ไม่งั้นลงเงินเองอาจจะมองหากำไรยาก