เรียกว่าหลังจบงาน IFA ซัมซุงก็ยังเป็นข่่าวใหญ่ชิงพื้นที่สื่อต่อไป แต่คราวนี้ไม่ใช่ข่าวดี เรียกว่าข่าวที่แย่และเลวร้ายอันดับต้นๆตั้งแต่เคยได้ยินมาเลยทีเดียว เมื่อซัมซุงตัดสินใจไม่ออกค่าเครื่องบินขากลับให้กับ Blogger ชาวอินเดียนามว่า Clinton Jeff และผู้ไม่ประสงค์ออกนามอีกหนึ่งราย สองคนผู้ซึ่งอยู่ในโครงการที่ชื่อว่า Mobiler ที่ซัมซุงจัดขึ้นเพื่อรวมกลุ่มคน Blogger ในประเทศให้สามารถเข้าถึงมือถือและข้อมูลต่างๆได้ก่อนใครเพื่อน
โดยพื้นเพแล้ว สองคนนี้ได้รับการขนานนามชัดเจนว่าเป็น Blogger หรือผู้เขียน Blog เพื่อรายงานข่าวและประกาศข่าว แต่สองคนนี้ได้รับการเชิญกับซัมซุงให้ไปร่วมงาน IFA ที่ผ่านมา โดยแจ้งไปทางซัมซุงทางชัดเจนแล้วว่าพวกเขาจะไปในนาม Reporter ซึ่งมีหน้าที่รายงานข่าว ไม่ใช่ Promoter ที่มีหน้าที่เชียร์และช่วยโปรโมทผลิตภัณฑ์ … แล้วทุกอย่างก็ดำเนินต่อไป
แต่แล้วทันทีที่พวกเค้าถึงโรงแรมก็ถึงกับงงๆเมื่อทางซัมซุงยื่นกุญแจรวมถึงเสื้อเชิ้ตสำหรับงานประกาศกำหนดทิศทางในตอนเช้า แล้วความงงก็เปลี่ยนเป็นความช็อคเมื่อเช้าวันต่อมาพวกเขาถูกซัมซุงบังคับให้ใส่เสื้อเชิ้ตแล้วยืนคุมบูธทุกวัน เพื่อโชว์มือถือให้แก่คนที่มาเข้าร่วมงาน
ซึ่งแน่นอน ทาง Jeff จึงไม่ยอมและบอกกลับไปว่าเรามาในฐานะ Reporter นะ ไม่ได้มาเพื่อคุมบูธ เรามาเพื่อรายงานข่าว ไม่ใช่เฉพาะของซัมซุงแต่รวมถึงแบรนด์อื่นๆด้วย สุดท้ายหลังได้คุยกับทาง PR แล้ว Jeff ก็เลยได้ไปนั่งรอคำตอบจากซัมซุงที่ Starbucks
หลังจากนั้นเรื่องราวสุดเลวร้ายก็บังเกิด เมื่อมีโทรศัพท์โทรเข้ามาบอกว่า
[quoten]คุณมีสองทางเลือก หนึ่งคือใส่ชุดและคุมบูธต่อไป หรือสองคือซื้อตั๋วกลับเองรวมถึงค่าโรงแรมต่อจากนี้ด้วย[/quoten]
จากนั้นอีกไม่กี่นาทีถัดมา พวกเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากซัมซุงอินเดียยืนยันว่าตั๋วเครื่องบินขากลับถูกยกเลิกเรียบร้อยแล้ว และพวกเขาจะถูกส่งกลับวันที่ 1 แทนที่จะเป็นวันที่ 6 (จ่ายค่าตั๋วกลับเองด้วย) นอกเสียแต่ว่าพวกเขาเลือกที่จะใส่ชุดซัมซุงและร่วมงาน Unpack และต้องไม่พูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้
ฟังจนถึงตอนนี้แล้ว สถานการณ์แบบนี้คงพูดง่ายๆสั้นๆว่า “ถูกหลอกไปใช้งาน” แบบเต็มๆ
โชคดีที่หลังจากเรื่องนี้ถึงหูคนในวง Blogger ที่นั่น มือถืออีกแบรนด์นามว่าโนเกียเลยเสนอตัวออกค่าตั๋วและค่าที่พักให้ ทำให้พวกเขาสามารถทำภารกิจที่ตั้งใจไว้จนจบได้ แต่เรื่องก็ไม่จบเพราะสิ่งที่ซัมซุงทำมันน่าเกลียดเหลือเกิน จนทำให้เว็บชื่อดังอย่าง The Next Web ต้องออกมาตีแผ่เรื่องราวดังกล่าว
คำขอโทษจากซัมซุง
หลังจากเรื่องแดงขึ้นมาซัมซุงก็ออกมากล่าวขอโทษอย่างสุดซึ้งกับ Blogger ชาวอินเดียนั้น พร้อมร่างอีเมลขอโทษบอกว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดระหว่างทีมซัมซุงเองและผู้ดูแลโครงการ Mobiler ทำให้การปฏิบัติกับ Blogger จึงผิดพลาด จริงๆแล้วโครงการ Samsung Mobilers เป็นโครงการที่สนับสนุนให้ Blogger มีโอกาสเข้าร่วมงานต่างๆ ไม่มีจุดประสงค์จะบังคับให้ใครทำอะไรให้ซัมซุงเลย สุดท้ายซัมซุงเสนอให้เข้าไปเจอกันเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ซึ่งก็ถือว่าโชคดีของนาย Jeff แล้ว ถ้าไม่ได้มือถืออีกแบรนด์นึงมาดูแลค่าใช้จ่ายให้ ป่านนี้ Jeff คงต้องนั่งเครียดกับค่าตั๋วขากลับราคาแพงหูฉี่แล้วกระมัง และหาก The Next Web ไม่ได้เอาเรื่องราวมาตีแผ่ ก็คงจะไม่ได้เห็นคำขอโทษจากซัมซุงหรอก อืมๆ
ปล. โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม ก่อนจะคอมเม้นท์อะไรโปรดคิดไว้ด้วยว่าถ้าเรื่องกลับมาเป็นอีกแบบจะเป็นยังไง เพราะทั้งหมดเป็นการบอกเล่าทั้งสิ้น หากสนใจก็รอดูข้อสรุปต่อไปเพราะจนถึงป่านนี้ยังสรุปอะไรไม่ได้เลย
ดูกันต่อไป 5555
จะแก้ตัวยังไงให้ฟังขึ้นน้าาาาาา
เค้าแก้กันไปเรียบร้อยแล้วนี่
ไอ Blogger คนอินเดีย 2 คนนั้นแหละที่ก่อเรื่อง
คนเกาหลี ถึงจะชอบก๊อปปี้ แต่ก็ไม่ได้ขี้โกงขนาดนั้น
แต่แขกนี่รู้นิสัยกันอยู่ กะจะไปเอาเปรียบคนอื่นเค้าอย่างเดียว
ทำตัวกร่าง คิดว่าตัวเองเป็นสื่อมวลชนแล้วจะทำอะไรได้ทุกอย่าง
ไปเอาข้อมูลมาจากไหนหรอครับว่าคนอินเดียสองคนนั้นก่อเรื่อง? หืม? อ่านต้นข่าวแล้วมันยังสรุปไม่ได้เลย นี่ผมก็ไม่ได้เขียนข่าวตั้งแต่บ่ายเพราะจะรอจนมีการตอบกลับจากซัมซุงถึงเขียนเนี่ย หรือผมตกอะไรไปหว่า
เค้าส่งเมลให้ยืนยันว่าเข้าร่วมในฐานะโปรโมทเตอร์สองท่านนั้นดันยืนยันเมลกลับไป แต่เค้ามาพูดว่าก่อนหน้านี้คุยกับทางซัมซุงอินเดียแล้วว่าขอเป็นแค่นักข่าว ผมว่าต้องโทษสองคนนั้นนะ เมลส่งมาทำไมไม่อ่านให้เข้าใจหละ ถ้าผมเป็นคนรับอีเมลยืนยันแบบนั้นกลับมาผมก็คิดว่าสองท่านนี้เปลี่ยนใจยอมเป็นโปรโมเตอร์แล้ว การที่พูดกันปากเปล่า แต่ยืนยันเมลอีกแบบนึง อยากถามว่าธุรกิจเค้ายึดถือปากเปล่ามากกว่าหรือครับ?
ผมว่าคุณนะที่กร่างออกหน้าแทน ซัมซุงเค้าสะแล้ว พรีเซ้นเตอร์ปะครับ 555+ อย่าเม้นแบบนี้สิมันจะดราม่า
อันนี้เบสออนอคติต่อแขกอย่างเดียวเลย
คนเลวชอบเอาเปรียบผู้อื่นมันมีทุกชาติละครับ
พี่ไทยเองก็ไม่แพ้ใครในโลกเหมือนกัน
ดูข้อเท็จจริงกันหน่อยครับ
+1
เห้อ คิดเอง เออเอง ไม่ต้องไปว่าคนอื่นหรอกนะครับ
โธ่ไอนาย ไม่รู้อะไรที่แท้จริงก็ไม่ต้องเม้นท์ครับ เปลืองเนื้อที่ …
เรื่องใหญ่มากนะครับหลงรักมากครับSamsung
เรื่องราวดูป่วยๆไมน่าเกิดได้จากที่อ่านลำดับขั้นตอน มีข่าวแก้มั้ยครับ งง จัง
เลวจริงๆ Samsung (ปล. ถ้าเป็นเรื่องจริง)
อ่านแล้วยังงงๆ นะนายจ๋า
ซัมซุงเอ้ย ทำกันได้ลงคอเลยนะ ทำแบบนี้เหมือนมัดมือชกกันชัดๆ
สงสารบล้อกเกอร์คนนั้น
ถ้าเรื่องเป็นแบบนี้จิงผมว่า SS น่าเกลียดมากนะคับ แต่ถ้าคิดอีกที ทำไมต้องจ่ายค่าเครื่อง ค่าที่พัก รวมๆแล้วเงินไม่ใช่น้อยๆเพื่อที่จะมาให้คุมบูธ หรือ ให้มาเป็นเหมือนพนักงานขาย มันดูยังไงๆก็แปลกนะคับ เพราะมันไม่คุ้มเอาเสียเลย หรือถ้าหาก 2 คนนี้เป็นคนดังในวงการมือถือที่น่านับถือก็ว่าไปอย่าง มันขัดๆยังไงก็ไม่รู้
รู้สึกจะไปเดือนร้อนแทนเฮียซุงเขาจังครับ
คนของทาง SS ที่อินเดยป่านนี้ก้คงโดนจวกมิใช่น้อย
เผลออาจจะโดน U FIRE !!
ก็แปลกดีที่ยอมจ่ายเพื่อให้ไปใส่สูทยืนโชว์โทรศัพท์คุมบูท…จริงเท็จยังต้องรอดู แต่ท่าเป็นเรื่องจริงซัมซุงแย่เจอมรสุมอีกรอบ ต่อจากค่ายผลไม้แน่ๆ ธรรมดาของการเป็นเบอร์ 1 ของโลกที่ย่อมต้องขยันสร้างข่าว ยิ่งสูงยิ่งหนาวอำนาจทำให้คนเราเปลี่ยนไป
น่าตกใจจริงๆครับ
รอติดตามต่อ
คงเป็นเรื่องเข้าใจผิด ถ้าเจตนาแบบนั้นจริงๆก็มากกว่าคำว่า…
ตอนที่มีโทรศัพท์โทรเข้ามาบอกนี้ทางโครงการMobiler หรือ ทางSamsung ที่โทรมากันแน่ มันน่าคิดนะ แต่โครงการMobiler มันก็ของSamsung นะอิอิ สื่อสารกันผิด(ก็มันคนละภาษา) หรือหลอกใช้งาน
เป็นผมเจอแบบนี้ตายก็ไม่ต้องไปเผาผีกันเลย
แต่คิดไปอีกแง่
ซัมซุงเข้าใจถึงพลังของ internet ดี
รู้แน่นอนถึงผลเสียที่เกิดขึ้น
ดูอย่างตอนเปิดตัว s3 สิ
ss พาคนไทยทั้งไปเที่ยวกันและดูแลอย่างดี
แถมค่าตั๋วเครื่องบินและที่พักก็ไม่ใช่ถูก และเสียเงิน เพื่อ ให้ได้พนักงานคนสองคนไปเพื่อให้ตัวเองโดนด่าทำไม
พวกบล๊อกเกอร์ ไทย ที่ซัมซุงจ้างไป ร้อนๆ หนาวๆ กันเป้นแถว
แต่ของไทยนี่ต่างตรงแทบจะกราบ ซัมซุง เหตุการณ์ลักษณะนี่คงไม่เกิด
ผมว่า ต้องรอรายละเอียดให้มากกว่านี้ บทสรุปอาจพลิกล็อกก็ได้ ทั้งอินเดีย ทั้งเกาหลี บอกได้คำเดียว "ไว้ใจไม่ได้ทั้งคู่" ในเพื่อนผมเอง มันยังไว้ใจกันไม่ได้เลยครับ มันเป็นข่าว ไม่ควรนำอารมณ์เข้าร่วม หากต้องการรู้ควรติดตาม "ตอนต่อไป" และ "บทอวสาน" ถึงจะสบายใจได้ครับ
เห็นด้วยอย่างแรง จะจริง มากน้อยแค่ไหนก็ไม่รู้ ไม่ควรออกตัวแรง เพราะไม่ได้อยู๋ในเหตุการณ์ ควรจะแค่รับรู้ไปก่อน จัดเต็มไปแล้วถ้าไม่จริง คนของเค้ามาเห็น อะไรที่มันเสียไปแล้ว มัน เอาคืนไม่ได้
ไปในนาม Reporter เพื่อทำข่าวทุกแบรนด์ แต่ทำไมให้เพียง Samsung จ่ายค่าที่พักและโรงแรมครับ?
ปล.จากคนนอกวงการ ใครทราบโปรดอธิบายเป็นวิทยาทาน
ปล.2 แล้ว Nokia ทราบเรื่องได้อย่างไร
มันอยู่ที่ว่าตกลงอย่างไรครับ แต่มันควรจะตกลงกันให้จบก่อนไป ไปแล้วค่อยบอกเงื่อนไขมันเหมือนมัดมือชก ไม่มีทางเลือก
Nokia ทราบเรื่องเพราะมีเว็บบล็อคเอาไปตีแผ่ อ่านดีๆครับ
เป็นประจำของแบรนด์นี้ไปแล้วรึป่าว? ไม่เห็นต้องแปลกใจ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
ขอโทษไม่ทันแล้ว
รู้กันหมดแล้ว 555
เรื่องอื่นไม่รู้ต้องรอดูให้ชัดๆ รู้อย่างเดียว 10.1 แม่มโดนลอยแพ…ซัมซวยเมืองไทย รายามเจงๆ (-_____-") หลอกให้รอตั้งนาน เยดตะม่อน
Nokia ช่วยชีวิตไว้เลยนะเนี่ย ทั้งค่าที่พักและตั๋วเครื่องบิน
ซัมซุงออกจดหมายขอโทษก็แค่ตัวหนังสือ ตามมารยาท(ข้อแก้ตัว)
ถ้าบล๊อกเกอร์คนนั้นต้องเสียค่าเครื่องบินกลับเอง ซัมซุงจะชดเชยให้รึเปล่า
มองได้หลายแบบ
แต่เท่าที่สัมผัสมา
คนอินเดีย หัวไวมากชอบเอาเปรียบคนอื่นๆ ดังนั้นถ้าเป็นเรื่องที่ตัวเองได้ประโยขน์ แม่มเอาหมด
จากเนื้อข่าว เราอาจจะไม่รู้สาเหตุของการประสานงาน ถ้าจะเอาคนไปออกบูทจริง ทำไมต้องเอาไปจากอินเดียไม่จ้างคนแถวนั้น เสียเงินน้อยกว่า ทั้งค่าเครื่องบิน โรงแรมที่พัก
ปัญหาจริงๆเลยตกอยู๋กับ คนที่พาไปจากอินเดีย กับ สอง blogger นั่นละ ว่าตกลงกับเขายังไง ในสัญญาที่พาไป หรือคุณซิกแซกเอง
555 เคยใช้ ss มาแล้ว รู้ดีจึงไม่เคยใช้ เคยใช้ apple มาแล้ว รู้ดี จึงไม่ใช้
น่าเกลียดเกิน เอามาลอยแพแบบนี้ ต่อไปคงต้องเซ็นหนังสือยินยอมหรือสัญญา ทั้งเรื่องงานและเงื่อนไข รวมถึงสวัสดิการด้วยเลย ให้ดีมีให้ผู้ปกครองเซ็นรับทราบด้วย 555 เกรียนม่ะ
มันน่าจะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่านะ
ผมเดาว่า ทีมงานมันน่าจะจ้าง Reporter มาทำ Promoter เพื่อเก็บเงินค่าจ้างไปส่วนหนึ่งเข้ากระเป๋า
(ผลประโยชน์ส่วนตน) ส่วนทางอินเดียก็รู้ๆกันอยู่ด้วยนิสัยก็คงจะตอบเล่นด้วยแต่ขอเพิ่ม
สุดท้ายคงตกลงผลประโยชน์กันไม่ลงตัว หรือไม่ทางอินเดียก็คงจะเบี้ยวกะกินฟรีออกแนวไม่รับผิดชอบ
แล้วโยนไปให้ SS
ประเด็นน่าพิจารณา
บริษัทระดับโลกจะมาโกงแค่เศษเงินมันเด็กเกินไปที่จะทำอยู่แล้ว
ส่วนทางอินเดียก็เป็นสื่ออยู่แล้วทาง SS ไม่น่าจะเล่นด้วย
แต่ที่น่าสงสัยทำไม nokia ถึงรู้เหตุการณ์ได้ไวและพร้อมจะจ่ายให้(ไม่ได้อคตินะครับ)
มองในภาพรวมแล้ว ทำไมจึงมีปัญหาแค่2คนนี้ แล้วคนอื่นล่ะทำไมไม่มีปัญหา? มีกี่คน? ถ้าSamsung บังคับให้ทำอย่างนั้นจริง คนอ่ืนยอมทำตามหมดเลยหรือไร? น่าคิด
ถ้ามองในมุม nokiaกับอินเดียรู้กันละ อันนี้ความเห็นส่วนตัวล้วนๆไม่มีมูลใดๆ
ส่วนตัวคิดว่าซัมซุงไม่เอาชื่อเสียงมาแลกกับเงินนิดหน่อยหรอกครับ ลองดุเรื่องราวที่แท้จริงดีกว่าว่าจะเป็นยังไง
อืมม ผมว่า ใครจะเขียนก็ได้นะแบบนี้น่ะ ไม่มีหลักฐานอะไร สักอย่าง เชื่อไรไม่ได้
แล้วถ้าเงื่อนไขนี้แล้วทำไมคนอื่นทั้งหมดยอมทำตาม งั้นหรอ? มีแค่ 2 คนนี้ไม่ยอมทำตามเพราะจะไม่มีตั๋วกลับ หรอ?
หลักฐานที่เป็นเมลก็อยู่ในเว็บต้นข่าวไง
http://thenextweb.com/insider/2012/09/02/heres-samsung-flew-bloggers-halfway-around-world-threatened-leave/
แล้วอีกอย่างถ้าไม่เกิดเหตุการณ์จริงๆ ซัมซุงก็ไม่ต้องออกจดหมายขอโทษหรอก
เท่าที่เคยเห็น
ปกติ บ.เกาหลี (ไม่ใช่เฉพาะซัมซุง)
งบ Entertain อะไรพวกนี้ ไม่อั้นนะครับ
กรณีนี้ ผมว่า น่าสงสัยอินเดีย 2 คนนั่นมากกว่า
เรื่องนี้จดหมายก็บ่งบอกอะไรหลายอย่าง ถ้า ซัมซุงไม่ผิด เค้าคงออกจดหมายแก้ตัวอีกแบบหนึ่ง แต่เขียนว่า Misunderstand ก็เป็นอันเข้าใจได้ว่า ได้กระทำแบบนี้จริง แต่เข้าใจผิดอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งไม่ว่าเรื่องค่าตั๋วหรือที่พัก ให้เค้าแล้วก็ไม่ควรยกเลิก ถ้ามีปัญหาจริงก็ควรใช้มาตราการอื่นๆแทน เช่นออกหนังสือ เตือนหรือสัญญาว่าด้วยเรื่อง การออกบูท มาแก้ต่าง จะทำให้ บล็อกเกอร์นั้น คราวหลังก็จะไม่มีคนติดต่อหรือเชื่อถืออีก
แต่คราวนี้ผมรู้สึกว่า ซัมซุงทำแรงเกินไปเยอะเลย คือ ยกเลิกตั๋วขากลับ แล้วก็ไม่ให้ค่าโรงแรม ทั้งๆที่ตกลงว่าจะให้ ไม่ต่างอะไรกับปล่อยเกาะเลย ยังดีที่ไม่ยึดพาสปอร์ตอีกนะ ถ้ายึดนี่ครบเลย
ว่าแล้วว่าข่าวแนวนี้ต้องเขียนโดยคนนี้ O.o ไม่ได้ว่าไรนะ
ข่าวดีๆคนอื่นเขียนไปหมดแล้ว ผมเขียนข่าวแย่ๆเอง
ถ้า comment ไม่สร้างสรรค์แบบนี้ไม่ต้องเมนท์ก็ได้นะครับ ไม่มีคนว่า แต่ถ้าเมนท์ช่วยกรุณาให้เกียรติคนเขียนข่าวหน่อยครับ พี่หนุยเขียนเพื่อให้อีกหลายคนอ่าน และไม่ได้ต้องการให้ยุยงให้คนมองว่าซัมซุงเลว(แต่ผมก็เกลียดเหมือนกัน สวนตัว) คุณโพสแบบนี้ อีกหน่อยใครจะเขียนข่าวครับ ถ้าคุณไม่อ่านก็ไม่มีใครว่านะ ไม่ขอบคุณ ก็อย่าทำลายน้ำใจกัน แค่นี้แหละครับ โตๆ คิดเองได้เนอะ
เค้าชื่อเนยครับ ไม่ใช่หนุย
เป็นยังไงหรอครับ เห็นข่าวเปิดตัว Galaxy Camera เค้าก็เขียน เปิดตัว Galaxy Note II เค้าก็เขียน
ข่าวด้านลบของซัมซุงไม่ค่อยเห็นนะ อ่านจากเว็บดังของประเทศเรา ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน ทั้งที่ข่าวต่างประเทศครึกโครม อืม อย่าลืมนำเรื่องความเป็นอยู่ในโรงงานต่ำกว่ามาตรฐานมาเสนอด้วยนะครับ จะได้ช่วยกันพิจารณา
ผมว่า ต้องพูดถึงความผิดก็น่าจะเฉพาะ samsung อินเดีย น่ะครับ ไปเหมา Samsung ทุกประเทศไม่ได้ครับ เพราะการตกลงกันมันก็เป็นคนอินเดีย กับ คนอินเดีย ถ้าจะโกงก็เป็นคนอินเดียโกงกันเอง
ก็ต้องถาม blogger ไทยว่าตอนไปงาน IFA ได้สปอนเซอร์จาก samsung แล้วมีเซ็นต์สัญญาประเภทนี้ด้วยหรือเปล่า ช่วยออกมาบอกหน่อย
ผมว่า ซัมซุงก็แรงเกินไปนะครับ เรื่องค่าใช้จ่าย ค่าตั๋วเครื่องบิน และ ค่าที่พัก
ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผิดสัญญาจริง เช่น blogger ทำผิด ผมว่า ส่งกลับบ้านเดี่ยวนั้นไปเลยดีกว่า
แต่ดูแล้วซัมซุงอาจจะเป็นคนผิดเอง เนื่องจาก จดหมายที่ออกมา คือการขอโทษ ไม่ได้แก้ข่าวแต่อย่างใด
ตอนนี้ ซัมซุง ในอินเดีย คงเปนแง่ ลบไปแล้ว
บางทีไม่ผิดก็ขอโทษได้ครับ สร้างภาพที่ดีออกไปก่อนในทาง ++ แล้วไม่ผิดค่อยไปฟ้องทีหลังเลยขวกเละๆไรงี้ก็ทำได้และทำกันบ่อยในระดับองกร
ปล.งานนี้โนเกียก็ดูไม่ได้เครดิตเท่าไหร่ จนกว่าจะมาทำแอนดรอย อิอิ
จะมีบทสรุปของเรื่องนี้หรือไม่ หรือจะจบแค่นี้
ต้องดูกันยาวๆ ทุกอย่างมีเหตุและผล
มาดูเฉยๆ ไม่ดราม่า ^^
อันนี้เป็นรายละเอียดของ Mobiler program ให้เป็น Brand Ambassador ด้วยนะ
http://www.bgr.in/manufacturers/samsung/exclusive-what-is-samsungs-mobler-program-we-go-deep-inside/
แต่ทางนาย Clinton Jeff บอกว่า Samsung ให้เลือกได้ เขาเลือกเป็น "Reporter" เท่านั้น
http://www.businessinsider.com/samsung-mobilers-clinton-jeff-2012-9
ใครจะผิด/ถูก ผมไม่รู้แต่ SS ไม่ควรปล่อยเกาะเพราะเป็นความรับผิดชอบของSSที่พาเขาไป
ไหนๆก็ให้ตั๋วมาแล้วยังไปยกเลิกอีกแค่เลื่อนมาให้กลับไวขึ้นก็พอ
??? หรือว่านาย Jeff อยากอยู่ต่อแต่ SSให้กลับ เลยไปขอให้NKช่วย ???
ขอบคุณสำหรับลิงค์ครับ ได้รู้รายละเอียดของโครงการสักที
ที่อ่านดูคร่าวๆตัวโครงการก็บอกอยู่แล้วว่าไม่ได้เที่ยวฟรี เหมือนเป็นโครงการแลกเปลี่ยนอยู่แล้วมากกว่า
ให้บล็อกเกอร์ไปเป็นกึ่งๆbrand ambassador แลกกับสิทธิพิเศษต่างๆจากซัมซุง
แล้วบล็อกเกอร์นายนี่เองก็แปลก ในจดหมายเชิญ(ที่ควรจะได้รับ) ก็บอกรายละเอียดโครงการอยู่แล้ว
แทนที่จะปฏิเสธ ดันต่อรองว่าอยากได้เป็นreporterเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ตรงกับจุดประสงค์โครงการเลย?
พี่ซัมซุงก็ดันไม่ว่าอะไรให้บินไปซะงั้น พอถึงเวลางานก็ ความซวยมาเยือน
คนคุมโครงการเข้าใจอย่างนึง คนติดต่อเข้าใจอีกอย่างนึง….
ผมว่าอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดเพราะการสื่อสารจริงๆก็ได้
มันไม่คุ้มกันเลยถ้าซัมซุงแค่ต้องการแรงงาน จ้างเอาแถวนั้นคงถูกกว่าเยอะ
ที่น่าสงสัยที่สุดคือNokiaรู้เรื่องได้ยังไง แล้วรู้เร็วซะด้วย
แล้วจะช่วยไปทำไม หวังจะสร้างภาพหรอ? จะสร้างไปทำไมบริษัทตัวเองก็ภาพลักษณ์ดีอยู่แล้ว
ตัวเครื่อง ตัวระบบปฏิบัติการมันไม่โดนต่างหากเลยขายไม่ได้ -*-
จะไปฟรีกลับฟรีไม่ช่วยอะไรเลย หรอครับ แล้วข่าวจริงรึเปล่า. อีกอย่าง ตกลงกันยังไงก่อนไป
คนเขียนข่าวยังไม่กล้าสรุปอะไรเลย คนอ่านสรุปเองเสร็จสรรพด่าเองเสร็จสรรพละ
ตอนนี้คงต้องรอสรุปอย่างเดียวอ่ะเน้อ ว่าเท็จจริงเป็นอย่างไร
เมนท์ไปเมนท์มาเดียวก็ทำให้มุมมองเพี้ยนไปเรื่อยๆ จากจริงกลายเป็นเท็จ เท็จจกลายเป็นจริง
จากคนที่ชอบssเด๋วก็กลายเป็นเกลียด คนที่เกลียดกลายเป็นอภิมหาเกลียดก็เป็นได้
เพราะยังไม่สรุปนะ
ผมว่ารออีกทีดีกว่านะ
คหสต. Samsung เป็นของตาย ตั๋วเครื่องบินก็ได้มาแล้ว ที่พักก็ได้มาหมดแล้ว
แต่ Nokia ยังไม่ได้ให้ตัง ต้องเดินไปประจบบู๊ต Nokia บ่อยๆ
Samsung เป็นคนออกเงิน ทั้งค่าเครื่องบินค่าที่พักให้ นาย Clinton Jeff
ตามหลักแล้ว นาย Clinton Jeff ควรประจำอยู่ที่บู๊ต Samsung เป็นหลัก แต่ก็ดูบู๊ตอื่นได้
คิดว่าสาเหตุของเรื่องนี้น่าจะเกิดจากการ รอรับเงินมาหลายทางมากกว่า
อาจจะถึงขั้นลืม บู๊ต Samsung ไปเลย (เพราะได้มาทุกอย่างครบแล้ว)
เผลอๆ Nokia ให้ตังค์เมื่อไหร่ เดินไปประจบ บู๊ต Sony ต่ออีก
(Nokia กับ Sony นี่สมมุติขึ้นมานะครับ)
สาวกซัมซังเคยด่าสาวกแอปเปิลว่าเป็นทาสจ็อบ
ตอนนี้ผมมองแล้วแทบไม่ต่างกัน
ปล.เราควรเป็นนายมันมากกว่าเป็นทาสนะ
ดีก็ชมไม่ดีก็ด่า
ท่านกล่าวผิดแล้ว
สาวกแอนดรอยต่างหาก 555
มองอีกแง่มุมนึง ไม่มีผู้จัด หรือบริษัทไหนเขาให้ไปฟรีๆ กลับฟรีๆแบบไม่ช่วยงานหรอก
หรือจะจ้าง คนบริเวณนั้นแทน ยังได้ประโยชน์กว่า
แต่นี่ยังออกค่า เครื่องบินที่พักให้ ไม่รู้ ค่ากินให้ด้วยรึเปล่า
มองในหลักความจริงก็ FAIL แล้วครับ อินเดีย 2 คนนั้น
2คำ.. รส ส้ม…
ผมอ่านข่าวจากอีกเว็ปนึง เนื้อข่าวหลักๆเขียนคล้ายๆกัน
แต่ไม่รู้ทำไมพออ่านจบ ความรู้สึกอารมณ์ร่วมมันต่างกันก็ไม่รู้
ไปเซนต์สัญญา Brand Ambassador มาซินะ
ซัมซังอินเดียก็ไม่น่าไปทำกับเค้าขนาดนั้น
ถ้าข่าวจริงนะ โครตน่าเกลียด.. ผมคิดว่าบริษัทระดับนั้นแล้ว เค้าไม่ทำแบบนั้นให้เสียชื่อหรอกครับ ฟันธงเลย ว่า ข่าวมั่ว..++
คนที่ไม่ทราบระบบของงานแบบนี้ก็อย่าเที่ยวพูดมั่วไปครับ ตามมารยาทแล้วคนที่ให้ทุน reporter ไปไม่มีสิทธิจะมาบังคับให้ทำอะไรอยู่แล้ว ไอ้ชนิดที่รับเงินเขามาแล้วต้องเลียขากันตามระเบียบน่ะมีแต่ประเทศนี้ประเทศเดียว ทราบไว้ด้วยว่ามันไม่ใช่การจ้าง หัดเปิดโลกทัศน์กันบ้างนะครับ
คำถามคือ ทำไมซัมซุงไม่จ้างคนในพื้นที่แทนหละครับ ทำไมต้องเสียแพงด้วย ถ้าเป็น gsmarena หรือ engadget ผมจะเชื่อ แต่นี่…
คือมันไม่สมเหตุสมผลอะครับ
ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่อินเดียไปเป็น reporter แต่มันอยู่ที่ซัมซุงจ้างพวกอินเดียไปเป็น reporter จริงๆรึเปล่า
และโดยทั่วไป ไม่บ่อยนักหรอกครับที่จะเห็น reporter ถูกตามไปทำข่าว มีแต่ reporter ที่ต้องวิ่งหาข่าว ยิ่งงานใหญ่ขนาดนี้ด้วยแล้ว ไม่ใช่งานกิ๊กก๊อกที่ต้องเชิญ reporter ไป ผมไม่เห็นเหตุผลที่ซัมซุงต้องออกเงินจ้าง reporter แทน BA
นี่ซิน่าคิด จ้างคนคุมบูธ คนแถวนั้นก็มีแถมค่าแรงถูกกว่า
จะหากีกมาคุม ผมก็ว่าได้ราคาถูกกว่าคนต่างชาติ
เห็นด้วยมากๆ
ที่อินเดียอ้าง
มันไม่สมเหตุสมผลหลายอย่างมาก
รวมกับวัฒนธรรมเกาหลีที่เคยรับรู้มา
ผมว่า % สูงมากๆ
ที่ อินเดียนี่พยายามจะเอาของฟรี พอไม่ได้ก็ออกมาทำลายชื่อเสียง SS
มองอินเดียสองคนนั่น ถ้าอยากเป็น reporter อิสระ ก็ออกค่าใช้จ่ายไปทำข่าวเองสิครับ มีอุดมการณ์ที่ตั้งอยู่บนความเห็นแก่ตัว แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน และถึงต่อให้ซัมซุงเชิญไปออกงานในฐานะ reporter จริงๆก็เถอะ ยังไงก็ไม่ควร มารยาทความเกรงใจมันต้องมีเป็นพื้นฐานในการทำงานครับ
และข้อเท็จจริงที่ยังไม่รู้แน่ชัดคือ ทำไมซัมซุงต้องออกเงินมากมายจ้างแค่ reporter? ถ้าพูดถึงว่าซังซุงตกลงให้อินเดียสองคนนั่นำปเป็น reporter จริงๆอะนะ
ไม่รู้ ไม่สนใจ……เพราะไม่มีผลกับผู้ใช้อย่างผม ใช้แล้วถูกใจก็ใช้กันไป ไม่ถูกใจก็เปลี่ยนยี่ห้ออื่น
ไม่รู้จะเถียงกันทำไม?
like แรงๆครับ การเลือกใช้อะไร ก็อยู่ที่ตัวสินค้า ว่าตรงต่อความต้องการไหม ชอบก็ใช้ ใช้ดีก็ใช้ ถ้ามีข้อบกพร่องไม่ดี แล้วไม่แก้ไข ก็เปลี่ยนไปใช้ที่ดีกว่า จบ
เป็นแค่ขา่วสาร อ่านแล้วรับรู้ไว้ก็พอแล้ว ข่าวก็คือข่าว
Nokia ใจดีจัง รีบหันมาทำหุ่นเขียวเถอะนะ ๆๆๆๆ
เจอความเห็นที่ว่าพี่ที่ชื่อเนยแล้วปวดหัวครับ
ประสาทรึเปล่าพี่เค้าไปเกี่ยวอะไรด้วย^^