เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เราพึ่งได้ยินข่าวว่า Samsung Display แทบจะกินรวบส่วนแบ่งการตลาด OLED บนมือถือ ด้วยอัตราส่วนกว่า 90% ไปหมาดๆ ล่าสุดก็ได้มีรายงานของ Strategy Analytics ออกมาเผยอีกว่า ส่วนแบ่งการตลาดรวมของหน้าจอมือถือในไตรมาสแรกของปี 2020 นี้ บริษัทสัญชาติเกาหลีอย่าง Samsung Display ก็ยังไร้คู่ต่อกร ในชนิดที่ทิ้งคู่แข่งไม่เห็นฝุ่นอีกเช่นเคย
จากรายงานของ Strategy Analytics เผยว่า Samsung Display ยังคงครองแชมป์ส่วนแบ่งหน้าจอมือถือในไตรมาสแรกของปีนี้ โดย Samsung กวาดส่วนแบ่งไปถึง 51.8% ตามมาห่าง ๆ ด้วย BOE และ Tianma สองบริษัทสัญชาติจีนที่กวาดส่วนแบ่งไป 14.3% และ 8.2% ตามลำดับ (และบริษัทอื่น ๆ ที่เหลืออีก 25.7%) ซึ่งทั้งสามบริษัทนี้ ถือว่าเป็นสามบริษัทยักษ์ใหญ่ของผู้ผลิตหน้าจอมือถือ ณ ขณะนี้
รายงานยังเผยอีกว่า เทรนด์มือถือในตอนนี้ มีความต้องการหน้าจอ OLED สูงมาก ทำให้รายรับรวมของตลาดหน้าจอมือถือนั้นเพิ่มขึ้น โดยฝ่ายที่ได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ ก็คือ Samsung ที่ยืนหนึ่งในด้านนี้อยู่แล้ว ซึ่งส่งผลให้ Samsung มีรายรับรวมในไตรมาสแรก รวมทั้งสิ้นกว่า 9 พันล้านเหรียญ หรือตีเป็นเงินไทยกว่า 3.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน
ในทางกลับกัน ฝั่งตลาดจอ LCD ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะมีความต้องการในตลาดลดลงอย่างน่าใจหาย ซึ่งแม้แต่ Samsung เองก็ชิงประกาศไปก่อนหน้านี้แล้วว่า บริษัทเตรียมจะเลิกสายการผลิตหน้าจอ LCD ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ โดยจะหันไปเน้นที่ OLED และ QLED แทน
จากทั้งรายงานของ Strategy Analytics และการตัดสินใจของ Samsung ที่จะเลิกสายการผลิต LCD นี้ ชี้ให้เห็นว่า ในอนาคต LCD อาจค่อย ๆ เลือนหายไปจากตลาด แล้วถูกแทนที่ด้วย OLED รวมทั้ง QLED หรือพาแนลอื่น ๆ ที่มีคุณภาพสูงกว่าแทน ซึ่งฝ่ายที่ได้ประโยชน์ก็คือผู้บริโภคอย่างเรานี่แหละครับ ต่อไปเราอาจมีอุปกรณ์ที่ในพาแนล OLED ในราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น ไม่ใช่เฉพาะแต่ในมือถือ แต่รวมทั้งแท็บเล็ต แล็ปท็อป ทีวี เครื่องเกมพกพา หรืออื่น ๆ ด้วย
ที่มา/อ้างอิง : Business Wire จาก SamMobile, Wikipedia (1, 2)
แรงจนต้องเอามือถือในเครือไปใช้จอค่ายอื่นเลยทีเดียว
เพื่อลดต้นทุน ไม่มีอะไรในกอไผ่
ส่วนจอของตัวเองก็ไว้ใส่ในมือถือระดับกลาง-บน
ส่วนสายการผลิตจอที่ส่งให้กลุ่มกลาง-ล่าง ก็เอาไปเพิ่มการผลิตกลุ่มจอระดับ กลาง-บน เพื่อขายให้เจ้าอื่น