TheElec สื่อจากประเทศเกาหลีใต้รายงานว่า Samsung อาจตัดสินใจลดกล้องหลังของสมาร์ทโฟนในซีรีส์ Galaxy A ลงในปีหน้า เป็นแนวทางใหม่ที่หันไปให้ความสำคัญกับเรื่องของ “คุณภาพ” แทนที่จะเป็นเรื่องของ “จำนวน” โดยกล้องที่คาดว่าจะถูกตัดออกไปคือ กล้องจับความลึกที่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จริง ๆ จัง ๆ เท่าไหร่นัก ประกอบกับการที่ซอฟต์แวร์ทำภาพพอร์เทรตละลายฉากหลังด้วย AI ก็มีการพัฒนาไปจากเดิมมากแล้ว

นอกเหนือจากเหตุผลข้างต้นแล้ว TheElec ยังให้ความเห็นว่า ปัจจัยเรื่องต้นทุนก็น่าจะมีส่วนในการตัดสินใจของ Samsung ด้วยเช่นกัน เพราะต้องสู้กับผู้ผลิตจากจีนที่ทำสงครามด้านราคาอย่างดุเดือด

TheElec ได้ยกตัวอย่างว่า ก่อนหน้านี้ Samsung ใช้วิธีขยายสัดส่วนหน้าจอ LCD ให้มากขึ้นในการควบคุมต้นทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในซีรีส์ Galaxy M และในขณะเดียวกันก็ลดสัดส่วนหน้าจอ AMOLED ให้น้อยลง จาก 33 ต่อ 67 เมื่อปี 2561 กลายเป็น 50 ต่อ 50 ในปี 2564

แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมข้อเท็จจริงที่ว่า จำนวนมือถือ Samsung ก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับ 4 ปีก่อน จากการที่มีรุ่น 5G เสริมเข้ามา และ Samsung พยายามตีตลาดสมาร์ทโฟน 5G ราคาประหยัด (ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท) ซึ่งพวกรุ่นเหล่านี้ล้วนใช้พาเนล LCD ทั้งหมด สัดส่วนจะเปลี่ยนแปลงไปในทางนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

สำหรับสมาร์ทโฟนซีรีส์ Galaxy A ที่จะได้รับผลกระทบในปีหน้า ตามรายงานแล้วมี 3 รุ่น ประกอบด้วย Galaxy A24, Galaxy A34, Galaxy A54 แต่ละรุ่นจะมากับชุดกล้องหลัง 3 ตัว ดังนี้

Galaxy A24

  • กล้องหลัก 50MP
  • กล้องอัลตราไวด์ 8MP
  • กล้องมาโคร 5MP

Galaxy A34

  • กล้องหลัก 48MP
  • กล้องอัลตราไวด์ 8MP
  • กล้องมาโคร 5MP

Galaxy A54

  • กล้องหลัก 48MP
  • กล้องอัลตราไวด์ 5MP
  • กล้องมาโคร 5MP

น่าสนใจว่า Galaxy A54 ที่อยู่บนสุดในทั้ง 3 ตัว กลับมีความละเอียดกล้องอัลตราไวด์ต่ำที่สุด ถ้ามองในแง่ดีคือ ความละเอียดไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกถึงคุณภาพ ไม่แน่มันอาจเป็น 5MP ที่อยู่บนเซนเซอร์ขนาดใหญ่กว่าอีก 2 ตัวที่เหลือก็ได้

 

ที่มา : TheElec