Samsung พยายามขยายฐานลูกค้าโดยการออกสมาร์ทโฟน 5G ราคาประหยัด (ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท) มาได้สักพักใหญ่ ๆ แล้ว และยังคงใช้กลยุธท์นี้อย่างต่อเนื่อง โดย Galaxy A13 5G เป็นรุ่นล่าสุดที่พึ่งเปิดตัวไป ถือเป็นมือถือ 5G ราคาถูกที่สุดของ Samsung เท่าที่เคยมีมาเลย

Galaxy A13 5G มีราคาอยู่ที่ 6,999 บาท ถูกกว่า Galaxy A22 5G กับ Galaxy A32 5G ที่เป็นรุ่นในไลน์อัปที่สูงอยู่เหนือขึ้นไป 1,300 และ 3,000 บาท ตามลำดับ

  • Galaxy A13 5G : ราคา 6,999 บาท
  • Galaxy A22 5G : ราคา 8,299 บาท
  • Galaxy A32 5G : ราคา 9,999 บาท

ดีไซน์โฉมใหม่ เรียบง่ายและดูดี

หน้าตาที่เปลี่ยนไปอย่างมากของ Samsung Galaxy A13 5G น่าจะถูกใจหลายคนอยู่ไม่น้อย พอปรับมาใช้ดีไซน์แบบเรียบ ๆ แล้ว ดูเป็นของมีราคาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ถ้ามองแต่ภายนอกคงนึกว่ารุ่นแพง ๆ

รุ่นนี้ใช้การจัดวางกล้องหลัง 3 ตัว เรียงกันตามแนวดิ่ง ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการออกแบบของ Samsung ในช่วงหลัง ส่วนวัสดุฝาหลังทำมาจากพอลีคาร์บอเนตผิวด้านขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียว (ยูนิบอดี) ข้อดีคือ เปรอะเปื้อนคราบต่าง ๆ ค่อนข้างยาก และไม่ค่อยติดรอยนิ้วมือ

ปุ่มกดทั้งหมดจะอยู่ที่ด้านขวา ไล่จากบนลงล่างประกอบด้วย ปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเพาเวอร์ที่ฝังเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาในตัว

ขณะเดียวกัน พอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมดจะอยู่ที่ด้านล่าง ไล่จากซ้ายไปขวา ประกอบด้วย แจ็ก 3.5 มม. และ USB Type-C ปิดท้ายด้วยลำโพงที่อยู่ด้านขวาสุด ซึ่งรุ่นนี้เป็นลำโพงเดี่ยวที่เสียงดีใช้ได้เลยทีเดียว

จอภาพ 90Hz แบบปรับได้

Galaxy A13 5G มากับจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว เว้นที่สำหรับวางกล้องหน้าในลักษณะตัว V หรือที่ Samsung เรียกว่าหน้าจอ Infinity-V อัตรารีเฟรชจะปรับได้ 2 โหมด ได้แก่ Adaptive และ Standard ความแตกต่างคือ

  • Adaptive : สลับอัตรารีเฟรชอัตโนมัติตามการใช้งานและคอนเทนต์ที่แสดงผล ระหว่าง 60 และ 90Hz
  • Standard : ล็อกอัตรารีเฟรชสูงสุดเอาไว้ที่ 60Hz

และด้วยความที่มีหน้าจอใหญ่ 6.5 นิ้ว พื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือ ทำให้สามารถปรับขนาดของตัวอกษรที่แสดงผลให้ใหญ่ตามไปด้วยได้ จะสายตาสั้นหรือสายตายาวก็อ่านหนังสือได้คมชัดไม่มีปัญหา

.

การตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอทำได้รวดเร็วและแม่นยำอย่างที่ควรจะเป็น ไม่พบอาการทัชเพี้ยนแม้แต่น้อย แต่มีข้อจำกัดที่ควรทราบคือ เนื่องจากมันเป็นพาเนล IPS LCD จึงไม่รองรับฟีเจอร์ Always-On Display รวมถึงไม่รองรับการแตะสองครั้งเพื่อปลุกเครื่อง

ชิปเซต Dimensity 700 ใช้งานได้ลื่นไหล

Galaxy A13 5G ขับเคลื่อนด้วย Dimensity 700 จาก MediaTek ชิปตัวรุ่นผลิตด้วยกระบวนการ 7 นาโนเมตร ซีพียูมีจำนวน 8 แกน ใช้โครงสร้างแบบ 2 + 6 แกน ความเร็วสูงสุด 2.2GHz ด้าน RAM และ ROM มีให้เลือกแบบเดียว คือ 6 + 64GB

ด้วยซีพียูระดับนี้ มีความแรงเหลือเฟือที่จะให้ประสบการณ์การใช้งานทั่วไปที่ลื่นไหล พอได้หน้าจอ 90Hz มาเสริม ยิ่งดูสมูท ส่วนความรวดเร็วก็น่าจะดีพอที่จะไม่ทำให้ใครต้องหงุดหงิดอะไร

เสริมความปลอดภัยด้วยแพลตฟอร์ม Knox

ข้อดีที่อยากพูดถึงคือ Galaxy A13 5G เป็นรุ่นที่รองรับแพลตฟอร์มความปลอดภัย Knox ซึ่งมีโครงสร้างความปลอดภัยที่ทำงานร่วมกันทั้งในส่วนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์

Knox จะมีการจัดเก็บข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนแยกเอาไว้ต่างหากโดยไม่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการหลัก พร้อมการเข้ารหัสข้อมูลจากต้นทางสู่ปลายทาง นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องจากการพยายามแฮกหรือมัลแวร์ดูดข้อมูลแบบเรียลไทม์ด้วย

อัปเดตซอฟต์แวร์นานสุด 4 ปี ใกล้เคียงกับเรือธง

นอกจากนี้ตัว Galaxy A13 5G เอง ยังรองรับการอัปเดตที่ยาวนาน แบ่งเป็นระบบปฏิบัติการ 2 ปี ไปต่อได้ถึง Android 13 และแพตช์ความปลอดภัย 4 ปี สำหรับสมาร์ทโฟนราคาไม่ถึง 1 หมื่นบาท ได้เท่านี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว อัปเดตให้มากกว่าเรือธงของบางยี่ห้อด้วยซ้ำไป

กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดสูงสุด 50MP

กล้องหลัง Galaxy A13 5G ใส่มาให้ 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP กล้องมาโคร 2MP และกล้องจับความลึก 2MP

ในการตั้งค่าเริ่มต้น เอาต์พุตของกล้องจะถ่ายออกมาที่ความละเอียด 12.5MP เป็นผลมาจากเทคโนโลยีรวมพิกเซลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับแสง ถ้าอยากถ่ายเต็มความละเอียด 50MP ต้องเลือกปรับเอาจากในเมนูเสียก่อน

.

สำหรับกล้องมาโคร จะให้ระยะเลนส์ (ความกว้างของภาพ) เท่ากันกับกล้องหลัก ระยะโฟกัสเป็นแบบตายตัว ระยะทำการอยู่ที่ระหว่าง 3 ถึง 5 ซม.จากระนาบวัตถุ ถ้าเข้าใกล้เกินระยะ ภาพก็จะเบลอ ออกห่างเกินระยะ ภาพก็จะเบลอเช่นกัน

โหมดการใช้งานมีมาให้ครบครัน ได้แก่ โหมด Portrait, โหมด Pro, โหมด Panorama, โหมด Food, โหมด Night และโหมด Macro

ในโหมด Pro นั้น จะรองรับการปรับความไวแสง (ISO) ความสว่าง (EV) และสมดุลสีขาว (WB) แบบเคลวิน ตั้งแต่ 2300K จนถึง 10000K แต่ไม่รองรับการปรับความเร็วชัตเตอร์ (SS)

ตัวอย่างภาพถ่าย Galaxy A13 5G

กล้องหลัก

.

กล้องมาโคร

.

โหมดกลางคืน

.

แบตอึด 5000mAh ใช้ได้นานจนลืมว่าต้องชาร์จ

มีสมาร์ทโฟนในซีรีส์ Galaxy A หลายรุ่น ที่ทำได้ดีในเรื่องความอึดแบตเตอรี่ และ Galaxy A13 5G ก็คงพูดได้เต็มปากว่าเป็นหนึ่งในนั้น ความจุ 5000mAh ของมัน ใช้งานทั่วไปอยู่ได้ 2 วันอย่างไม่ยากเย็นอะไร

ทดสอบดู YouTube ต่อเนื่อง 1 ชม. โดยเปิดความสว่างหน้าจอและระดับเสียงเอาไว้ที่ 50% เท่า ๆ กัน ซึ่งเป็นระดับที่ใช้งานอยู่ตามปกติในร่ม ระหว่างนี้สลับไปใช้งานแอปอื่นและหยิบมาถ่ายรูปบ้างเล็กน้อย แบตลดไปแค่ 6% เอง ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับ Galaxy A13 ที่ DroidSans เคยรีวิวเอาไว้ก่อนหน้านี้เลย

แต่เรื่องที่ต้องพิจาณาก็มีอยู่เหมือนกัน คือ Galaxy A13 5G รองรับชาร์จไว 15W ซึ่งช้าไปหน่อยกับสมัยนี้ ชาร์จครึ่งชั่วโมง ได้แบตมาแค่ 20% จะเอาเต็ม 100% ต้องเสียบทิ้งไว้เกิน 2 ชั่วโมง ขืนลืมชาร์จแบตก่อนนอน แล้วตื่นเช้ามาต้องไปเรียบ ไปทำงาน ไปธุระ กับคนที่ไม่มีเพาเวอร์แบงก์คงลำบากเลยแหละ

สเปค Galaxy A13 5G

  • จอภาพ : LCD ขนาด 6.5 นิ้ว
    – ความละเอียด 720 x 1600 พิกเซล
    – สัดส่วน 20:9
    – อัตรารีเฟรช 90Hz
  • ชิป : Dimensity 700
  • หน่วยความจำ : RAM 4GB
  • สตอเรจ : ROM 64GB
  • กล้องหลัง :
    – กล้องหลัก 50MP
    -กล้องมาโคร 2MP
    – กล้องจับความลึก 2MP
  • กล้องหน้า : 5MP
  • เครือข่าย : 5G
  • การเชื่อมต่อ :
    – Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac
    – Bluetooth 5
    – NFC
  • พอร์ต :
    – USB Type-C 2.0
    – แจ็ก 3.5 มม.
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้าง)
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh, รองรับชาร์จไว 15W
  • ระบบปฏิบัติการ : One UI Core 4.1 บนพื้นฐาน Android 12

Galaxy A13 5G ดีไหม น่าซื้อไหม เหมาะกับใคร

ถ้าตั้งโจทย์ว่า “มือถือ Samsung” “รองรับ 5G” และ “ราคาถูกที่สุด” แน่นอน Galaxy A13 5G คือคำตอบ ณ เวลานี้

ข้อดีมีให้พูดถึงหลายอย่าง ตามที่เห็นไปแล้วในรีวิว ทั้งในแง่การอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ยาวนาน แบตเตอรี่สุดอึด ตัว ไม่ต้องกลัวแบตหมดระหว่างวัน One UI เองก็ทำงานได้เสถียรและออกแบบอินเทอร์เฟซมาดีมาก ไหนจะ Knox ที่ช่วยเสริมเรื่องความปลอดภัยอีก อะไร ๆ ก็ดูจะมีมาตรฐาน (ที่ดี) ไปเสียหมด

แต่เรื่องที่ต้องพิจาณาก็มีอยู่เหมือนกัน หลัก ๆ มีอยู่ 2 ข้อ ข้อแรกคือ มันชาร์จแบตได้ช้า ต้องมีสักวันนึงแหละ ที่เราจะลืมชาร์จแบต อาจจะไม่ได้ลืมกันบ่อย ๆ แต่ถ้าวันนั้นมันมาถึงจริง ๆ ก็คงปวดหัวแน่ ๆ

ข้อถัดมาเกี่ยวกับเรื่องกล้อง คือในโหมด Pro โปรไม่จริง (ฮา) การปรับชัตเตอร์สปีดไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถสร้างสรรค์ภาพดังใจนึกได้ในบางสถานการณ์ และการถ่ายภาพในที่แสงน้อยก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก รวมถึงไม่มีกล้องอัลตราไวด์ ถ้าเน้นเรื่องนี้เป็นพิเศษ มองหารุ่นอื่นคงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า

Play video

จุดเด่น

  • รองรับ 5G ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป
  • หน้าจอแสดงผลลื่นไหล ขนาดใหญ่กำลังดี
  • ลำโพงเสียงดี และเสียงดัง
  • แบตอึด ใช้งานได้ข้ามวัน
  • อัปเดตซอฟต์แวร์ได้นานพอ ๆ กับเรือธง
  • มีแพลตฟอร์มความปลอดภัยแยกต่างหาก
  • ตัวเครื่องเป็นยูนิบอดีสวยงาม แทบจะไร้รอยต่อ

จุดสังเกต

  • รองรับการชาร์จที่ 15W
  • กล้องเยอะ แต่ใช้งานจริงแค่กล้องหลัก 50MP
  • กล้องโหมด Pro ไม่รองรับการปรับความเร็วชัตเตอร์