สวัสดีเพื่อนสมาชิก Droidsans เจอกันอีกแล้วครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำมือถือตระกูล J รุ่นใหม่จาก Samsung มันคือ Galaxy J7 version 2 หรือชื่อที่หลายคนอาจจะคุ้นกว่าคือ Galaxy J7 (2016) นั่นเอง โดยการกลับมาคราวนี้ของ J7 มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นในทุกๆด้านทั้งงานออกแบบ, สเปก, กล้อง และแบตเตอรี่ ซึ่งจากการทดลองใช้งานมา 3 วันต้องบอกว่าเบื้องต้นน่าประทับใจพอสมควร มาดูรายละเอียดกันครับ

Galaxy J7 version 2 เป็นมือถือรุ่นสืบทอดโดยตรงต่อจาก Galaxy J7 ที่ขายดิบขายดีพอสมควรเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา ซึ่งทางเว็บเราเองก็มีบทความ รีวิว Galaxy J7 ไปเมื่อปีที่แล้ว สำหรับปีนี้ Samsung ก็ส่ง Galaxy J7 version 2 มาสานต่อความสำเร็จของรุ่นพี่ โดยมีการอัพเกรดให้ดีขึ้นแทบจะทุกส่วนเลยก็ว่าได้ ไม่ขอพูดพล่ามทำเพลงอะไรมาก มาดูเรื่องสเปกกันก่อนเลย

 

สเปก Samsung Galaxy J7 version 2 (2016)

 

    • หน้าจอ : Super AMOLED 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD 1280 x 720 พิกเซล
    • เครือข่ายที่รองรับ:
      • 4G : LTE B1(2100), B3(1800), B5(850), B7(2600), B8(900), B20(800) และ  B40(2300)
      • 3G : WCDMA 850 / 900 / 1900 / 2100
      • 2G : GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
    • SIM : 2 SIM แบบ MicroSIM (Dual standby)
    • CPU : Samsung Exynos 7870 1.6GHz Octa-core
    • GPU : Mali-T830
    • RAM : 2GB LPDDR3
    • หน่วยความจำภายใน : 16GB รองรับ SD card สูงสุดที่ 128GB
    • กล้องหน้า : 5 ล้านพิกเซล f/1.9
    • กล้องหลัง : 13 ล้านพิกเซล f/1.9 พร้อมระบบ AF และ LED flash
    • แบตเตอรี่ : 3300mAh (ถอดเปลี่ยนได้)
    • OS : TouchWiz UX บน Android 6.0.1 Marshmallow
    • NFC : มี
    • OTG : มี
    • สี: ขาว, ดำ และ ทอง
    • ราคา: 8,900 บาท

จากสเปกคร่าวๆ จะเห็นว่า J7 version 2 มีการอัพเกรดแทบจะทุกส่วนเลย ทั้ง CPU, RAM, กล้อง และแบตเตอรี่ รวมไปถึง OS ก็เป็น Android 6 Marshmallow รุ่นล่าสุดเรียบร้อยแล้ว

 

งานออกแบบตัวเครื่อง

Galaxy J7 version 2 (2016) รุ่นนี้มีการเปลี่ยนวัสดุและงานออกแบบจากรุ่นแรกให้ดูหรูหรามากขึ้นและแข็งแกร่งมากขึ้น โดยตัวเฟรมของเครื่องเปลี่ยนมาใช้เป็นโลหะแบบเดียวกับมือถือเรือธงอย่าง Galaxy S7 เลย ส่วนฝาหลังยังคงเป็นพลาสติก แต่มีการการขัดลายให้ดูคล้ายโลหะมากขึ้น สำหรับเครื่องรีวิวเป็นรุ่นสีทอง ต้องบอกว่าตัวเครื่องนั้นดูดีมาก เสียแต่ว่ารอยเยอะพอสมควร น่าจะผ่านสงครามมาหลายมือครับ

 

ขอบเครื่องเป็นโลหะ แบบเดียวกับ Galaxy S7

 

ฝาหลังเป็นพลาสติกขัดลายให้เหมือนโลหะ

 

ความรู้สึกในการจับถือนั้นแตกต่างกับ Galaxy J7 รุ่นแรกแบบคนละเรื่อง เพราะวัสดุที่ใช้มีความหรูหรามากขึ้นนั่นเอง แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนิดหน่อยเช่นกัน  มองเผินๆต้องบอกว่ารุ่นนี้หน้าตาใกล้เคียงมือถือเรือธงของ Samsung เลยล่ะครับ เดี๋ยวมาดูรอบๆเครื่องกันดีกว่า

ด้านหน้าของตัวเครื่องเป็นกระจกครอบทั้งชิ้นตั้งแต่บนสุดจดล่างสุด โดยสีด้านหน้าของตัวเครื่องจะเป็นสีที่ match กับทั้งตัวเครื่องเลย คือ สีทองก็ทองทั้งหน้าหลัง รวมไปสีขาวและสีดำก็ทำนองเดียวกัน

ส่วนบนหน้าจอประกอบด้วยกล้องหน้า 5MP ทางด้านซ้ายสุด ตรงกลางเป็นลำโพงสนทนา ถัดไปเป็นเซ็นเซอร์ Proximity และขวาสุดคือ ไฟแฟลชสำหรับถ่าย Selfie ครับ อ้อ! รุ่นนี้ไม่มีเซ็นเซอร์วัดความสว่างนะครับ ดังนั้นจึงไม่มีระบบปรับแสงหน้าจออัตโนมัติ

ส่วนล่างหน้าจอเป็นปุ่ม 3 ปุ่มมาตรฐานคือ Recent, Home และ Back โดยเราสามารถกดปุ่ม Home 2 ครั้งเพื่อเปิดกล้องได้เลย เรียกว่า Quick Launch

ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบด้วยรูไมค์สำหรับสนทนา, พอร์ต microUSB และรูเสียบหูฟัง 3.5 มม.

ด้านบนของตัวเครื่องจะเรียบๆ ไม่มีอะไร ส่วนที่เห็นเป็นเส้นคาด 2 เส้นคือ เส้นพลาสติกสำหรับเสารับสัญญาณโทรศัพท์นั่นเอง ดูท่ารุ่นนี้จะไม่มีไมค์ตัดเสียงรบกวนด้วยนะครับ

ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะเป็นปุ่มปรับเสียงแบบแยกปุ่มชัดเจน

ด้านขวาของตัวเครื่องเป็นปุ่ม Power โดยการแยกปุ่มปรับเสียงให้อยู่ละข้างกับปุ่ม Power แบบนี้คือลายเซ็นต์ของ Samsung เค้าล่ะ

พลิกมาดูด้านหลังกันบ้าง

ด้านหลังของตัวเครื่องจะมีกล้องหลัง 13MP อยู่ตรงกลาง ฝั่งซ้ายจะเป็นลำโพงสำหรับเสียงเตือนและฟังเพลงต่างๆ ส่วนฝั่งขวาจะเป็นไฟแฟลชแบบ LED ดวงเดียว

เอียงเครื่องนิดนึงจะเห็นช่องสำหรับแงะฝาหลังออกมาครับ

แงะฝาหลังออกมาแล้วก็จะเห็นแบตเตอรี่ขนาด 3300mAh ถอดเปลี่ยนได้ และช่องสำหรับใส่ SIM 2 SIM บวกกับอีก 1 microSD card

ซูมดูชัดๆ ช่องใส่ SIM และ microSD card จะแยกกันชัดเจน โดย SIM ที่รองรับคือ MicroSIM นะครับ

สำหรับเรื่อง hardware ของตัวเครื่องน่าจะครบจบกระบวนการเท่านี้ก่อน ต่อไปเรามาดูเรื่อง software กันสักนิด

 

ระบบ TouchWiz แลพ Android 6 Marshmallow

Galaxy J7 version 2 นั้นมาพร้อมกับระบบ OS Android 6 Marshmallow รุ่นล่าสุด(ที่เป็นทางการ) เวอร์ชัน 6.0.1 พร้อม Security update วันที่ 1 พฤษภาคม 2016 เรียกว่าล่าสุดเท่าที่มีในปัจจุบันล่ะครับ

แน่นอนว่ามือถือ Samsung ก็ต้องมากับ Samsung TouchWiz เวอร์ชันล่าสุดที่ต้องบอกว่าทำงานได้ลื่นไหลอย่างมาก ใช้งานเพลินดีเหมือนกัน

นอกจากนั้นยังรองรับระบบ Theme ของ Samsung TouchWiz เรียบร้ออย มี Theme สวยๆให้เลือกใช้งานเยอะแยะเลยครับ และที่ผมเคยบอกในรีวิวของมือถือ Samsung รุ่นใหม่ๆ ระบบ Theme ของ Samsung นั้นอยู่แถวหน้าของมือถือในปัจจุบันเลย

สำหรับฟีเจอร์ต่างๆแบบละเอียดเดี๋ยวมาว่ากันในบทความรีวิวอีกทีครับ

 

กล้องหลังและกล้องหน้า

Samsung Galaxy J7 version 2 มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เลนส์มีค่า aperture f/1.9 ทำให้เก็บแสงได้ดี สำหรับกล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ค่า f/1.9 เช่นกัน อีกทั้งยังมีไฟแฟลชสำหรับการ Selfie ด้วย เรียกว่าไม่ทิ้งลายมือถือ Selfie ที่มีมาตั้งแต่รุ่นที่แล้ว เรามาดูภาพถ่ายตัวอย่างพอสังเขปกันดีกว่า

 

ตัวอย่างภาพถ่าย Samsung Galaxy J version 2 (2016)

 

ประสิทธิภาพและแบตเตอรี่

มือถือรุ่นนี้มีการอัพเกรด CPU และ RAM เพิ่มขึ้นจากเดิม โดยเลือกใช้ชิปเซต Exynos 7870 Octa-core ความเร็ว 1.6GHz และ GPU Mali-T830 ส่วน RAM เพิ่มมาเป็น 2GB แบบ LPDDR3 ซึ่งจากการใช้งานต้องบอกว่าประสิทธิภาพของมือถือรุ่นนี้น่าพอใจมาก สามารถทำงานได้ลื่นไหล ไม่มีอาการสะดุด เล่นเกมส์ก็พอได้เหมือนกัน ซึ่งคะแนนประสิทธิภาพเบื้องต้นจากการวัดด้วย Antutu Benchmark เป็นดังนี้

ในส่วนของแบตเตอรี่ก็เพิ่มมาเป็น 3300mAh ซึ่งต้องบอกว่า อึดหายห่วง ใช้งานข้ามวันได้สบาย โดยตัวผมเองเท่าที่ลองใช้มา 3 วัน ผมว่ามือถือรุ่นนี้สามารถใช้งานแบบทั่วไปได้ 2 วันเต็มๆเลยครับ เยี่ยมจริงๆ

บทสรุปเบื้องต้น

หลังจากได้ลองใช้งาน Galaxy J7 version 2 มาได้ประมาณ 3 วัน ผมพบว่ามือถือรุ่นนี้ทำได้ดีในหลายๆส่วน ทั้งเรื่องงานออกแบบที่หรูหรามากขึ้น ประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีเกินความคาดหมาย และแบตเตอรี่ที่อึดใช้งานได้ถึง 2 วัน ด้วยราคาเพียง 8,900 บาทนั้น ถือว่าคุ้มราคาสำหรับมือถือของ Samsung เลยล่ะครับ เรียกว่าจะแนะนำใครซื้อมือถือรุ่นนี้ก็แนะนำได้เต็มปาก และน่าจะเป็นมือถือที่ขายดีอีกหนึ่งรุ่นเลย ส่วนคนที่ไม่ชอบจอใหญ่ก็มี Galaxy J5 version 2 ที่มีหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว อีกหนึ่งรุ่นราคา 7,900 บาท

สำหรับความแตกต่างของมือถือในตระกูล Galaxy J นั้น Samsung ได้ทำตารางเปรียบเทียบมาชัดเจนและเข้าใจง่ายดี คนที่ยังสับสนเรื่องความแตกต่างของแต่ละรุ่นอยู่ก็ดูได้จากด้านล่างนี้เลย ส่วนรีวิวแบบละเอียดของ Galaxy J7 version 2 จะตามมาอีกทีนะครับ สวัสดีครับ