หลังจากที่มีข่าวหลุดแล้วหลุดอีกมาเนิ่นนาน ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับเรือธงที่มาพร้อมปากกาจากค่าย Samsung อย่าง Galaxy Note 9 ซึ่งถ้าใครตามข่าวหลุดมาตลอดก็แทบจะไม่ต้องดูอะไรเพิ่มเติม แต่ถ้าอยากดูสรุปความเปลี่ยนแปลง เรามาสรุปให้ดูกันแล้วว่ารุ่นที่ 9 นี้มีอะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจบ้าง
Galaxy Note 9 มาพร้อมหน้าจอ Infinity Display ขยายจอใหญ่ขึ้นเป็น 6.4 นิ้ว และปรับลดขอบจอ (bezel) ให้บางลง รวมถึงยังได้รับรางวัล Signature Device จาก YouTube ว่าจอสวยงามสุดๆ ด้วยล่ะ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอบนล่าง ที่ปรับแต่งโดย AKG และระบบเสียง Dolby Atmos
สำหรับประสิทธิภาพการใช้งาน Galaxy Note 9 เล่นเกมได้ดีขึ้น รวมถึงดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ ได้ไวขึ้น (1.2 Gbps) เลือกใช้หน่อยประมวลผล Exynos 9810 เช่นเดียวกับ Galaxy S9 / S9+ สายเกมมิ่งมั่นใจว่าเล่นได้แบบจัดเต็มยิ่งกว่าเดิม ไม่ต้องกลัวเครื่องร้อน แล้วประสิทธิภาพจะต่ำลง เพราะมีระบบจัดการความร้อน Water Carbon Cooling system รักษาอุณหภูมิของเครื่องให้คงที่ไม่สูงขึ้นแม้จะทำงานอย่างหนักตลอดเวลา หมดปัญหาอาการกระตุกหน่วงระหว่างเล่นเกมที่อาจเกิดขึ้นจากความร้อนสะสมมากเกินไป
พร้อมจัดเกมยอดนิยมอย่าง Fortnite มาให้เล่นกันแบบ Exclusive เฉพาะ Galaxy Device ณ ตอนนี้เลยจ้า!!!
กล้องคู่อัจฉริยะตรวจจับและแต่งภาพอัตโนมัติ พร้อมแจ้งเตือนให้ถ่ายใหม่หากภาพไม่สวย
Galaxy Note 9 มาพร้อมับกล้องคู่ ที่ฉลาดขึ้นด้วยระบบ Intelligent Camera ที่สามารถตรวจจับได้ว่าภาพที่เราถ่ายอยู่นั้นเป็นฉากแบบไหน และปรับแต่สีและคอนทราสให้เหมาะสม สวยงามขึ้นได้ ซึ่งสามารถตรวจจับได้มากถึง 20 ฉากด้วยกัน เช่น ดอกไม้ ผู้คน สัตว์ อาหาร ฯลฯ ปัจจุบันยังรองรับการใช้งานแต่เพียงเฉพาะในกล้องหลังเท่านั้น
และมีฟีเจอร์ใหม่อย่าง Flaw Detection ช่วยตรวจสอบภาพที่ไม่สมบูรณ์ เช่น ถ้ามีเพื่อนในกลุ่มหลับตา กระพริบตา เลนส์สกปรก มือไม้สั่นจนภาพเบลอๆ หรือภาพย้อนแสง ก็จะมีแจ้งเตือนขึ้นมาให้เรารู้ตัว เตือนให้ชักภาพใหม่ได้ทันท่วงที ไม่ต้องเสียอารมณ์เมื่อย้อนกลับมาดู ซึ่งฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยค่ะ
S Pen อัพเกรดใหม่ใส่ Bluetooth สามารถสั่งงานใช้เป็นรีโมทได้
สำหรับเจ้าปากกาอัจฉริยะ หรือ S Pen ใน Galaxy Note 9 ถูกอัพเกรดความสามารถให้ใช้งานเป็นรีโมตคอนโทรล เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ซึ่งควบคุมได้ในระยะ 10 เมตร โดยสามารถสั่งงานได้ทั้ง ลั่นชัตเตอร์กล้อง, ควบคุมพรีเซนเตชั่น, หรือควบคุมการเปิดภาพใน Gallery
ส่วนตัวแบตเตอรี่นั้นเป็นแบบ Super Capacitor สามารถชาร์จได้ง่ายๆ แค่เสียบกลับเข้าไปในเครื่อง แค่ 40 วิ ก็ใช้ได้ 30 นาที หรือกดได้ราวๆ 200 ครั้ง และสิ่งดีๆ ที่ยังคงไว้เช่นเคยก็คือมีระบบป้องกันการหาย ความแข็งแรงทนทาน และสามารถใช้งานขีดเขียนแบบปกติได้โดยไม่ต้องใช้แบต
ฟีเจอร์อื่นๆ ของ S Pen นั้นก็มี เขียนบน AR Emoji ทำเป็น Sticker ได้ และ Screen-off Memo มีสีแล้ว ซึ่งสีก็จะเป็นไปตามเส้นของปากกาจ้า
แบต 4,000 mAh ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 21%
แบตเตอรี่เป็นเรื่องที่หลายคนบ่นกันมาตลอดว่า Galaxy Note ควรจะให้แบตมาเยอะกว่านี้เพื่อการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ซึ่งทาง Samsung ก็น่าจะได้ยินเสียงบ่นเหล่านี้เลยจัดเต็มมาให้บน Galaxy Note 9 มาถึง 4,000 mAh ใหญ่ขึ้นจากตอน Galaxy Note 8 กว่า 20% ใช้งานได้ยาวนานขึ้นอีกหลายชั่วโมงเลยทีเดียวค่ะ
Samsung Dex เปลี่ยนไป ไม่ต้องพึ่ง Dock แล้ว
Samsung Dex ฟีเจอร์เปลี่ยนโทรศัพท์ให้เป็นคอมพิวเตอร์ จากที่แต่ก่อนต้องวุ่นวายเสียบใส่ dock ให้วุ่นวาย แต่มาถึง Galaxy Note 9 เพียงแค่ต่อสาย USB Type C เข้าไปที่ตัวเครื่อง และอีกฝั่งเป็นหัว HDMI ต่อกับหน้าจอ ก็พร้อมใช้งานได้ทันที รองรับการใช้งานแบบ Multitask ทำงานบนมือ พร้อมกับเปิดอีกหน้าต่างขึ้นจอก็สามารถใช้งานพร้อมกันได้
BixBy AI ผู้ช่วยประจำตัวของเหล่า Galaxy Device ถูกพัฒนาปรับปรุงให้เก่งขึ้น โดยสามารถพูดคุยสื่อสารแบบบทสนทนาเหมือนคุยกับคนได้มากขึ้น รวมถึงทำให้กลายเป็นเพื่อนที่รู้ใจเรา โดยสามารถนำข้อมูลจากที่เราเคยใช้งานมาสอบถาม และเสนอทางเลือกให้เรา อย่างเช่น เราอยากกินอาหารฝรั่งเศส Bixby ก็จะเลือกร้านที่อยู่ใกล้ๆ หรือที่เราเคยไปขึ้นมาให้ พร้อมเสนอทางเลือกในการจองร้านอาหารตามที่เราเคยจองได้ด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นความสามารถใหม่ของ Galaxy Note 9 ที่เพิ่มเข้ามา เสริมความเก่งให้มากขึ้นกว่าเดิมเข้าไปอีก ทีนี้เดี๋ยวเรามาดูสเปคอย่างเป็นทางการหลังเปิดตัวกันสักหน่อยค่ะ
สเปคอย่างเป็นทางการ Galaxy Note 9
**สเปคที่เข้ามาขายในไทยรอคอนเฟิร์มอีกทีว่าจะมีตัว 512/8GB มาขายรึเปล่านะ
- Android OS 8.1 (Oreo)
- หน้าจอ sAMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2960 x 1440 พิกเซล) 516 ppi + Infinity Display อัตราส่วน 18.5:9
- CPU:
- Snapdragon 845: 10nm 64-bit Octa-core processor (Max. 2.8 GHz + 1.7 GHz)**
- Exynos 9810: 10nm 64-bit Octa-core processor (Max. 2.7 GHz + 1.7 GHz)**
- RAM 6GB / 8GB (LPDDR4)
- หน่วยความจำภายใน 128GB / 512GB + รองรับ microSD สูงสุด 512GB
- กล้องหลังคู่: Dual Camera มาพร้อม AI, Dual OIS
- เลนส์กว้าง (Wide-angle): 12MP, f/1.5/f/2.4, Super Speed Dual Pixel
- เลนส์ Tele: 12MP, f/2.4 มาพร้อม 2x optical zoom
- กล้องหน้า: 8 MP f/1.7
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz), VHT80 MU-MIMO, 1024QAM, Bluetooth 5.0 , ANT+, USB Type-C, NFC
- รองรับ
- Single SIM: ช่องใส่ Nano SIM และช่องใส่ MicroSD slot**
- Hybrid Slot: ช่องใส่ Nano SIM กับ Hybrid slot ให้เลือกใส่ระหว่าง Nano SIM หรือ MicroSD slot**
- เซนเซอร์: Accelerometer, Barometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Heart Rate Sensor, Proximity Sensor, RGB Light Sensor, Iris Sensor, Pressure Sensor
- รูหูฟังขนาด 3.5 mm.
- กันน้ำกันฝุ่น มาตรฐาน IP68 (ลงน้ำได้ลึก 1.5 ม. นาน 30 นาที)
- Bixby 2, Google Assistant
- แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh (รองรับ Fast Charge)
- ขนาดเครื่อง: 161.9 x 76.4 x 8.8 มม., หนัก 201 กรัม
- ขนาด BLE S Pen: 5.7 x 4.35 x 106.37 มม., 3.1 กรัม
Galaxy Note 9 จะวางจำหน่ายทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ (Midnight Black), สีม่วง (Lavender Purple), สีทองแดง (Metallic Copper) มาพร้อมปากกาสีเดียวกัน, และสีน้ำเงิน (Ocean Blue) ที่มาพร้อมปากกาสีเหลือง โดยที่นำเข้ามาในเมืองไทยจะยังไม่มีสีม่วงนะ คาดว่าอาจจะเอาเข้ามาภายหลังต่อไปตามสไตล์ Samsung นะ
สำหรับใครที่สนใจ Galaxy Note 9 จะเริ่มเปิดให้จองพร้อมโปรสุดแจ่มตั้งแต่วันนี้แล้ว และเริ่มได้รับเครื่องกัน 22-24 สิงหาคมนี้แล้วจ้า เปิดราคามาที่ 33,900 บาทค่ะ รายละเอียดเพิ่มเติม กดอ่านต่อได้ที่ https://droidsans.com/galaxy-note-9-price-date/
มีข่าวฝากมาจากทาง Focus ว่าไม่ต้องกังวลเรื่องกระจกกันรอยหน้าจอว่าจะหายากนะ เพราะตอนนี้ทาง Focus มีฟิล์มกระจกกันรอยกาวเต็ม 3D Full Stick ที่ทำมารับรองโดยเฉพาะแล้ว ติดแล้วเนียนสวย สามารถใช้งานคู่กับเคสได้สบายๆ ไม่มีปัญหาเรื่องแตะไม่ติดจอทัชไม่ไปด้วยค่า
มีข่าวฝากมาจากทาง Focus ว่าไม่ต้องกังวลเรื่องกระจกกันรอยหน้าจอว่าจะหายากนะ เพราะตอนนี้ทาง Focus มีฟิล์มกระจกกันรอยกาวเต็ม 3D Full Stick ที่ทำมารับรองโดยเฉพาะแล้ว ติดแล้วเนียนสวย สามารถใช้งานคู่กับเคสได้สบายๆ ไม่มีปัญหาเรื่องแตะไม่ติดจอทัชไม่ไปด้วยค่า
ไม่ทำให้คนที่ถือ Note 8 อยู่สั่นไหวได้เลย
Note8 ในมือนี่สั่นเลยขายรอเลยละกัน
ทำไมเฉยๆ
ฟังค์ชั่นพรีเซนเตชั่นนี่เพื่ออะไรอะ ในเมื่อใช้ได้แค่ 30 นาทีแล้วต้องชาร์ทใหม่ พรีเซนทีนึงปกติทั่วไปเกินครึ่ง ชม. ไม่ใช่เรื่องผิดปกตินะ
ส่วน Samsung Dex นี่เจอพี่จีน P20 แซงไปนานแล้ว
เปิดตัวราคานี้ ฟีเจอร์เท่านี้ พี่จีนทั้งหลายยิ้มแล้ว
พี่จีนสุดยอดในสามโลกเลย ชาบูพี่จีนรัวๆ
ไม่ทราบราคาเท่าไหร่ครับ พอดีผมอ่านไม่เจอ
เปิดตัวราคาเท่าเดิมก็ไม่แปลกคับ samsung กับแบรนจีน คนละpositionกันอยู่แล้ว ด้วยชื่อแบรนยังไงเค้าก็ขายได้ เค้าจะลดราคาทำไมล่ะครับ
ลองของจริงแล้วได้นานเกิน 30 นาทีนะ
แล้วก็ชาร์จจริงแค่ 20 วิก็เต็มแล้ว หรือแค่เสียบไปแป๊บเดียวก็ดึงมาใช้งานได้ใหม่แล้วอ่ะ
รอบนี้ไม่ตื่นตาตื่นใจ เท่าไหร่
ชาร์จแบตปากกายังไง
เสียบกลับเข้าไปในช่องครับ
อย่างอื่นโอเคหมดนะ
แต่ไม่ชอบเจ้าแผงกล้องด้านหลังเลยสิพับผ่า ดูมันทื่อๆ ไม่สวยเอาซะเลย
ย้ายมาจาก Note 2 มา Note 9 แล้วครับ จองเครื่องไปแล้ รอเจอกันวันที่ 22 เดือนนี้
ผมไม่รอ Note X แล้วรอไม่ไหว. เปลี่ยนเครื่องอีกที รอบหน้า เจอกันที่ Note 13 แล้วครับ