Samsung มีคิวเปิดตัว Galaxy S21 FE มือถือเรือธงรุ่นเล็กของทางค่ายในงาน CES 2022 เดือนมกราคมปีหน้าที่จะถึงนี้ (เหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้ว) แต่ไม่ทันไร ก็มีคลิปแกะกล่อง Hands-On ของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้หลุดออกมาซะแล้ว เปิดเผยให้เห็นถึงดีไซน์ สเปคบางส่วน รวมไปถึงตัวอย่างภาพถ่ายที่ได้จากกล่องของ Galaxy S21 FE ด้วย

รอบนี้ Samsung ตัดสินใจไม่แถมหัวชาร์จมาให้ภายในกล่องของ Galaxy S21 FE โดยจะมีเพียงแค่คู่มือ เข็มจิ้มซิม และสายชาร์จเท่านั้นที่แถมมาให้ ไม่เหมือนกับตอน Galaxy S20 FE ที่แถมหัวชาร์จ Fast Charge 15W มาให้

ในคลิปเปิดเผยว่า เจ้า Galaxy S21 FE นั้น มีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 177 กรัมเท่านั้น และฝาหลังที่คาดว่าเป็น Glassitic (กระจก + พลาสติก) ผิวดำด้าน ไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย

หน้าจอของ Galaxy S21 FE ให้มาเป็นแบบ Infinity-O Display เจาะรูสำหรับวางกล้องหน้า พาแนล Dynamic AMOLED 2X รีเฟรชเรท 120Hz ความละเอียด Full HD+ ขนาด 6.4 นิ้ว และมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 12 ตั้งแต่แกะกล่อง

Galaxy S21 FE มาพร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์หลัก, กล้อง Ultra-Wide และกล้อง Telephoto ความละเอียดเท่ากันทุกตัวที่ 12 ล้านพิกเซล มีระบบกันสั่น (ยกเว้นตัว Ultra-Wide) โดยเจ้าของคลิปได้แนบภาพตัวอย่างมาให้เชยชมด้วยด้านล่าง

 

สเปค Galaxy S21 FE (ตามที่ปรากฎในคลิป)

  • หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรท 120Hz
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 888
  • RAM 6GB (LPDDR5)
  • หน่วยความจำ UFS 3.1 ขนาด 128GB ไม่สามารถใส่ microSD Card ได้
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    • Wide: 12MP มีระบบกันสั่น OIS
    • Ultra-Wide: 12MP
    • Telephoto: 12MP ซูม Optical 3x มีระบบกันสั่น OIS
  • กล้องหน้า 32MP  ไม่รองรับ AF
  • รองรับ 5G SA/NSA, WiFi 6 และ Bluetooth 5.2
  • มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP67
  • แบตเตอรี่ 4500 mAh รองรับชาร์จไว 25W (ไม่แถมหัวชาร์จมาในกล่อง)
  • ระบบปฏิบัติการ One UI บนพื้นฐาน Android 12

หากไม่มีอะไรผิดพลาด ทาง Samsung น่าจะนำ Galaxy S21 FE มาเปิดตัวในงาน CES 2022 เดือนมกราคมที่จะถึงนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีราคายุโรปของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้หลุดออกมาแล้ว โดยจะเริ่มต้นที่ 649 ยูโร หรือประมาณ 24,800 บาท (เข้าไทยอาจถูกกว่านี้) ส่วนสเปคและฟีเจอร์เต็ม ๆ จะมีอะไรบ้าง อันนี้ก็ต้องรอติดตามในงานวันเปิดตัวครับ เหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้ว

 

ที่มา: HDBlog