Samsung เป็นเจ้าแรกๆที่ได้เริ่มทำตลาด Android Tablet ด้วย Samsung Galaxy Tab (P1000) ออกวางจำหน่ายครั้งแรกตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งก็เป็นที่โด่งดังฮือฮาในระดับหนึ่ง และประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ขายรุ่นนี้ได้ดีที่สุดในโลก จนถึงทุกวันนี้ Samsung ได้ออกลูกออกหลานคลอด Tablet ออกมามากมาย และที่เป็นตัวที่โดดเด่นที่สุดในปีนี้ก็คือ Galaxy Tab S ที่หลายๆชื่นชมหน้าจอ ดีไซน์ น้ำหนัก และความเบาบางของมัน วันนี้จึงจะขอรวบรวมเอา Tablet ทั้งหมดเท่าที่ Samsung เคยออกจำหน่าย มาบอกเล่า ดูพัฒนาการด้านรูปร่าง หน้าตา และน้ำหนัก ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการซื้อแท็บเล็ตในปัจจุบัน (ไม่รวมถึงสเปค ความแรงอื่นๆ) ตั้งแต่ตัวแรกจนถึงปัจจุบันนี้ มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างครับ

จากกราฟ เราจะพอสังเกตได้ว่า Galaxy Tab จะมีพัฒนาการเรื่องขนาดหน้าจอและน้ำหนักอยู่เสมอ โดยจะเห็นได้ว่าน้ำหนักจะค่อยๆเบาลงเรื่อยๆ จนเริ่มมีการเพิ่มขนาดหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นเป็น 8.0 นิ้ว ซึ่งก็จะยังมีน้ำหนักไม่มากเท่าไหร่นัก ซึ่งแม้ว่าล่าสุด Galaxy Tab S 8.4 ขนาดหน้าจอจะใหญ่กว่า Galaxy Tab ตัวแรก แต่ว่าน้ำหนักกลับเบากว่าถึง 22.6%

ส่วนความหนาจะค่อยๆบางลงเรื่อยๆในรุ่นพรีเมียม โดยรุ่นล่าสุด Galaxy Tab S (6.6 มม.) จะบางกว่า Galaxy Tab (11.9 มม.) ตัวแรกเกือบเท่าตัว แต่ในทางกลับกันกลับสามารถทำให้แบตมีปริมาณมากกว่าได้ถึง 22.5% เลยทีเดียว ซึ่งนั่นก็เป็นเทคโนโลยีใหม่ๆของทาง Samsung ที่ช่วยให้เราสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยไม่ส่งผลกระทบความหนาของเครื่องเลย

ถ้าได้ใครติดตาม Galaxy Tab ของ Samsung มาโดยตลอด จะพบว่าแทบทุกตัวเวลาจับไปจะได้ความรู้สึกที่พลาสติกสุดๆ มีเพียงตอนที่ออก Galaxy Tab 7.7 มาเท่านั้นที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมแท้ๆ ไม่ใช่พลาสติกเคลือบ จนถึงตอนนี้ก็ยังมีคนเรียกร้องหาให้ซัมซุงทำแท็บเล็ตแบบนี้ออกมาอีกครั้ง จนมีการเปลี่ยนวัสดุมาใช้หนังสังเคราะห์ในรุ่นหลังๆ ซึ่งวัสดุที่ใช้บน Galaxy Tab S จะมีลักษณะคล้ายของ Galaxy S5 ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันถึงความสวยงาม แต่กลับได้รับคำชมอย่างท่วมท้นเมื่อทำขึ้นมาเป็นฝาหลังของ Galaxy Tab S ส่วนนึงน่าจะมาจากการเลือกใช้สี และเปลี่ยนขอบเครื่องเป็นสีทอง ทำให้ลายที่ใช้มันดูเหมาะสมกว่าบนฝาหลังเล็กๆ และดูละม้ายคล้ายกับเบาะหนังขอเหล่ารถหรู จึงดูดีมีชาติตระกูลมากขึ้นนั่นเอง

ไม่แน่ว่าหลังจากได้จับ Faux Leather + ขอบเครื่องสีทอง + งานประกอบที่แน่นหนา ของ Galaxy Tab S แล้ว ก็อาจทำให้ไม่ต้องรอและยอมควักกระเป๋าจ่ายเพื่อเอาเจ้า Galaxy Tab S นี้มาครอบครองเลยก็เป็นได้นะ

 

เพื่อนๆคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างกับพัฒนาการของ Samsung Galaxy Tab ที่ต่อยอดจนมาเป็น Galaxy Tab S ทั้งสองขนาด 8.4” และ 10.5” ชอบกันรึเปล่า ใครที่เคยหรือกำลังใช้งาน Galaxy Tab อยู่ มาแสดงความคิดเห็นกันได้ที่ด้านล่างนี้เลยครับ 🙂

 

Tips: 

เรื่องที่หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าทำไม Samsung ถึงเลือกทำขนาดของ Tab S ออกมาแปลกว่าไซส์ของรุ่นอื่นๆ (ปกติ 8.0 กลายเป็น 8.4” และ 10.1 กลายเป็น 10.5”) ตรงนี้ในวันงานแถลงข่าวของ Samsung Galaxy Tab S ได้ให้คำตอบเอาไว้ว่า “เนื่องจากไซส์ 8.4 และ 10.5” นี้เป็นไซส์มาตรฐานของงานพิมพ์ต่างๆ การปรับขนาดนี้เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบกาณ์อ่านที่ใกล้เคียงกับหนังสือมากขึ้น