Samsung เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะ 2 รุ่นใหม่ล่าสุดกับ Galaxy Watch7 และนาฬิการะดับพรีเมียมอย่าง Galaxy Watch Ultra ที่เป็นการแตกซีรีส์ออกมาใหม่แทนที่ Watch Pro และ Watch Classic ในรุ่นก่อน ๆ พร้อมยกระดับทั้งวัสดุตัวเรือน มาตรฐานความทนทาน รวมถึงชิปเซตประมวผลผลที่ได้ใช้ชิปเซตขนาด 3 นาโนเมตรเป็นครั้งแรกของโลกด้วย
เปิดตัว Samsung Galaxy Watch Ultra
Samsung Galaxy Watch Ultra ถือเป็นการรีแบรนด์ครั้งใหญ่เพื่อสร้างความชัดเจนระหว่างตัวสมาร์ทวอทช์ซีรีส์มาตรฐาน กับซีรีส์ระดับพรีเมียมด้วยการทิ้งชื่อเดิม พร้อมเปลี่ยนดีไซน์ใหม่แบบ 100% ตัวเรือนมาในลักษณะ Squircle กึ่งเหลี่ยมกึ่งกลม พร้อมสายแบบใหม่ออกแบบมาในดีไซน์คลื่น และมีตัวล็อกสองชั้นเพื่อความกระชับไม่ให้หลุดไปในระหว่างทำกิจกรรมแบบลุย ๆ
Galaxy Watch Ultra มากับตัวเรือนวัสดุใหม่ Aerospace Titanium เกรด 4 ทนทานกว่าเดิม และใช้กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทนรอยขีดข่วน พร้อมยกระดับมาตรฐานทนน้ำเป็น 10ATM รองรับแรงดันน้ำที่ระดับ 100 เมตร ใส่ลงทะเลดำน้ำตื้นได้ ผ่านมาตรฐานทนฝุ่น IP68 อีกทั้งยังทนทานระดับมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810H ได้ปุ่มใหม่สีส้มกลางเรือน
ตัวหน้าปัดของรุ่นนี้มีเพียงแค่ขนาดเดียวคือ 47 มม. มีน้ำหนักอยู่ที่ 60.5 กรัม มากับหน้าจอแบบวงกลมขนาด 1.47 นิ้ว พาเนล AMOLED ความละเอียด (480 x 480 พิกเซล) รองรับฟีเจอร์ Always-On Display มี NFC ผูกบัตร KTC / BBL / TTB / KBank แตะจ่ายเงินผ่าน Google Wallet ได้
ไฮไลต์ที่ใหญ่ที่สุดของ Galaxy Watch Ultra คือชิปเซตประมวลผล ที่ได้ใช้ชิป Exynos W1000 ขนาด 3nm แบบ 5 คอร์ CPU เร็วขึ้นถึง 3 เท่า จัดการพลังงานได้ดีขึ้น 30% ได้ความจุมากขึ้น RAM 2GB + 32GB แถมยังได้ GPS แบบคู่ (L1 + L5) เพิ่มความแม่นยำในการจับตำแหน่งถึง 20 ติดตั้งมากับ One UI Watch 6 ครอบทับบน Google WearOS
อีกหนึ่งไฮไลต์ของ Galaxy Watch Ultra คือเรื่องแบตเตอรี่ที่ 590 mAh รองรับการใช้งานสูงสุด 100 ชั่วโมง (4 วันนิด ๆ) ในโหมดประหยัดพลังงาน ส่วนการใช้งานทั่วไป เปิดโหมด Always-on-Display จะรองรับการใช้งานสูงสุด 60 ชั่วโมง (ประมาณ 2 วันครึ่ง)
เปิดตัว Samsung Galaxy Watch7
Samsung Galaxy Watch7 รอบนี้ตัวเรือนเปิดมาในดีไซน์คล้ายเดิม เปลี่ยนสีปุ่มด้านข้างเป็นสีส้ม และใช้สายดีไซน์ใหม่ เป็นวัสดุลายคลื่น พร้อมปักด้ายสีส้ม และสีฟ้าไว้ตรงที่ตัวสาย หน้าปัดมีให้เลือก 2 ขนาดได้แก่ 44 มม. และ 40 มม. ตัวเรือนใช้วัสดุโลหะอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาเพียง 28.8 กรัม และ 33.8 กรัมเท่านั้น (ตามขนาดตัวเรือน)
โดยตัวจอแสดงผลในรุ่น 44 มม. มาในขนาด 1.47 นิ้ว (480 x 480 พิกเซล) ส่วนรุ่น 40 มม. จะได้จอ 1.31 นิ้ว (432 x 432 พิกเซล) พาเนล AMOLED รองรับโหมด Always-On Display ครอบทับด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทนรอยขีดข่วน ตัวเรือนรองรับมาตรฐานทนน้ำ ทนฝุ่น 5ATM / IP68 / ทนทานระดับมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810H
และถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นมาตรฐาน แต่ Galaxy Watch7 ก็ได้อัปเกรดเป็นชิปเซตประมวลผล Exynos W1000 ขนาด 3 นาโนเมตรเช่นกัน อีกทั้งยังได้อัปเกรดความจุเป็น RAM 2GB + 32GB ด้วย
ด้านแบตเตอรี่รุ่นหน้าปัด 40 มม. ให้มาที่ 300 mAh ส่วนรุ่น 44 มม. ได้ความจุ 425 mAh รองรับการใช้งานสูงสุด 40 ชั่วโมงเมื่อปิดโหมด AOD และสูงสุดที่ 30 เมื่อเปิดโหมด AOD
ฟีเจอร์ใหม่ของ Samsung Galaxy Watch7 และ Galaxy Watch Ultra
เซนเซอร์ BioActive อัปเกรดใหม่ แม่นยำกว่าเดิม
Galaxy Watch7 และ Galaxy Watch Ultra ได้มีการอัปเกรดเซนเซอร์วัดค่าสุขภาพ BioActive เวอร์ชั่นใหม่ อัปเกรดเซนเซอร์ไฟ LED เพิ่มขึ้น 3 เท่า จาก 4 เป็น 13 ดวง ซึ่งเข้ามาช่วยในการตรวจจับทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ, ความดันเลือด, ออกซิเจนในเลือด, ตรวจจับการนอน และความเครียดได้แม่นยำยิ่งขึ้น
นอกจากนี้เซนเซอร์ BioActive ตัวใหม่ยังรองรับการตรวจจับค่า AGEs (Advanced Glycation End Products) คือค่าสารที่ทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะวัยชรา อีกทั้งยังเพิ่มความแม่นยำในด้านการตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจในขณะออกกำลังกายได้แม่นยำขึ้นถึง 30% ด้วย
รองรับฟีเจอร์ Galaxy AI บนข้อมือ
ไม่ใช่แค่ฝั่งมือถืออย่างเดียวที่ได้ฟีเจอร์ Galaxy AI แต่สมาร์ทวอทช์อย่าง Galaxy Watch7 และ Galaxy Watch Ultra ก็ได้ใช้งานเหมือนกัน โดยมีให้ใช้งานกัน 5 ฟีเจอร์เด็ด ๆ ทั้ง
- Energy Score ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์ค่าพลังงานในแต่ละวัน
- Wellness Tips แนะนำการออกกำลังกายเฉพาะบุคคล ให้กำลังใจเพื่อบรรลุเป้าหมายที่เราตั้งไว้
- Self Motivation and Improvement หากวิ่งหรือปั่นจักรยานสถานที่เดิม ๆ AI จะจดจำ และเปรียบเทียบความเร็วกับครั้งที่แล้วแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณมีแรงกระตุ้นอยากวิ่งหรือปั่นเร็วขึ้นกว่าเมื่อวาน
- Sleep AI Algorithm ตรวจวัดการนอนได้ละเอียดขึ้น
- Smart Reply ให้ Galaxy AI ช่วยตอบแช็ต โดยวิเคราะห์การสนทนาที่ผ่านมา ไม่ต้องเสียเวลาหยิบมือถือมาพิมพ์ตอบเอง
ราคา และการวางจำหน่าย
Galaxy Watch7 และ Galaxy Watch Ultra เปิดให้พรีออเดอร์แล้ววันนี้ และจะวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2024 เป็นต้นไป ส่วนราคา และสีตัวเรือนเปิดมาดังนี้
- Galaxy Watch Ultra (LTE, 47mm) ราคา 23,900 บาท
- สีเทา Titanium Gray + สายสีส้ม
- สีเงิน Titanium Silver + สายสีดำ
- สีขาว Titanium White + สายสีดำ
- Galaxy Watch7 (Bluetooth, 40mm) ราคา 10,900 บาท
- สีเขียว Green
- สีครีม Cream
- Galaxy Watch7 (Bluetooth, 44mm) ราคา 12,900 บาท
- สีเขียว Green
- สีเงิน Silver
4วัน…น่าจะไม่ควรใช้คำว่าอึด