มือถือจอพับตลับแป้งของ Samsung มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเรื่อยมานับตั้งแต่ Galaxy Flip ในปี 2563 ตอนนี้ก็เดินทางมาสู่ Galaxy Z Flip 4 ในเจเนอเรชันที่ 3 แล้ว ฟอร์มแฟ็กเตอร์นี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว สวนทางกับตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวมที่หดตัวลง เป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่านี่คือเทรนด์แห่งอนาคต และกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จากฟีเจอร์ที่มีความเฉพาะตัวสูง หาไม่ได้จากสมาร์ทโฟนทั่วไป ทำให้ฉีกออกไปจากการใช้งานเดิม ๆ ที่ดูจำเจ สู่ประสบการณ์การใช้งานใหม่ ๆ ที่น่าสนุกยิ่งกว่า

Play video

FlexCam เพิ่มอิสระและมุมมองใหม่ ๆ ในการถ่ายรูป

ในแอปกล้องถ่ายภาพของ Galaxy Z Flip 4 จะมีโหมดที่เรียกว่า FlexCam ซึ่งจะทำงานโดยอัตโนมัติทันทีที่มีการพับเครื่อง โดยแบ่งอินเทอร์เฟซเป็นสองส่วนอย่างสมมาตร ด้านบนเป็นพื้นที่สำหรับพรีวิวภาพ ในขณะที่ด้านล่างเป็นพื้นที่สำหรับปุ่มชัตเตอร์และเมนูต่าง ๆ นำไปประยุกต์ใช้งานได้สองรูปแบบ

เสมือนมีขาตั้งกล้องในตัวเอง

อย่างแรกคือ การใช้งานในลักษณะแฮนด์ฟรี โดยวางสมาร์ทโฟนไว้กับพื้นหรือโต๊ะ ฐานของตัวเครื่องจะทำหน้าที่เป็นเหมือนขาตั้งกล้องในตัว ในขณะที่บานพับสามารถปรับองศาได้อย่างอิสระ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอในมุมมองและระยะตามต้องการได้ด้วยตนเอง ทั้งยังมีประโยชน์ในการถ่ายภาพกลางคืนในสถานการณ์ที่ต้องการปรับความเร็วชัตเตอร์ต่ำ ๆ อีกด้วย

ถือถ่ายถนัด แบบเดียวกับกล้องวิดีโอ

อย่างถัดมาคือ การอาศัยประโยชน์จากลักษณะทางกายภาพของ Galaxy Z Flip 4 ขณะพับตัวเครื่องในมุม 90 องศา แล้วถือถ่ายด้วยมือเดียว ซึ่งจะเป็นท่าทางที่ถูกหลักสรีรศาสตร์เพราะไม่ต้องเกร็งหรือบิดข้อมือ ลักษณะเดียวกับกล้องวิดีโอแคมคอร์เดอร์ วิธีนี้ทำให้ไม่เมื่อยและถือถ่ายได้มั่นคงกว่าเดิม ลดโอกาสภาพเบลอจากการสั่นลงไปได้

รองรับการใช้งานร่วมกับแอปดัง ๆ

Samsung ได้ร่วมมือกับ Meta บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มใหญ่หลายเจ้า ในการพัฒนาแอปต่าง ๆ ให้รองรับการทำงานร่วมกับ FlexCam ของ Galaxy Z Flip 4 ทั้ง Facebook, WhatsApp, Instagram รวมถึงของเดิมที่รองรับอยู่แล้ว เช่น Duo ของ Google ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ดี ในอนาคตก็มีแนวโน้มที่จะมีแอปที่รองรับเพิ่มเติมอีก

ถ่ายภาพเร็วทันใจ ไม่ต้องกางจอด้วย Quick Shot

เมื่อกดปุ่มเพาเวอร์ติดกัน 2 ครั้ง Galaxy Z Flip 4 จะเข้าสู่แอปกล้องได้อย่างรวดเร็ว และสามารถถ่ายเซลฟีได้ทันทีจากการใช้จอภาพ sAMOLED ขนาดใหญ่ 1.9 นิ้วที่ด้านนอกเป็นหน้าจอสำหรับพรีวิว

และสิ่งที่มีการปรับปรุงในรุ่นนี้คือ ความสามารถในการปรับการแสดงผลของภาพพรีวิวให้ตรงตามสัดส่วนจริงได้ ซึ่งจะมีประโยชน์ในการจัดองค์ประกอบภาพและจัดระเบียบท่าโพสของตัวแบบ ไม่ต้องกลัวจะล้นเฟรมเหมือนเมื่อก่อน ทั้งยังรองรับการทำงานต่อเนื่องร่วมกับโหมด FlexCam ด้วย กางจอออกมาแล้วถ่ายต่อเนื่องกันไปได้เลย

ทนทาน แข็งแกร่ง ทั้งภายนอกและภายใน

ตัวเครื่อง Galaxy Z Flip 4 ทำมาจากวัสดุที่ Samsung เรียกว่า Armor Aluminium ประกบด้วย Gorilla Glass Victus + ของ Corning ในขณะที่หน้าจอปิดทับด้วย Ultra Thin Glass ที่เป็นกระจกแบบบางเฉียบ และบานพับมีการทดสอบความทนทานมากกว่า 2 แสนครั้ง มั่นใจได้เรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งยังมีคุณสมบัติทนน้ำตามมาตรฐาน IPX8 ด้วย

ออกแบบนาฬิกาบน Cover Screen ได้ดังใจนึก

หน้าจอ Cover Screen ที่ด้านนอก นอกจากจะใช้ในการแสดงผลสถานะและการแจ้งเตือนต่าง ๆ พร้อมวิดเจ็ตที่หลากหลายแล้ว จุดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งคือ ความสามารถในการปรับแต่งนาฬิกาได้อย่างอิสระ ผู้ใช้งานสามารถเลือกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือแม้กระทั่งวิดีโอ มาใส่เป็นพื้นหลังได้ หรือจะใช้พรีเซ็ตที่ Samsung มีมาให้ ก็ได้อีกเช่นกัน และด้วยความที่พาเนลเป็นชนิด sAMOLED จึงไม่ต้องห่วงเรื่องการกินแบตเท่าไหร่นัก

ประสบการณ์การใช้งานระดับเรือธง ฮาร์ดแวร์ระดับไฮเอนด์

แม้จุดสนใจของ Galaxy Z Flip 4 จะอยู่ที่ฟอร์มแฟ็กเตอร์แบบจอพับ แต่ต้องไม่ลืมว่านี่คือหนึ่งในเรือธงของ Samsung เช่นกัน ด้วยฮาร์ดแวร์ที่ให้มา ล้วนอยู่ในระดับไฮเอนด์แทบทุกภาคส่วน ไล่ตั้งแต่หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X อัตรารีเฟรช 120Hz ชิปเซต Snapdragon 8+ Gen 1 ตัวท็อปสุด ลำโพงสเตอรีโอที่ปรับแต่งโดย AKG และ One UI 4.1.1 บนพื้นฐาน Android 12 เวอร์ชันล่าสุดตั้งแต่แกะกล่อง พร้อมการอัปเดตซอฟต์แวร์ยาวนานถึง 5 ปี

  • จอภาพ (ด้านใน) : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว
    – ความละเอียด 2640 x 1080 พิกเซล
    – ความหนาแน่น 425 ppi
    – อัตรารีเฟรช 120Hz
    – กระจก Gorilla Glass Victus+
  • จอภาพ (ด้านนอก) : AMOLED ขนาด 1.9 นิ้ว
    – ความละเอียด 260 x 512 พิกเซล
    – ความหนาแน่น 302 ppi
  • ชิป : Snapdragon 8+ Gen 1
  • หน่วยความจำ : RAM 8GB
  • สตอเรจ : ROM 128/256/512GB
  • กล้องหลัง :
    – กล้องหลัก 12MP, รูรับแสง f/1.8, พิกเซล 1.8µm, ระบบกันสั่น OIS
    – กล้องอัลตราไวด์ 12MP, รูรับแสง f/2.2, พิกเซล 1.12µm, มุมกว้าง 123 องศา
  • กล้องหน้า : 10MP, รูรับแสง f/2.4, พิกเซล 1.22µm
  • ลำโพง : สเตอรีโอ
    – ปรับแต่งโดย AKG
    – รองรับ Dolby Atmos
  • เครือข่าย : 5G
  • การเชื่อมต่อ :
    – Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax
    – Bluetooth 5.2
    – NFC
    – USB Type-C
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้าง)
  • แบตเตอรี่ : 3700mAh
    – รองรับชาร์จไว 25W
    – รองรับชาร์จไร้สาย 15W
  • ความทนทาน : ทนน้ำ IPX8
  • ระบบปฏิบัติการ : One UI 4.1.1 บนพื้นฐาน Android 12

ตอนนี้ Samsung เปิดให้สั่งซื้อ Galalaxy Z Flip 4 ล่วงหน้าในประเทศไทยแล้ว มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 35,900 บาท เพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com

สรุปราคาพร้อมวันวางจำหน่าย Galaxy Z Fold4, Galaxy Z Flip4 และอื่น ๆ ในงาน Galaxy Unpacked